วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566

Nvidia แสดงงานวิจัยในการใช้ AI เพื่อปรับปรุงการออกแบบชิป

nvidia-logo
ภาพจาก Reuters

Nvidia เผยแพร่งานวิจัยที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับศักยภาพในการปรับปรุงการออกแบบชิปผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แนวทางนี้เกี่ยวข้องกับการรวมวิธีการด้าน AI เพื่อค้นหาตำแหน่งที่ดีกว่าสำหรับการจัดวางทรานซิสเตอร์กลุ่มใหญ่

นักวิจัยของ Nvidia ได้ใช้การเรียนรู้แบบเสริมแรงที่พัฒนาโดยนักวิจัยของ University of Texas โดยมี AI เป็นชั้นที่สอง Bill Dally จาก Nvidia เรียกงานนี้ว่าสำคัญมาก เนื่องจากการปรับปรุงวิธีการผลิตชิปกำลังชะลอตัวลงเนื่องจากต้นทุนต่อทรานซิสเตอร์ในเทคโนโลยีการผลิตชิปรุ่นใหม่สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า

Dally อธิบาย "คุณไม่ได้ประหยัดจริง ๆ ในระดับนั้นอีกต่อไป ในการเดินหน้าต่อไปและเพื่อส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้า เราไม่สามารถทำได้ด้วยทรานซิสเตอร์ที่ถูกกว่า แต่จะทำได้จากการออกแบบที่ชาญฉลาดมากขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

จำลองการขับของคนขับที่แย่ ๆ ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทดสอบรถขับเคลื่อนอัตโนมัติได้เป็น 1000 เท่า

autonomous-vehical
ภาพจาก University of Michigan News

นักวิจัยของ University of Michigan (U-M) ได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือAI ที่จำลองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ในระดับวิกฤตซึ่งเกิดได้ยากเพื่อทดสอบยานพาหนะอัตโนมัติ หรือ AV ระบบสามารถลดระยะการทดสอบที่จำเป็นของยานพาหนะดังกล่าวลงได้ 99.99%

Henry Liu จาก U-M อธิบายว่า "พาหนะ AV ที่เราใช้เป็นของจริง แต่เราได้สร้างสภาพแวดล้อมการทดสอบแบบความเป็นจริงผสม (mixed reality) ยานพาหนะที่เป็นฉากหลังเป็นแบบเสมือน ซึ่งช่วยให้เราสามารถฝึกฝนยานพาหนะเพื่อสร้างสถานการณ์ที่ท้าทายซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักบนถนน

Shuo Feng จากมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนกล่าวว่าการเรียนรู้เสริมกำลังอย่างหนาแน่น (dense reinforcement learning)" เปิดประตูสำหรับการเร่งความเร็วในการอบรมระบบอัตโนมัติที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยอย่างรวดเร็วโดยใช้ประโยชน์จากตัวแทนที่ใช้ AI ในการทดสอบ ซึ่งอาจสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างการทดสอบและการฝึกอบรม ซึ่งจะช่วยเร่งความเร็วได้ทั้งสองสาขา"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Michigan News

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566

ต่อต้านเมล็ดพันธ์ปลอมด้วยฉลากที่โคลนไม่ได้

MIT-Seed_tracking
ภาพจาก MIT News

แท็กที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) สามารถให้เมล็ดพันธุ์ที่มีรหัสของแท้ที่ "ไม่สามารถโคลน (clone) ได้"

ฉลากประกอบด้วยจุดเล็กๆ ของวัสดุที่ได้จากผ้าไหม ซึ่งแต่ละจุดมีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของลายเซ็นทางเคมีที่แตกต่างกัน

แท็ก "ใช้ประโยชน์จากการสุ่มและความไม่แน่นอนในกระบวนการของแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างคุณลักษณะลายเซ็นเฉพาะที่สามารถอ่านได้และไม่สามารถทำซ้ำได้" ตามคำกล่าวของ Benedetto Marelli จาก MIT

Marelli กล่าวว่าพวกเขาได้เพิ่มสีเพื่อทำให้อนุภาคขนาดเล็กจับตัวกันเป็นรูปแบบสุ่มที่สามารถอ่านได้ด้วยสเปกโตรกราฟ กล้องจุลทรรศน์แบบพกพา หรือกล้องโทรศัพท์มือถือที่มีเลนส์มาโคร รูปภาพสามารถประมวลผลในเครื่องเพื่อสร้างรหัสฟังก์ชันที่ไม่สามารถโคลนได้ จากนั้นจึงส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่ปลอดภัยเพื่อรับประกันความถูกต้องของผลิตภัณฑ์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2566

นักวิจัยพัฒนาระบบกระตุ้นสมองส่วนลึก 'อัจฉริยะ' สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน

doctors-in-lab
ภาพจาก Michigan Tech News

นักวิจัยของ Michigan Technological University (Michigan Tech) ได้พัฒนาระบบจำลองสมองส่วนลึก (deep brain simulation system) หรือ DBS ที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อช่วยรักษาโรคพาร์กินสันผ่านการใช้คอมพิวเตอร์นิวโรมอร์ฟิก (neuromorphic) ซึ่งใช้ไมโครชิปและอัลกอริทึมเพื่อเลียนแบบระบบประสาท

ผลที่ได้คือระบบ DBS วงปิด (closed-loop) สามารถปรับการกระตุ้นตามสัญญาณสมองของผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 

Hongyu An จาก Michigan Tech กล่าวว่าการวิจัยนี้ "จะเปิดประตูใหม่สู่การพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์อัจฉริยะสำหรับการฟื้นฟูสมองที่มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Michigan Tech News

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566

นักวิทยาศาสตร์สร้างชีสเค้กจากการพิมพ์ 3 มิติด้วยส่วนผสม 7 อย่าง

3d-printed-cheese-ckae
ภาพจาก CBS News

นักวิทยาศาสตร์จาก Columbia University พิมพ์ชีสเค้กกล้วยเนยถั่วที่มีส่วนผสม 7 อย่าง โรยด้วยฝอยเชอร์รี จากเครื่องพิมพ์สามมิติ

 นักวิจัยแปลงส่วนผสมเป็นแป้ง แล้วป้อนเข้าเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อวางตำแหน่งเป็นชั้น ๆ ให้กลายเป้นรูปชิ้นเค้ก 

พวกเขาพบว่าโครงสร้างของภาพพิมพ์คล้ายกับบ้าน โดยมี "พื้น ผนัง และเพดานเป็นฐาน (เกรแฮมแครกเกอร์) และสระน้ำด้านในบ้าน (นูเทลลาและเนยถั่ว) เก็บส่วนผสมที่อ่อนนุ่มกว่า (กล้วยและเยลลี่)"

นักวิจัยแนะนำว่าอาหารจากการพิมพ์ 3 มิติจะช่วยให้ผู้ปรุงอาหารสามารถปรับแต่งมื้ออาหารได้ดีขึ้น และป้องกันการแพร่กระจายของโรคที่เกิดจากอาหารโดยลดการสัมผัสของมนุษย์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CBS News

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566

หุ่นยนต์ที่ปรับแต่งได้สามารถผสมผสานจับคู่กันเพื่อทำงานในอวกาศได้

assembled-robot
ภาพจาก Interesting Engineering

นักวิจัยของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้ออกแบบระบบ Walking Oligomeric Robotic Mobility System (WORMS) เพื่อปฏิวัติวงการหุ่นยนต์อวกาศ

Brooke Bensche จาก MIT กล่าวว่า "แนวคิดของเราคือ ด้วยชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น ผสมผสานกันด้วยวิธีต่าง ๆ คุณสามารถผสมและจับคู่และได้หุ่นยนต์ที่แตกต่างกันทั้งหมดเหล่านี้"

Michael Brown จาก MIT กล่าวว่าอวัยวะของระบบได้รับแรงบันดาลใจจากหนอนต่ำต้อย เพราะแต่ละตัวสามารถ "เคลื่อนไหวคล้ายแขนหรือขา หรือกระดูกสันหลังหรือหาง"

หุ่นยนต์แต่ละปล้องที่ปรับแต่งได้แต่ละตัวมีมอเตอร์ เซ็นเซอร์ คอมพิวเตอร์ และแบตเตอรี  พวกมันสามารถประกอบเข้าด้วยกันทีละชิ้นเพื่อทำงานเล็ก ๆ หรือรวมกันสำหรับฟังก์ชันที่ซับซ้อนมากขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Interesting Engineering

วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566

CoDe เครื่องมือสร้างวัคซีนได้เร็วขึ้นและเที่ยงตรงมากขึ้น

dna-helix
ภาพจาก Texas Biomedical Research Institute

นักวิจัยจาก Texas Biomedical Research Institute, Indian Institute of Technology, Madras และ Center for Animal Research ในสเปนได้พัฒนาเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถแก้ไขลำดับพันธุกรรมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อทำให้ยีนบางตัวทำงานได้น้อยลง

สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้พัฒนาวัคซีนในการลดประสิทธิภาพของยีนเฉพาะเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนเชื้อเป็น ทีมงานกล่าว

หลังจากที่ผู้ใช้ป้อนลำดับพันธุกรรมที่จะทำการดีออปติไมซ์แล้ว CoDe (Codon Deoptimization) จะกำหนดว่านิวคลีโอไทด์ใดที่จะเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ CoDe ยังสามารถแปลงการแก้ไขไดโดยอัตโนมัติเพื่อลดทอนวัคซีนให้สามารถนำไปใช้กับสายพันธุ์อื่น

Luis Martinez-Sobrido จาก Texas Biomed กล่าวว่า "ด้วย CoDe เราสามารถกลายพันธุ์นิวคลีโอไทด์นับพันในยีนเดียวได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้ไวรัสเปลี่ยนกลับได้ยากอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังช่วยให้เราปรับการแสดงออกของยีนในส่วนเล็ก ๆ แทนที่จะกำจัดออกไปทั้งหมด ทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการออกแบบวัคซีน และงานวิจัยขั้นพื้นฐาน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Texas Biomedical Research Institute



วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566

คอมไพเลอร์ที่เขียนด้วย python บรรลุความเร็วอย่างมีนัยสำคัญ

python-computer-cartoon
ภาพจาก MIT News

คอมไพเลอร์ Codon ที่ตอนนี้อยู่บน GitHub แล้ว ช่วยให้นักพัฒนาสร้างภาษาใหม่ที่ทำงานเฉพาะโดเมนที่กำหนดภายใน Python ในขณะที่ได้รับประสิทธิภาพความเร็วของภาษาโปรแกรม เช่น C และ C++

นำโดยนักวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ทีมวิจัยได้คอมไพล์แอปพลิเคชันเกี่ยวกับจีโนมที่ใช้กันทั่วไปประมาณ 10 รายการที่เขียนด้วย Python และเห็นว่ามีความเร็วเพิ่มถึง 5 ถึง 10 เท่าจากการใช้งานที่ปรับแต่งด้วยมือแบบดั้งเดิม

"แทนที่จะต้องเขียนโปรแกรมใหม่โดยใช้ไลบรารีที่ใช้ C เช่น NumPy หรือเขียนใหม่ทั้งหมดในภาษาเช่น C Codon สามารถใช้โปรแกรมเดิมที่เขียนด้วย Python และได้ประสิทธิภาพเดียวกันกับที่คุณจะได้รับจากการเขียนใหม่ด้วยภาษา C" Saman Amarasinghe จาก MIT กล่าว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566

ห้องปฏิบัติการที่ทำงานด้วยตัวเองช่วยเร่งความเร็วการค้นพบทางเคมี

AI-Chemical
ภาพจาก NC State University News

นักวิจัยด้านวิศวกรรมเคมีที่ North Carolina State University (NC State) และ  University at Buffalo  ได้พัฒนาห้องปฏิบัติการ AlphaFlow ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพื่อสังเคราะห์ผลึกนาโนของเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในอุปกรณ์ออปติกและโฟโทนิค (photonic) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Milad Abolhasani จาก NC State กล่าวว่า AlphaFlow ใช้การเรียนรู้แบบเสริมแรง (reinforcement learning) เพื่อเร่งการค้นพบวัสดุ โดยการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ไมโครฟลูอิดิค (microfluidic) อัตโนมัติ โดยอธิบายว่า "AlphaFlow สามารถทำการทดลองได้มากกว่านักเคมีที่เป็นคน 100 คนในช่วงเวลาเดียวกัน ในขณะที่ใช้สารเคมีที่เกี่ยวข้องน้อยกว่า 0.01%

Abolhasani เสริมว่า AlphaFlow “ลดขนาดการทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดำเนินการในห้องปฏิบัติการแบบเดียวกับที่ต้องใช้ห้องปฏิบัติการเคมีแบบเว็ต (wet chemistry lab) ทั้งหมดในแพลตฟอร์มการทดลองแบบจุดต่อจุด (end-to-end) ขนาดเท่ากระเป๋าเดินทาง”

อ่านข่าวเต็มได้ที่: NC State University News


วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโทรศัพท์ของเรากำลังสอดแนมเรา

smart-phone-a[[-ask-permission
ภาพจาก UC San Diego Today

นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แห่ง University of California, San Diego, New York University, และ Cornell Tech พบแอปพลิเคชันสปายแวร์บนสมาร์ตโฟนส่งข้อมูลที่มันรวบรวมได้ออกไป

จากการโปรโมทตัวเองว่าเป็นเครื่องมือในการติดตามเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และพนักงาน แอปเหล่านี้ถูกใช้ในทางที่ผิดเพื่อแอบสอดแนมผู้อื่นโดยบันทึกกิจกรรมของอุปกรณ์ของพวกเขา

ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการติดตั้งและเรียกใช้แอป และผู้ละเมิดต้องการเพียงการเข้าถึงอุปกรณ์ของเหยื่อเพียงชั่วคราวเท่านั้น

นักวิจัยวิเคราะห์แอปสปายแวร์ชั้นนำ 14 แอปของโทรศัพท์ Android โดยเปิดเผยวิธีการบันทึกข้อมูลที่รวมถึงการเข้าถึงไมโครโฟนของอุปกรณ์เพื่อบันทึกการโทร และใช้เบราว์เซอร์ที่มองไม่เห็นซึ่งสตรีมวิดีโอจากกล้องไปยังเซิร์ฟเวอร์ของซอฟต์แวร์สอดแนม

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UC San Diego Today

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566

AI สร้างภาพที่คนเพิ่งเห็นด้วยการสแกนสมอง

AI-generated-pictures
ภาพจาก Science


อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์  (artificial intelligence) หรือ AI แบบ Stable Diffusion ที่พัฒนาโดยนักวิจัยชาวเยอรมันและญี่ปุ่นสามารถอ่านการสแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเชิงฟังก์ชัน (fMRI) เพื่อจำลองภาพที่คนเพิ่งเห็นเมื่อไม่นานมานี้

Yu Takagi จาก Osaka University ของญี่ปุ่นกล่าวว่าอัลกอริทึมใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากบริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ภาพ ในขณะที่การสแกน fMRI บันทึกจุดสูงสุดของการทำงานของสมอง

จากนั้น AI จะใช้ในการแปลรูปแบบเหล่านี้เป็นภาพเลียนแบบ นักวิจัยได้ฝึก Stable Diffusion เพิ่มเติมโดยใช้ชุดข้อมูลของ University of Minnesota ที่มีคน 4 คนกำลังชุดของภาพถ่าย 10,000 รูป

เพื่อแก้ปัญหาแนวโน้มของอัลกอริทึมในการแสดงวัตถุในภาพถ่ายเป็นรูปแบบนามธรรม นักวิจัยได้ป้อนคำหลักจากคำบรรยายภาพที่มาพร้อมกับภาพถ่ายไปยังโปรแกรมสร้างข้อความเป็นรูปภาพ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Science


วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566

ซอฟต์แวร์เปิดเผยรหัสอาจช่วยลดเวลาการคำนวณทางเคมีอย่างมหาศาล

chemical-atom
ภาพจาก  Chemistry World

ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยทีมที่นำโดยนักวิจัยจาก Institute of Chemical Synthesis and Homogeneous Catalysis (ISQCH) ของสเปน มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้การทดลองทางเคมีเชิงคำนวณมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มความเร็วในการวิเคราะห์โดยอัตโนมัติ

ซอฟต์แวร์เปิดเผยรหัส (open source) AQME ต้องการเพียงอินพุตธรรมดา เช่น สตริง Smiles ซึ่งจะแปลงโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อนให้เป็นตัวอักษรและตัวเลขที่เครื่องอ่านได้

การทำแบบนี้ทำให้ใช้งานร่วมกับฐานข้อมูลเคมีและโซลูชันการเรียนรู้ของเครื่อง (machine  learning) หลาย ๆ ตัว เนื่องจากหลายตัวมีชุดข้อมูลในรูปแบบ Smiles

Juan Vicente Alegre Requena จาก ISQCH กล่าวว่า "ผลลัพธ์ส่วนใหญ่เป็นกราฟและการพล็อต ซึ่งแสดงภาพผลลัพธ์ได้ทันที นอกจากนี้ AQME ยังวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่มีโดยอัตโนมัติ แก้ไขไฟล์การคำนวณ และเรียกใช้การจำลองอีกครั้ง"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Chemistry World

วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566

หุ่นยนต์จิ๋วท่องไปในเส้นเลือดผ่าตัดได้สมบูรณ์

blood-vessel
ภาพจาก  IEEE Spectrum

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Hanyang ของเกาหลีใต้ได้แสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์ขนาดเล็กสามารถเดินทางโดยอัตโนมัติไปยังหลอดเลือดแดงต้นขาชั้นตื้นในหมู ส่งสีย้อมที่ตัดกัน และกลับไปยังจุดสกัด (extraction) ได้อย่างปลอดภัย

นี่อาจเป็นการปูทางไปสู่การใช้หุ่นยนต์เพื่อรักษาโรคหลอดเลือดอุดตันในมนุษย์ และลดความจำเป็นในการถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์เพื่อนำทางอุปกรณ์ผ่าตัด

นักวิจัยได้พัฒนาหุ่นยนต์ I-RAMAN (robotically assisted magnetic navigation system for endovascular intervention: ระบบนำทางด้วยแม่เหล็กโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยสำหรับการสอดสายสวนหลอดเลือด) ซึ่งสามารถนำทางหลอดเลือดของผู้ป่วยได้เองโดยใช้แผนที่สามมิติที่สร้างจากภาพเอ็กซ์เรย์สองมิติ

หุ่นยนต์ถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือดผ่านทางสายสวน จากนั้นสนามแม่เหล็กภายนอกจะปลดหุ่นยนต์ออกจากสายสวนและนำหุ่นยนต์ไปยังพื้นที่การรักษาและกลับมา

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

การตรวจจับยังนำหน้า Deepfake อยู่ในตอนนี้

deepfake
ภาพจาก IEEE Spectrum

นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอัลกอริทึมขั้นสูงสำหรับการสร้างเนื้อหาสังเคราะห์ ในขณะเดียวกันก็สร้างอัลกอริทึมตอบโต้เพื่อตรวจจับเนื้อหาดังกล่าว

Real-Time Deepfake Detector ของ Intel ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลินี้ จะมี FakeCatcher ซึ่งสามารถระบุการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าเนื่องจากการไหลเวียนของเลือด

FakeCatcher พัฒนาโดยนักวิจัยที่ Intel และ Binghamton University ไม่สามารถทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำมาฝึกให้อัลกอริทึมสร้างข้อมูลหลอกได้ดีขึ้น

ท่ามกลางเครื่องมือตรวจจับอื่น ๆ นักวิจัยจาก University of Florida ได้พัฒนาระบบที่สร้างตัวแบบช่วงเสียงของมนุษย์ และสามารถระบุได้ว่าการบันทึกเสียงนั้นมีความเป็นไปได้ทางชีวภาพหรือไม่

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum



วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566

ภาษาโปรแกรมและหัวข้อยอดนิยมที่นักพัฒนาต้องการเรียน

developer-working
ภาพจาก ZDNet

รายงานแนวโน้มเทคโนโลยีของ O'Reilly Media ในปี 2023 ในการวิเคราะห์ข้อมูลบนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของบริษัทจากผู้ใช้ 2.8 ล้านคน พบว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นหัวข้อที่นักพัฒนาให้ความสนใจบ่อยที่สุดในปีที่แล้ว

แพลตฟอร์มการเรียนรู้กล่าวว่าผู้ใช้แสดงความสนใจเนื้อหาเกี่ยวกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติเพิ่มขึ้น 42% ปีต่อปี และความสนใจเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนรู้เชิงลึกเพิ่มขึ้น 23%

อย่างไรก็ตาม ความสนใจในเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (reinforcement learning) และแชทบอทลดลง 14% และ 5.8% ตามลำดับ

สำหรับความนิยมของภาษาโปรแกรม Java และ Python อยู่ในอันดับต้น ๆ ตามด้วย Go, C++, JavaScript, C#, C, Rust, TypeScript ของ Microsoft ซึ่งเป็นภาษาที่เป็นซุปเปอร์เซ็ตของ JavaScript, R, Kotlin และ Scala

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566

สร้างคอมพิวเตอร์จากอะตอมเพียงตัวเดียว

atom-physic
ภาพจาก  SciTechDaily

นักวิจัยจาก Tulane University และ US Army Research Laboratory ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์อะตอมเดี่ยวแบบไม่เชิงเส้นที่ใช้การประมวลผลอินพุต-เอาท์พุตแบบออปติคอลอย่างสมบูรณ์ โดยมีการสอบทวนการคำนวณให้แน่นอนโดยใช้ตัวกรองเอาต์พุต

Gerard McCaul จาก Tulane กล่าวว่า "การวิจัยของเรายืนยันว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผลในหลักการ เช่นเดียวกับการยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่าระบบทำงานได้ดีขึ้นเมื่อไฟอินพุตได้รับการออกแบบให้เหนี่ยวนำให้เกิดความไม่เป็นเส้นตรงในระดับที่สูงขึ้นในระบบ ฉันอาจพูดได้ว่าสิ่งที่เราพยายามเน้นในงานนี้คือระบบขั้นต่ำที่สามารถคำนวณได้นั้นมีอยู่จริงในระดับของอะตอมเดี่ยว และการคำนวณนั้นสามารถทำได้ด้วยกระบวนการทางแสงเท่านั้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: SciTechDaily

วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566

คอมพิวเตอร์ของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอน

car
ภาพจาก National Science Foundation

นักวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) พบว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์ของรถยนต์ไร้คนขับสามารถกระตุ้นให้เกิดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นักวิจัยได้พัฒนาแบบจำลองทางสถิติเพื่อวิเคราะห์การใช้พลังงานที่อาจเกิดขึ้นและการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ยานยนต์ไร้คนขับอย่างแพร่หลาย

ตัวแบบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไร้คนขับจำนวน 1 พันล้านคันที่ขับขี่วันละ 1 ชั่วโมงโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่กินไฟ 840 วัตต์ จะสร้างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่ากับศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ซึ่งInternational Energy Agency ระบุว่ามีสัดส่วนประมาณ 0.3% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก

Vivienne Sze จาก MIT กล่าวว่า "การใช้พลังงานของรถยนต์ไร้คนขับมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่การยืดอายุแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังเพื่อความยั่งยืนด้วย"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: National Science Foundation

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2566

เครื่องมือของแฮกเกอร์สามารถระบุตำแหน่งของผู้บังคับโดรนของ DJI ได้อย่างแม่นยำ

drones
ภาพจาก Wired

นักวิจัยจาก Ruhr University Bochum ของเยอรมนี และ CISPA Helmholtz Center for Information Security สามารถระบุตำแหน่ง GPS ของโดรนที่จำหน่ายโดยผู้ผลิต DJI รวมถึงพิกัด GPS ของผู้ควบคุม โดยใช้วิศวกรรมย้อนกลับสัญญาณวิทยุของโดรน

การแยกโครงสร้างสัญญาณเหล่านั้นทำให้นักวิจัยสามารถถอดรหัสโปรโตคอลวิทยุของ DroneID ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้โดรนสามารถถูกติดตามตรวจสอบได้โดยรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

นักวิจัยเปิดตัวเครื่องมือต้นแบบเพื่อรับและถอดรหัสข้อมูล DroneID โดยทดสอบกับโดรน DJI ในรัศมี 15 ถึง 25 ฟุต นักวิจัยกล่าวว่าการเพิ่มคุณลักษณะทางวิศวกรรมเพิ่มเติมสามารถเพิ่มระยะของช่วงดังกล่าวได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Wired

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566

คอมพิวเตอร์ซึ่งทำจากเห็ด

mushroom-mother-board
ภาพจาก Popular Science

Unconventional Computing Laboratory (UCL) ของมหาวิทยาลัย West of England ของสหราชอาณาจักรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคอมพิวเตอร์เชิงเคมีหรือคอมพิวเตอร์ที่มีชีวิตซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้

ตัวอย่าง ได้แก่ คอมพิวเตอร์เชื้อราที่ใช้ไมซีเลียม (mycelium) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และตัวนำ เพื่อให้สามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบใหม่ได้

นักวิจัยพบว่าไมซีเลียมที่มีการจัดเรียงทางเรขาคณิตที่แตกต่างกันสามารถคำนวณฟังก์ชันทางตรรกะที่แตกต่างกันและสามารถทำแผนที่วงจรตามการตอบสนองทางไฟฟ้าที่ได้รับ

Andrew Adamatzky จาก UCL แนะนำว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่วงจร neuromorphic ความสามารถในการสร้างตัวเองของคอมพิวเตอร์เชื้อราสามารถปรับปรุงความทนทานต่อข้อผิดพลาด การกำหนดค่าใหม่ (reconfigurability) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบความเร็วกับคอมพิวเตอร์ปัจจุบันได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Popular Science

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2566

การแข่งขันเพื่อสร้างหุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ที่ใช้พลัง AI กำลังร้อนแรงขึ้น

humanoid
ภาพจาก Fast Company

บริษัทด้านวิทยาการหุ่นยนต์มีเป้าหมายที่จะสร้างเครื่องจักร เช่นบริษัทสตาร์ตอัพ Figure สร้างหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์สองเท้า Figure 01 เพื่อใช้แทนแรงงานที่เป็นคนในปัจจุบัน

Figure 01 ถูกออกแบบให้ทำงานที่คนไม่อยากทำ แต่ในที่สุดก็สามารถทำงานในระดับสูงโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเรียนรู้และปรับปรุง Brett Adcock จาก Figure กล่าวว่าบริษัทของเขาผลิต Figure 01 ต้นแบบ 5 ตัวที่มีการเคลื่อนไหว 25 องศา ซึ่งสามารถงอจนสุดเอวและยกกล่องขึ้นจากพื้นไปยังชั้นวางสูงได้

Adcock กล่าวว่าหุ่นยนต์เหล่านี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้เคลื่อนที่ได้ราบรื่นกว่า Atlas ของ Boston Dynamics ทำให้ตัวต้นแบบนี้มีการเดินที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Fast Company

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566

สัตว์เลี้ยงของเรากำลังทำให้ข้อมูลของเรารั่วไหลอยู่หรือเปล่า

women-use-app-while-cat-is-eating
ภาพจาก Newcastle University (U.K.)

นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Newcastle University และ Royal Holloway, University of London พบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในแอปพลิเคชัน Android 40 รายการสำหรับสัตว์เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เช่น เครื่องติดตามระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) ที่สวมใส่ได้ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ และกล้องสัตว์เลี้ยง

การวิเคราะห์พบว่าแอปหลายตัวปล่อยให้ข้อมูลรายละเอียดการเข้าสู่ระบบหรือตำแหน่งที่ตั้งของเจ้าของรั่วไหล โดยมีสามแอปที่เปิดเผยข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบเป็นข้อความที่ส่งโดยใช้โปรโตคอล HTTP ที่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัย

แอป 36 ตัวใช้ซอฟต์แวร์ติดตาม (tracking software) แต่นักวิจัยกล่าวว่าแอปเหล่านี้ไม่แจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนมากนัก 

Scott Harper จาก Newcastle  ให้คำแนะนำว่า "เราขอแนะนำให้ทุกคนที่ใช้แอพเหล่านี้ใช้เวลาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้รหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกับของบริการอื่น ตรวจสอบการตั้งค่า และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาพิจารณาว่าพวกเขากำลังแชร์ข้อมูลมากน้อยเพียงใดหรือเต็มใจที่จะแชร์หรือไม่"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Newcastle University (U.K.)


วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566

การพิมพ์สามมิติทางชีวภาพภายในร่างกายอาจเป็นไปได้แล้วต้องขอบคุณหุ่นยนต์นิ่ม (soft robot)

3d-bio-printing
ภาพจาก UNSW Sydney Newsroom (Australia)

วิศวกรแห่ง University of New South Wales, Sydney (UNSW Sydney) ของออสเตรเลีย ได้เปิดตัวอุปกรณ์ต้นแบบที่สามารถพิมพ์เซลล์ที่มีชีวิตแบบสามมิติ (3D) ไปยังอวัยวะภายในได้โดยตรง

หัวหมุนสามแกนที่คล่องแคล่วและยืดหยุ่นของเครื่องพิมพ์ชีวภาพ 3 มิติจะพิมพ์หมึกชีวภาพที่ส่วนปลายของแขนหุ่นยนต์ที่ควบคุมจากภายนอก 

หัวพิมพ์สามารถตั้งโปรแกรมให้พิมพ์รูปทรงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือสามารถถูกควคุมโดยตรงด้วยตนเองเมื่อต้องการการพิมพ์ทางชีวภาพที่ซับซ้อน หรือไม่ได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า

นอกจากนี้ ทีมงานยังใช้ตัวควบคุม (controller)   ที่อยู่บนฐานของการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อช่วยในกระบวนการพิมพ์ 

Thanh Nho Do จาก UNSW Sydney กล่าวว่า "ระบบนี้นำเสนอศักยภาพในการสร้างบาดแผลสามมิติภายในร่างกายขึ้นมาใหม่อย่างแม่นยำ เช่น การบาดเจ็บที่ผนังกระเพาะอาหาร หรือความเสียหายและโรคภายในลำไส้ใหญ่"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UNSW Sydney Newsroom (Australia)

วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566

"Take It Down" เครื่องมือสำหรับวัยรุ่นเพื่อลบภาพที่โจ่งแจ้ง

young-man-check-his-phone
ภาพจาก Ass0ociated Press

Take It Down ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ถูกจัดการโดย National Center for Missing and Exploited Children (NCMEC) ช่วยให้บุคคลสามารถขอให้แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมลบภาพที่โจ่งแจ้งได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน ไม่ว่าจะเป็นภาพจริงหรือภาพที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence)

กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างลายนิ้วมือดิจิทัลของรูปภาพ (แฮช) ซึ่งจะเข้าสู่ฐานข้อมูลและจากนั้นจะถูกลบออกโดยบริการของบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมได้แก่ Facebook, Instagram, Yubo, OnlyFans และ Pornhub

Gavin Portnoy จาก NCMEC กล่าวว่า "Take It Down สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาพที่พวกเขามีเหตุผลให้เชื่อว่ามีหรืออาจมีอยู่บนเว็บที่ไหนสักแห่ง"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press