ไม่ได้เขียนคอลัมน์ #ศรัณย์วันศุกร์ นี้มานานมาก จริง ๆ ตั้งใจว่าถ้ากลับมาเขียนก็จะเขียนเรื่องเบา ๆ สบาย ๆ แต่วันนี้ขอเขียนหน่อยเรื่องหนัก ๆ หน่อยแล้วกันครับ เพราะรู้สึกหงุดหงิดกับความคิดของผู้คนที่บริหารบ้านเมืองอยู่ในช่วงนี้ ในสถานการณ์ที่ประเทศเรากำลังเผชิญปัญหาสารพัดด้าน ความคิดคำพูดของคนหลายคนที่เห็น ๆ ตามสื่อ เหมือนไม่ได้ตระหนักอะไรเลย
ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ซึ่งก็แย่อยู่แล้ว และยังมีปัญหาเรื่องนโยบายของทรัมป์เข้ามาอีก สิ่งที่ผู้บริหารควรทำนอกจากจะบอกให้ประชาชนประหยัด ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นแล้ว ตัวเองก็ควรทำเป็นตัวอย่างด้วย ประหยัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อนำมาสำรองไว้แก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง ถ้าจะใช้เงินลงทุนทำอะไร สิ่งที่ได้กลับมามันก็ควรคุ้มค่า แต่กลับไม่ทำกัน
![]() |
ภาพโดย Supanut Arunoprayote |
เริ่มจาก สตง. ซึ่งตึกใหม่ของตัวเองถล่มมาเนื่องจากแผ่นดินไหวที่พม่า ทำสถิติเป็นตึกเดียวในโลกที่อยู่ห่างจากจุดแผ่นดินไหวมากที่สุดที่ถล่ม และหลังจากตึกถล่มเราก็ได้รู้เห็นอะไรต่าง ๆ มากมายที่จริง เราก็อาจจะรู้กันอยู่ แต่เราอาจไม่คิดว่าองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเป็นองค์กรอิสระ ที่ควรจะช่วยตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศจะเละเทะได้ขนาดนี้ เมื่อตึกถล่มผู้บริหารก็ออกมาพูดถึงแต่องค์กรตัวเอง พยายามปัดความรับผิดชอบอะไรอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่เวลาไปตรวจชาวบ้านเขา ก็มักจะบอกว่าคุณจะไม่รู้ไม่ได้ ครูที่ไม่เคยทำการเงินแต่ต้องมาทำเพราะระบบห่วย ๆ ของประเทศเรา ก็ไปไล่บี้เขาต่าง ๆ นานา แต่ผมจะไม่พูดถึงประเด็นตรวจสอบเรื่องตึกถล่มนี่แล้วกันนะ แต่แค่อยากบอกว่า ถ้าเป็นประเทศที่ผู้บริหารของเขามีความรับผิดชอบ คงออกมาขอโทษที่ตรวจสอบไม่ดี ตั้งชุดทำงานขึ้นมาจัดเตรียมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตึกนี่ตั้งแต่แรกเลย เพื่ออำนวยความสะดวกกับหน่วยงานที่จะต้องใช้ตรวจสอบ เพราะตัวเองมีเอกสารทุกอย่าง ออกมาแถลงให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้ ในส่วนที่ไม่ทำให้เสียรูปคดี อย่างน้อยคน องค์กร และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการสร้างตึกนี้มีใครบ้าง เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรตอนไหน สาธารณะชนก็ควรได้รับรู้ ตั้งงบประมาณสำหรับเยียวยาผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ลาออกไปด้วยเมื่อทำทุกอย่างที่จำเป็นเรียบร้อย
![]() |
ภาพจาก https://www.sanook.com/news/9771778/ |
แต่สิ่งที่ตามมาที่น่าอนาถและผมอยากจะพูดถึงไปอีกก็คือ งบประมาณในการตกแต่ง เก้าอี้ผู้บริหารตัวละเก้าหมื่น ฝักบัวอาบน้ำหมื่นกว่าบาท พรมปูพื้นแสนบาท อะไรแบบนี้ มันเกิดขึ้นกับหน่วยงานที่ควรเป็นต้นแบบของการใช้เงินได้อย่างไร และผู้บริหารก็ออกมาพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ และยังบอกว่าถ้าคิดว่ามันหรูไป เดี๋ยวตึกใหม่ที่จะสร้างไม่เอาหรูก็ได้ ยังคิดที่จะสร้างใหม่ ทั้งที่ของเก่ายังหาสาเหตุไม่เจอเลยว่ามันเพราะอะไรและมีการประชดประชันด้วย และบางคนยังบอกว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าไอ้ตัวเก้าหมื่นมันแค่ของผู้บริหาร ตัวที่เหลือก็ตัวละหมื่นเอง คือไม่ได้เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจประเด็นก็ไม่รู้ คือที่เขาสงสัยก็คือทำไมผู้บริหารต้องนั่งเก้าอี้ตัวละเก้าหมื่น นั่งแล้วมันทำให้ทำงานได้คุ้มค่ามากขึ้นหรือ ส่วนเก้าอี้ทำงานตัวละเป็นหมื่นก็ดูแพงอยู่เหมือนกันนะเอาจริง ๆ
ถัดมาก็กสทช. ซึ่งก็สร้างตึกใหม่ราคาสองพันกว่าล้านเหมือนกัน และเท่าที่ตามข่าวก็น่าจะหรูหราหมาเห่าไม่แพ้กัน นี่คือองค์กรอิสระ ซึ่งตอนนี้ประชาชนเขาเริ่มสงสัยว่ามันอิสระจากอะไร อิสระจากประชาชนใช่ไหม ทั้ง ๆ ที่เงินที่ใช้ก็มาจากเงินภาษี
![]() |
ภาพโดย Supanut Arunoprayote |
ถัดมาก็สภา อันนี้เป็นคนที่ประชาชนเลือกเข้ามาด้วยซ้ำ แต่ก็ทำอะไรก็ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเช่นกัน จะของบมาปรับปรุงรัฐสภานู่นนี่ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ตึกใหม่ตัวเองเพิ่งสร้างเสร็จ และตรวจรับกันไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว จะของบปรับปรุงเป็นพันล้านอีกแล้ว ใช้กันยังไม่ทันคุ้มค่าเลย ปัญหาต่าง ๆ ที่เจอตอนเปิดใช้งาน ไปไล่เบี้ยคนสร้างให้รับผิดชอบได้หมดหรือยัง คนธรรมดาสร้างบ้านหลังนึงอยู่กันทั้งชีวิต อยู่กันไปเป็นสิบ ๆ ปี ถึงจะขยับขยายซ่อมแซมต่อเติมกันสักครั้งนึง ซึ่งเขาจะทำก็เพราะจำเป็นจริง ๆ อย่างโครงสร้างหรือวัสดุมันเสื่อมสภาพ หรือครอบครัวขยายมีจำนวนคนเยอะขึ้น ซึ่งแบบนี้อาจเป็นเพราะประชาชนหาเงินเอง รู้ว่าเงินมันหายาก ดังนั้นจะใช้เงินก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่ามันจำเป็น แต่พวกท่านทั้งหลายจะทำอะไรไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเอง ก็เลยไม่ต้องคิดอะไร
ฟังเหตุผลแล้วก็ถามตัวเองว่านี่มันอะไรกัน บอกว่าตึกที่สร้างนี่มันยังมีฟังก์ชันไม่ครบ เช่นมีห้องขนาด 1,500 ที่นั่งสร้างไว้ แต่ยังใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีระบบเครื่องเสียง ต้องทำเพราะไม่งั้นห้องจะทิ้งร้างไว้เฉย ๆ งบสร้างนี่มันหมื่นกว่าล้านนะ ยังไม่พอที่จะทำให้ทุกอย่างมันฟังก์ชันได้อีกหรือ ศาลาแก้วที่สร้างแล้วไม่ได้ใช้เพราะมันร้อน ก็จะของบติดแอร์ จะย้ายห้องสมุดจากขั้นแปดขั้นเก้าโดยถมสระเพื่อมาสร้างห้องสมุด โดยบอกว่าสระน้ำเน่า และอ้างว่าห้องสมุดอยู่ตรงนี้จะได้ให้ประชาชนมาใช้ ก็คือสิ่งที่ออกแบบสร้างมามันไม่ฟังก์ชันใช่ไหม งบหมื่นกว่าล้านนะ และที่ตามไปอ่านข่าวมา บอกว่างบนี้รวมทุกอย่างแล้วนะ คือรวมระบบต่าง ๆ เรียบร้อย
ที่น่าเศร้าคือคนที่เขาออกแบบเขาออกมาค้านแล้ว เขาอธิบายว่าสระมันมีระบบเหมือนสระว่ายน้ำ คือถ้าดูแลรักษาตามปกติน้ำไม่มีทางเน่า ส่วนเรื่องน้ำซึมน้ำรั่วก็ไปไล่เอากับคนสร้างซิว่าทำยังไงมันถึงรั่ว แล้วสระนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยระบายความร้อนด้วย ถ้าถมต้องติดแอร์กันมหัศจรรย์เลย (แต่เขาไม่ได้พูดถึงศาลาแก้วนะ ตามข่าว อันนี้อยากรู้จริง ๆ ว่ามีประโยชน์อะไร และทำไมถึงออกแบบแบบนั้น) นั่นคือคิดจะทำอะไรกัน ไม่มีการศึกษาหาข้อมูลเลย จะใช้เงินที่ไม่ใช่เงินตัวเองอย่างเดียว แล้วยังมาบอกอีกว่ารับรองว่าไม่มีการโกง เฮอะอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ แต่ประเด็นมันยังไม่ได้อยู่ที่โกง คำถามคือจะทำทำไมก่อน จำเป็นต้องทำตอนนี้ไหม
สรุปการพูดจาการกระทำของคนที่มีอำนาจในการบริหารประเทศในตอนนี้ ไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็น สส. สว. หรือองค์กรอิสระอย่าง กสทช. และ สตง. คือประชาชนไม่อยู่ในสมการ มองประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก ต้องหรูหรา สมตำแหน่ง ต้องใช้เงิน คำถามคือถ้าเป็นเงินพวกคุณเอง คุณจะจ่ายไหม คือจริง ๆ ไม่ได้เหมารวมว่าทุกคนคิดแบบนี้นะ เพราะก็มีกลุ่มสส. สว. ที่ค้านแล้ว แต่องค์กรอิสระนี่เงียบกริบ
เฮ้อ วันศุกร์แบบนี้ ควรจะพูดกันเรื่องสบาย ๆ นะครับ ซึ่งคอลัมน์ของผมที่ไม่ได้เขียนมานานจริง ๆ ก็ตั้งใจอยากจะเล่าเรื่องที่มันสบาย ๆ หรือมาฟังเพลงกัน แต่วันนี้ขอระบายสักครั้งแล้วกันครับ เพราะเหลือจะทนกับคนพวกนี้จริง ๆ ขอให้ทุกคนมีพลังที่จะพาตัวเองผ่านสถานการณ์ช่วงนี้กันได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น