วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2563

ศรัทธาเกิดจากผลงาน

วันศุกร์กลับมาอีกแล้วครับ และเป็นศุกร์ 13 ซะด้วย แต่ไม่ว่าจะศุกร์อะไรผมว่าช่วงนี้ประชาชนคงไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่นะครับ ศุกร์นี้เห็นนายกออกมาพูดด้วยมุมความคิดเดิม ๆ ขอให้เชื่อใจรัฐบาล ขอให้ช่วยกัน ขออย่าด่าทุกเรื่อง ผมถามจริง ๆ เถอะครับ ถ้าคนเราทำดี แสดงให้เห็นว่าสามารถแก้ปัญหาได้ ยังไม่ต้องสำเร็จก็ได้ แต่แสดงให้เห็นว่ามาถูกทางแล้ว ใครมันจะออกมาด่าครับ อาจจะยกเว้นพวกอคติ หลับหูหลับตาด่าอย่างเดียว อย่างพวกเกลียดทักษิณ ซึ่งก็คงมีอย่างนั้นเช่นกันในฝั่งเกลียดประยุทธ์

แต่ตอนนี้หลายคนที่เขาออกมาพูดออกมาตำหนิ บางคนเคยเชียร์ด้วยซ้ำ เพราะเขาเห็นแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่มันแก้ปัญหาไม่ถูกทาง มันไม่เป็นระบบ มันมั่ว จะให้เขาทำยังไง ผมถามจริง ๆ เหอะ สมมติประชาชนหุบปาก ไม่โวยวายเรื่องฝุ่น เรื่องหน้ากาก ถามจริง ๆ เถอะว่าพวกท่านจะรู้สึกรู้สม จะออกมาแก้ปัญหากันหูตาเหลือกอย่างนี้จริง ๆ หรือ ขนาดประชาชนออกมาโวยวายตอนแรก ยังหาว่าเป็น Fake News เกิดจากการทำลายกันทางการเมือง ถึงตอนนี้พรรคพวกท่านบางคนยังคิดแบบนี้อยู่เลย

แล้วก็ไอ้แนวคิดว่าประชาชนต้องช่วยตัวเองด้วยนี่ ท่านคิดว่าประชาชนเขางอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย รอท่านอย่างเดียวจริง ๆ หรือครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมว่าดีไม่ดีตายกันไปหลายคนแล้ว ประชาชนเขาช่วยตัวเองเท่าที่จะทำได้แล้วครับ แต่บางเรื่องมันก็เกินความสามารถของเขา เอาง่าย ๆ เรื่องหน้ากากเรื่องเจลล้างมือนี่ ผมว่าประชาชนก็ไม่ได้คิดจะรอแจกจากท่าน หลายคนเขาก็พร้อมจะซื้อ แต่เขาไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหน จะให้เขาเดินทางไปทั่วเมืองโดยไม่รู้ว่าจะซื้อได้หรือเปล่านี่มันใช่ไหมล่ะครับ ถ้าต้องทำเรื่องที่มันไม่ควรจะลำบากแบบนี้ด้วยความยากลำบาก มันก็สมควรไหมที่เขาจะตั้งคำถามว่า แล้วเราจะมีรัฐบาลไปทำไม ทางแก้ปัญหาหลายอย่างก็มาจากภาคประชาชน หรือพรรคที่เพิ่งถูกยุบไป อย่างเว็บไซต์แสดงจุดที่มีหน้ากากขายอะไรแบบนี้ หน่วยงานที่ควรจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำเรื่องนี้อย่างกระทรวง DE ทำอะไรอยู่ครับ หรือกระทรวงนี้มีหน้าที่แค่ไปเที่ยวไล่ฟ้องคนที่ด่ารัฐบาล ยัดเยียดข้อหาสร้าง Fake News ตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาด พวกท่านทำอะไร ท่านคิดแต่ห่วงรายได้จากการท่องเที่ยว ท่านคิดแต่ห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่ประเทศบางประเทศเขาเล็กกว่าเราอีก เขายังมีมาตรการที่เด็ดขาดกว่าในการคัดกรองคนเข้าประเทศ

ท่านขอความเชื่อใจและศรัทธา มาตั้งแต่ท่านยึดอำนาจ ท่านบริหารด้วยอำนาจพิเศษมากว่า 5 ปี ผมบอกเลยนะท่านทำลายความศรัทธามากกว่าสร้างความศรัทธา ผมคิดว่าตอนที่ท่านเข้ามาใหม่ ๆ คนคงคาดหวังกับท่านไว้มาก แต่ยิ่งอยู่ไปคนยิ่งเสื่อมศรัทธา และหลังจากเลือกตั้ง ท่านคิดว่าท่านชนะเลือกตั้ง ท่านคิดอย่างนี้จริง ๆ หรือครับ หรือท่านชอบหลอกตัวเอง พรรคที่สนับสนุนท่าน ไม่ใช่พรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งนะครับ พรรคที่สนับสนุนท่านแพ้ แพ้พรรคที่ที่ท่านยึดอำนาจเขามานั่นแหละ แต่ด้วยกลไกต่าง ๆ ที่ท่านวางไว้ ท่านจึงได้เป็นนายก ถ้าไม่มีกลไกเหล่านี้ ท่านไม่ได้กลับมาเป็นนายกหรอก แต่เอาเถอะท่านก็มาตามกติกาที่ท่านร่างขึ้นมาเองละนะ แต่ท่านบริหารยังไงล่ะครับมันถึงได้เป็นแบบนี้ ท่านขอให้เชื่อใจมาแล้ว 5 ปี ซึ่งก็เห็นแล้วว่ามันไม่ได้เรื่อง ท่านยังจะขอให้เชื่อใจไปอีกกี่ปีหรือครับ 20 ปี ตามยุทธศาสตร์ชาติของท่านหรือครับ ถึงตอนนั้นคนไทยจะจนกันหมดประเทศ หรือตายกันหมดประเทศดีล่ะครับ

ผมขอยกตัวอย่างคนที่สร้างความศรัทธาให้เกิดสักคนหนึ่งก็แล้วกัน เจอร์เกน คลอปป์ครับ ผู้จัดการทีมทีมรักของผมลิเวอร์พูล ก่อนที่เจอร์เกน คลอปป์เข้ามา ลิเวอร์พูลอยู่ในสภาพยักษ์หลับ และดูเหมือนไม่มีใคร แม้แต่แฟนบางคนของทีมจะเชื่อว่ายักษ์ตัวนี้จะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง เมื่อคลอปป์เข้ามา เขาบอกว่า เขาจะเปลี่ยนให้คนที่สงสัยไม่เชื่อมั่นกลับมาเป็นคนที่เชื่อมั่นในทีมให้ได้ From Doubters to Believers คือคำที่คลอปป์ใช้ ซึ่งก็คงไม่ต่างจากเพลง "ขอเธอจงเชื่อใจและศรัทธา" หรอก แต่ความแตกต่างคือคลอปป์ทำให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่แต่งเพลง  คลอปป์สร้างทีมตามแนวทาง ลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์อะไรเลยในช่วงสองสามปีแรกที่คลอปป์เข้ามา แต่สิ่งที่แฟน ๆ เห็น คือแนวทางการเล่นของทีม แฟน ๆ เห็นการพัฒนาของทีม ดังนั้นแฟน ๆ ก็กลับมาเชียร์มาศรัทธาและเชื่อมั่น คลอปป์ไม่เคยออกมาเรียกร้องว่าแฟน ๆ อย่ามาด่าเขานะ ขอให้เชื่อใจนะ แต่เขาแสดงให้เห็นด้วยผลงาน และสุดท้ายปีที่แล้วลิเวอร์พูลก็ได้แแชมป์ถ้วยใบใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีกที่มีแต้มสูงสุดในประวติศาสตร์ ได้แชมป์โลก ได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในขณะนี้ และปีนี้กำลังจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยผลงานที่ทิ้งคู่แข่งในลีกไปไกลมาก เห็นไหมล่ะครับว่าผลงานเท่านั้นเป็นตัวสร้างศรัทธา

พูดถึงลิเวอร์พูลก็อดกังวลไม่ได้ มันจะอะไรนักนะ กำลังจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดหนแรกในรอบ 30 ปี ก็มีไอ้ไวรัสบ้าบออะไรไม่รู้มาทำเรื่องจนต้องลุ้นว่าจะแข่งจนจบได้แชมป์หรือเปล่าซะอีก อ้าวเริ่มด้วยการเมือง ดันมาจบด้วยเรื่องบอลซะได้ เฮ้อ แสดงว่ามันกังวลอยู่ในจิตใต้สำนึกนะนี่...



วิธีใหม่ 2 วิธี สามารถจู่โจมช่องโหว่ในซีพียู AMD ที่ผลิตในช่วงปี 2011 ถึง 2019 ได้

นักวิจัยจาก Graz University of Technology ในออสเตรีย และ University of Rennes ในฝรั่งเศส ได้ชี้ให้เห็นว่าช่องโหว่ในซีพียูของ AMD ผลิตในช่วงปี 2011 ถึง 2019 เปิดช่องให้การจู่โจมใหม่สองวิธีที่จะมีผลกับการประมวลผลข้อมูลในซีพียู ทำให้ผู้บุกรุกสามารถได้ข้อมูลที่สำคัญ หรือลดระดับความปลอดภัยของเครื่องลง วิธีการจู่โจมดังกล่าวชือ Collide+Probe และ Load+Reload แต่อย่างไรก็ตามนักวิจัยบอกว่าได้แจ้งช่องโหว่นี้ไปที่ AMD แล้ว แต่ AMD ไม่สนใจโดยบอกว่ามันก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZdNet




วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

ใช้ Super คอมพิวเตอร์ เพื่่อหาส่วนประกอบของยารักษาโคโรนาไวรัส

นักวิจัยจาก Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ได้ใช้ Super Computer เพื่อหาโมเลกุลของยาที่จะใช้สู้กับ SARS-CoV-2 coronavirus ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของ Covid-19 โดยให้ Super Computer จำลององค์ประกอบกว่า 8000 ชนิด เพื่อดูว่าองค์ประกอบอะไรบ้างที่จะใช้ต่อต้านได้บ้าง  ซึ่งตอนนี้เขาพบองค์ประกอบ 77 ชนิดซึ่งให้ผลการทดลองที่ดี นักวิจัยบอกว่าการจำลองโดยใช้ Super Computer ใช้เวลาเพียงวันหรือสองวัน แต่ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดา อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Oak Ridge National Laboratory

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563

แขนกลที่ออกแบบในจีนสามารถช่วยชีวิตคนในภาวะฉุกเฉินได้

นักวิจัยจาก Tsinghua University ในประเทศจีนได้พัฒนาหุ่นยนต์ (เฉพาะส่วนที่เป็นแขน) ที่สามารถทำอัลตราซาวด์ ทำความสะอาดช่องปาก (อันนี้น่าจะหมายถึงกรณีที่อาจมีวัตถุติดอยู่ในช่องปาก) และฟังเสียงที่เกิดจากอวัยวะของผู้ป่วย ระบบนี้ประกอบด้วยแขนกลที่มีล้อเลื่อน และสามารถช่วยชีวิตได้ในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัสแบบในปัจจุบันนี้ นักวิจัยได้ดัดแปลงแขนกลที่ใช้ในสถานีอวกาศและยานสำรวจดวงจันทร์ การทำงานของหุ่นยนต์นี้เป็นแบบอัตโนมัติเกือบสมบูรณ์ และสามารถฆ่าเชื่อโรคได้ด้วยตัวเองหลังจากสัมผัสกับคนไข้แล้ว หมอในประเทศจีนกำลังฝึกสอนหุ่นยนต์ตัวนี้อยู่ โดยเป็นหมอจาก Tsinghua University และโรงพยาบาล Wuhan Union

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้บลูทูชพลังงานต่ำมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

องค์การอาหารและยาของสหรัฐ (U.S. Food and Drug Administration, FDA) ได้ออกมาเตือนคนไข้ ผู้ให้บริการทางการแพทย์ และบริษัทผู้ผลิต ในเรื่องช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อโดยใช้บลูทูชพลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy, BLE) ซึ่ง BLE นี้คือเทคนิคที่ทำให้อุปกรณ์สามารถจับคู่เชื่อมต่อกันได้โดยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรีของอุปกรณ์ การจู่โจมที่เรียกว่า "SweynTooth"  จะทำให้ผู้บุรุกสามารถเข้ายึดครองอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเช่น ตัวควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ อุปกรณ์แสดงระดับน้ำตาลในเลือด และเครื่องอัลตราซาวด์ โดยทำให้มันหยุดทำงาน หรือผู้บุรุกสามารถเข้าถึงฟังก์ชันซึ่งสงวนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้นได้ โดยการเข้าถึงนี้สามารถเข้าถึงได้จากซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้อย่างอิสระ FDA ได้เรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตรีบแก้ไข และเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนี้ 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: U.S. Food and Drug Administration

เพิ่มเติมเสริมข่าว

จากที่ข่าวบอกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบุกรุกสามารถดาวน์โหลดได้อย่างอิสระ ซึ่งตรงนี้ก็น่ากลัวว่า ถ้ามีคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก แค่อยากแฮกเล่นสนุก ๆ อาจสร้างความเสียหายได้มากกว่าเพราะความไม่รู้ก็ได้ ลองเปรียบเทียบดูโจรมืออาชีพถ้าปล้นเราพอได้เงินแล้วอาจไม่ฆ่าเรา แต่โจรมือใหม่ หรือมือสมัครเล่น อาจฆ่าเราโดยไม่ตั้งใจ เพียงแต่เราล้วงกระเป๋าไปจะหยิบเงินให้ แต่เขาอาจคิดว่าเราจะหยิบอาวุธมาสู้ เลยฆ่าเราตาย