แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กีฬา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กีฬา แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ดิโอโก โจต้า คุณจะอยู่ในหัวใจของเดอะคอปตลอดไป

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ วันนี้ มาในเรื่องที่ผมไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น และจะต้องมาเขียนในวันนี้ และผมก็เชื่อว่าไม่มีใครคิดถึงเช่นกันครับว่ามันจะเกิดขึ้น นั่นก็คือการเสียชีวิตของ ดิโอโก โจต้า จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ 

เราเพิ่งเห็นภาพเขาชูถ้วยฉลองแชมป์กับเรา เตะบอลกับลูกในสนาม ชี้ให้แฟนของเขาดูบรรยากาศต่าง ๆ ในแอนฟิลด์ จากนั้นถ้าใครติดตามฟุตบอลเนชันลีกส์ ก็จะเห็นเขาชูถ้วยชนะเลิศ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน เขาก็เป็นเจ้าบ่าว เข้าพิธีแต่งงานกับแฟนสาวของเขา 

เขายังเข้ารับการผ่าตัดปอด ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ทำให้เขาลงเล่นต่อเนื่องกับเราได้ไม่ยาว ซึ่งผลการผ่าตัดก็ออกมาดีมาก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องดี เป็นช่วงพักเบรคฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความสุข ความสำเร็จ 

โจต้า พร้อมทุกอย่างสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง เขาอาจกำลังวาดภาพของเขาที่รับบอลจากฟลอเรียน เวียร์ตซ์ แล้วทำประตูให้เราได้เป็นกอบเป็นกำ พาเราคว้าแชมป์มากมาย แต่นี่คือชีวิตครับ ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ 

ตามไทม์ไลน์ที่ตามข่าวมาคือ โจต้า กำลังจะเดินทางกลับมาซ้อมช่วงปรีซีซั่นกับเราครับ แต่ด้วยการผ่าตัดปอดของโจต้า หมอแนะนำไม่ให้เขาขึ้นเครื่องบิน เขาจึงตัดสินใจขับรถมากับน้องชาย ขับมาสเปน เพื่อขึ้นเรือมาอังกฤษให้ทันกับกำหนดการปรีซีซั่น เขากำลังเริ่มต้นเดินทางกลับมาทำงานครับ นี่คือการทำงานของมืออาชีพจริง ๆ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ เมื่อยางรถของเขาระเบิด ตกถนน และเกิดไฟลุกท่วมคัน ทำให้เขาและน้องชายเสียชีวิต 

ผมรู้ข่าวนี้โดยลูกชายคนโตของผม ซึ่งก็เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลเหมือนกัน ได้บอกผมว่า "พ่อมีข่าวว่าโจต้าตายแล้ว จากอุบัติเหตุรถยนต์" เราสองคนตกใจมาก พยายามภาวนาว่าเป็นข่าวปลอม และเช็คข่าวจากหลาย ๆ แหล่ง ซึ่งสุดท้ายก็ต้องยอมรับกันว่ามันเกิดขึ้นจริง ผมมองหน้าลูกชายคนโตของผม แล้วก็คิดในใจว่า โจต้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายคนโตของผมเลย แก่กว่าอาจจะไม่ถึงปีด้วยซ้ำ  

โจต้า เป็นอีกคนหนึ่งที่ผมไม่อยากให้ย้ายออกจากทีมเราไป แต่มันคงจะดีกว่านี้มาก ถ้าเขาออกจากทีมเราไปเพราะย้ายทีม ไม่ใช่จากกันไปตลอดกาลแบบนี้  

โจต้า เป็นนักฟุตบอลที่ดีทั้งในและนอกสนาม เขาไม่เล่นนอกเกมรุนแรงใส่ใคร นอกสนามเขาก็เป็นคนดี รักครอบครัว ไม่มีข่าวเสียหายใด ๆ เป็นคนที่ทำเพื่อทีม ไม่ได้ลงเล่นก็ไม่โวยวาย เมื่อมีโอกาสลงเล่นก็เล่นเต็มที่ เป็นคนที่เพื่อนในทีมรัก และแน่นอนเดอะคอปก็รักเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเพลงที่แต่งให้เขาแบบนี้หรอกนะครับ 



ในส่วนของผลงานในสนาม ทุกครั้งที่เขาลงสนาม เดะคอปทุกคนตั้งความหวังได้นะครับ เขาคล่องแคล่ว ฉลาดเคลื่อนที่ ฉลาดหาช่อง และยิงค่อนข้างคม ถ้าร่างกายเขาสมบูรณ์กว่านี้ เขาอาจพาเราได้แชมป์มากกว่านี้ และอย่างที่บอกไปตอนต้น เขาอาจวาดภาพเขากับเวียร์ตซ์ช่วยกันทำประตูให้เราถล่มทลายในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ก็ได้ เสียดายที่มันไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้ว

ในส่วนของสโมสร ผมว่าก็ตอบสนองได้เร็วและดีมาก ก็คือการจ่ายค่าจ้างที่เหลือทั้งหมดของโจต้า ไปให้ครอบครัวของเขา และก็คงมีอะไรตามมาหลังจากนี้อีก เป็นการแสดงให้เห็นถึงว่าสโลแกนของสโมสรซึ่งคือ You'll Never Walk Alone ไม่ได้เป็นเพียงแค่สโลแกนเท่านั้น นอกจากนี้ยังประกาศยกเลิกเสื้อเบอร์ 20 ซึ่งเป็นเบอร์เสื้อของโจต้า เพราะ 20 ก็คือ เขาจริง ๆ เขามาเข้าทีมปี 2020 ใส่เบอร์ 20 และคว้าแชมป์สมัยที่ 20 กับเรา และนั่นก็หมายความว่าเบอร์ 20 ของลิเวอร์พูลตลอดกาลนับจากนี้ก็คือโจต้า 

เพื่อนร่วมทีมทั้งในอดีตและปัจจุบัน โค้ชปัจจุบันคือ อาร์เน่ สล็อต และอดีตโค้ชอย่างเจอร์เกน คลอปป์ ก็ออกมาโพสต์ถึงโจต้า และหลายคนก็ได้ไปร่วมในงานศพของโจต้าด้วย 

แล้วก็ไม่ใช่ทีมลิเวอร์พูลเท่านั้นนะครับ นักเตะ โค้ช และแฟนบอลทีมอื่น ๆ ก็ออกมาโพสต์แสดงความเสียใจด้วย ซึ่งนี่ก็คือสปิริตของกีฬา ที่จะแข่งกันในสนามเท่านั้น จบเกมแล้วก็จบกัน  

วันนี้ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้วครับ คือตอนแรกวางแผนจะเขียนมากกว่านี้  แต่พอลงมือเขียนแล้วมันตื้อมันตันไปหมด ก็คงต้องบอกว่า ดิโอโก โจต้า คุณจะอยู่ในหัวใจของเดอะคอปตลอดไป

อยากทิ้งท้ายไว้ว่า ให้ทำดีต่อคนที่เรารักเสมอครับ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจกันก็รีบเคลียร์กันซะ เจอกัน พูดกันได้วันนี้ วันพรุ่งนี้อาจพูดกันไม่ได้แล้ว ผมว่าหลายคนก็อาจเคยมีประสบการณ์นี้นะครับ ที่อะไรมันเกิดขึ้นเร็วมากจนคาดไม่ถึง ซึ่งผมก็เคยเจอกับตัวครับ คุยเล่นกันอยู่ดี ๆ เมื่อวาน  วันรุ่งขึ้นเราไม่สามารถสื่อสารอะไรกันได้อีกเลย...   

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เคอร์เคซมาแล้วต่อไปจะเป็นเกฮีไหม มาสรุปสถานการ์ย้ายเข้า-ออกของทีมกัน

ช่วงนี้ลิเวอร์พูลของเราเปิดตัวนักเตะใหม่เรียกว่ารายสัปดาห์เลยนะครับ คราวนี้เป็นเคอร์เคซ ที่มีข่าวมานานคราวนี้ก็เป็นทางการซะทีนะครับ มายินดีต้อนรับเคอร์เคซสู่สโมสรกันครับ ดูวีดีโอเปิดตัวได้เลยครับ 


อ้อแล้วเราก็ยังได้ผู้รักษาประตูดาวรุ่งคืออาร์มิน ปิซี มาอีกคนด้วยนะครับ มาเป็นประตูมือสามให้กับทีมเรา  

คนต่อไปที่เรามีข่าวพัวพันด้วยมากที่สุดตอนนี้ก็คือ เกฮีของคริสตัลพาเลซนะครับ ไม่รู้ว่าสัปดาหน์หน้าจะได้เขียนบทความแล้วกล่าวยินดีต้อนรับกันอีกไหม ปิดฤดูนี้ลิเวอร์พูลของเราเสริมตัวได้รวดเร็วทันใจจริง ๆ แสดงถึงความเอาจริงเอาจังที่จะต่อยอดความสำเร็จต่อไป ก็ภาวนาว่าอย่าให้มีใครเจ็บ และก็ขอให้โชว์ฟอร์มกันได้อย่างที่คาดหวังกันทุกคนนะครับ แทบจะรอฤดูกาลเปิดไม่ไหวแล้วครับตอนนี้ 

สรุปสถานการณ์ของทีมตอนนี้

ย้ายเข้า 

1. เจเรอมี ฟริมปง (แบ็คขวา)

2.  ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (กองกลาง)

3. มิลอส เคอร์เคซ (แบ็คซ้าย) 

4. จอร์จี มามาร์ดาชวิลี (ประตู คนนี้ซื้อตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แต่ให้ต้นสังกัดเดิมยืมตัวใช้ไปก่อนหนึ่งฤดู)

5.  อาร์มิน ปิซี (ประตู)

ย้ายออก

1. เทรนต์ อาร์โนลด์ (แบ็คขวา) 

2. ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ประตู) คนนี้เสียดายมาก แต่เป็นความกก้าวหน้าของเขา ก็ขออวยพรให้โชคดี เจอทีมไหนก็ขอให้เหนียว ๆ นะ แต่เว้นเจอทีมลิเวอร์พูลนะ 

3.  นาธาเนียล ฟิลลิปส์ (เซ็นเตอร์แบ็ค) คนนี้ก็เป็นอีกคนที่ต้องขอขอบคุณ ในฤดูกาลที่เซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงของเราเจ็บหมด ก็ได้ความทุ่มเทของเขานี่แหละ ทำให้เราจบที่สามได้ไปแชมเปียนส์ลีก  

4. จาเรลล์ ควอนซาห์ (เซ็นเตอร์แบ็ค) ตกลงกับเลเวอร์คูเซ่นได้แล้ว โดยมีสัญญาซื้อกลับด้วย ดีลนี้ดีมาก ๆ 

อ้อ แล้วก็ต้องขอแสดงความยินดีกับฮาวีร์ เอเลียตด้วย ที่เป็นส่วนสำคัญในทีม U21 ของอังกฤษ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เล่นดีแบบนี้ถ้าต้องขายก็เสียดายนะครับ แต่ทีมเรากองกลางก็แน่นไปหมด ก็เข้าใจถ้าเขาจะย้ายเพื่ออนาคต แต่ก็อยากให้อยู่ต่อนะครับ ก็ไม่รู้ว่าอาร์เน่จะบริหารจัดการยังไง  

โอเคครับนี่คือสถานการณ์ของทีมเราในตอนนี้ หวังว่าสัปดาห์หน้าจะมีข่าวดีมารายงานเพิ่มเติม แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ ครับ 

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เวียร์ตซ์เป็นทางการแล้ว และโปรแกรม 10 นัดแรกของเรา

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ วันขอเริ่มด้วยข่าวดีว่าเราได้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ลองไปดูวีดีโอสัมภาษณ์เวียร์ตซ์กันครับ 


โดยค่าตัวที่ต้องจ่ายไม่ได้สูงอย่างที่คาดกันไว้ ค่าตัวที่ต้องจ่ายให้เลเวอร์คูเซนแบบผ่อนจ่ายคือ 100 ล้านปอนด์ และมีโบนัสอีก 16 ล้านปอนด์ ตามความสำเร็จที่เวียร์ตซ์จะช่วยทีมเรา ส่วนค่าแรงคือ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และมีโบนัสให้อีก เซ็นสัญญากันห้าปีถึงปี 2030 

โดยเวียร์ตซ์จะได้เล่นคู่กับคู่หูในทีมเลเวอร์คูเซนคือ ฟริมปง ซึ่งเป็นนักเตะของเราไปเรียบร้อยแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อน  เพราะฉะนั้นอย่างน้อยก็มีคู่หูที่รู้ใจกันอยู่แล้ว ซึ่งดีลของเวียร์ตซ์ก็ถือเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงสุดที่ลิเวอร์พูลเคยทำมา แต่ยังไงก็ไม่สูงเท่าข่าวทีออกมาก่อนหน้านะครับ อันนี้คงต้องยกเครดิตให้ผู้อำนวยการกีฬาที่ไปพูดคุยจนเวียร์ตซ์เลือกทีมเราทีมเดียว และก็ต้องให้เครคิตทีมเจรจาซื้อขายด้วย

สัปดาห์ต่อไปก็มาลุ้นได้เคอร์เคซอย่างเป็นทางการกันครับ และตามข่าวลิเวอร์พูลจะไม่หยุดแค่นี้ครับ ยังมีเซนเตอร์แบ็คที่อาจจะต้องมาแทนควอนซาห์ และกองหน้า ซึ่งตำแหน่งกองหน้านี้ คิดว่าคงต้องขายคนเก่าออกไปให้ได้ก่อนนะครับ ซึ่งก็อาจเป็นนูณเยส ซึ่งจริง ๆ ผมก็อยากให้อยู่ต่อนะ เขาดูมีแพสชันเข้ากับทีมเราดี แต่ความไม่นิ่งของเขานี่แหละทำให้อาจไปต่อกันไม่ได้ 

นัดแรกของเราในฤดูกาลใหม่เราจะเริ่มนัดแรก เป็นคู่แรกของลีกเลยนะครับ โดยวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2.00 น. (คืนวันศุกร์ตีสอง)  เราจะเปิดบ้านเจอร์บอร์นมัธครับ ต้องนอนดึกกันตั้งแต่นัดแรกเลยครับ สำหรับโปรแกรม 10 นัดแรกจะเป็นดังนี้ครับ 


ตารางการแข่งขัน 10 นัดแรกของลิเวอร์พูล (เวลาประเทศไทย)

วันแข่งขันคู่แข่งขันสนามเวลา
คืนวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. 68 (เช้าวันเสาร์ที่ 16 ส.ค. 68)ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธแอนฟิลด์02:00 น.
วันเสาร์ที่ 23 ส.ค. 68นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูลเซนต์ เจมส์ พาร์ค21:00 น.
วันเสาร์ที่ 30 ส.ค. 68ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อลแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 13 ก.ย. 68เบิร์นลี่ย์ พบ ลิเวอร์พูลเทิร์ฟ มัวร์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 20 ก.ย. 68ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตันแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 27 ก.ย. 68คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูลเซลเฮิร์สท์ พาร์ค21:00 น.
วันเสาร์ที่ 4 ต.ค. 68เชลซี พบ ลิเวอร์พูลสแตมฟอร์ด บริดจ์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 18 ต.ค. 68ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแอนฟิลด์21:00 น.
วันเสาร์ที่ 25 ต.ค. 68เบรนท์ฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูลจีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม21:00 น.
วันเสาร์ที่ 1 พ.ย. 68ลิเวอร์พูล พบ แอสตัน วิลล่าแอนฟิลด์22:00 น.

ดูจากโปรแกรมแล้วถือว่างานหนักนะครับ ต้องเจอทั้งนิวคาสเซิ่ล อาร์เซนอล เอฟเวอร์ตัน เชลซี แมนยู และวิลล่า ในขณะที่พาเลซก็ทำเราเกือบแย่ในฤดูกาลที่แล้ว 

ก็หวังว่าเราจะผ่านไปได้อย่างส่วยงาม เหมือนฤดูที่แล้สที่เขาบอกว่าเรามี 10 นัดอันตราย แต่เราผ่านไปได้อย่างสบายมากนะครับ แล้วก็หวังว่าการถ่ยทอดสดผ่านเจ้าใหม่นี่จะไม่มีปัญหาล่ม เหมือนในอดีตนะครับ แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ...

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568

คุยกันเรื่องการย้ายเข้าย้ายออกกันอีกสักวัน

สัปดาห์ที่แล้วไม่ได้เขียน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ ครับ เพราะไม่ว่าง และรู้สึกว่ายังไม่มีอะไรใหม่ และมาถึงสัปดาห์นี้ก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นทางการเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ก็ใกล้มากขึ้นแล้วในรายของเวียร์ตซ์ ที่รู้สึกจะบรรลุค่าตัวกันได้แล้วระหว่างลิเวอร์พูลและเลเวอร์คูเซน ซึ่งค่าตัวก็จะเป็นสถิติของสโมสรเราเลยนะครับ ก็หวังว่าจะเป็นดีลที่สำเร็จ เหมือนตอนเราทุ่มซื้อตัวฟานไดค์กับเบ็คเคอร์มานะครับ 

Caoimhín Kelleher

Timmy96, CC0, via Wikimedia Commons

ส่วนนักเตะที่ย้ายออกไปแล้วอย่างเป็นทางการก็คือประตูสำรองของเราคือเควิน คัลลาเฮอร์ ที่ย้ายไปเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งจริง ๆ ผมว่าเดอะคอปทุกคนเสียดายนะครับ แต่ก็ต้องปล่อยให้เขาไป เพราะเขามีดีเกินกว่าที่จะนั่งเป็นตัวสำรองจริง ๆ ก็ขออวยพรให้โชคดีครับ เอาแค่ว่าถ้ามาเจอกับทีมเรา ก็ขอให้เหนียวน้อยกว่าเดิมหน่อยแล้วกัน ให้เรายิงผ่านไปได้บ้าง เจอทีมอื่น ๆ ก็ขอให้เหนียวหนึบเลยก็แล้วกันนะ

นอกจากนี้ข่าวกับแบ็คซ้ายอย่างเคอร์เคซ ก็มีมาเป็นระยะ ๆ แต่ก็ยังไม่ลงตัวสักที แล้วก็มีข่าวว่าร็อบโบของเรา ไม่เต็มใจที่จะเป็นตัวสำรอง อยากจะย้ายออก 

Konate

Timmy96, CC0, via Wikimedia Commons

ในส่วนของเซ็นเตอร์ก็มีข่าวว่าเลเวอร์คูเซ็นสนใจจาเรล ควอนซาร์ และโกนาเต้ ซึ่งมีสัญญาเหลืออยู่ปีเดียว แต่การต่อสัญญาก็ยังไม่มีความคืบหน้า 

ในส่วนของแดนกกลางและแดนหน้า ฮาร์วี เอเลียตก็มีข่าวว่าอยากย้าย เพราะไม่อยากเป็นสำรอง ส่วนหลุยส์ ดิอาซ ก็มีข่าวพัวพันกับบาร์เซโลนา ดาร์วิน นูนเญส ก็มีข่าวพัวพันกับซาอุ และแอตมาดริด 

มีลิสต์กองหน้าที่เราสนใจหลายคน อย่างเอกิติเก, อัลวาเรซ และโยเคเรส ซึ่งกองหน้าพวกนี้ราคาแพงระยับทั้งนั้น โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราทุ่มร้อยกว่าล้านให้เวียร์ตซ์ไปแล้ว ถ้าจะซิ้อกองหน้าราคาแพงระยับอีก คงต้องขายออกไปให้ได้ก่อนนะครับ   

สัปดาห์นี้คงเท่านี้นะครับ ก็หวังว่าสัปดาห์หน้าเราจะชัดเจนมากขึ้นอย่างน้อยก็ขอให้ได้เวียรต์มาชูเสื้อซะที แล้วพบกันใหม่ใน #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ 

  

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568

งานฉลองที่เกือบสมบูรณ์แบบ เก่าไปใหม่มาทันใด และบทสรุปเจ้ายุโรปปีนี้

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์วันนี้ขอมาสรุปฤดูกาลนี้ของเรา และยินดีกับแชมป์ยุโรปทีมใหม่ครับ เริ่มจากทีมเราก่อนแล้วกันครับ นัดสุดท้ายทั้งสองทีมก็ให้เกัียรติกัน เขาให้เกียรติเราแชมป์ลีก เราให้เกียรติเขาแชมป์เอฟเอคัพ ผมว่าภาพแบบนี้มันหายากนะครับ เพราะโอกาสที่สองแชมป์จะมาเจอกันเองในวันสุดท้ายของฤดูกาลแบบนี้ คงอีกนานกว่าที่จะเกิดขึ้น 


ส่วนผลการแข่งขันเรียกว่าเกือบงานกร่อย เพราะเราโดนยิงนำไปก่อน ถ้าแพ้ในบ้านส่งท้ายนี่สำหรับผมมันจะฉลองกันไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนะครับ  ดีที่ยังมาตีเสมอได้ทั้งที่เหลืออยู่แค่ 10 คน คือจริง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ซีเรียสกับผลการแข่งขัน แต่ยังไงไม่แพ้ก็ดีกว่าแพ้นะครับ    

จริง ๆ ที่ผมกังวลมากกว่าผลการแข่งขันคือการเสียประตูของเราครับ มันเกิดจากการผิดพลาดกันเองอีกแล้ว และมันไม่ใช่เพิ่งมาเกิดหลังจากเราคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่มันเกิดมาตั้งแต่ครึ่งหลังของฤดูกาล ซึ่งถ้ามันทำให้เราพลาดแชมป์นี่คงน่าเสียดายมาก 

โชคดีที่ความเสียหายไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น เพียงแต่ทำให้เราคว้าแชมป์ช้าลงเท่านั้น ก็หวังว่าทีมเราจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ในฤดูกาลถัดไปนะครับ เพราะผมเชื่อว่าฤดูกาลหน้าจะหนักหนาสาหัสกว่านี้ เพราะหลายทีมมีฤดูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเองไปแล้ว ฤดูกาลหน้าไมน่าจะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับแมนซิตี้ ถ้าเรายังคงพลาดเองง่าย ๆ แบบนี้ผมว่าเราจะเหนือยมาก 

ส่วนที่ต้องชมก็คือความมุ่งมั่นของนักเตะ และความกล้าลุยของอาร์เน่ ที่จัดสินใจถอดกองหลัง ส่งตัวรุก เรียกว่าไม่ยอมแพ้ จะยิงคืนให้ได้ ซึ่งมันก็เป็นดาบสองคมนะครับ เพราะถ้าโดนส่วนแล้วพลาดก็จบ แล้วก็เกือบโดนอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ต้องทำให้กราเฟนเบอร์กต้องเสียใบแดง จากความผิดพลาดของตัวเอง และเขาจะพลาดการลงสนามในฤดูกาลหน้า 1-3 นัด 

แต่สุดท้ายสิบคนของเราก็บุกกดใส่พาเลซ ซึ่งเกมแพลนก็คือหวังอุดเอาผลการแข่งขัน แต่สุดท้ายซาลาห์ก็ยิงประตูที่ 29 ในฤดูกาล ตีเสมอให้เราได้สำเร็จ สมกับตำแหน่งรองเท้าทองคำ ซึ่งคลอปป์ที่เข้ามาชมอยู่ในเกมนี้ ก็ลุกขึ้นมาปรบมือดีใจร่วมกับเดอะคอปทั้งโลก ทั้งนักเตะ โค้ช และแฟนบอลคงไม่มีใครอยากแพ้คาบ้านในเกมฉลองแชมป์หรอกนะครับจริงไหม


สุดท้ายก็ได้ฉลองแชมป์กันในสนาม ได้เห็นภาพชูถ้วยแชมป์ลีก ซึ่งต้องบอกว่าผมไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทั้ง ๆ ที่เชียร์มาร่วมสี่สิบเกือบห้าสิบปี เป็นบรรยากาศที่สุดประทับใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ชมอยู่หน้าจอโทรทัศน์นะครับ ถ้ามีโอกาสอยู่ในสนามจริงอาจร้องไห้ก็เป็นได้ ก็หวังว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีสุดท้ายนะ แต่เป็นปีเริ่มแรกของยุคอาร์เน่ ซึ่งจะนำความสำเร็จมาให้เล่าต่อไปอีกหลาย ๆ ปี ถ้าคลอปป์คือบิล แชงค์ลีย์ ผู้วางรากฐาน ก็ขอให้อาร์เน่ คือบ๊อบ เพลสลีย์ ผู้พาลิเวอร์พูลทะยานกวาดแชมป์มากมาย

วันรุ่งขึ้นคือวันแห่ถ้วย ซึ่งผมก็รับชมจาก LFCTV เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมากเช่นกัน มีผู้คนมาร่วมต้อนรับมาร่วมฉลอง สมกับที่เรารอการแห่แบบนี้มาถึง 35 ปี ผมดูอย๋ได้ถึงสักสามทุ่มกว่า ๆ บ้านเรา ก็รู้สึกง่วงมาก ๆ อาจจะด้วยปัญหาสุขภาพ ก็เลยขึ้นไปนอน ก่อนที่จะตื่นเช้าขึ้นมาพบข่าวเศร้าที่มีคนขับรถเข้าไปพุ่งชนคนที่ออกมาร่วมฉลองแชมป์ โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีเด็กอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บนี้ด้วย และมีเด็กคนหนึ่งติดอยู่ใต้ท้องรถ ตอนรถหยุดด้วย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น งานฉลองของเราก็น่าจะสมบูรณ์กว่านี้ มีเพื่อนที่ไปอบู่ในเมืองลิเวอร์พูลโพสต์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีรถเข้าไปได้ เกิดจากการที่ตำรวจทำหน้าที่ไม่ดี แต่จากที่ฟังข่าวอีกทางหนึ่งเหมือนกับว่าตำรวจกำลังเปิดทางให้รถพยาบาลเข้าไป เลยเป็นเหตุให้รถคันนี้ฉวยโอกาสเข้ามา   

สรุปภาพรวมของฤดูกาลของเรานะครับ

โดยภาพรวมอันดับหนึ่ง  ชนะ 25 เสมอ 9 แพ้ 4 ยิงได้ 86 เสีย 41 ผลต่างประตู 45 แต้ม 84

ดูเฉพาะในบ้านก็อันดับหนึ่ง   ชนะ 14 เสมอ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 42 เสีย 16 ผลต่างประตู 26 แต้ม 46

ดูเฉพาะเกมเยือนก็อันดับหนึ่ง ชนะ 11 เสมอ 5 แพ้ 3 ยิงได้ 44 เสีย 25 ผลต่างประตู 19 แต้ม 38

ถ้าไม่ปล่อยจอยหลังคว้าแชมป์สถิติเกมเยือนน่าจะดีกว่านี้ สรุปก็คือเกมในบ้านยังเป็นจุดแข็งของเรา ถ้าไม่พลาดกับฟอร์เรสต์เราจะไม่แพ้ในบ้านเลย เกมเยือนก็ถือว่าโอเค ก่อนคว้าแชมป์แพ้ไปนัดเดียวกับคือแพ้ฟูแล่ม 

เราชนะมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง  25 นัด 

แพ้น้อยสุดร่วมกับอาร์เซนอล 4 นัด 

ยิงได้มากที่สุด 86 ลูก 

เสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับสองรองจากอาร์เซนอล 41 ลูก (มาเสียเยอะเพราะพลาดกันเองครึ่งหลังของฤดูกาล) 

ซาลาห์คว้าทุกรางวัลในอังกฤษ นักเตะยอดเยี่ยม รองเท้าทองคำ แอสซิสต์สูงสุด

กราเฟนเบอร์ก ได้ดาวรุ่งยอดเยี่ยม 

ส่วนเทรนต์ อาเลกซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็ย้ายไปรีอัล มาดริดอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ แต่ข้อดีคือเราก็ไม่ได้เสียฟรี ได้ค่าตัวมาประมาณ 10 ล้านปอนด์ เพราะมาดริดต้องการตัวไปทันทีเพื่อเล่นชิงแชมป์สโมสรโลก ซึ่งก็ต้องชมทีมงานที่ต่อรองมาจนได้ตั้ง 10 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่สามารถย้ายไปแบบฟรี ๆ หลังจบฤดูกาล ต้องของคุณรายการชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย 

แต่ในวันที่เทรนต์ประกาศตัวเป็นผู้เล่นของมาดริดอย่างเป็นทางการ ฟริมปงก็ประกาศตัวเป็นสมาชิกใหม่ของเราอย่างเป็นทางการเช่นกัน เรียกว่าเก่าไปใหม่มาทันทีไม่โกง ตอนนี้ก็รอติดตามข่าวของเวียยร์ตซ์ครับ โปรเจกต์ 100 ล้าน+ คนแรกของเรา

ส่วนเมื่อคืนนี้ก็ได้บทสรุปของแชมป์ยุโรปประจำฤดูกาลนี้กันแล้วนะครับ นั่นคือ PSG ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ผมไม่ได้ดูหรอกนะครับ ด้วยปัญหาสุขภาพ แต่จากที่ดูไฮไลต์ ต้องบอกว่าเขาสมควร และเหมาะสมทุกประการ คือเหลือกว่าคู่ชิงคืออินเตอร์ มิลาน ทุกกระบวนท่า 



อย่างที่เคยบอกครับผมเชียร์ PSG ให้ได้แชมป์ เพราะถ้าเราตกรอบเพราะทีมแชมป์ก็คงทำให้เสียใจน้อยลงนะครับ :) แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่า PSG เป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบเพลย์ออฟ ส่วนทีมเราเป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบลีกเฟส (เราเป็นอันดับหนึ่งรอบนี้) ส่วนจะมีโค้ชคนไหน บอกว่าทีมของเขาดีที่สุดในแชมป์เปี้ยนส์ลีก ก็ปล่อยให้เขาคิดไปนะครับ เสียดายที่เราต้องมาเจอ PSG ในช่วงที่เขาฟอร์มกลับมาพอดี ทั้ง ๆ ที่ในรอบลีกเฟส เขาต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายกว่าจะได้เข้ารอบมา 

โอเคครับ ฤดูกาลนี้ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ถึงตอนนี้ก็รอลุ้นว่าเราจะได้ใครมาเสริมเพิ่มอีก เพื่อสู้กันต่อในฤดูกาลหน้า และจะมีใครที่ต้องไปจากเราบ้าง แล้วพบกันในบทความต่อไปของ #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ... 

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

เตรียมตัวร่วมฉลองแชมป์กันคืนนี้ ความคืบหน้ากับนักเตะใหม่ของเรา และยินดีกับสเปอร์

สวัสดีครับแฟนหงส์แดงทุกท่าน! "อาทิตย์ติดแอนฟิลด์" วันนี้มาในวันปิดท้ายฤดูกาล 2024/2025 ซึ่งเป็นวันที่เราจะได้ ชูถ้วยอย่างเป็นทางการและฉลองกันในสนาม หลังจากที่แชมป์ในฤดูกาล 2019-2020 ของเราต้องฉลองในสนามเปล่า

บอกตรงๆ นะครับ ผมอยากเห็นบรรยากาศมาก เพราะไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศที่เราได้ฉลองแชมป์ในสนามเลย ถึงแม้จะเชียร์ทีมมา 40 กว่าปี เพราะยุคที่เรารุ่งเรือง ก็ไม่มีการถ่ายทอดมาให้ดู พอเริ่มมีการถ่ายทอดที่เข้าถึงได้ ทีมเราก็ไม่มาซะงั้น พอกลับมาได้แชมป์ก็โควิดอีก ดังนั้น ปีนี้ก็จะเป็นปีแรกที่เราได้ร่วมฉลองกัน และก็หวังว่าเราจะได้ฉลองกันไปเรื่อยๆ ทุกปี!

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

เกมกับอาร์เซนอล เทรนต์โดนโห่ และนักเตะใหม่ของเรา

 #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์วันนี้ ขอเริ่มด้วยเรื่องผลการแข่งขันกับอาร์เซนอลแล้วกันนะครับ ถึงแม้มันจะผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วก็ตาม สำหรับผมถึงแม้เกมจะไม่มีความหหมายอะไรแล้ว เพราะเราได้แชมป์แล้ว ผมก็ยังอยากให้เราเล่นกันดี ๆ นะครับ  แต่ปรากฏว่าทีมเราก็ยังเล่นกันไม่ค่อยดีนะครับ จริง ๆ ก็เข้าใจได้ว่าแรงจูงใจมันไม่มี แต่ก็อยากเห็นฟอร์มเดิม ๆ กลับมา เพราะเล่นกันไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ก่อนจะได้แชมป์อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ 


ตอนนำไป 2-0 ด้วยลูกสวนกลับ และต่อบอลกันสองสามจังหวะ ผมก็ดีใจนะ เพราะเอาจริง ๆ เกมก็ไม่ค่อยดี แต่มามีทีเด็ดด้วยลูกแบบนี้ แต่หลังจากนั้นเกมก็ค่อนข้างเป็นรอง ยิ่งครึ่งหลังยิ่งไปกันใหญ่ เกมรับกองหลังมีรอยรั่วถูกเจาะแทบตลอด ด้านซ้ายร็อบโบก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนเดิม (ผมภาวนาให้เขากลับมาในฟอร์มเดิมให้ได้นะ อยากให้อยู่กันไปนาน ๆ) ฟานไดค์กับโคนาเต้ ก็ดูไม่แน่นอนเหมือนตอนต้นฤดูกาล

 ด้านขวาแบรดลีย์ ยังต้องการการสะสมประสบการณ์  กองกลางโจนส์ ก็มีจุดอ่อนเรื่องการครองบอลนานเกินควร โซโบก็ขาด ๆ เกิน ๆ  เอเลียตก็ยังไม่สม่ำเสมอ กองหน้าคักโปก็ยังกลับมาฟอร์มเดิมไม่ได้ นูนเยส เชียร์ตลอดทุกครั้งที่เขาลงมา แต่เหมือนจะะเชียร์ไม่ขึ้น ดิอาซ บางวันดี บางวันเงียบ แต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ ซาลาห์ฟอร์มไม่ดีมาหลายนัดแล้ว เค้นฟอร์มหน่อยยังมีลุ้นบัลลงดอร์ กับรองเท้าทองคำ คนเดียวที่ยังเห็นว่าน่าจะสม่ำเสมอที่สุดก็คือแม็คอัลลิสเตอร์ กับประตูของเราคือพ่อหมีเบคเคอร์ 

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Darwin_N%C3%BA%C3%B1ez_and_Alexis_Mac_Allister_06042025_(1).jpg

สุดท้ายจบลงด้วย 2-2 ต้องบอกว่ายังดีที่ไม่แพ้ และถ้าอาร์เซนอลไม่เหลือ 10 คน ก็ไม่รู้จะจบยังไง คือตอนเขาเหลือ 10 คน เราก็พยายามกดนะ แต่เหมือนกดไม่อยู่อย่างที่ควรจะเป็น 

ในเกมนี้อาร์เน่ เปลี่ยนเทรนต์ลงมาแทนแบรดลีย์ และเทรนต์โดนโห่ ส่วนตัวค่อนข้างผิดหวังนะ ไม่คิดว่าจะเห็นเดอะคอปโห่ใส่นักเตะที่ยังใส่เสื้อทีมลงแข่งให้ทีม คือจะโกรธจะแค้นไม่ชอบใจอะไร เขาก็ยังลงเตะให้เราอยู่ แต่ถ้ามาในทีมฝั่งตรงข้ามจะโห่จะอะไรนี่ยังพอเข้าใจได้ 

กับเทรนต์ก็อย่างที่บอกไปในบทความที่แล้วว่า ก็ขอให้ได้เป็นตัวหลักกับมาดริด แต่ไม่ได้เชียร์ให้ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในระดับยุโรป เพราะมาดริดเป็นคู่แข่งเราในยุโรป การเชียร์เทรนต์ให้ประสบความสำเร็จในด้านรางวัล มันเท่ากับว่าเชียร์ให้มาดริดได้รางวัลด้วย แล้วมาดริดก็จะมีความสำเร็จเหนือเราเรื่อยไป แล้วก็เอาความสำเร็จนี้มาดึงนักเตะจากเราไปเรื่อย ๆ 

แต่ยังไงการโห่นักเตะที่ยังใส่เสื้อทีมเราลงเล่นให้เรานี่ไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ส่วนตัวต่อให้เป็นเอลฮัดจิ ดิยุฟ ที่เป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่ตัวเองไม่ชอบที่สุดแล้ว แต่ถ้าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เขากลับมาใส่เสื้อลิเวอร์พูล ลงเตะให้ลิเวอร์พูล ก็เชียร์นะ

ในแง่ข่าวกับนักเตะใหม่ตอนนี้ที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นฟริมปง ในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งก็อย่างที่บอกไป แบร็ดลีย์ยังน่าจะเป็นตัวหลักคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องมีคนมาเป็นแบ็คอัพกันแทนกัน ซึ่งราคาของฟิมปรง น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ อีกคนหนึ่งที่มีข่าวคือกองกลางเพลย์เมคเคอร์อย่าง ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ แต่เท่าที่ข่าวลงคือราคาแพงมากแตะหลัก 150 ล้านยูโร ไม่คิดว่าน่าจะได้นะ 

ตำแหน่งที่ต้องเสริมอีกก็คือแบ็คซ้าย แต่รู้สึกว่าข่าวกับแบ็คซ้ายตอนนี้ เงียบ ๆ ไปนะ อีกตำแหน่งคือศูนย์หน้า เพราะทั้งโจต้า กับนูนเยส น่าจะไม่ไหว  โจต้าจะเล่นดีได้สักนัดสองนัด แล้วก็จะเจ็บยาว กลับมาก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าฟอร์มจะกลับมา แล้วพอเล่นดีก็จะเจ็บอีก วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ส่วนนูนเยสก็ไม่รู้เขาเป็นอะไรของเขา ลุ้นยังไงก็ลุ้นไม่ขึ้น 

สัปดาห์นี้ลิเวอร์พูลแข่งคืนวันจันทร์นะครับ ไปเยือนไบรจ์ตัน เซ็งจริง ๆ เพราะคิดว่านัดที่เหลือในฤดูกาลนี้จะแข่งวันอาทิตย์ทั้งหมด จะได้ดูได้ แข่งคืนวันจันทร์ ก็คือตีสองวันอังคารของเรา ด้วยสุขภาพตัวเองช่วงนี้ดูไม่ไหวจริง ๆ ก็ฝากเชียร์กันด้วยแล้วกันนะครับ ผมคงดูได้แค่ไฮไลต์ แล้วถ้าไม่ติดอะไรอาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อครับ ขอให้ลิเวอร์พูลของเราชนะในสองนัดที่เหลือครับ 

ขอเพิ่มอีกนิดครับ ขอแสดงความยินดีกับคริสตัลพาเลซ ที่คว้าถ้วยเอฟอคัพประจำฤดูกาลนี้ไปได้ และเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ถ้วยแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา พาเลซจะเจอเราในแอนฟิลด์นัดปิดฤดูกาล และจะเป็นทีมแรกที่เจอเราในฤดูกาลหน้า ในศึกชาริตีชิลด์... 


วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

คุยกันเรื่องพรพรรณและลีกวอลเลย์บอลสหรัฐ

สวัสดีครับ #ศรัณย์วันศุกร์ สัปดาห์นี้มาคุยกันเรื่องสบายใจกันดีกว่านะครับ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วค่อนข้างเครียด อย่างที่หลาย ๆ คนทราบไปแล้วนะครับว่า พรพรรณ (ชมพู่) เกิดปราชญ์ ไปได้แชมป์ลีกวอลเลย์บอลสหรัฐ และได้รับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในรอบชิงแชมป์อีกด้วย โดยลีกที่พรพรรณไปเล่นด้วยมีขื่อว่า PVF (Pro Volleyball Federation)  และต้นสังกัดของเธอก็คือทีม Orlando Valkyries

การแข่งขันจบลงตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 ตามเวลาในประเทศไทยนะครับ และก็มีช่อง Youtube มามาย ตามติดนักกีฬาไทยที่ไปเล่นในลีกต่างประเทศ หรือตามกระแสก็มี ได้เล่นข่าวนี้ ชนิดว่าไล่ดูกันจนถึงวันนี้ก็ยังไม่จบเลยนะครับ เป็นความปลื้มใจและภูมิใจของคนไทยจริง ๆ ผมในฐานะแฟนคนหนึ่งของทีมนักวอลเลย์บอลสาวไทย ก็ดีใจและภูมิใจไปกับชมพู่ด้วย เรียกว่าตามดูหลาย ๆ ช่องเลย และช่องทีวีหลัก พอชมพู่ได้แชมป์แล้ว ได้ MVP แล้ว ถึงค่อยนำเสนอข่าว แล้วบางสื่อก็เอาข้อมูลจากช่อง Youtube นี่แหละไปนำเสนอ ซึ่งบางทีมันมีข้อมูลที่ผิดนะครับ ซึ่งอาจเกิดจากเจ้าของช่องไม่คุ้นกับอเมริกันเกมส์อย่าง NFL หรือ NBA และช่องหลักก็เอาตามนั้นเลย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองควรจะรู้ 

เอาจริง ๆ นักกีฬาเราแทบทุกคนที่ไปเล่นลีกต่างประเทศถือว่าประสบความสำเร็จนะครับ อย่างพิมพิชญา (บีม) ก็ได้แชมป์ลีกเยอรมันกับทีม Schwerin อาจไม่ได้เป็นตัวหลักในรอบชิง แต่ในฤดูกาลปกติเธอก็ได้ MVP ประจำสัปดาห์อยู่หลายครั้ง ปิยนุช (ปลาวาฬ) ก็เล่นอยู่ในอีกลีกหนึ่งของอเมริกาคือ LOVB (League One Volley Ball) กับทีม LOVB Atlanta เป็นลิเบอร์โรที่อยู่ในท้อปเทนของลีก ทีมผ่านเข้ารอบชิงแชมป์เหมือนกัน เป็นทีมอันดับหนึ่งในรอบปกติด้วย แต่ไปพลาดในรอบชิงแชมป์นี่แหละครับ เลยไม่ได้แชมป์ งั้นเราอาจมีแชมป์ลีกอเมริกาสองคน ยังมีผู้เล่นที่่ไปเล่นที่เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็โชว์ฟอร์มกันได้ดี ได้รับคำชิ่นชม ชัชชุอร (บุ๋มบิ๋ม) ถึงแม้ไม่ได้แชมป์ลีก ก็ได้แชมป์ถ้วยจักพรรดิ์ 

ยังไม่เข้าเรื่องลีกอเมริกันเลยนะครับ แต่ขออีกนิดแล้วกัน คือเรื่องที่บอกว่ามีข้อมูลบางอย่างผิด คือตอนวันแรก ๆ ผิดจริง ๆ ครับ แต่ตอนนี้หลายช่องก็รู้แล้ว และแก้ไขกันแล้ว แต่ทีผิดมีอะไรบ้าง อันแรกก็คือ MVP ที่ชมพู่ได้ หลายช่องตอนแรกนำเสนอว่าเป็น MVP of the year และยังมีคอมเมนต์ประมาณว่าได้ยินกับหู MVP of the year งั้นมาลองฟังกันดูครับว่าชมพู่เป็น MVP อะไร 



นาทีที่ 12.40 นะครับ แต่ถ้าไม่อยากฟังผมจะสรุปให้ 

"and MVP of this year championship weekend, Chompoo"

มันมีคำว่า championship weekend ตามหลัง this year ด้วย ไม่ได้จบแค่ this year 

ถ้าแปลเป็นไทยก็จะได้ความประมาณว่า "และผู้เล่นทรงคุณค่าประจำสุดสัปดาห์ชิงแชมป์ของปีนี้ ชมพู่" 

บอกตามตรงนะครับ ผมดูซีนนี้หลายรอบมาก คือมันภูมิใจและดีใจไปกับเธอ คือเท่าที่ตามข่าวเธอเล่นได้โดดเด่นมาทั้งฤดูกาล มีแต่เสียงชื่นชมจากผู้บรรยายเกม และเพื่อน ๆ แต่เธอยังไม่ได้รางวัลส่วนตัวเลย ผู้เล่นประจำสัปดาห์ก็ไม่ได้ แต่เวลาโปรโมทแมทช์การแข่งขันก็เอารูปพรพรรณขึ้นปก แสดงว่าต้องเด่นนะ  แต่ทำไมไม่เลือกให้เป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์บ้าง best setter ก็ไม่ได้ เพราะมีเซ็ตเตอร์จากทีมคู่ชิงทำสถิติต่อเซ็ตได้ดีกว่าในรอบการแข่งขันปกติ (ทั้งสองคนส่งลูกให้เพื่อนทำคะแนน เกิน 1000 ลูก) แต่สถิติพรพรรณเป็นอันดับสอง 

ผมเฝ้าถามตัวเองว่า เฮ้ยเล่นได้แบบนี้จะไม่ได้รางวัลส่วนตัวอะไรบ้างเลยหรือ จนมาได้รางวัล MVP นี่แหละครับ  และยิ่งฟินหนักขึ้นเวลาเพื่อนร่วมทีมร่วมกันตะโกน MVP MVP MVP... และตำแหน่ง MVP นี้ต้องบอกว่าตำแหน่งเซ็ตเตอร์นี่นาน ๆ จะได้สักทีนะครับ เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่ากีฬาอะไรมักจะมุ่งไปที่คนทำแต้ม ดังนั้นเซ็ตเตอร์ที่ได้นี่คือต้องผลงานเด่นจริง ๆ ซึ่งพรพรรณก็เล่นได้ดีจริง ๆ 

ถ้าใครงงว่าแล้วทำไมมันสรุปไม่ได้หรือว่าเป็น MVP ของปีนี้ คือต้องบอกอย่างนี้ครับ ถ้าใครคุ้นกับอเมริกันเกมส์อย่างอเมริกันฟุตบอล NFL หรือบาสเก็ตบอล NBA นี่ เขาจะมีตำแหน่ง MVP อยู่สองตำแหน่งคือ MVP ในรอบการแข่งขันปกติ คือหลาย ๆ ทีมมาเจอกันเพื่อจัดอันดับ แล้วเอาทีมที่ได้อันดับตามกำหนดเข้าสู่รอบชิงแชมป์ ซึ่งในรอบนี้ก็จะมี MVP อีกหนึ่งตำแหน่ง 

สำหรับ MVP ในรอบการแข่งขันปกติปีนี้คนที่ได้คือ อเบอร์ครอมบี้เพื่อนซี้ของพรพรรณ ส่วน MVP ในรอบชิงแชมป์คือพรพรรณ ทั้งสองตำแหน่งเป็น MVP ประจำปี 2025 นี้ ดังนั้นถ้าเรียกว่า MVP ประจำปี 2025 มันจะเกิดความสับสนว่ามันเป็น MVP อะไรกันแน่ ซึ่งผมว่า Youtuber หลายคนที่ทำข่าวพรพรรณ อาจไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ (ในช่วงแรกนะ ตอนนี้ทุกคนคงรู้หมดแล้ว) 

คราวนี้มาคุยกันเรื่องลีกวอลเลย์บอลในอเมริกากันครับ หลายคนคงทราบว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐ เป็นทีมชั้นนำของโลก แต่ไม่น่าเชื่อนะครับว่าลีกอาชีพที่มีการแข่งขันใช้กติกาวอลเลย์บอลปกตินี่จะเพิ่งก่อตั้งขึ้น และมีสองลีกโดยลีกแรกคือ LOVB ซึ่งเพิ่งก่อตั้งในปี 2020 และลีกที่สองคือ PVF ซึ่งเพิ่งก่อตั้งได้เป็นปีที่สอง ซึ่ง LOVB ปีนี้มีปิยนุช แป้นน้อยได้เข้าไปเล่น อย่างที่บอกไปแล้ว ส่วน PVF ปีแรกมีนุศรา ต้อมคำ เซ็ตเตอร์ระดับตำนานของไทย เธอได้ best setter ในปีที่แล้วนะครับ และปีที่สองก็มีพรพรรณ และนุศรากลับมาเล่นในครึ่งหลังของฤดูกาลปกติ 

ส่วนอีกลีกหนึ่งซึ่งเป็นลีกที่มีกติกาการแข่งขันไม่เหมือนลีกทั่ว ๆ ไป คือ AU (Athelete Unlimited) Pro ลีกนี้ไม่ได้หาทีมที่เป็นแชมป์ แต่จะหาผู้เล่นที่เป็นแชมป์ หลัก ๆ คือจะเชิญนักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่น 44 คน ให้เข้ามาร่วมลีก แล้วเข้ามาแข่งขันกันเก็บคะแนนสะสมส่วนตัว คะแนนก็จะได้มาจากทักษะส่วนตัวของนักกีฬา ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจวิธีคิดคะแนนเท่าไรนะครับ ถ้าใครสนใจกดูได้จากที่นี่เลยครับ โดยลีกนี้นุศราได้รับเชิญให้เข้าไปเล่นสองปีติดเลยนะครับคือ 2023 และ 2024 ส่วนปี 2025 นี้ ปิยนุช กับพรพรรณ ได้รับเชิญให้เข้าเล่นครับ   

ในปีหน้าตามข่าวจะมีลีกวอลเลย์บอลหญิงเกิดใหม่อีกหนึ่งลีกครับ คือ MLVB (Major League Volleyball) ซึ่งผู้ที่ก่อตั้งคือเจ้าของทีม Omaha Supernovas ทีมใน PVF ที่ได้อันดับหนึ่งในฤดูกาลปกติปีนี้ และเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถ้าตามการสรุปของ Youtue ช่องนี้ Sport Thailand (ซึ่งเป็นช่องที่ผมชอบฟังมากในการแปลคำบรรยายของผู้บรรบายเกม) ในคลิปนี้ 




บอกว่าที่แยกไปตั้งลีกใหม่เพราะทะเลาะกับผู้บริหาร PVF (นาทีที่ 14.09) และในลีกนี้จะมีทีมถึง 10 ทีมเลยนะครับ ส่วน PVF จะมีทีมใหม่เข้ามาร่วมสองทีม 

จากที่เล่าให้ฟังลีกอาชีพที่มีการแข่งขันตามกฏิกาวอลเลย์บอลปกติในสหรัฐอเมริกา เพิ่งมีมาได้ 4 ปี ก็คือ LOVB ซึ่งทีมชาติสหรัฐส่วนใหญ่จะเล่นในลีกนี้ แล้วนักวอลเลย์บอลหญิงของสหรัฐก่อนหน้านี้ถ้าจะเล่นเป็นอาชีพไปเล่นกันที่ไหน จากคลิปด้านบน อเบอร์ครอมบีบอกว่า การมีลีกในประเทศมีข้อดีคือ นักกีฬาไม่ต้องไปเล่นต่างประเทศ (นาทีที่ 6.24 จากคลิป) นั่นแสดงว่าก่อนหน้านี้นักกีฬาหลายคนของอเมริกาเล่นอยู่ในลีกต่างประเทศนั่นเอง คิดดูนะครับว่าประเทศที่เพิ่งมีลีกอาชีพเป็นของตัวเองแต่กลับมีทีมชาติที่อยู่ในระดับโลกได้นี่ต้องขนาดไหน 

อีกคำสัมภาษณ์หนึ่งจากคลิปก็คือพิธีกรถามว่าพวกคุณเล่นวอลเลย์กันอย่างเดียว ไม่ต้องทำอาชีพอื่นก็อยู่กันได้เหรอ (สรุปความประมาณนี้นะครับ ไม่ได้เป๊ะ ๆ นาที่ที่ 9.30) ผมว่าคำถามนี้ตอนแรกก็ดูประหลาดดีกับประเทศที่มีกีฬาเป็นอาชีพอย่างอเมริกันฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือเบสบอล แต่มาคิดอีกทีมันแสดงว่าวอลเลย์บอลไม่ใช่กีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นหลักในอเมริกา คนสัมภาษณ์อาจไม่คิดว่านักกีฬาจะได้เงินเยอะเหมือนกีฬาประเภทอื่น หรืออาจเป็นเพราะกว่าฤดูกาลหน้าของลีกจะเริ่มก็คือมกรา 2026 พิธีกรอาจคิดว่าแล้วเธอจะไม่ทำอะไรกันเลยหรือช่วงที่เหลือของปี พิธีกรอาจไม่รู้ว่าสำหรับวอลเลย์บอลช่วงนี้คือช่วงเวลาของทีมชาติ แต่ก็อีกนั่นแหละนะขนาดกีฬาไม่ได้เป็นที่นิยมในประเทศ ก็ยังมีทีมชาติที่อยู่ในระดับโลก

สรปก็คือปีหน้าวอลเลย์บอลหญิงอเมริกันจะมีลีกที่แข่งขันตามกติกาสากลอยู่สามลีกนะครับ LOVB, PVF. และ MLVB ดังนั้นนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยคนอื่น ๆ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในระดับนานาชาติปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น VNL หรือชิงแชมป์โลก อาจมีโอกาสที่จะได้เข้าไปร่วมเล่นในลีกเหล่านี้

ตื่นเต้นนะครับ VNL ใกล้เริ่มแล้ว เตรียมตัวเชียร์สาวไทยกันครับ แต่ข่าวร้ายคือปีนี้เราอาจไม่ได้ดูผ่านฟรีทีวีครับ :(