วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ผู้บุกรุกเจาะผ่านระบบยืนยันตัวตนสองปัจจัยของ Coinbase, Metamask โดยใช้ TeamViewer

trading-bitcoin
Photo by Anne Nygård on Unsplash

PIXM บริษัทต่อต้านฟิชชิ่ง (phishing) พบว่าสแกมเมอร์ (scammer) กำลังทำแคมเปญฟิชชิ่งเพื่อขโมยเงินดิจิตอลโดยการเข้าถึงบริการการแลกเปลี่ยนอย่าง Coinbase, MetaMask, Crypto.com และ KuCoin ด้วยการหลีกเลี่ยงการป้องกันการยืนยันตัวตนสองปัจจัย (two-factor authentication) หรือ 2FA

ผู้โจมตีใช้ประโยชน์จากบริการ Microsoft Azure Web Apps เพื่อโฮสต์เครือข่ายของเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ใช้ล่อลวงเหยื่อให้เข้ามา เมื่อเหยื่อเยี่ยมชมหนึ่งในไซต์ฟิชชิ่ง หน้าต่างแชทสนับสนุนลูกค้าที่ควบคุมโดยสแกมเมอร์จะนำพวกเขาเข้าสู่กระบวนการฉ้อโกง

การโจมตีใช้แบบฟอร์มปลอมให้ป้อนข้อมูลไปเรื่อย ๆ จนถึงข้อความแจ้งขอรหัส 2FA สำหรับการเข้าถึงบัญชี แฮ็กเกอร์จะชักชวนให้เหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปการเข้าถึงระยะไกล "TeamViewer" เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BleepingComputer

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เชิญพบกับตึกสำนักงานอัจฉริยะที่สุดในโลก

smart-building
ภาพจาก TechRadar

อาคารสำนักงานอัจฉริยะ JTC Summit สูง 31 ชั้นในสิงคโปร์มีเครือข่ายเซ็นเซอร์ประมาณ 60,000 ตัวเพื่อรวบรวมข้อมูลจากระบบต่าง ๆ ในอาคาร 

ใช้ Open Digital Platform ที่สร้างขึ้นโดย GovTech ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการพัฒนาของรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงพลังงานอัจฉริยะ การจัดการอาคาร และบริการจัดส่งโดยหุ่นยนต์เข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียว

เจ้าของตึกสามารถดูข้อมูลแบบเสมือนผ่านคู่แฝดดิจิทัลของอาคารเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้พลังงาน ปลดล็อกประตูทางเข้าจากระยะไกล และระบุความผิดปกติของบันไดเลื่อน และอุปกรณ์อื่น ๆ แบบเรียลไทม์ 

นอกจากนี้ อาคารยังติดตั้งหุ่นยนต์ที่สามารถจัดส่งพัสดุ ระบุสิ่งที่ต้องการการบำรุงรักษา และดำเนินการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในโถงอาคาร

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechRadar


วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บ้านที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติโดยใช้วัสดุชีวภาพร้อยเปอร์เซนต์หลังแรก

 

3d-printed-bio-house
ภาพจาก UMaine News

University of Maine (UMaine) ได้เปิดเผยสิ่งที่เรียกว่าโรงพิมพ์สามมิติ (3D) แห่งแรกที่ใช้วัสดุชีวภาพทั้งหมด นักวิจัยของ UMaine ได้สร้าง BioHome3D ร่วมกับพันธมิตรที่ Oak Ridge National Laboratory ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ  Maine Technology Institute และหน่วยงานที่อยู่อาศัย MainHousing

บ้านต้นแบบขนาด 600 ตารางฟุตถูกพิมพ์ 3 มิติในสี่โมดูล จากนั้นจึงย้ายไปยังมูลนิธิที่อยู่ด้านนอก Advanced Structures and Composites Center ของ UMaine ซึ่งบ้านดังกล่าวสร้างเสร็จได้ภายในครึ่งวัน 

พื้น ผนัง และหลังคาของ BioHome3D ประกอบด้วยเส้นใยไม้และเรซินชีวภาพ โดยมีฉนวนไม้ 100% และปรับแต่งค่า R ได้ Janet Mills ผู้ว่าการรัฐ Maine เรียกโครงการนี้ว่า "การก้าวไปข้างหน้าในทางบวก" เพื่อจัดการกับวิกฤตที่อยู่อาศัยของรัฐและการขาดแคลนแรงงาน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UMaine News

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

โลกเราสร้างข้อมูลมหาศาลจนต้องคิดหน่วยเก็บข้อมูลใหม่

data-visualization
ภาพจาก NPR

คำนำหน้าใหม่สี่ตัวของระบบหน่วยวัดสากล (International System of Units) ถูกประกาศในงาน General Conference on Weights and Measures  ครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายหน่วยวัดมาตราเมตริกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 

คำนำหน้าใหม่ได้แก่ ronna (ศูนย์ 27 ตัวตามหลังเลขตัวแรก) quetta (ศูนย์ 30 ตัว) สำหรับด้านบนสุดของช่วงการวัด และ ronto (ศูนย์ 27 ตัวหลังจุดทศนิยม) และ quecto (ศูนย์ 30 ตัว) ที่ด้านล่างของหน่วยวัด 

ห้องปฏิบัติการทางกายภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Physical Laboratory) หรือ NPL กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของวิทยาศาสตร์ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ซึ่งใช้คำนำหน้าที่ด้านบนสุดของช่วงที่มีอยู่แล้วไปแล้ว (yottabytes และ zettabytes สำหรับการแสดงข้อมูลดิจิทัลปริมาณมาก)

NPL ระบุว่า ronto และ quecto จะมีประโยชน์ในวิทยาศาสตร์ควอนตัมและฟิสิกส์ของอนุภาค

อ่านข่าวเต็มได้ที่: NPR

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ระบบนำทางจะมีความแม่นยำในระดับ 10 เซ็นติเมตร

car-with-gps
Photo by Brecht Denil on Unsplash

นักวิจัยจาก Delft University of Technology (TU Delft), Vrije Universiteit Amsterdam, และ VSL National Metrology  จากเนเเธอร์แลนด์ ได้พัฒนาระบบนำทางที่มีความแม่นยำได้ถึงในระยะ 10 เซนติเมตร (3.9 นิ้ว) 

งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SuperGPS เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานการระบุตำแหน่งทางเลือกที่ใช้เครือข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่มากกว่าดาวเทียม เครือข่ายของระบบเชื่อมโยงกับนาฬิกาแบบอะตอมิก (atomic clock) เพื่อส่งข้อความที่กำหนดเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการระบุตำแหน่ง

ระบบยังใช้สัญญาณวิทยุที่มีแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่ง Gerard Janssen แห่ง TU Delft กล่าวว่า "ช่วยให้ระบุตำแหน่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TU Delft (Netherlands)


วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์คล้ายผิวหนังอาจติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

AI-Skin
ภาพจาก Argonne National Laboratory

นักวิทยาศาสตร์จาก Argonne National Laboratory ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ, University of Chicago, Tongji University ของจีน, และ University of Southern California กำลังพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สวมใส่ได้และมีความยืดหยุ่นซึ่งสามารถตรวจสอบสุขภาพของผู้สวมใส่ได้

นักวิจัยได้สร้างชิป neuromorphic ที่มีลักษณะคล้ายผิวหนังจากฟิล์มเซมิคอนดักเตอร์พลาสติกที่รวมเข้ากับอิเล็กโทรดลวดนาโนทองคำที่ยืดหยุ่นได้ ในการทดลองหนึ่ง นักวิจัยได้รวบรวมและฝึกอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์เพื่อแยกสัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่แข็งแรงออกจากสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ ซึ่งทำได้ด้วยความแม่นยำมากกว่า 95%

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Argonne National Laboratory

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

FIFA บอกว่าเทคโนโลโยีจะช่วยการจัดสินใจเรื่องการล้ำหน้าได้แม่นยำและเร็วขึ้นในบอลโลกคราวนี้

Pierluigi-Collina
Pierluigi Collina ภาพจาก Reuters 

Pierluigi Collina  จากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA บอกว่าเทคโนโลยี VAR จะช่วยให้การตัดสินในเรื่องลูกล้ำหน้าได้แม่นยำขึ้นฝนฟุตบอลโลกที่การ์ตาร์ 

"เทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ" จะตัดสินได้แม้กระทั่งในสถานการณ์ที่ยากที่สุดได้เร็วกว่าระบบก่อนหน้า โดยใช้เหตุการณ์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวสามมิติที่แสดงในสนามกีฬาและในทีวี กล้องหลายสิบตัวรอบสนามจะตรวจสอบ 29 จุดในร่างกายนักฟุตบอล ในขณะที่เซ็นเซอร์ที่อยู่ในลูกบอลจะส่งข้อมูลไปยังควบคุม VAR 500 ครั้งต่อวินาที 

ระบบ VAR ได้รับการทดสอบในทัวร์นาเมนต์ FIFA สองรายการและใช้ทดสอบในสนามที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกทั้งหมด Johannes Holzmueller ของ FIFA กล่าวว่า "ผลลัพธ์เป็นไปในเชิงบวกอย่างมาก"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

กลุ่มของแม็คบุ๊กอาจมีประสิทธิภาพเท่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์

Macbook
ภาพจาก New Scientist

Collin Capano และ Connor Kenyon จาก University of Massachusetts, Dartmouth ได้สร้างคลัสเตอร์ของแล็ปท็อป ของ Apple เพื่อให้สามารถทำหน้าที่เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ 

แล็ปท็อปใช้โพรเซสเซอร์ M1 จาก Arm ผู้ผลิตชิปในสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมเอาองค์ประกอบทั้งหมดที่คอมพิวเตอร์ต้องการเอาไว้ในโพรเซสเซอร์ 

Capano ใช้เกณฑ์มาตรฐานการประมวลผลแบบต่างกันที่ปรับขนาดได้ (Scalable Heterogeneous Computing Benchmark) เพื่อเปรียบเทียบชิป M1 และ M1 Ultra ของ Apple กับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ทันสมัย ชิป M1 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า NVIDIA GPU สามเวอร์ชันในสามประเด็นหลัก 

การใช้เทคโนโลยีที่เฉพาะตัวของอุปกรณ์ M1 นั้นต้องการวิธีการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ และกระจายการคำนวณขนาดใหญ่ไปให้ทั่วทั้งคลัสเตอร์ "นี่หมายถึงต้องเขียนโค้ดสำหรับโปรเซสเซอร์เหล่านี้โดยเฉพาะ" Capano กล่าว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ตัวตรวจจับ Deepfake สามารถแยกวีดีโอจริงหรือปลอมได้จากการไหลเวียนของเลือด

Fake-Text
Photo by Markus Spiske on Unsplash

ยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ Intel อ้างว่าเทคโนโลยี FakeCatcher ของตัวเอง สามารถตรวจจับได้ว่าวิดีโอเป็นของแท้หรือของปลอม (deepfake) ด้วยความแม่นยำ 96% แบบเรียลไทม์ 

จากการกล่าวอ้างของบริษัท เทคโนโลยีนี้ประเมิน "สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์นั่นคือ—'การไหลเวียนเลือด' ในพิกเซลของวิดีโอ" 

Intel อธิบายว่า FakeCatcher สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสีในเส้นเลือดของบุคคลโดยพิจารณาจากการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย เทคโนโลยีนี้รวบรวมสัญญาณการไหลเวียนของเลือดจากใบหน้า ซึ่งอัลกอริธึมจะวัดเพื่อระบุความถูกต้องของวิดีโอ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet


วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

C++ เอาชนะ PHP แต่ JavaScript, Python และ Java ยังคงครองบัลลังก์

screen-show-program-code
Photo by Florian Olivo on Unsplash

รายงาน Octovere ประจำปี 2022 ของ GitHub ระบุว่า JavaScript, Python, Java, TypeScript และ C# เป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้มากที่สุดในโปรเจ็กต์ของ GitHub ในขณะที่ PHP ถูกเขี่ยหลุดออกจากอันดับที่หกโดย C++

Hashicorp Configuration Language และ Rust เป็นภาษาที่เติบโตเร็วที่สุด โดยขยายตัว 56% และมากกว่า 50% จากปีที่แล้วตามลำดับ 

การใช้ TypeScript เพิ่มขึ้น 37.8% ในขณะที่การใช้ Lua, Go, Shell, Makefile, C, Kotlin และ Python ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

GitHub ให้เครดิตการเติบโตของภาษา Go ที่ดูแลโดย Google ที่ใช้ในการพัฒนาระบบคลาวด์ รวมถึงโครงการต่างๆ เช่น Docker และ Kubernetes 

ปัจจุบันนักพัฒนามากกว่า 94 ล้านคนใช้ GitHub เพื่อเก็บโค้ด ชุมชนของแพลตฟอร์มขยายตัว 27% ปีต่อปีโดยมีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 20.5 ล้านคน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เกมบล็อกเชนอาจช่วยสร้างจักรวาลนฤมิตรที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ

metaverse
ภาพจาก MIT Technology Review

เกมออนไลน์แนวไซไฟ Dark Forest ทำงานบนบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลลัพธ์ของมันได้ Dark Forest สร้างขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์ที่ใช้นามแฝงว่า "Gubsheep" ซึ่งอธิบายว่าเป็น "เกมกลยุทธ์แบบผู้เล่นหลายคนจำนวนมากที่เกิดขึ้นในจักรวาลที่สร้างขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนแบบไม่มีที่สิ้นสุด"

เกมดังกล่าวใช้การเข้ารหัสลับที่เรียกว่า zero-knowledge proof เพื่อซ่อนผู้เล่นที่เป็นปฏิปักษ์จากกันและกันขณะที่พวกเขากำลังสร้างอาณาจักร ผู้เล่นใหม่ต้องเผชิญกับจักรวาลที่ซ่อนอยู่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้จากการสำรวจ เมื่อผู้เล่นเคลื่อนไหว พวกเขาจะส่งหลักฐานยืนยันไปยังบล็อคเชนโดยไม่เปิดเผยพิกัด

ผู้เล่นบางคนมองว่า Dark Forest เป็นก้าวแรกสู่จักรวาลนฤมิตร (metaverse) ที่ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ แทนที่จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT Technology Review

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

อีกหนึ่งเหตุผลที่เราควรเกลียดโฆษณาที่ไม่ต้องการ

cybersecurity
ภาพจาก Georgia Tech News Center

นักวิจัยจาก Georgia Institute of Technology (Georgia Tech) , University of Illinois Chicago และ New York University พบว่ากระบวนการที่ผู้โฆษณาบุคคลที่สามใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ออนไลน์สามารถดูหรือจัดการได้โดยใช้ที่อยู่อีเมลของเป้าหมาย

พวกเขาพบว่าเมื่อที่อยู่อีเมลของผู้ใช้ถูกเปิดเผย ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยผู้โฆษณาบุคคลที่สามเพื่อใช้กำหนดสตรีมโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายของผู้ใช้รายใดรายหนึ่งสามารถถูกเจาะเข้าไปได้ ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจากประวัติการเข้าชมของแต่ละบุคคล

Paul Pearce จาก Georgia Tech กล่าวว่า "งานของเราแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ส่งผ่านไปยังเครือข่ายโฆษณานั้นทั้งไม่ปลอดภัย และตรวจสอบได้ยาก หากผู้โจมตีรู้ที่อยู่อีเมลของเหยื่อ พวกเขาสามารถโกหกเครือข่ายโฆษณาเพื่อแอบอ้างเป็นผู้ใช้ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง”

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Georgia Tech News Center

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ตัวแบบ AI อาจช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

key
ภาพจาก  Imperial College London (U.K.)

 QuerySnout อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence)  หรือ AI ที่ออกแบบโดยนักวิจัยที่ Imperial College London (ICL) ของสหราชอาณาจักร สามารถตรวจสอบระบบปกป้องความเป็นส่วนตัวจากการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นได้ 

QuerySnout สามารถระบุการโจมตีโดยอัตโนมัติบนระบบที่อยู่บนฐานการสืบค้น (query-based systems) หรือ QBS ที่นักวิเคราะห์ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล และเรียกข้อมูลแบบที่มีการรวบรวม (aggregation) ตัวแบบจะเรียนรู้ว่าคำถามใดที่ควรถาม QBS เพื่อให้ได้คำตอบ จากนั้นเรียนรู้ที่จะรวมคำตอบโดยอัตโนมัติเพื่อตรวจหาข้อบกพร่องด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้น

QuerySnout ใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อสร้างการโจมตี QBS ที่รวมเอาคำตอบเพื่อแสดงข้อมูลส่วนตัวที่เฉพาะเจาะจง หลังจากการค้นหาเชิงวิวัฒนาการเพื่อค้นหาชุดการสืบค้นที่ถูกต้อง Ana-Maria Cretu ของ ICL กล่าวว่า " QuerySnout พบการโจมตีที่ทรงพลังมากกว่าที่รู้จักในระบบที่ใช้จริงในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าโมเดล AI ของเรานั้นดีกว่ามนุษย์ในการค้นหาการโจมตีเหล่านี้"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Imperial College London (U.K.)

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

IBM ออกควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีควอนตัมบิต 433 บิต

IBM-quantum
ภาพจาก Reuters

คอมพิวเตอร์ควอนตัม Osprey ใหม่ของไอบีเอ็มมีควอนตัมบิต (quantum bit) หรือ qubit จำนวน  433 บิต เพิ่มขึ้นสามเท่าจากรุ่นก่อน

Dario Gil ของ IBM กล่าวว่าบริษัทกำลังก้าวไปสู่การพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีมากกว่า 1,000 qubits โดยสังเกตว่า "เราได้ออกแบบและวิศวกรรมสถาปัตยกรรมทั้งหมดสำหรับการคำนวณควอนตัมอยู่บนฐานของโมดูล" 

Gil กล่าวว่า Quantum System Two ของ IBM จะเป็น "ระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบโมดูลระบบแรกอย่างแท้จริง เพื่อให้คุณสามารถปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป

การเป็นโมดูลความว่าตัวชิปเองจะต้องเชื่อมต่อถึงกัน” บริษัทคาดการณ์ว่าระบบนี้จะออนไลน์ภายในปลายปี 2023 ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ควอนตัมเป็นศูนย์กลาง 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ระบบจำแนกมัลแวร์ที่ใช้ร่วมกับเครือข่าย 5G สำหรับความมั่นคงทางไซเบอร์ยุคต่อไป


Photo by Shiwa ID on Unsplash

ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาตินำโดย Gwanggil Jeon จากมหาวิทยาลัย Incheon National University ของเกาหลีใต้ ได้สร้างระบบตรวจจับมัลแวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับระบบ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) หรือ IOT ในระดับอุตสาหกรรม โดนระบบนี้ใช้งานกับเครือข่าย 5G ได้

ระบบใช้ภาพเฉดสีเทากับเครือข่ายการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) เพื่อวิเคราะห์มัลแวร์ จากนั้นจึงนำเครือข่ายประสาทเทียมคอนโวลูชัน (convolutional neuron network) มาใช้ เพื่อจัดหมวดหมู่การโจมตีของมัลแวร์ นักวิจัยรวมระบบเข้ากับเครือข่าย 5G เพื่อลดเวลารอในการทำงานให้ต่ำลง ทำให้สามารถแบ่งปันข้อมูลและการวินิจฉัยแบบเรียลไทม์ได้ในปริมาณมาก

ตัวแบบใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงจากสถาปัตยกรรมระบบแบบเดิม ทำให้ได้ความแม่นยำถึง 97% บนชุดข้อมูลเกณฑ์มาตรฐาน (benchmark) 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Newswise



วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Tim Berners-Lee ผู้สร้างเว็บต้องการให้เราเลิกสนใจ Web3

Tim-Beners-Lee
Tim Berners-Lee ภาพจาก CNBC News

Tim Berners-Lee ผู้รับรางวัล Turing Award ซึ่งได้รับเครดิตจากการประดิษฐ์ World Wide Web บอกว่า Web3 ไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวสร้างสร้างอินเทอร์เน็ตในรอบต่อไป 

ที่การประชุม Web Summit ในลิสบอน ประเทศโปรตุเกส Berners-Lee เรียก Web3 ว่าเป็นคำที่คลุมเครือเพื่ออธิบายอินเทอร์เน็ตเชิงทฤษฎีที่มีการกระจายอำนาจมากกว่าเว็บปัจจุบัน โดยผสมผสานเทคโนโลยี เช่น บล็อคเชน คริปโตเคอเรนซี่ และโทเค็นที่ไม่สามารถแทนที่ได้

Berners-Lee อธิบายโปรโตคอลบล็อกเชนว่า "ช้าเกินไป แพงเกินไป และเป็นสาธารณะเกินไป" เขากล่าวว่าผู้คนมักสับสน Web3 กับ Web 3.0 เฟรมเวิร์ก สำหรับการกำหนดค่าอินเทอร์เน็ตใหม่

บริษัทสตาร์ตอัพใหม่ของเขาคือ Inrupt ตั้งใจที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลของตนเองผ่านคุณลักษณะการลงชื่อเพียงครั้งเดียว (single sign-on) ที่ใช้ได้ทั้งโลกสำหรับการเข้าสู่ระบบแบบยูนิเวอร์ซัล (universal)  ซึ่งเป็นการเข้าสู่ระบบที่อนุญาตให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล และ "ส่วนประสานการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (Application Programming Interface) แบบยูนิเวอร์ซัล"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNBC News


วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

นักวิจัยมีวิธีแก้วิกฤติการทำซ้ำทางวิทยาศาสตร์

reseacher-in-labs
ภาพจาก USC Viterbi School of Engineering

นักวิจัยจาก University of Southern California (USC) ได้พัฒนาและทดสอบวิธีการเพื่อเอาชนะความยากลำบากในการทำซ้ำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ 

นักวิจัยกลั่นกรองกราฟความรู้จากผลการศึกษาทางวิชาการมากกว่า 250 ล้านชิ้น ซึ่งรวมถึงข้อมูลระดับไมโคร (micro) และแมคโคร (macro)  พวกเขาตรวจสอบตัวแปรระดับไมโครในบทความที่ตีพิมพ์ซึ่งทราบว่ามีผลกระทบต่อความสามารถในการทำซ้ำ และรวมข้อมูลความสัมพันธ์ระดับแมคโครระหว่างเอนทิตีเพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่าย

Jay Pujara แห่ง USC กล่าวว่า "เราพบว่าถ้าเราสามารถรวมทั้งสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน รวมคุณลักษณะบางอย่างจากข้อความและคุณลักษณะบางอย่างจากกราฟความรู้ เราก็สามารถทำได้ดีกว่าการใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: USC Viterbi School of Engineering

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทดสอบยาอัลไซเมอร์ตัวต่อตัวในการทดลองทางคลีนิคแบบเสมือน

neuron
ภาพจาก Penn State News

นักวิทยาศาสตร์จาก Pennsylvania State University (Penn State), University of Tennessee, Knoxville (UTK), และ Duke University ได้ทำการทดลองทางคลินิกเสมือนจริงครั้งแรกกับยารักษาโรคอัลไซเมอร์หลายชนิด

Wenrui Hao จาก Penn State กล่าวว่า "เรากำลังเรียกสิ่งนี้ว่าการทดลองทางคลินิกเสมือนจริง เพราะเราใช้ข้อมูลผู้ป่วยจริงที่ไม่ระบุตัวตนเพื่อจำลองผลลัพธ์ด้านสุขภาพ"

นักวิจัยใช้ข้อมูลทางคลินิกและไบโอมาร์คเกอร์เพื่อสร้างตัวแบบจำลองเพื่อทดสอบสูตรยา aducanumab ในขนาดต่ำและสูง และยา donanemab ขนาดเดียว โดยผลลัพธ์สอดคล้องกับผลการทดสอบกับคนจริง ๆ นักวิจัยยังได้ใช้ตัวแบบนี้เพื่อพัฒนาแผนการรักษาเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วยเสมือนจริงแต่ละราย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Penn State News


  

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สมาร์ตโฟนบอกได้ว่าสะพานใกล้จะถล่มลงมาหรือไม่

golden-gate
ภาพจาก New Scientist

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบันที่นำโดย Thomas Matarazzo จาก U.S. Military Academy ได้สร้างระบบเพื่อตรวจสอบคุณภาพของสะพานโดยใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวจากสมาร์ตโฟน 

ด้วยการใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากโทรศัพท์ขณะเดินทางข้ามสะพานโกลเดนเกตของซานฟรานซิสโกและสะพานคอนกรีตสั้นๆ ในเมืองเชียมปิโน ประเทศอิตาลี ซึ่งรวมถึงข้อมูล GPS และข้อมูลจากมาตรวัดความเร่ง

นักวิจัยประเมินว่าเทคนิคนี้สามารถยืดอายุสะพานเก่าได้มากกว่า 2 ปี และเกือบ 15 ปีสำหรับสะพานใหม่ เพราะมันจะช่วยให้มีการบำรุงรักษาเมื่อจำเป็น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สถานศึกษาใช้วิธีใหม่ ๆ ในการอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์

cyber-security-festival
ภาพจาก Inside Higher Ed

ในฐานะที่เป็นสถานศึกษาที่ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ University of Notre Dame ได้ใช้แนวทางที่แตกต่างในการฝึกอบรมความตระหนักด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในรูปแบบของเทศกาลความปลอดภัยทางไซเบอร์

Chas Grundy แห่ง Notre Dame กล่าวว่าเทศกาลนี้ได้รับการออกแบบ "เพื่อเข้าถึงหัวใจและจิตใจของผู้คนในลักษณะที่จะยึดและดึงพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอบรมอย่างจริงจัง"

เทศกาลนี้มีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรม "go phish" โดยขอให้ผู้เข้าร่วมระบุสัญญาณของอีเมลฟิชชิ่ง (phishing) และเวิร์กช็อปการสะเดาะกุญแจ 

มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งมีกิจกรรมการหยิบล็อคและการแฮ็กที่เน้นการปฏิบัติการประมวลผลบนคลาวด์ที่ปลอดภัย

มหาวิทยาลัย Stanford เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งมีกิจกรรมการสะเดาะกุญแจ และการแฮ็กที่เน้นไปที่ข้อควรปฏิบัติที่ปลอดภัยด้านคลาวด์คอมพิวติง (cloud computing)

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Inside Higher Ed

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

นักวิจัยใช้เลเซอร์หลอกรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ

autonomous-car
Photo by Erik Mclean on Unsplash

นักวิจัยจาก University of Florida, University of Michigan, และ University of Electro-Communications ของญี่ปุ่น ใช้เลเซอร์เพื่อหลอกระบบ LiDAR ของยานยนต์อัตโนมัติเพื่อทำให้มันมองไม่เห็นสิ่งกีดขวางและคนเดินถนน

เลเซอร์เลียนแบบการสะท้อน LiDAR ที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ ซึ่งทำให้มองไม่เห็นการสะท้อนจากสิ่งกีดขวางที่มีอยู่จริง 

ในการทดสอบการโจมตีด้วยเลเซอร์โดยใช้ซอฟต์แวร์ติดตามกล้องพื้นฐานภายในระยะ 15 ฟุตจากรถยนต์ไร้คนขับ พบว่ารถไม่ชะลอความเร็วเมื่ออยู่ใกล้คนเดินถนน  นักวิจัยกล่าวว่าอุปกรณ์ที่มีความสามารถสูงสามารถโจมตีด้วยวิธีนี้ได้จากระยะที่อยู่ไกลจากยานพาหนะมากกว่าจากการทดลองนี้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Interesting Engineering

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

การสัมภาษณ์งานครั้งต่อไปของคุณอาจทำผ่าน VR

VR-Interview
ภาพจาก  BBC News

นักศึกษาที่ Sandwell College แห่งสหราชอาณาจักรได้จัดการสัมภาษณ์จำลอผ่านระบบ Virtual Reality (VR) จากบริษัท Bodyswaps ในลอนดอน โดยมีอวตารโต้ตอบกับซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ที่พูดได้ ซอฟต์แวร์ให้ข้อเสนอแนะเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งแนวทางในการสัมภาษณ์ของตัวเอง

Christophe Mallet แห่ง Bodyswaps กล่าวว่าผู้คนสามารถฝึกฝนด้วยการสัมภาษณ์จำลอง จนกว่าพวกเขาจะรู้สึกพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ในชีวิตจริง 

ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยี AI ของบริษัท Tengai ของสวีเดนทำให้บริษัทในโลจริงสามารถสัมภาษณ์งานเบื้องต้นผ่านหน้าการ์ตูนบนหน้าจอที่ถามคำถามผู้ถูกสัมภาษณ์ได้

Elin Öberg Martenzon แห่ง Tengai กล่าวว่าซอฟต์แวร์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งสมมติฐานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับผู้สมัคร "โดยใส่ตัวกรองบางประเภทระหว่างผู้สมัครและผู้จัดหาพนักงาน"

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  BBC News



วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ยุโรปเตรียมที่จะเขียนกฎของอินเทอร์เน็ตใหม่

EU-Building
Photo by Guillaume Périgois on Unsplash

การประกาศใช้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป (EU) ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะบังคับให้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีความโปร่งใสและทำงานร่วมกันได้มากขึ้นในปีหน้า DMA กำหนดให้แพลตฟอร์มที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ต้องยอมให้มีคู่แข่งรายย่อย โดยอาจผลักดันให้ WhatsApp ของ Meta รับข้อความจากแอปพลิเคชันของคู่แข่ง หรือป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่เอื้อประโยชน์ให้แค่แอปและบริการของตัวเอง

สหภาพยุโรปต้องตัดสินใจว่าบริษัทใดมีขนาดใหญ่ และมั่นคงพอที่จะได้รับการพิจารณาให้เป็น "ยามเฝ้าประตู" ที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดที่สุด Gerard de Graaf เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปกล่าวว่ากฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนั้นจำเป็นต่อการปกป้องผู้คนและธุรกิจจากการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนเพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทคโนโลยี

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ars Technica