แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เพลง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เพลง แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568

พรรคประชาชนทำอะไรก็โดนไม่ทำอะไรก็โดน

#ศรัณย์วันศุกร์ วันนี้ อยากมาชวนฟังเพลงเก่าของวงไมโครสักเพลงครับ มันมีเนื้อท่อนหนึ่งซึ่งเขากัยสถานการณ์พรรคประชาชนในตอนนี้ครับ 

------

 ไม่ทำอะไรก็โดน ถึงจะทำก็โดน

สู้เกินไปก็โดน ถอยเกินไปก็โดน

แล้วยังไงต่อไป แล้วจะเอายังไง

-----

ไปฟังเพลงกันครับ 


สถานการณ์การเมืองวันนี้ ที่น่าสงสารที่สุดนอกจากประชาชนคนไทยแล้ว ก็มีพรรคการเมืองที่ดันชื่อพรรคประชาชนอีกต่างหาก ที่ต้องมารับกรรมกับสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้ก่อขึ้น อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วนะครับว่าแพทองธารถูกคน 9 คน สั่งถอดถอนอกจากตำแหน่งนายก ในคดีคลิปเสียงที่คุยกับฮุนเซน ซึ่งต้องบอกว่าผมก็ไม่พอใจในสิ่งที่แพทองธารทำ แต่ถามว่าเห็นด้วยกับคำตัดสินของคน 9 คนไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ขอไม่พูดอะไรแล้วกันนะครับ เพราะเป็นอีกสิ่งหนึ่งในประเทศนี้ที่แตะไม่ได้ 

จริง ๆ ถ้าแพทองธารตัดสินใจยุบสภาให้ประชาชนตัดสินซะ คือมีสปิริตทางการเมืองซะหน่อย เพราะมันก็มีทั้งคนที่เห็นว่าไม่เป็นไร และคนที่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก ให้ประชาชนตัดสินกันไปเลยว่าประชาชนส่วนไหนที่มากกว่ากัน แต่ก็ไม่ทำ พอมาถึงทางตันถึงจะมาทำ ซึ่งก็เป็นปัญหาอีกว่ารักษาการอย่างภูมิธรรมทำได้ไหม  ซึ่งไปไปมา ๆ ดูเหมือนจะทำไม่ได้

พูดถึงเรื่องนี้ก็ประหลาดดี นี่ถ้าแคนดิเดตนายกที่เหลือมีอันเป็นไปหมด จะทำกันยังไง เป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหามีจุดอ่อนเต็มไปหมด ทำให้ได้รัฐบาลผสม ซึ่งมีความอ่อนแอ เลือกตั้งสว. ก็อะไรไม่รู้ องค์กรอิสระก็แตะต้องไม่ได้ เรื่องคุณธรรมจริยธรรมก็เอามาใช้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องพวกนี้หลาย ๆ ครั้งมันก็คือการตีความ ซึ่งมาตรฐานก็ไม่มี มันแล้วแต่คนเลย บอกว่าปราบโกง ก็ไม่เห็นมันจะปราบอะไร นักการเมืองตัวจริงมาไม่ได้ ก็ส่งเครือญาติมา แล้วตัวจริงก็ยังนั่งบงการอยู่หลังฉาก ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะรัฐธรรมนูญนี้แหละ คนชนะเลือกตั้งไม่ได้เป็นนายก ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีความพร้อมที่สุดในรอบสิบปี น่าจะได้โอกาสมาลองทำงานดู ก็ไม่ได้ทำ แล้วยังเขี่ยเขาออกจากวงไปอีก สุดท้ายก็ได้คนอย่างที่เห็น แล้วก็เป็นปัญหามาถึงตอนนี้ 

ดังนั้นถ้ามีโอกาสจะแก้รัฐธรรมนูญก็ขอร้องอย่าขวางกันเลย เลิกซะทีกับคำว่าฉันโหวตชนะมา ปากบอกว่าไม่ชอบประชาธิปไตย แต่ถ้าชนะฉันเอา อะไรที่เคยรับมาแล้ว ถ้ามันเป็นปัญหาก็ต้องแก้ และการแก้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะแก้เลย ถ้าเขาแก้แล้วไม่พอใจก็ไม่ต้องโหวตรับ แล้วก็ใช้รัฐธรรมนูญเดิมไป ไม่ใช่แหกปากอย่างเดียวว่าฉันโหวตชนะมาอย่ามาแตะนะ     

กลับมาที่ว่าทำพรรคประชาชนถึงกลายเป็นพรรคที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้ก็คือ ทำอะไรก็โดน โหวตให้ฝั่งเพื่อไทยก็โดนด่า โหวตให้ภูมิใจไทยก็โดนด่า อยู่เฉย ๆ แล้วเดี๋ยวเกิดได้ประยุทธ์มาก็โดนด่า คือทำหรือไม่ทำก็โดนจริง ๆ ตรงกับเนื้อเพลงเลย

นอกจากนี้ยังมีคนรู้มากคอยแซะอีกว่าจริง ๆ ไม่อยากให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่หรอก ทำไปอย่างนั้นแหละ และนี่ก็คงเข้าทางคนที่คิดแบบนี้พอดี เพราะเพื่อไทยเสนอว่าถ้าโหวตชัยเกษม ยุบเลย ไม่ต้องรอ 4 เดือน แต่พรรคประชาชนเขาตัดสินใจไปแล้วไง จะให้เขาพลิกไปพลิกมาเหมือนพรรคการเมืองทั่ว ๆ ไปเขาก็คงไม่ทำ

ซึ่งจุดนี้ต้องบอกว่าเพื่อไทยทำตัวเองจนกลายเป็นพรรคการเมืองที่เชื่อถือไม่ได้ เคยไม่รักษาสัญญากับประชาชน (ทั้งประชาชนจริง ๆ และพรรคประชาชน) มาแล้ว ตอนจะข้ามขั้วมา มีคนถามว่าทำไมทำแบบนี้ก็บอกว่าเป็น "เทคนิคการหาเสียง" แล้วตอนนี้ออกมารับปาก ทำไมถึงจะพลิกอีกไม่ได้ ที่มายื่นข้อเสนอว่าจะยุบสภาเลยตอนนี้ มีอะไรที่จะรับประกันว่า จะไม่พูดว่าก็เป็นแค่ "เทคนิคการขอเสียง" ยิ่งนางแบกตัวใหญ่ ออกมาพูดว่า คำพูดที่ออกมาจากปากตัวเอง ไม่ต้องยึดถือ ยึดถือผลประโยชน์มากกว่า ยิ่งสะท้อนความเป็นตัวตนของพรรคนี้เข้าไปใหญ่ 

อีกอย่างข้อเสนอที่บอกจะยุบสภาเลย ก็ออกมาสุดท้าย เหมือนไม่มีทางไปแล้ว ที่เขาเรียกกันว่าเป็นโปรไฟไหม้ คือไม่เคยมาคุยอย่างจริงใจ แคนดิเดตนายกก็ไม่เอามาคุยกับเขา ขนาดตัวแคนดิเดตนายกเองยังออกมาพูดเหมือนกับว่าพรรคก็ไม่เคยติดต่อตัวเองมาด้วยซ้ำ แล้วมันจะให้เชื่อได้ยังไง ถ้าเป็นนิทานอีสป ก็คงเรืองเด็กเลี้ยงแกะนั่นแหละ โกหกจนตอนพูดจริงก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว 

ถ้าต้องการเวลาคุย อยากให้เลื่อนโหวต ในสภาวันนี้ก็ควรจะแสดงพฤติกรรมดี ๆ แต่ที่เห็นคือจะหักอย่างเดียว เอะอะก็จะฟ้องทำการขัดรัฐธรรมนูญ คือเรื่องดีลเหมือนกัน ถ้าโหวตเพื่อไทยไม่เป็นไร ถ้าไปโหวตภูมิใจไทย นี่ผิดมาก เหมือนในพรรคหาทางออกมาแล้วว่าจะมาทางนี้ คือพยายามบอกว่าการทำแบบพรรคประชาชนคือโหวตแล้วไม่ร่วมรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขให้แก้รัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภาในสี่เดือนมันผิดมาก แต่ตัวเองก็ประกาศว่ายอมรับเงื่อนไขพรรคประชาชนทุกข้อเหมือนกัน ถ้าเป็นตัวเองทำได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นทำไม่ได้ ทำแบบนี้เขาคงจะยอมกลับไปเจรจาด้วยหรอก

ส่วนตัวมองว่าที่เพื่อไทยดิ้นมาก ๆ นี่ไม่ใช่เห็นแก่ประเทศชาติหรอกนะ เพราะถ้าเห็นแก่ประเทศชาติคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ แต่ดิ้นเพราะไม่อยากให้ภูมิใจไทยได้อำนาจการปกครอง และก็ที่ด่าพรรคประชาชนแรง ๆ ถึงกับป้ายสีบางเรื่องด้วย ก็เพราะกลัวว่าการทำแบบนี้ของพรรคประชาชนจะทำให้เขาได้คะแนน และจะชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกครั้ง ก็เลยพยายามเอาสิ่งที่เขาทำ และตัวเองก็ยอมรับ แต่พอเขาไม่เลือกตัวเอง ก็เอามาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ ถ้ามันแย่จริงตัวเองจะยอมรับทำไม ทำตัวแบบนี้ ยังหวังจะให้คนอื่นมาไว้ใจตัวเองอีก มีคำกล่าวฝรั่งบอกว่า ถ้าถูกหลอกครั้งที่หนึ่ง  ด่าคนหลอก แต่ถ้ายังถูกหลอกครั้งที่สองก็ด่าตัวเองเถอะ (Fool me once, shame on you; fool me twice, shame on me)  

จริง ๆ ฝั่งภูมิใจไทย ก็เชื่อถือไม่ได้พอ ๆ กันแหละ (เพียงแต่เขายังไม่เคยหลอกครั้งที่หนึ่ง) ไม่ได้ดีกว่าเพื่อไทยหรอก ถ้าไม่ขัดผลประโยชน์กันกับเพื่อไทย ก็คงอยู่กันยาวไปเรื่อย ๆ ไม่เคยแสดงความจริงใจจะแก้รัฐธรรมนูญอะไรหรอก มารับเงื่อนไขก็เพราะอยากเป็นรัฐบาล และตอนนี้ก็เห็นหน้าตาคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีบางคน โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่พลังประชารัฐกับประยุทธ์ แล้วบอกตามตรงว่าเซ็ง นอกจากนี้หลายคนก็มีมลทินติดตัว แม้แต่ตัวว่าที่นายกเองก็ตาม เรื่องคดีฮั้วสว. เรื่องที่เดินเขากระโดง ซึ่งก็หวังว่าพรรคประชาชนจะควบคุมไม่ให้ภูมิใจไทยเข้าไปแทรกแซงได้ 

คือเลือกทางไหนมันก็แย่ทั้งนั้น แต่พรรคประชาชนก็จำเป็นต้องเลือก และเขาก็ได้บอกเหตุผลแล้วว่า ทำไมถึงเลือกภูมิใจไทย หลัก ๆ ก็คือเหตุผลทางจำนวนสส.  คือถ้าเลือกเพื่อไทย เพื่อไทยอาจสามารถรวมจำนวนสส. ให้เกินครึ่งได้ง่ายกว่า และมันเป็นงานถนัดเพื่อไทยด้วย 

ส่วนตัวไม่ชอบภูมิใจไทย และอนุทินมาก ๆ แต่ก็เข้าใจว่าพรรคประชาชนก็ต้องเลือกสักทางหนึ่ง ดังนั้นก็รู้สึกไม่เข้าใจกองเชียร์พรรคเค้าเอง ที่ออกมาร่วมด่าสาดเสียเทเสีย เพราะเลือกทางที่ตัวเองไม่เห็นด้วย จริง ๆ ควรจะรับฟังเหตุผล แล้วก็ติดตามดูว่าทางเลือกนี้มันเป็นยังไง แล้วก็หวังว่าเค้าจะเลือกถูก ส่วนตัวมองว่าเขาแสดงความกล้าตัดสินใจด้วยซ้ำ 

ส่วนกองเชียร์เพื่อไทยจะออกมาด่าก็เข้าใจได้ แต่อยากให้มองตัวเองว่า ที่สถานการณ์มันเดินมาถึงตรงนี้มันก็เกิดจากพรรคเพื่อไทยเองทั้งนั้น แต่อย่างว่าชี้นิ้วโทษคนอื่น มันง่ายกว่าโทษตัวเองอยู่แล้ว     

พรรคประชาชนต้องโดนด่าเพราะสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เขาเป็นพรรคที่ได้ผลเลวร้ายจากรัฐธรรมนูญฉบับบ้าบอนี้ที่สุด ชนะเลือกตั้งก็ไม่ได้เป็นนายก คนดี ๆ เก่ง ๆ ก็ถูกเขี่ยออกจากระบบไปทีละชุด แล้วคนเชียร์รัฐธรรมนูญนี้ ก็แกล้งมองไม่เห็นความไม่ปกติ เพราะมันทำให้ตัวเองที่เลือกตั้งแพ้ แต่คนชนะที่ตัวเองไม่ชอบก็ไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ คนเหล่านี้ต้องให้เหตุการณ์มันเกิดกับพรรคที่ตัวเองเชียร์ก่อนถึงจะเห็นปัญหา 

สรุปพรรคประชาชนไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้เลย มีแต่โดนกับโดน ต่อให้ได้ไปเลือกตั้ง หลายคนบอกว่าเขาได้เปรียบ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ พรรคการเมืองอย่างเพื่อไทย กับภูมิใจไทย จะไม่ร่วมงานกับเขา แต่สองพรรคนี้พร้อมจะกลับมาร่วมมือกันเสมอ พรรคประชาชนถ้าอยากเป็นรัฐบาลจะต้องได้คะแนนพรรคเดียวให้เกินครึ่ง เขาจะได้คะแนนหลัก ๆ จากระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนเขตค่อนข้างยาก สู้บ้านใหญ่ไม่ได้ และคนที่เขาคัดเลือกมาลงเขตก็เป็นสาเหตุด้วย และยิ่งเกิดเหตุการณ์นี้อาจจะมีคนที่ไม่เข้าใจ เลยไม่โหวตให้อีก คือยังไงก็คิดว่าไม่ถึงครึ่ง โอกาสเดียวที่จะได้เป็นรัฐบาลก็ผ่านไปแล้ว คือต้องยอมร่วมรัฐบาลกับอนุทิน แต่จริง ๆ สมมติบอกว่าจะร่วมรัฐบาลด้วย อนุทินอาจไม่เอาก็ได้นะ ทั้งภูมิใจไทย และเพื่อไทย อาจยอมไปเอาประยุทธ์กลับมาก็ได้ 

สรุปโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง และอาจไม่ได้ประโยชน์อะไรมากกกว่าเดิมด้วย ติดแล้วก็เศร้าเนอะ...

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

I Feel Fine

วันศุกร์นี้อยากมาชวนฟังเพลงกันครับ ไม่ได้ฟังกันมานานแล้ว เพลงที่จะมาชวนฟังก็เป็นเพลงของ The Beatles คือ I Feel Fine เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากครับ เพราะหนึ่งในฐานะแฟนบอลลิเวอร์พูลมาอย่างเหนียวแน่นมาสีสิบกว่าปีได้  ตามข่าวความสำเร็จของทีมจากหนังสือนิตยสารเป็นส่วนใหญ่ในยุค ปลาย  70 ต่อ 80 ที่ทีมครองความยิ่งใหญ่ เพราะในช่วงนั้นการสื่อสารยังไม่ดีเท่าทุกวันนี้ โอกาสจะมีบอลถ่ายทอดทีมโปรดมาให้ดูสักนัดก็ยากมาก ผ่านยุคตกต่ำที่ต้องมองความสำเร็จของแมนยูปีแล้วปีเล่าในยุค 90 ที่ได้เริ่มดูถ่ายทอดสดได้มากขึ้น แต่ก็ต้องมองทีมตัวเองมีได้แค่ลุ้นตอนต้น ๆ ของฤดูกาล แล้วก็ค่อย ๆ หายไปจนไม่มีเหลือลุ้นอะไร เหมือนที่แมนยูเป็นอยู่ตอนนี้

แต่ถึงตอนนี้คงต้องบอกว่ากองเชียร์ลิเวอร์พูลทุกคนคงจะอยู่ในสถานะ I Feel Fine เพราะผลงานของทีมที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การดูแลของชายที่ชื่อว่า เจอร์เก็น คลอปป์ ซึ่งกำลังพาลิเวอร์พูลกลับสู่ยุครุ่งเรื่องอีกครั้ง ในฤดูกาลนี้ก็ยังมีลุ้นทุกรายการที่ลงแข่ง เป็นทีมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของโลก และนอกจากนี้ยังมีข่าวดีอีกคือ คลอปป์ ยอมขยายสัญญาตัวเองออกไปจากที่จะหมดลงในปี 2024 เป็นปี 2026 ดูหมือนว่ามันจะขยายไปอีกไม่นาน แต่สำหรับแฟนลิเวอร์พูลแล้ว ผมว่าคลอปป์ยอมต่อสัญญาออกไปแม้จะเป็นแค่ปีเดียวก็ทำให้แฟน ๆ มีความสุขแล้ว เพราะมันหมายความว่าลิเวอร์พูลก็จะมีโอการประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีกตามจำนวนปีที่คลอปป์อยู่ต่อ

นอกจากจะรู้สึก Fine แบบชื่อเพลงแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากจะมาชวนฟังเพลงนี้ก็เพราะ กองเชียร์ลิเวอร์พูลที่อังกฤษได้แต่งเพลงสั้น ๆ ให้คลอปป์ โดยใช้ทำนองเพลง I Feel Fine นี้ครับ ไปฟังเพลงและดูเนื้อร้องของเพลงนี้กันก่อนครับ 


 Baby's good to me, you know

She's happy as can be, you know
She said so
I'm in love with her and I feel fine

Baby says she's mine, you know
She tells me all the time, you know
She said so
I'm in love with her and I feel fine

I'm so glad that she's my little girl
She's so glad, she's telling all the world
That her baby buys her things, you know
He buys her diamond rings, you know
She said so
She's in love with me and I feel fine, mm

Baby says she's mine, you know
She tells me all the time, you know
She said so
I'm in love with her and I feel fine

I'm so glad that she's my little girl
She's so glad, she's telling all the world
That her baby buys her things, you know
He buys her diamond rings, you know
She said so
She's in love with me and I feel fine
She's in love with me and I feel fine

และนี่คือเพลงของคลอปป์ครับ



เนื้อเพลงก็สั้น ๆ ตามนี้ครับ

I'm so glad that Jurgen is a Red.

I'm so glad he delivered what he said.

Jurgen said to me, you know. We'll win the Premier League, you know. He said so.

I'm in love with him and I feel fine.


วันศุกร์นี้ก็ขอแสดงความ Fine ตามประสาเดอะค็อปสักวันนะครับ และก็ตามลุ้นให้ทีมทำภารกิจ 4 แชมป์ ที่แทบจะเป็น mission impossible ได้สำเร็จ 

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ปราสาททราย

เพื่อให้เข้าสถานการณ์ ภูเก็ตปราสาททราย ของนายกประเทศสารขัณฑ์ เราไปฟังเพลงและดูเนื้อเพลงประสาททรายของสุรสีห์ อิทธิกุล อดีตศิลปิน นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ที่โด่งดังคนหนึ่งของไทยกันดีกว่าครับ ไปฟังเพลงเพราะ ๆ แต่อาจจะเศร้านิด ๆ และก็ได้แต่หวังว่าโครงการภูเก็ตประสาททรายของใครบางคนจะไม่แหลกสลายลงไปกับตาเหมือนในเนื้อเพลงนะครับ ไปฟังเพลงกันครับ



และนี่คือเนื้อเพลงครับ

กว่าจะรวมจิตใจ
เก็บทรายสวยสวยมากอง
ก่อปราสาทสักหลัง
ก่อกำแพงประตู
ก่อสะพานสร้างเป็นทาง
ทำให้เป็นดังฝัน
ก่อนที่ฉันจะได้เห็นทุกอย่าง
อย่างที่ฝันที่ฉันทุ่มเท
น้ำทะเลก็สาดเข้ามา
ไม่เหลืออะไรเลย
แหลกสลายลงไปกับตา
เหลือเพียงทรายที่ว่างเปล่า
กับน้ำทะเลเท่านั้น
ไม่เหลืออะไรเลย
จากที่เคยมีความใฝ่ฝัน
ไร้กำลังจะสร้างใหม่ให้เหมือนเดิม
ทีละเล็กละน้อย
ที่คอยสะสมความดี
มีให้เธอเท่านั้น
ก่อเป็นความเข้าใจ
แต่งเติมความหมายด้วยกัน
คอยถึงวันที่หวัง
ก่อนที่ฉันจะได้พบความสุข
อย่างที่ฉันฝันไว้ทุกวัน
เธอก็พลันมาจากฉันไป
ไม่เหลืออะไรเลย
แหลกสลายลงไปกับตา
เหลือเพียงใจที่ว่างเปล่า
กับฉันคนเดียวเท่านั้น
ไม่เหลืออะไรเลย
จากที่เคยมีความใฝ่ฝัน

ขอให้ปลอดภัยเอาชีวิตรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ครับ... 

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่ง

ไม่ได้เขียนศรัณย์วันศุกร์มาซะนาน วันนี้มาฟังเพลงกันก็แล้วกันครับ เอาอีกแล้วครับที่มีเพลงหนึ่งวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในหัวตลอดเวลา สำหรับเพลงที่จะชวนกันฟังในวันนี้ก็คือ One Moment in Time ครับ ซึ่งเป็นเพลงประจำกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1988 ที่โซล เกาหลีใต้ ซึ่งก็ผ่านมา 23 ปีแล้ว และคนร้องซึ่งคือ  Whitney Houston ก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่เพลงนี้ฟังยังไงก็ไม่เบื่อนะครับ ไปฟังเพลงกันก่อนครับ เอาเวอร์ชัน Whitney Houston ก่อนครับ



และแถมอีกเวอร์ชันที่ผมก็ชอบของ Dana Winner ครับ



 

เพราะจริง ๆ นะครับ 

คราวนี้มาดูเนื้อเพลงกันครับ

Each day I live

I want to be

A day to give

The best of me

I'm only one

But not alone

My finest day

Is yet unknown

I broke my heart

Fought every gain

To taste the sweet

I face the pain

I rise and fall

Yet through it all

This much remains

I want one moment in time

When I'm more than I thought I could be

When all of my dreams are a heartbeat away

And the answers are all up to me

Give me one moment in time

When I'm racing with destiny

Then in that one moment of time

I will feel

I will feel eternity

I've lived to be

The very best

I want it all

No time for less

I've laid the plans

Now lay the chance

Here in my hands

Give me one moment in time

When I'm more than I thought I could be

When all of my dreams are a heartbeat away

And the answers are all up to me

Give me one moment in time

When I'm racing with destiny

Then in that one moment of time

I will feel

I will feel eternity

You're a winner for a lifetime

If you seize that one moment in time

Make it shine

Give me one moment in time

When I'm more than I thought I could be

When all of my dreams are a heartbeat away

And the answers are all up to me

Give me one moment in time

When I'm racing with destiny

Then in that one moment of time

I will be

I will be

I will be free

I will be

I will be free


ชีวิตทุกวันของฉัน

ฉันอยากจะอยู่

ในวันที่ฉันจะให้

สิ่งที่ดีที่สุดของฉัน

ฉันตัวคนเดียว

แต่ก็ไม่ได้เปล่าเปลี่ยว

วันที่ดีที่สุดของฉัน

ยังไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

ฉันหักห้ามใจตัวเอง

ต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

เพื่อที่จะได้ลิ้มรสความหวาน

ฉันต้องเผชิญกับความเจ็บปวด

ฉันพุ่งขึ้นแล้วก็ร่วงหล่นลงมา

แม้ว่าฉันจะผ่านมันมาทั้งหมดแล้ว

มันก็มีสิ่งที่เหลืออยู่อีกมากมาย

ฉันขอเพียงช่วงเวลาหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ฉันเป็นได้มากกว่าที่ฉันเคยคิดไว้

เมื่อความฝันทั้งปวงของฉันอยู่ห่างออกไปแค่จังหวะหัวใจเต้น

และคำตอบทั้งหมดขึ้นอยู่กับฉันเพียงผู้เดียว

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่งให้ฉันเถอะ

ช่วงเวลาที่ฉันได้แข่งขันกับโชคชะตา

และในช่วงเวลานั้น

ฉันจะรู้สึก

ฉันจะรู้สึกถึงความเป็นนิรันดร์

ฉันใช้ชีวิต

เพื่อให้เป็นที่สุด

ฉันต้องการมันทั้งหมด

ไม่มีเวลาให้กับสิ่งที่ไม่สำคัญ

ฉันวางแผนมาตลอด

ตอนนี้ก็คว้าโอกาส

ซึ่งอยู่ในมือของฉัน

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่งให้ฉันเถอะ

ช่วงเวลาที่ฉันเป็นได้มากกว่าที่ฉันเคยคิดไว้

เมื่อความฝันทั้งปวงของฉันอยู่ห่างออกไปแค่จังหวะหัวใจเต้น

และคำตอบทั้งหมดขึ้นอยู่กับฉันเพียงผู้เดียว

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่งให้ฉันเถอะ

ช่วงเวลาที่ฉันได้แข่งขันกับโชคชะตา

และในช่วงเวลานั้น

ฉันจะรู้สึก

ฉันจะรู้สึกถึงความเป็นนิรันดร์

คุณจะเป็นผู้ชนะตลอดชีวิตของคุณ

ถ้าคุณคว้าช่วงเวลาหนึ่งนั้นเอาไว้ได้

ทำให้มันเปล่งประกายออกมา

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่งให้ฉันเถอะ

ช่วงเวลาที่ฉันเป็นได้มากกว่าที่ฉันเคยคิดไว้

เมื่อความฝันทั้งปวงของฉันอยู่ห่างออกไปแค่จังหวะหัวใจเต้น

และคำตอบทั้งหมดขึ้นอยู่กับฉันเพียงผู้เดียว

ขอเพียงช่วงเวลาหนึ่งให้ฉันเถอะ

ช่วงเวลาที่ฉันได้แข่งขันกับโชคชะตา

และในช่วงเวลานั้น

ฉันจะเป็น
ฉันจะเป็น
ฉันจะเป็นอิสระ
ฉันจะเป็น
ฉันจะเป็นอิสระ 


ถือว่าเป็นการต้อนรับโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นปีนี้ (ถ้าจัดได้) ด้วยแล้วกันนะครับ ขอให้ปลอดภัยจากโควิดครับ

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กุ้มใจ

ไม่ได้ฟังเพลงวันศุกร์กันมานานแล้วนะครับ อาการเดิมกลับมาอีกแล้วครับ เพลงวนเวียนอยู่ในหัว คราวนี้เป็นเพลงไทยจังหวะสนุก ๆ ของอัสนี-วสันต์ครับ ไม่รู้ว่าทันกันไหมนะครับ เพลงจังหวะสนุก ๆ แต่ต้องสารภาพว่าจนป่านนี้ผมยังไม่รู้ว่าเพลงนี้เขาอยากสื่ออะไร เดาเอาว่าให้สะกดภาษาไทยให้ถูก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นในยุคนี้น่าจะมีเพลง นะคะ นะค่ะ น่าจะดีนะครับ ไปฟังเพลงกันครับ ขอให้มีความศุกร์กันในวันศุกร์ กับ #ศรัณย์วันศุกร์ ครับ


วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ช่วงกักตัวไปฝึกเต้นรำกันครับ

บล็อกวันนี้อาจจะเรียกว่าต่อเนื่องจากศุกร์ที่แล้วก็ได้นะครับ เมื่อศุกร์ที่แล้วผมชวนไปฟังเพลง Tennessee Waltz ซึ่งเป็นเพลงเก่า และเป็นเพลงช้า ๆ แต่เมื่อผมไปค้นวีดีโอจาก YouTube เพื่อเอามาประกอบบล็อก ก็เลยได้พบว่า เพลง Tennessee Waltz ถูกนำไป cover ใหม่ในเยอรมัน โดยนักร้องชื่อ Ireen Sheer ซึ่งเพลง Tennessee Waltz ถูกนำไปทำให้กลายเป็นเพลงที่มีจังหวะเต้นรำ และถูกนำไปใช้เป็นเพลงประกอบการเต้นที่เรียกว่า Line Dance จากที่พบค้นดูใน Youtube พบว่าการเต้นเพลงนี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิมในเกาหลีใต้นะครับ เพราะวีดีโอใน YouTube ส่วนใหญ่ที่ผมเจอจะมาจากเกาหลีใต้ ลองไปฟังและไปดูกันครับ และอาจลองหัดเต้นตามกันดูก็ได้นะครับถ้าใครยังต้องอยู่บ้านแล้วรู้สึกเบื่อ 





  

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ฟังเพลง Tennessee Waltz กันครับ

ไม่ได้ฟังเพลงกันมาหลายสัปดาห์แล้วนะครับ วันนี้มาฟังเพลงกันหน่อยดีกว่า ก็เหมือนกับหลาย ๆ เพลงที่ผมเคยเอามาโพสต์ครับ คืออยู่ ๆ เพลงนี้ก็กลับเข้ามาเล่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวผม ซึ่งเพลง Tennessee Waltz นี้จัดว่าเป็นเพลงอมตะมากนะครับ จากที่ผมไปค้นข้อมูลมาได้ความว่าเพลงนี้เขียนขึ้นในปี 1946 และออกวางขายในปี 1948 ก่อนผมเกิดหลายปีมาก โดยเพลงนี้มาดังมากและขายได้หลายล้าน (อะไรดี ไม่รู้สมัยนั้นเขาใช้อะไร น่าจะเป็นแผ่นนะครับ) แผ่น จากการร้องของ Patti Page และก็ยังมีการนำกลับมาร้องกันจนถึงทุกวันนี้

เพลงก็มีเนื่้อหาง่าย ๆ ฟังสบาย ๆ ครับ ไปฟังเพลงกันดีกว่าครับ




I was dancing with my darling to the Tennessee Waltz
When an old friend I happened to see
I introduced her (him) to my loved one
And while they were dancing
My friend stole my sweetheart from me
I remember the night and the Tennessee Waltz
Now I know just how much I have lost
Yes, I lost my little darling the night they were playing
The beautiful Tennessee Waltz

*เนื้อเพลงสามารถปรับเปลี่ยนตามเพศของคนร้องได้ง่าย ๆ จาก her เป็น him ถ้าคนร้องเป็นผู้ชาย 

ฉันกำลังเต้นรำอยู่กับสุดที่รักของฉันภายใต้บทเพลง Tennessee Waltz   
เมื่อบังเอิญเห็นเพื่อนเก่าของฉันผ่านเข้ามา
ฉันแนะนำเธอ(เขา)ให้รู้จักกับที่รักของฉัน
และในขณะที่พวกเขาเต้นรำกัน
เพื่อนของฉันก็ได้พรากสุดที่รักของฉันไปจากฉัน

ฉันยังจำค่ำคืนและเพลง Tennessee Waltz นั้นได้แจ่มชัด
และตอนนี้ฉันก็ได้รู้แล้วว่าฉันได้สูญเสียไปมากแค่ไหน
ใช่ฉันได้เสียสุดที่รักของฉันไป ในค่ำคืนที่พวกเขา (วงดนตรี) กำลังเล่นเพลง
Tennessee Waltz ที่เพราะจับใจ