วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565

คนส่วนใหญ่ยอมรับเทคโนโลยีฝังชิปในสมองถ้าพวกเขาสามารถปิดมันได้

inside-brain
Photo by Bret Kavanaugh on Unsplash

ในการสำรวจของ Pew Research Center ในผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 10,260 คน พบว่า 78% ของผู้ตอบแบบสำรวจไม่เห็นด้วยกับการผ่าตัดฝังชิปในสมองเพื่อปรับปรุงความสามารถในการรับรู้ อย่างไรก็ตาม 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าเทคโนโลยีนี้สามารถเป็นที่ยอมรับได้มากขึ้น หากยอมให้มีการเปิดและปิดการทำงานของชิปได้ 

 Alec Tyson แห่ง Pew กล่าวว่า "คำพูดเหล่านี้พูดถึงการควบคุม ถ้าฉันสามารถควบคุมเทคโนโลยีนี้ได้ ฉันก็เปิดรับมันมากขึ้น" นอกจากนี้ 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยที่จะมีมาตรฐานที่สูงขึ้นสำหรับการทดสอบชิปสมองในมนุษย์ นอกจากนี้ 87% สนับสนุนมาตรฐานที่สูงขึ้นสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ

ผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าเครื่องหมายหรือลักษณะที่มองเห็นได้เพื่อระบุให้รู้ว่ารถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ที่ขับด้วยตนเอง (70%) และการมีช่องทางเฉพาะสำหรับยานพาหนะดังกล่าว (67%) จะทำให้พวกเขายอมรับเทคโนโลยีมากขึ้น 

มากกว่าครึ่ง (57%) ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เห็นด้วยกับการใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าที่ใช้โดยแพลตฟอร์มสื่อสังคมเพื่อระบุตัวบุคคลในภาพถ่าย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Fortune

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565

หุ่นยนต์ที่มีการแสดงความเจ็บปวดแบบเหมือนจริงช่วยลดความผิดพลาดจากการวินิจฉัย

patient-face-robot
ภาพจาก  Imperial College London (U.K.)

นักวิทยาศาสตร์จาก Imperial College London แห่งสหราชอาณาจักรได้พัฒนาเทคนิคในการสร้างการแสดงความเจ็บปวดบนใบหน้าที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยระบุและแก้ไขสัญญาณที่ทำให้เกิดการวิเคราะห์ที่ผิดพลาดในหมู่นักศึกษาแพทย์

นักศึกษาตรวจร่างกายที่หน้าท้องของผู้ป่วยที่เป็นหุ่นยนต์ โดยแรงที่ใช้กับหน้าท้องของหุ่นยนต์จะทำให้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริเวณของหุ่นยนต์ที่เรียกว่า "MorphFace" เพื่อแสดงการเจ็บปวดที่สัมพันธ์กัน 

มีข้อสังเกตด้วยว่าการรับรู้ขอบเขตความเจ็บปวดของผู้ป่วยหุ่นยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับความแตกต่างทางเพศและเชื้อชาติระหว่างผู้เข้าร่วมและผู้ป่วย ซึ่งส่งผลต่อแรงที่ใช้ระหว่างการตรวจ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Imperial College London (U.K.)

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565

การจัดการดาวเทียมที่กำลังจะตก

ภาพจาก IEEE Spectrum

โครงการ TumbleDock/ROAM ของสหรัฐฯ-เยอรมัน กำลังสำรวจวิธีการกักเก็บและทำให้ดาวเทียมที่อยู่นอกการควบคุมมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถนำออกจากวงโคจร หรืออาจเติมเชื้อเพลิงหรือซ่อมแซมได้ ทีมงานโครงการได้ทำการทดสอบเสร็จสิ้นแล้วที่สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) หรือ  ISS โดยใช้หุ่นยนต์ Astrobee ของ NASA 

นักวิจัยได้ใช้หุ่นยนต์เป็นตัวแทนแทนดาวเทียมที่กำลังจะตก โดยยานอวกาศ "chaser" ถูกส่งไปดึงพวกมันเพื่อพัฒนาอัลกอริธึมที่ chaser จะใช้เพื่อค้นหาและจับเศษซากได้อย่างปลอดภัยในแบบเรียลไทม์ Astrobee แต่ละตัวติดตั้งกล้องนำทาง เครื่องอัดอากาศ และโปรเซสเซอร์ Snapdragon ที่เหมือนกับที่ใช้กันในสมาร์ทโฟน การทดสอบของ ISS แสดงให้เห็นว่าโดยหลักการแล้วการทำงานดังกล่าวเป็นไปได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565

Miniproteins ที่ออกแบบโดยซอฟต์แวร์สามารถสร้างกลุ่มยาใหม่ได้

software-designed-miniprotein
ภาพจาก Science

นักวิจัยจาก University of Washington (UW)ได้ออกแบบมินิแอนติบอดี (mini-antibody) โดยใช้ซอฟต์แวร์ Rosetta เพื่อทำนายการพับของโปรตีน (protein-folding) ซึ่งอาจนำไปสู่ยากลุ่มใหม่ นักวิจัยระบุตำแหน่งที่จับกับโปรตีนอย่างแน่นหนาและสร้างแอนติบอดีรอบตัวพวกมัน ด้วยซอฟต์แวร์ทำนายโครงสร้างโปรตีนตามลำดับกรดอะมิโนของพวกมัน

พวกเขาจับคู่ตำแหน่งที่เป็นไปได้ในการเชื่อมโดยสั่งให้โปรแกรมคำนวณว่ากรดอะมิโนจำเพาะจะจับกับจุดต่างๆ ทั่วพื้นผิวของโปรตีนเป้าหมายแน่นหนาแค่ไหน จากนั้นซอฟต์แวร์จึงค้นหาคลัสเตอร์ของตำแหน่งใกล้เคียงและค้นหาวิธีประกอบมินิโปรตีน (miniprotein)  ที่เสถียรซึ่งจะผูกกับตำแหน่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในคลัสเตอร์ Longxing Cao แห่ง UW กล่าวว่าผลลัพธ์ที่ได้คือ "เราสามารถออกแบบโปรตีนเพื่อเชื่อมกับเป้าหมายใดก็ได้"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Science




วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2565

นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มุ่งเป้าไปที่กำแพงโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย

news-female-reporter
ภาพจาก The Washington Post

โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์และอาสาสมัคร "นักรบสารสนเทศ" กำลังพยายามตอบโต้การโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย และการปิดกั้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรุกรานยูเครน เว็บไซต์ที่สร้างโดยกลุ่ม squad303 จะแสดงที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลข WhatsApp ของพลเมืองรัสเซียที่สุ่มเลือกไว้ และเตียมข้อความที่เขียนไว้ล่วงหน้าที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถส่งไปเพื่อเข้าร่วมการสนทนาได้ 

โปรแกรมเมอร์ชาวโปแลนด์รายหนึ่งกล่าวว่าเขาทำงานร่วมกับอาสาสมัครมากกว่า 100 คนจากสหรัฐอเมริกา เอสโตเนีย ฝรั่งเศส เยอรมนี และชาติอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแบ่งออกเป็นทีมที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ การป้องกันทางไซเบอร์ สื่อสังคม และศูนย์ช่วยเหลือสำหรับผู้ส่งสารที่เข้ามาใหม่ 

บริษัทสื่อสังคมของตะวันตกและสื่อต่าง ๆ ได้เริ่มช่วยเหลือชาวรัสเซียในการหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลโดยใช้ซอฟต์แวร์ Tor ซึ่งควบคุมการรับส่งข้อมูลออนไลน์ผ่านเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กระจัดกระจาย ทำให้การปิดกั้นเว็บไซต์ของรัสเซียไม่เป็นผล ข้อมูลการวิจัยตลาดระบุว่าแอปพลิเคชันเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (virtual private network) หรือ VPN ซึ่งช่วยให้ชาวรัสเซียเข้าถึงไซต์ที่ถูกห้าม ถูกดาวน์โหลดนับล้านครั้งบน Apple และ Google App Store

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Washington Post