อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
บลูทูชอาจไม่ดีพอสำหรับติดตามผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโคโรนา
นักวิจัยจาก Trinity College Dublin ในไอร์แลนด์บอกว่ามันเป็นความท้าทายอย่างมาก ที่จะใช้แอปที่ใช้บลูทูชในการติดตามผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีเชื้อโคโรนาไวรัส เพราะความแรงของสัญญาณบลูทูชจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างเช่นทิศทางของโทรศัพท์ มีคนคั่นกลางระหว่างโทรศัพท์หรือไม่ และสภาพแวดล้อมที่ทั้งสะท้อนและดูดซับสัญญาณบลูทูช นักวิจัยได้ทดลองการทำงานของแอป TraceTogether ของสิงคโปร์ ที่รันบนโทรศัพท์แอนดรอยด์ ใน 4 สถานการณ์ด้วยกันคือ สถานการณ์ของการเดินกันปกติบนถนน ที่โต๊ะประชุมในที่ทำงาน บนรถไฟ และในซุปเปอร์มาร์เก็ต ผลการทดลองพบว่ามันสามารถตรวจจับความใกล้ชิดของคนขณะที่เดินได้ แต่ถ้าเป็นที่โต๊ะประชุมสัญญาณจะตกลง 38% ถ้าโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องอยู่ในกระเป๋าเสื้อเมื่อเทียบกับเอาโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ ซึ่งทำให้บอกได้ยากว่า คนสองคนอยู่ใกล้กันจริงหรือเปล่า ในซุปเปอร์มาร์เก็ตพบว่ามันยากมากที่จะแยกความแตกต่างระหว่างคนสองคนที่พยายามเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างกัน กับคนที่เดินอยู่ใกล้ ๆ กัน บนรถไฟ สัญญาณระหว่างคนสองคนที่อยู่ห่างกัน 3.5 เมตรกลับเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการสะท้อนของคลื่อนกับวัสดุต่าง ๆ ที่อยู่บนรถไฟ และเหตุผลเดียวกันนี้ก็สามารถใช้อธิบายผลลัพธ์ในซุปเปอร์มาเก็ตได้ด้วย ผลการทดลองยังพบว่าสัญญาณจะตกลงหนึ่งในสาม ถ้าโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าด้านหน้าของคนคนหนึ่งซึ่งหันหน้าออกจากอีกคนหนึ่ง อันนี้เป็นเพราะสัญญาณจะถูกดูดซับโดยตัวคน นอกจากนี้กำแพงบาง ๆ ก็อาจมีผลที่ทำให้เข้าใจผิดด้วย เช่นคนสองคนอยู่กันคนละห้อง แต่มีผนังบาง ๆ กั้นห้อง โปรแกรมก็อาจจะบอกว่าคนสองคนนี้อยู่ใกล้ชิดกัน
Labels:
sarunitnews
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น