แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เคอร์เคซมาแล้วต่อไปจะเป็นเกฮีไหม มาสรุปสถานการ์ย้ายเข้า-ออกของทีมกัน

ช่วงนี้ลิเวอร์พูลของเราเปิดตัวนักเตะใหม่เรียกว่ารายสัปดาห์เลยนะครับ คราวนี้เป็นเคอร์เคซ ที่มีข่าวมานานคราวนี้ก็เป็นทางการซะทีนะครับ มายินดีต้อนรับเคอร์เคซสู่สโมสรกันครับ ดูวีดีโอเปิดตัวได้เลยครับ 


อ้อแล้วเราก็ยังได้ผู้รักษาประตูดาวรุ่งคืออาร์มิน ปิซี มาอีกคนด้วยนะครับ มาเป็นประตูมือสามให้กับทีมเรา  

คนต่อไปที่เรามีข่าวพัวพันด้วยมากที่สุดตอนนี้ก็คือ เกฮีของคริสตัลพาเลซนะครับ ไม่รู้ว่าสัปดาหน์หน้าจะได้เขียนบทความแล้วกล่าวยินดีต้อนรับกันอีกไหม ปิดฤดูนี้ลิเวอร์พูลของเราเสริมตัวได้รวดเร็วทันใจจริง ๆ แสดงถึงความเอาจริงเอาจังที่จะต่อยอดความสำเร็จต่อไป ก็ภาวนาว่าอย่าให้มีใครเจ็บ และก็ขอให้โชว์ฟอร์มกันได้อย่างที่คาดหวังกันทุกคนนะครับ แทบจะรอฤดูกาลเปิดไม่ไหวแล้วครับตอนนี้ 

สรุปสถานการณ์ของทีมตอนนี้

ย้ายเข้า 

1. เจเรอมี ฟริมปง (แบ็คขวา)

2.  ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (กองกลาง)

3. มิลอส เคอร์เคซ (แบ็คซ้าย) 

4. จอร์จี มามาร์ดาชวิลี (ประตู คนนี้ซื้อตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แต่ให้ต้นสังกัดเดิมยืมตัวใช้ไปก่อนหนึ่งฤดู)

5.  อาร์มิน ปิซี (ประตู)

ย้ายออก

1. เทรนต์ อาร์โนลด์ (แบ็คขวา) 

2. ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ประตู) คนนี้เสียดายมาก แต่เป็นความกก้าวหน้าของเขา ก็ขออวยพรให้โชคดี เจอทีมไหนก็ขอให้เหนียว ๆ นะ แต่เว้นเจอทีมลิเวอร์พูลนะ 

3.  นาธาเนียล ฟิลลิปส์ (เซ็นเตอร์แบ็ค) คนนี้ก็เป็นอีกคนที่ต้องขอขอบคุณ ในฤดูกาลที่เซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงของเราเจ็บหมด ก็ได้ความทุ่มเทของเขานี่แหละ ทำให้เราจบที่สามได้ไปแชมเปียนส์ลีก  

4. จาเรลล์ ควอนซาห์ (เซ็นเตอร์แบ็ค) ตกลงกับเลเวอร์คูเซ่นได้แล้ว โดยมีสัญญาซื้อกลับด้วย ดีลนี้ดีมาก ๆ 

อ้อ แล้วก็ต้องขอแสดงความยินดีกับฮาวีร์ เอเลียตด้วย ที่เป็นส่วนสำคัญในทีม U21 ของอังกฤษ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เล่นดีแบบนี้ถ้าต้องขายก็เสียดายนะครับ แต่ทีมเรากองกลางก็แน่นไปหมด ก็เข้าใจถ้าเขาจะย้ายเพื่ออนาคต แต่ก็อยากให้อยู่ต่อนะครับ ก็ไม่รู้ว่าอาร์เน่จะบริหารจัดการยังไง  

โอเคครับนี่คือสถานการณ์ของทีมเราในตอนนี้ หวังว่าสัปดาห์หน้าจะมีข่าวดีมารายงานเพิ่มเติม แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ ครับ 

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เวียร์ตซ์เป็นทางการแล้ว และโปรแกรม 10 นัดแรกของเรา

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ วันขอเริ่มด้วยข่าวดีว่าเราได้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ลองไปดูวีดีโอสัมภาษณ์เวียร์ตซ์กันครับ 


โดยค่าตัวที่ต้องจ่ายไม่ได้สูงอย่างที่คาดกันไว้ ค่าตัวที่ต้องจ่ายให้เลเวอร์คูเซนแบบผ่อนจ่ายคือ 100 ล้านปอนด์ และมีโบนัสอีก 16 ล้านปอนด์ ตามความสำเร็จที่เวียร์ตซ์จะช่วยทีมเรา ส่วนค่าแรงคือ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และมีโบนัสให้อีก เซ็นสัญญากันห้าปีถึงปี 2030 

โดยเวียร์ตซ์จะได้เล่นคู่กับคู่หูในทีมเลเวอร์คูเซนคือ ฟริมปง ซึ่งเป็นนักเตะของเราไปเรียบร้อยแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อน  เพราะฉะนั้นอย่างน้อยก็มีคู่หูที่รู้ใจกันอยู่แล้ว ซึ่งดีลของเวียร์ตซ์ก็ถือเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงสุดที่ลิเวอร์พูลเคยทำมา แต่ยังไงก็ไม่สูงเท่าข่าวทีออกมาก่อนหน้านะครับ อันนี้คงต้องยกเครดิตให้ผู้อำนวยการกีฬาที่ไปพูดคุยจนเวียร์ตซ์เลือกทีมเราทีมเดียว และก็ต้องให้เครคิตทีมเจรจาซื้อขายด้วย

สัปดาห์ต่อไปก็มาลุ้นได้เคอร์เคซอย่างเป็นทางการกันครับ และตามข่าวลิเวอร์พูลจะไม่หยุดแค่นี้ครับ ยังมีเซนเตอร์แบ็คที่อาจจะต้องมาแทนควอนซาห์ และกองหน้า ซึ่งตำแหน่งกองหน้านี้ คิดว่าคงต้องขายคนเก่าออกไปให้ได้ก่อนนะครับ ซึ่งก็อาจเป็นนูณเยส ซึ่งจริง ๆ ผมก็อยากให้อยู่ต่อนะ เขาดูมีแพสชันเข้ากับทีมเราดี แต่ความไม่นิ่งของเขานี่แหละทำให้อาจไปต่อกันไม่ได้ 

นัดแรกของเราในฤดูกาลใหม่เราจะเริ่มนัดแรก เป็นคู่แรกของลีกเลยนะครับ โดยวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2.00 น. (คืนวันศุกร์ตีสอง)  เราจะเปิดบ้านเจอร์บอร์นมัธครับ ต้องนอนดึกกันตั้งแต่นัดแรกเลยครับ สำหรับโปรแกรม 10 นัดแรกจะเป็นดังนี้ครับ 


ตารางการแข่งขัน 10 นัดแรกของลิเวอร์พูล (เวลาประเทศไทย)

วันแข่งขันคู่แข่งขันสนามเวลา
คืนวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. 68 (เช้าวันเสาร์ที่ 16 ส.ค. 68)ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธแอนฟิลด์02:00 น.
วันเสาร์ที่ 23 ส.ค. 68นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูลเซนต์ เจมส์ พาร์ค21:00 น.
วันเสาร์ที่ 30 ส.ค. 68ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อลแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 13 ก.ย. 68เบิร์นลี่ย์ พบ ลิเวอร์พูลเทิร์ฟ มัวร์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 20 ก.ย. 68ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตันแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 27 ก.ย. 68คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูลเซลเฮิร์สท์ พาร์ค21:00 น.
วันเสาร์ที่ 4 ต.ค. 68เชลซี พบ ลิเวอร์พูลสแตมฟอร์ด บริดจ์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 18 ต.ค. 68ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 25 ต.ค. 68เบรนท์ฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูลจีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม21:00 น.
วันเสาร์ที่ 1 พ.ย. 68ลิเวอร์พูล พบ แอสตัน วิลล่าแอนฟิลด์22:00 น.

ดูจากโปรแกรมแล้วถือว่างานหนักนะครับ ต้องเจอทั้งนิวคาสเซิ่ล อาร์เซนอล เอฟเวอร์ตัน เชลซี แมนยู และวิลล่า ในขณะที่พาเลซก็ทำเราเกือบแย่ในฤดูกาลที่แล้ว 

ก็หวังว่าเราจะผ่านไปได้อย่างส่วยงาม เหมือนฤดูที่แล้สที่เขาบอกว่าเรามี 10 นัดอันตราย แต่เราผ่านไปได้อย่างสบายมากนะครับ แล้วก็หวังว่าการถ่ยทอดสดผ่านเจ้าใหม่นี่จะไม่มีปัญหาล่ม เหมือนในอดีตนะครับ แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ...

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568

คุยกันเรื่องการย้ายเข้าย้ายออกกันอีกสักวัน

สัปดาห์ที่แล้วไม่ได้เขียน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ ครับ เพราะไม่ว่าง และรู้สึกว่ายังไม่มีอะไรใหม่ และมาถึงสัปดาห์นี้ก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นทางการเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ก็ใกล้มากขึ้นแล้วในรายของเวียร์ตซ์ ที่รู้สึกจะบรรลุค่าตัวกันได้แล้วระหว่างลิเวอร์พูลและเลเวอร์คูเซน ซึ่งค่าตัวก็จะเป็นสถิติของสโมสรเราเลยนะครับ ก็หวังว่าจะเป็นดีลที่สำเร็จ เหมือนตอนเราทุ่มซื้อตัวฟานไดค์กับเบ็คเคอร์มานะครับ 

Caoimhín Kelleher

Timmy96, CC0, via Wikimedia Commons

ส่วนนักเตะที่ย้ายออกไปแล้วอย่างเป็นทางการก็คือประตูสำรองของเราคือเควิน คัลลาเฮอร์ ที่ย้ายไปเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งจริง ๆ ผมว่าเดอะคอปทุกคนเสียดายนะครับ แต่ก็ต้องปล่อยให้เขาไป เพราะเขามีดีเกินกว่าที่จะนั่งเป็นตัวสำรองจริง ๆ ก็ขออวยพรให้โชคดีครับ เอาแค่ว่าถ้ามาเจอกับทีมเรา ก็ขอให้เหนียวน้อยกว่าเดิมหน่อยแล้วกัน ให้เรายิงผ่านไปได้บ้าง เจอทีมอื่น ๆ ก็ขอให้เหนียวหนึบเลยก็แล้วกันนะ

นอกจากนี้ข่าวกับแบ็คซ้ายอย่างเคอร์เคซ ก็มีมาเป็นระยะ ๆ แต่ก็ยังไม่ลงตัวสักที แล้วก็มีข่าวว่าร็อบโบของเรา ไม่เต็มใจที่จะเป็นตัวสำรอง อยากจะย้ายออก 

Konate

Timmy96, CC0, via Wikimedia Commons

ในส่วนของเซ็นเตอร์ก็มีข่าวว่าเลเวอร์คูเซ็นสนใจจาเรล ควอนซาร์ และโกนาเต้ ซึ่งมีสัญญาเหลืออยู่ปีเดียว แต่การต่อสัญญาก็ยังไม่มีความคืบหน้า 

ในส่วนของแดนกกลางและแดนหน้า ฮาร์วี เอเลียตก็มีข่าวว่าอยากย้าย เพราะไม่อยากเป็นสำรอง ส่วนหลุยส์ ดิอาซ ก็มีข่าวพัวพันกับบาร์เซโลนา ดาร์วิน นูนเญส ก็มีข่าวพัวพันกับซาอุ และแอตมาดริด 

มีลิสต์กองหน้าที่เราสนใจหลายคน อย่างเอกิติเก, อัลวาเรซ และโยเคเรส ซึ่งกองหน้าพวกนี้ราคาแพงระยับทั้งนั้น โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราทุ่มร้อยกว่าล้านให้เวียร์ตซ์ไปแล้ว ถ้าจะซิ้อกองหน้าราคาแพงระยับอีก คงต้องขายออกไปให้ได้ก่อนนะครับ   

สัปดาห์นี้คงเท่านี้นะครับ ก็หวังว่าสัปดาห์หน้าเราจะชัดเจนมากขึ้นอย่างน้อยก็ขอให้ได้เวียรต์มาชูเสื้อซะที แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ 

  

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568

งานฉลองที่เกือบสมบูรณ์แบบ เก่าไปใหม่มาทันใด และบทสรุปเจ้ายุโรปปีนี้

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์วันนี้ขอมาสรุปฤดูกาลนี้ของเรา และยินดีกับแชมป์ยุโรปทีมใหม่ครับ เริ่มจากทีมเราก่อนแล้วกันครับ นัดสุดท้ายทั้งสองทีมก็ให้เกัียรติกัน เขาให้เกียรติเราแชมป์ลีก เราให้เกียรติเขาแชมป์เอฟเอคัพ ผมว่าภาพแบบนี้มันหายากนะครับ เพราะโอกาสที่สองแชมป์จะมาเจอกันเองในวันสุดท้ายของฤดูกาลแบบนี้ คงอีกนานกว่าที่จะเกิดขึ้น 


ส่วนผลการแข่งขันเรียกว่าเกือบงานกร่อย เพราะเราโดนยิงนำไปก่อน ถ้าแพ้ในบ้านส่งท้ายนี่สำหรับผมมันจะฉลองกันไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนะครับ  ดีที่ยังมาตีเสมอได้ทั้งที่เหลืออยู่แค่ 10 คน คือจริง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ซีเรียสกับผลการแข่งขัน แต่ยังไงไม่แพ้ก็ดีกว่าแพ้นะครับ    

จริง ๆ ที่ผมกังวลมากกว่าผลการแข่งขันคือการเสียประตูของเราครับ มันเกิดจากการผิดพลาดกันเองอีกแล้ว และมันไม่ใช่เพิ่งมาเกิดหลังจากเราคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่มันเกิดมาตั้งแต่ครึ่งหลังของฤดูกาล ซึ่งถ้ามันทำให้เราพลาดแชมป์นี่คงน่าเสียดายมาก 

โชคดีที่ความเสียหายไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น เพียงแต่ทำให้เราคว้าแชมป์ช้าลงเท่านั้น ก็หวังว่าทีมเราจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ในฤดูกาลถัดไปนะครับ เพราะผมเชื่อว่าฤดูกาลหน้าจะหนักหนาสาหัสกว่านี้ เพราะหลายทีมมีฤดูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเองไปแล้ว ฤดูกาลหน้าไมน่าจะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับแมนซิตี้ ถ้าเรายังคงพลาดเองง่าย ๆ แบบนี้ผมว่าเราจะเหนือยมาก 

ส่วนที่ต้องชมก็คือความมุ่งมั่นของนักเตะ และความกล้าลุยของอาร์เน่ ที่จัดสินใจถอดกองหลัง ส่งตัวรุก เรียกว่าไม่ยอมแพ้ จะยิงคืนให้ได้ ซึ่งมันก็เป็นดาบสองคมนะครับ เพราะถ้าโดนส่วนแล้วพลาดก็จบ แล้วก็เกือบโดนอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ต้องทำให้กราเฟนเบอร์กต้องเสียใบแดง จากความผิดพลาดของตัวเอง และเขาจะพลาดการลงสนามในฤดูกาลหน้า 1-3 นัด 

แต่สุดท้ายสิบคนของเราก็บุกกดใส่พาเลซ ซึ่งเกมแพลนก็คือหวังอุดเอาผลการแข่งขัน แต่สุดท้ายซาลาห์ก็ยิงประตูที่ 29 ในฤดูกาล ตีเสมอให้เราได้สำเร็จ สมกับตำแหน่งรองเท้าทองคำ ซึ่งคลอปป์ที่เข้ามาชมอยู่ในเกมนี้ ก็ลุกขึ้นมาปรบมือดีใจร่วมกับเดอะคอปทั้งโลก ทั้งนักเตะ โค้ช และแฟนบอลคงไม่มีใครอยากแพ้คาบ้านในเกมฉลองแชมป์หรอกนะครับจริงไหม


สุดท้ายก็ได้ฉลองแชมป์กันในสนาม ได้เห็นภาพชูถ้วยแชมป์ลีก ซึ่งต้องบอกว่าผมไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทั้ง ๆ ที่เชียร์มาร่วมสี่สิบเกือบห้าสิบปี เป็นบรรยากาศที่สุดประทับใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ชมอยู่หน้าจอโทรทัศน์นะครับ ถ้ามีโอกาสอยู่ในสนามจริงอาจร้องไห้ก็เป็นได้ ก็หวังว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีสุดท้ายนะ แต่เป็นปีเริ่มแรกของยุคอาร์เน่ ซึ่งจะนำความสำเร็จมาให้เล่าต่อไปอีกหลาย ๆ ปี ถ้าคลอปป์คือบิล แชงค์ลีย์ ผู้วางรากฐาน ก็ขอให้อาร์เน่ คือบ๊อบ เพลสลีย์ ผู้พาลิเวอร์พูลทะยานกวาดแชมป์มากมาย

วันรุ่งขึ้นคือวันแห่ถ้วย ซึ่งผมก็รับชมจาก LFCTV เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมากเช่นกัน มีผู้คนมาร่วมต้อนรับมาร่วมฉลอง สมกับที่เรารอการแห่แบบนี้มาถึง 35 ปี ผมดูอย๋ได้ถึงสักสามทุ่มกว่า ๆ บ้านเรา ก็รู้สึกง่วงมาก ๆ อาจจะด้วยปัญหาสุขภาพ ก็เลยขึ้นไปนอน ก่อนที่จะตื่นเช้าขึ้นมาพบข่าวเศร้าที่มีคนขับรถเข้าไปพุ่งชนคนที่ออกมาร่วมฉลองแชมป์ โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีเด็กอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บนี้ด้วย และมีเด็กคนหนึ่งติดอยู่ใต้ท้องรถ ตอนรถหยุดด้วย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น งานฉลองของเราก็น่าจะสมบูรณ์กว่านี้ มีเพื่อนที่ไปอบู่ในเมืองลิเวอร์พูลโพสต์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีรถเข้าไปได้ เกิดจากการที่ตำรวจทำหน้าที่ไม่ดี แต่จากที่ฟังข่าวอีกทางหนึ่งเหมือนกับว่าตำรวจกำลังเปิดทางให้รถพยาบาลเข้าไป เลยเป็นเหตุให้รถคันนี้ฉวยโอกาสเข้ามา   

สรุปภาพรวมของฤดูกาลของเรานะครับ

โดยภาพรวมอันดับหนึ่ง  ชนะ 25 เสมอ 9 แพ้ 4 ยิงได้ 86 เสีย 41 ผลต่างประตู 45 แต้ม 84

ดูเฉพาะในบ้านก็อันดับหนึ่ง   ชนะ 14 เสมอ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 42 เสีย 16 ผลต่างประตู 26 แต้ม 46

ดูเฉพาะเกมเยือนก็อันดับหนึ่ง ชนะ 11 เสมอ 5 แพ้ 3 ยิงได้ 44 เสีย 25 ผลต่างประตู 19 แต้ม 38

ถ้าไม่ปล่อยจอยหลังคว้าแชมป์สถิติเกมเยือนน่าจะดีกว่านี้ สรุปก็คือเกมในบ้านยังเป็นจุดแข็งของเรา ถ้าไม่พลาดกับฟอร์เรสต์เราจะไม่แพ้ในบ้านเลย เกมเยือนก็ถือว่าโอเค ก่อนคว้าแชมป์แพ้ไปนัดเดียวกับคือแพ้ฟูแล่ม 

เราชนะมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง  25 นัด 

แพ้น้อยสุดร่วมกับอาร์เซนอล 4 นัด 

ยิงได้มากที่สุด 86 ลูก 

เสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับสองรองจากอาร์เซนอล 41 ลูก (มาเสียเยอะเพราะพลาดกันเองครึ่งหลังของฤดูกาล) 

ซาลาห์คว้าทุกรางวัลในอังกฤษ นักเตะยอดเยี่ยม รองเท้าทองคำ แอสซิสต์สูงสุด

กราเฟนเบอร์ก ได้ดาวรุ่งยอดเยี่ยม 

ส่วนเทรนต์ อาเลกซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็ย้ายไปรีอัล มาดริดอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ แต่ข้อดีคือเราก็ไม่ได้เสียฟรี ได้ค่าตัวมาประมาณ 10 ล้านปอนด์ เพราะมาดริดต้องการตัวไปทันทีเพื่อเล่นชิงแชมป์สโมสรโลก ซึ่งก็ต้องชมทีมงานที่ต่อรองมาจนได้ตั้ง 10 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่สามารถย้ายไปแบบฟรี ๆ หลังจบฤดูกาล ต้องของคุณรายการชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย 

แต่ในวันที่เทรนต์ประกาศตัวเป็นผู้เล่นของมาดริดอย่างเป็นทางการ ฟริมปงก็ประกาศตัวเป็นสมาชิกใหม่ของเราอย่างเป็นทางการเช่นกัน เรียกว่าเก่าไปใหม่มาทันทีไม่โกง ตอนนี้ก็รอติดตามข่าวของเวียยร์ตซ์ครับ โปรเจกต์ 100 ล้าน+ คนแรกของเรา

ส่วนเมื่อคืนนี้ก็ได้บทสรุปของแชมป์ยุโรปประจำฤดูกาลนี้กันแล้วนะครับ นั่นคือ PSG ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ผมไม่ได้ดูหรอกนะครับ ด้วยปัญหาสุขภาพ แต่จากที่ดูไฮไลต์ ต้องบอกว่าเขาสมควร และเหมาะสมทุกประการ คือเหลือกว่าคู่ชิงคืออินเตอร์ มิลาน ทุกกระบวนท่า 



อย่างที่เคยบอกครับผมเชียร์ PSG ให้ได้แชมป์ เพราะถ้าเราตกรอบเพราะทีมแชมป์ก็คงทำให้เสียใจน้อยลงนะครับ :) แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่า PSG เป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบเพลย์ออฟ ส่วนทีมเราเป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบลีกเฟส (เราเป็นอันดับหนึ่งรอบนี้) ส่วนจะมีโค้ชคนไหน บอกว่าทีมของเขาดีที่สุดในแชมป์เปี้ยนส์ลีก ก็ปล่อยให้เขาคิดไปนะครับ เสียดายที่เราต้องมาเจอ PSG ในช่วงที่เขาฟอร์มกลับมาพอดี ทั้ง ๆ ที่ในรอบลีกเฟส เขาต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายกว่าจะได้เข้ารอบมา 

โอเคครับ ฤดูกาลนี้ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ถึงตอนนี้ก็รอลุ้นว่าเราจะได้ใครมาเสริมเพิ่มอีก เพื่อสู้กันต่อในฤดูกาลหน้า และจะมีใครที่ต้องไปจากเราบ้าง แล้วพบกันในบทความต่อไปของ #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ... 

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

เตรียมตัวร่วมฉลองแชมป์กันคืนนี้ ความคืบหน้ากับนักเตะใหม่ของเรา และยินดีกับสเปอร์

สวัสดีครับแฟนหงส์แดงทุกท่าน! "อาทิตย์ติดแอนฟิลด์" วันนี้มาในวันปิดท้ายฤดูกาล 2024/2025 ซึ่งเป็นวันที่เราจะได้ ชูถ้วยอย่างเป็นทางการและฉลองกันในสนาม หลังจากที่แชมป์ในฤดูกาล 2019-2020 ของเราต้องฉลองในสนามเปล่า

บอกตรงๆ นะครับ ผมอยากเห็นบรรยากาศมาก เพราะไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศที่เราได้ฉลองแชมป์ในสนามเลย ถึงแม้จะเชียร์ทีมมา 40 กว่าปี เพราะยุคที่เรารุ่งเรือง ก็ไม่มีการถ่ายทอดมาให้ดู พอเริ่มมีการถ่ายทอดที่เข้าถึงได้ ทีมเราก็ไม่มาซะงั้น พอกลับมาได้แชมป์ก็โควิดอีก ดังนั้น ปีนี้ก็จะเป็นปีแรกที่เราได้ร่วมฉลองกัน และก็หวังว่าเราจะได้ฉลองกันไปเรื่อยๆ ทุกปี!

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

เกมกับอาร์เซนอล เทรนต์โดนโห่ และนักเตะใหม่ของเรา

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์วันนี้ ขอเริ่มด้วยเรื่องผลการแข่งขันกับอาร์เซนอลแล้วกันนะครับ ถึงแม้มันจะผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วก็ตาม สำหรับผมถึงแม้เกมจะไม่มีความหหมายอะไรแล้ว เพราะเราได้แชมป์แล้ว ผมก็ยังอยากให้เราเล่นกันดี ๆ นะครับ  แต่ปรากฏว่าทีมเราก็ยังเล่นกันไม่ค่อยดีนะครับ จริง ๆ ก็เข้าใจได้ว่าแรงจูงใจมันไม่มี แต่ก็อยากเห็นฟอร์มเดิม ๆ กลับมา เพราะเล่นกันไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ก่อนจะได้แชมป์อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ 


ตอนนำไป 2-0 ด้วยลูกสวนกลับ และต่อบอลกันสองสามจังหวะ ผมก็ดีใจนะ เพราะเอาจริง ๆ เกมก็ไม่ค่อยดี แต่มามีทีเด็ดด้วยลูกแบบนี้ แต่หลังจากนั้นเกมก็ค่อนข้างเป็นรอง ยิ่งครึ่งหลังยิ่งไปกันใหญ่ เกมรับกองหลังมีรอยรั่วถูกเจาะแทบตลอด ด้านซ้ายร็อบโบก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนเดิม (ผมภาวนาให้เขากลับมาในฟอร์มเดิมให้ได้นะ อยากให้อยู่กันไปนาน ๆ) ฟานไดค์กับโคนาเต้ ก็ดูไม่แน่นอนเหมือนตอนต้นฤดูกาล

 ด้านขวาแบรดลีย์ ยังต้องการการสะสมประสบการณ์  กองกลางโจนส์ ก็มีจุดอ่อนเรื่องการครองบอลนานเกินควร โซโบก็ขาด ๆ เกิน ๆ  เอเลียตก็ยังไม่สม่ำเสมอ กองหน้าคักโปก็ยังกลับมาฟอร์มเดิมไม่ได้ นูนเยส เชียร์ตลอดทุกครั้งที่เขาลงมา แต่เหมือนจะะเชียร์ไม่ขึ้น ดิอาซ บางวันดี บางวันเงียบ แต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ ซาลาห์ฟอร์มไม่ดีมาหลายนัดแล้ว เค้นฟอร์มหน่อยยังมีลุ้นบัลลงดอร์ กับรองเท้าทองคำ คนเดียวที่ยังเห็นว่าน่าจะสม่ำเสมอที่สุดก็คือแม็คอัลลิสเตอร์ กับประตูของเราคือพ่อหมีเบคเคอร์ 

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Darwin_N%C3%BA%C3%B1ez_and_Alexis_Mac_Allister_06042025_(1).jpg

สุดท้ายจบลงด้วย 2-2 ต้องบอกว่ายังดีที่ไม่แพ้ และถ้าอาร์เซนอลไม่เหลือ 10 คน ก็ไม่รู้จะจบยังไง คือตอนเขาเหลือ 10 คน เราก็พยายามกดนะ แต่เหมือนกดไม่อยู่อย่างที่ควรจะเป็น 

ในเกมนี้อาร์เน่ เปลี่ยนเทรนต์ลงมาแทนแบรดลีย์ และเทรนต์โดนโห่ ส่วนตัวค่อนข้างผิดหวังนะ ไม่คิดว่าจะเห็นเดอะคอปโห่ใส่นักเตะที่ยังใส่เสื้อทีมลงแข่งให้ทีม คือจะโกรธจะแค้นไม่ชอบใจอะไร เขาก็ยังลงเตะให้เราอยู่ แต่ถ้ามาในทีมฝั่งตรงข้ามจะโห่จะอะไรนี่ยังพอเข้าใจได้ 

กับเทรนต์ก็อย่างที่บอกไปในบทความที่แล้วว่า ก็ขอให้ได้เป็นตัวหลักกับมาดริด แต่ไม่ได้เชียร์ให้ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในระดับยุโรป เพราะมาดริดเป็นคู่แข่งเราในยุโรป การเชียร์เทรนต์ให้ประสบความสำเร็จในด้านรางวัล มันเท่ากับว่าเชียร์ให้มาดริดได้รางวัลด้วย แล้วมาดริดก็จะมีความสำเร็จเหนือเราเรื่อยไป แล้วก็เอาความสำเร็จนี้มาดึงนักเตะจากเราไปเรื่อย ๆ 

แต่ยังไงการโห่นักเตะที่ยังใส่เสื้อทีมเราลงเล่นให้เรานี่ไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ส่วนตัวต่อให้เป็นเอลฮัดจิ ดิยุฟ ที่เป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่ตัวเองไม่ชอบที่สุดแล้ว แต่ถ้าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เขากลับมาใส่เสื้อลิเวอร์พูล ลงเตะให้ลิเวอร์พูล ก็เชียร์นะ

ในแง่ข่าวกับนักเตะใหม่ตอนนี้ที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นฟริมปง ในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งก็อย่างที่บอกไป แบร็ดลีย์ยังน่าจะเป็นตัวหลักคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องมีคนมาเป็นแบ็คอัพกันแทนกัน ซึ่งราคาของฟิมปรง น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ อีกคนหนึ่งที่มีข่าวคือกองกลางเพลย์เมคเคอร์อย่าง ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ แต่เท่าที่ข่าวลงคือราคาแพงมากแตะหลัก 150 ล้านยูโร ไม่คิดว่าน่าจะได้นะ 

ตำแหน่งที่ต้องเสริมอีกก็คือแบ็คซ้าย แต่รู้สึกว่าข่าวกับแบ็คซ้ายตอนนี้ เงียบ ๆ ไปนะ อีกตำแหน่งคือศูนย์หน้า เพราะทั้งโจต้า กับนูนเยส น่าจะไม่ไหว  โจต้าจะเล่นดีได้สักนัดสองนัด แล้วก็จะเจ็บยาว กลับมาก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าฟอร์มจะกลับมา แล้วพอเล่นดีก็จะเจ็บอีก วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ส่วนนูนเยสก็ไม่รู้เขาเป็นอะไรของเขา ลุ้นยังไงก็ลุ้นไม่ขึ้น 

สัปดาห์นี้ลิเวอร์พูลแข่งคืนวันจันทร์นะครับ ไปเยือนไบรจ์ตัน เซ็งจริง ๆ เพราะคิดว่านัดที่เหลือในฤดูกาลนี้จะแข่งวันอาทิตย์ทั้งหมด จะได้ดูได้ แข่งคืนวันจันทร์ ก็คือตีสองวันอังคารของเรา ด้วยสุขภาพตัวเองช่วงนี้ดูไม่ไหวจริง ๆ ก็ฝากเชียร์กันด้วยแล้วกันนะครับ ผมคงดูได้แค่ไฮไลต์ แล้วถ้าไม่ติดอะไรอาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อครับ ขอให้ลิเวอร์พูลของเราชนะในสองนัดที่เหลือครับ 

ขอเพิ่มอีกนิดครับ ขอแสดงความยินดีกับคริสตัลพาเลซ ที่คว้าถ้วยเอฟอคัพประจำฤดูกาลนี้ไปได้ และเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ถ้วยแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา พาเลซจะเจอเราในแอนฟิลด์นัดปิดฤดูกาล และจะเป็นทีมแรกที่เจอเราในฤดูกาลหน้า ในศึกชาริตีชิลด์... 


วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

มุมมองเกี่ยวกับ TAA อาร์เตต้า แชมป์เปี้ยนลีกและยูโรป้าคัพนัดชิง

Anfield-Stadium
ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Anfield_Stadium,_Liverpool_-_geograph.org.uk_-_5885062.jpg

บล็อกนี้เป็นบล็อกแรกที่ผมจะเขียนถึงลิเวอร์พูลในคอลัมน์ #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ ซึ่งจริง ๆ ผมตั้งใจจะเขียนคอลัมน์นี้มาตั้งแต่ต้นปีแล้วนะครับ แต่บังเอิญมาป่วยมาก ๆ ซะก่อน เลยไม่ได้เขียน  สำหรับคอลัมน์ #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์นี้ ตามชื่อก็คือจะเป็นคอลัมน์เกี่ยวกับทีมที่ผมเชียร์มาสี่สิบกว่าเกือบจะห้าสิบปีก็คือลิเวอร์พูล และก็อาจจะมีกีฬาอื่น ๆ บ้าง เป็นการคุยกันวันอาทิตย์แบบสบาย ๆ ถ้าลิเวอร์พูลแข่งวันเสาร์ ก็จะเอาผลลัพธ์ เอารูปเกมมาพูดคุยกัน ถ้าลิเวอร์พูลแข่งวันอาทิตย์ ก็จะมาคาดการณ์ถึงผลการแข่งขันที่อาจจะเกิดขึ้น หรือบางสัปดาห์ก็อาจจะเอาข่าวที่น่าสนใจมาพูดคุยกัน

ก็ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่นักข่าวกีฬา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านแท็กติกฟุตบอลอะไร ดังนั้นก็จะเขียนในมุมมมองของแฟนบอลธรรมดาคนหนึ่ง และถ้ามีข่าวอะไรก็คงไม่ได้อัพเดตเท่ากับอินฟลูเอนเซอร์ด้านฟุตบอลที่มีอยู่มากมายนะครับ 

บล็อกแรกนี้ผมเขียนขึ้นหลังจากที่พวกเราก็รู้กันอยู่แล้วนะครับว่าลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำฤดูกาล 2024-2025 ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนการจบฤดูกาลสี่นัด ก็แน่นอนครับว่าสร้างความยินดีให้กับเดอะคอปทั่วโลก และจะเป็นปีที่ได้ฉลองแชมป์แบบจริง ๆ จัง ๆ หลังจากที่การคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 30 ปีเมื่อฤดูกาล 2019-2020 มันเป็นช่วงโควิด ตอนนี้คนรู้จักของผมหลายคนก็ได้ออกเดินทางไปแอนฟิลด์กันแล้วครับ 

Trent-Alexander_Arnold
ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Trent_Alexander_Arnold_2022_(2).jpg

กลับมาถึงหัวข้อหลักของเราในวันนี้นะครับ อย่างที่พวกเราคงทราบกันแล้วนะครับว่านักเตะที่เป็นกำลังหลัก เป็นนักเตะที่เป็น scouser นักเตะที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นยอดตำนานของสโมสรต่อไปต่อจากสตีเวน เจอร์ราด ก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หรือ TAA ตัดสินใจที่จะไม่อยู่ต่อกับทีม โดยคาดว่าจะไปเป็นนักเตะของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด 

ซึ่งการตัดสินใจนี้ ก็คงต้องบอกว่าทำความเสียใจให้กับเดอะคอปส่วนใหญ่ และจากความเสียใจก็แตกออกเป็นหลากหลาย บางกลุ่มก็กลายเป็นความโกรธ สาปแช่ง เกลียดไปเลย บางกลุ่มก็เข้าใจ และเห็นว่า TAA เต็มที่กับเรามาแล้ว ถ้าจะไปหาความท้าทายใหม่ ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ บางกลุ่มก็อยู่กลาง ๆ ไม่เกลียดแต่ก็ไม่เชียร์ 

สำหรับผมน่าจะอยู่ในกลุ่มกลาง ๆ นะครับ คือเราเชียร์ทีมมานาน ก็เห็นนักเตะเข้ามาแล้วย้ายออกไป เป็นเรื่องปกติ แต่สโมสรก็ยังคงอยู่ และเราก็เชียร์กันต่อไป แน่นอนนักเตะที่เป็นระดับไอคอน เป็นตำนาน เมื่อย้ายออกหรือเลิกเล่น มันก็มีผลกระทบทางจิตใจมากกว่า ยิ่งเป็นการย้ายของนักเตะที่จริง ๆ ควรเล่นอยู่กับเราจนเป็นตำนาน สร้างความสำเร็จไปด้วยกันย้ายออกไปก็มีความรู้สึกมากกว่าปกติ 

ถามว่าผมเข้าใจ TAA ไหม ก็ต้องบอกว่าทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจครับ ที่ว่าเข้าใจก็คือ คนเราเมื่ออยู่ที่ใดที่หนึ่งนาน ๆ ก็อาจเป็นไปได้ว่าถึงจุดอิ่มตัว และต้องการย้ายไปหาความท้าทายใหม่ ๆ ออกจากเซฟโซนของตัวเอง แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ ถ้าคิดว่าจะย้ายออกไปเพื่อไปอยู่สโมสรที่ดีกว่า มีโอกาสคว้ารางวัลส่วนตัวอย่างบัลลงดอร์มากกว่า อันนี้ผมไม่เข้าใจครับ 

ในฐานะแฟนบอลลิเวอร์พูล ผมไม่เคยคิดว่าจะมีสโมสรไหนดีกว่าลิเวอร์พูล ดังนั้น TAA ซึ่งเป็นคนที่เป็นทั้งแฟนบอลและเติบโตมากับสโมสร ถ้า TAA จะไปคิดว่ามีสโมสรไหนดีกว่าลิเวอร์พูลผมก็ไม่เข้าใจครับ 

ถ้าจะมองในแง่ความสำเร็จส่วนตัว ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อนผมเข้าใจได้ครับ เพราะลิเวอร์พูลมีปัญหามาก ดังนั้นนักเตะเก่ง ๆ ที่ต้องการความสำเร็จในแง่ถ้วยรางวัล ก็เลือกย้ายออกไปถ้ามีข้อเสนอมาจากเรอัลมาดริด หรือบาร์เซโลนา แต่ตอนนี้ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่คว้าถ้วยรางวัลได้เกือบทุกปี ดังนั้นถ้าต้องการความสำเร็จ มาอยู่คว้าความสำเร็จกับทีมที่รักไม่ดีกว่าหรือ

ในแง่รางวัลส่วนตัวอย่างบัลลงดอร์ ก็ไม่เห็นว่าถ้าอยู่กับลิเวอร์พูลแล้วจะคว้าไม่ได้ ที่ผ่านมาก็มีโอเว่น (ซึ่งบางคนอาจไม่อยากนับ) ที่ได้มาแล้ว และปีนี้ซาลาห์ก็มีโอกาสจะได้  และก็เหมือนเดิมการคว้ารางวัลกับทีมที่ตัวเองรักมันน่าจะฟินกว่า 

อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องการบริหารจัดการ และองค์ประกอบเบิ้องหลังของทีม ตอนนี้ลิเวอร์พูลก็ถือว่ามีการบริหารจัดการและทีมงานเบื้องหลังที่สุดยอดมาก อาจมีเรื่องการซื้อขายที่อาจขัดใจอยู่บ้าง (คือขัดใจแฟนบอลนะครับ แต่ทีมบริหารเขาอาจคิดดีแล้วก็ได้) ส่วนตัวคิดว่าดีกว่ามาดริดนะ

เรื่องนักเตะและความสามัคคีในทีม ผมก็คิดว่าทีมลิเวอร์พูลเราก็น่าจะดีกว่า เรื่องแฟนบอลนี่ไม่ต้องพูดถึง อย่างที่เขาพูดกัน แฟนบอลมาดริด อดทนต่ำ พร้อมจะด่านักเตะตัวเองได้เสมอ ถ้าไม่พอใจ และก็ไม่ค่อยให้เวลาในการปรับตัว เขาอาจคิดว่าเมื่อคุณเข้ามามาดริดคุณคือซุปตาร์ซึ่งไม่ต้องการเวลาปรับตัวใด ๆ อีกอย่างคือเรื่องเงิน ตามข่าวคือ TAA จะได้เงินน้อยกว่าที่ลิเวอร์พูลจะให้ 

ดังนั้นจากที่กล่าวมาทั้งหมด ถ้าเป็นผมผมไม่ย้ายครับ แต่ TAA อาจคิดต่างออกไป ก็เป็นเรื่องการตัดสินใจของเขาครับ 

ดังนั้นสิ่งที่ผมจะอวยพรให้กับ TAA คือ ขอให้เขาได้ลงเป็นตัวจริงเป็นตัวหลักของทีม ไม่ถูกดอง หรือกลายเป็นแค่ตัวเสริมของทีมที่มีแต่ซุปตาร์ แต่ถามว่าจะอวยพรให้สำเร็จได้ถ้วยรางวัลอะไรไหม ก็คงไม่ครับ เหตุผลคือผมไม่ได้ชอบมาดริดครับ และมาดริดก็เป็นคู่แข่งของเราในยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ดังนั้นถ้าเชียร์ให้ TAA ประสบความสำเร็จกับทีม ก็เท่ากับเชียร์ให้มาดริดประสบความสำเร็จ เขาก็จะมีความสำเร็จเหนือเราไปเรื่อย ๆ ซึ่งผมว่าแฟนลิเวอร์พูลเดนตายทั้งหลายก็คงไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น 

จบเรื่อง TAA ไปมาคุยเรื่องอาร์เตต้าหน่อย ผมขอย้ำนะครับว่าอาร์เตต้า ไม่ใช่อาร์เซนอล ถึงแม้อาร์เตต้าจะเป็นผู้จัดการทีมของอาร์เซนอลก็ตาม ก่อนอื่นผมต้องบอกว่า อาร์เซนอลทำผลงานได้ดีมากในยุคอาร์เตต้านะครับ การที่ได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีกติดต่อกันสองสมัย มันแสดงถึงมาตรฐานที่ดีมากของทีม (ไม่ต่างจากที่เราขับเคี่ยวกับซิตี้มาหลาย ๆ ฤดูกาล) ยิ่งในฤดูกาลนี้ นักเตะเจ็บกันเพียบ ยังอยู่ที่สองตอนนี้ และเข้าถึงรอบรองแชมป์เปี้ยนลีก ซึ่งผลงานตรงนี้มันประจักษ์อยู่แล้ว 

Mikel-Arteta
ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Mikel_Arteta_2021_(cropped).png

ส่วนตัวผมนับถืออาร์เซนอล และอาร์เตต้าว่าเก่งจริง ๆ คือโค้ชจะเก่งไม่เก่ง ผมว่ามันวัดกันด้วยการแก้ปัญหาแบบนี้ด้วยนะครับ แต่อาร์เตต้าไม่รู้คิดอะไร ถึงไปให้สัมภาษณ์เหมือนคนแพ้ไม่เป็น ทั้งในลีกซึ่งยังแข่งไม่จบนะ บอกว่าลิเวอร์พูลได้แชมป์โดยมีแต้มน้อยกว่าอาร์เซนอลปีที่ไม่ได้แชมป์ ขอโทษนะอาร์เตต้า คุณได้ไม่ถึง 90 นะ ลีกก็ยังแข่งไม่จบ และมันมีปีที่ลิเวอร์พูลได้ 97 แล้วก็ไม่ได้แชมป์ด้วยนะคุณรู้หรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากแพ้ PSG ตกรอบรองแชมป์เปียนลีกส์ ยังบอกว่าทีมตัวเองดีที่สุดในสี่ทีมอีก จนถูกตอกกลับจากหลุยส์ เอนริเก้ โค้ช PSG

วันอาทิตย์คือวันนี้เราจะเปิดบ้านรับอาร์เซนอลด้วย ผมก็อยากกระตุ้นให้ทีมเราเอาจริงหน่อยนะ จริง ๆ สามนัดที่เหลืออยากให้ชนะให้หมด ทำแต้มให้ทะลุ 90 ไปเลยจะได้จบ ๆ กันไป อีกอย่างยังมีภารกิจเหลืออีกนะคือปั้นซาลาห์ให้คว้าบัลลงดอร์ปีนี้ 

ส่วนคู่ชิงแชมป์เปียนลีก ผมเชียร์ PSG นะ เพราะจะได้พูดว่าเราตกรอบเพราะทีมแชมป์ แต่อินเตอร์มิลานนี่ก็โชว์ฟอร์มได้ดีจริง ๆ สมควรเป็นแชมป์เหมือนกัน ส่วนถ้วยอันดับสองอย่างยูโรป้าลีกได้คู่ชิงเป็นทีมจากอังกฤษชิงกันเอง แต่เป็นทีมอันดับสิบห้าและสิบหกในลีกตอนนี้ คือแมนยูและสเปอร์ ซึ่งมันอาจแสดงให้เห็นได้ในส่วนนึงนะว่า พรีเมียร์ลีกอังกฤษแข็งแค่ไหน รอบรองนี่ทั้งสองทีมชนะขาดเลยนะ แต่ในอีกแง่หนึ่งทั้งสองทีมจริง ๆ เป็นทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกนะ เพียงแต่ปีนี้ผลงานในลีกไม่ดี  

ส่วนคนที่ออกมาให้ความเห็นว่าแชมป์ยูโรป้าไม่ควรได้สิทธิเล่นแชมป์เปี้ยนลีก อันนี้เอาจริง ๆ ผมเห็นด้วยนะ ไม่รู้ว่ามันเริ่มมาจากปีไหน และยูฟ่าได้วิเคราะห์ไหมว่าทีมที่ได้เข้ามาจากการเป็นแชมป์ยูโรป้าไปได้ไกลแค่ไหน เอาง่าย ๆ อย่างเซบีญาจากสเปนที่ได้สิทธิมาจากการเป็นแชมป์ยูโรป้ามาตั้งหลายครั้งไปได้ไกลแค่ไหน ซึ่งถ้าวิเคราะห์จริง ๆ ก็จะเห็นได้ว่าไปได้ไม่ไกลเท่าไร

แต่กฎมันก็ต้องเป็นกฎดังนั้นถ้าถามว่าทีมใดทีมหนึ่งในสองทีมนี้ควรได้ไปไหม ก็ต้องบอกว่าสมควรเพราะเขาตามกฎทุกอย่าง  เขาชนะผ่านมาตลอด ไม่ได้จับฉลากเข้ามา เอาจริง ๆ แมนยูยังไม่แพ้ใครในถ้วยนี้เลยด้วยซ้ำ และทั้งแมนยูและสเปอร์จริง ๆ ก็เป็นทีมที่ได้ลุ้นโควต้าแชมป์เปี้ยนลีกแทบทุกปี แต่ก็น่าเห็นใจทีมอย่างฟอเรสต์ที่โชว์ฟอร์มได้ดีเกือบทั้งฤดูกาล แต่มาหลุดช่วงท้ายอาจไม่จบหนึ่งในห้า หรือสมมติอาร์เซนอลเจอสถานการณ์เลวร้ายสุด ถูกแซงในสามนัดสุดท้ายอดไป แล้วต้องมาดูทีมอันดับ 15 หรือ 16 ได้ไปก็คงแปลก ๆ เหมือนกัน 

แต่ถ้าถามว่าผมอยากให้ใครได้แชมป์ยูโรป้าลีก ผมคงไม่บอกตรง ๆ นะครับ แต่ผมเป็นหนึ่งในคนที่เชียร์ลิเวอร์พูลแบบเข้าเส้น ผมเชื่อว่าคนที่เป็นแฟนลิเวอร์พูลในระดับเดียวกับผมนี่ คงรู้ว่าผมเชียร์ใครนะครับ...