วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2564

จำนวนจินตภาพช่วยป้องกัน AI จากภัยคุกคามที่ร้ายแรง

wavy-data-plot
ภาพจาก Duke University Pratt School of Engineering

วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่ Duke University ได้แสดงให้เห็นว่าตัวเลขที่มีทั้งส่วนจำนวนจริง และจำนวนจินตภาพ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความมั่นคงให้กับอัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI จากภัยคุกคาม ในขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพไว้ได้  การรวมชั้นค่าจำนวนเชิงซ้อนเพียงสองชั้น จากการฝึกในหลักร้อยครั้งก็สามาถให้การป้องกันที่เพียงพอได้ ตัวอย่างเช่น การใช้จำนวนเชิงซ้อนที่มีจำนวนจินตภาพสามารถปลูกฝังความยืดหยุ่นเพิ่มเติม เพื่อใช้ปรับพารามิเตอร์ภายในของโครงข่ายประสาทเทียมที่ได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูลภาพได้ Eric Yeats แห่ง Duke กล่าวว่า "โครงข่ายประสาทเทียมที่มีค่าจำนวนเชิงซ้อนมีศักยภาพในการสำรวจภูมิประเทศที่ 'ลดหลั่นกันเป็นขั้นบันได' หรือ 'ที่ราบสูง' ได้มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงระดับความสูง ทำให้โครงข่ายประสาทเทียมสัมผัสได้ถึงความซับซ้อนที่มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะสามารถระบุวัตถุได้ด้วยความแม่นยำมากขึ้นด้วย"  วิธีนี้ช่วยให้เครือข่ายประสาทเทียมที่ใช้ปรับความลาดเอียงโดยใช้จำนวนเชิงซ้อน สามารถแก้ปัญหาได้เร็วพอ ๆ กับระบบที่ไม่มีการรักษาความมั่นคงเป็นพิเศษ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Duke University Pratt School of Engineering

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564

AI ใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์โรคหัวใจในขณะที่อธิบายคำวินิจฉัย

health-monitor
Photo by Jair Lázaro on Unsplash

นักวิทยาศาสตร์จาก University of California, San Francisco และ University of California, Berkeley ได้ออกแบบอัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ที่วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจและให้ความเห็นผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจในขณะที่อธิบายเหตุผลประกอบด้วย นักวิจัยได้ฝึกอบรมโครงข่ายประสาทเทียมเกี่ยวกับข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่เข้าถึงได้ทั่วไป นักวิจัยกล่าวว่าอัลกอริธึมทำงานได้อย่างเข้มแข็งในการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน 38 รายการใน 5 หมวดการวินิจฉัยกว้าง ๆ เนื่องจากนักวิจัยได้รวม "การอธิบาย" ไว้ในอัลกอริธึม มันจึงเน้นส่วนที่สำคัญของ ECG สำหรับการวินิจฉัยแต่ละครั้ง ซึ่งอาจเพิ่มความมั่นใจของแพทย์ในการใช้งาน นักวิจัยกล่าวว่าผลลัพธ์ของพวกเขา “ให้การสนับสนุนที่แข็งแรงต่ออัลกอริธึม AI เช่น โครงข่ายประสาทเทียม ในการรวมเข้ากับอัลกอริธึม ECG เชิงพาณิชย์ที่มีอยู่ เนื่องจากพวกมันทำงานได้ดีกว่าสำหรับการวินิจฉัยในหลาย ๆ กรณี สามารถปรับปรุงได้ตลอดเวลา และให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมผ่านความสามารถในการอธิบาย”

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  University of California, San Francisco News

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564

จีนมุ่งไปที่อัลกอรึทึมในการพยายามที่จะควบคุมเทคโนโลยี

computer-code
ภาพจาก Reuters

The Cyberspace Administration of China ได้ออกร่างกฏเกณฑ์เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทพัฒนาตัวแบบอัลกอริธึมที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ใช้จ่ายเงินจำนวนมาก หรือใช้เงินในลักษณะที่อาจขัดขวางความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสาธารณะ  กฎฉบับร่างจะช่วยให้ทางการจีนตรวจสอบอัลกอริธึม และขอให้แก้ไขหากเห็นว่าจำเป็น กฎดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดบางแห่งในประเทศจีน รวมถึงกลุ่มอาลีบาบา (Alibaba) Kendra Schaefer จาก Trivium China กล่าวว่า "นโยบายนี้นับเป็นช่วงเวลาที่กฎระเบียบด้านเทคโนโลยีของจีนไม่ได้เป็นเพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านข้อมูลในสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังไปไกลกว่านั้น" 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2564

การทดสอบจริงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยชีวิตของโดรนเครื่องกระตุ้นหัวใจ

drone
ภาพจาก New Atlas

ทีมนักวิจัยชาวสวีเดนได้ติดตั้งโดรนทางอากาศที่ติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ (automated external defibrillator) หรือ AED ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจวายเป็นครั้งแรก นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Karolinska Institutet (KI) ของสวีเดนเคยทำการจำลองเพื่อพิสูจน์ว่าโดรนสามารถส่งเครื่องกระตุ้นหัวใจได้เร็วกว่ารถพยาบาลถึงสี่เท่า ผลการศึกษาล่าสุดพบว่า โดรนขนส่งอุปกรณ์ช่วยชีวิตไปยังจุดที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นในช่วงสี่เดือนของปีที่แล้ว โดรนถูกนำไปใช้ใน 12 จาก 53 ครั้งที่มีการแจ้งเตือนภาวะหัวใจหยุดเต้นที่น่าสงสัย โดยมีการบันทึกการมาถึงของ AED ที่สำเร็จ 11 ครั้ง โดรนเดินทางโดยเฉลี่ย 3.1 กิโลเมตร (2 ไมล์) และมาถึงก่อนรถพยาบาลเจ็ดครั้ง แม้ว่าจะไม่มีใครใช้มันก่อนที่รถพยาบาลมาถึงก็ตาม Sofia Schierbeck จาก KI กล่าวว่า "การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้ที่จะใช้โดรนขนส่งเครื่องกระตุ้นหัวใจได้อย่างปลอดภัยและถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในสถานการณ์ฉุกเฉินในชีวิตจริง"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Atlas

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564

ระบบความมั่นคงของบ้านอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมสามารถถูกสั่งให้หยุดทำงานได้จากระยะไกล

motion-sensor
ภาพจาก TechCrunch

นักวิจัยจาก Rapid7 บริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์ พบช่องโหว่ที่สามารถใช้เพื่อหยุดระบบความมั่นคงภายในบ้านอัจฉริยะ Fortress S03 จากระยะไกล ระบบที่ใช้ Wi-Fi ช่วยให้เจ้าของสามารถตรวจตราบ้านของพวกเขาด้วยแอปพลิเคชันมือถือผ่านกล้องที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และไซเรน และสั่งให้ทำงานหรือหยุดทำงานด้วยปุ่มกดที่ควบคุมด้วยวิทยุ นักวิจัยกล่าวว่าแฮกเกอร์สามารถสืบค้นส่วนต่อประสานการเขียนโปรแกรม (application program interface) ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์จากระยะไกล โดยไม่ต้องให้เซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบความถูกต้องของการร้องขอ เซิร์ฟเวอร์จะส่งคืนหมายเลขประจำตัวอุปกรณ์เคลื่อนที่ระหว่างประเทศ (International Mobile Equipment Identity) หรือ IMEI ของอุปกรณ์ ซึ่งสามารถใช้เพื่อหยุดการรักษาความมั่นคงของระบบ ยิ่งไปกว่านั้นการสกัดขโมยสัญญาณวิทยุที่ไม่ได้เข้ารหัสระหว่าง S03 และปุ่มกดบนวิทยุ ทำให้สัญญาณสั่ง "ปิด" และ "เปิด" ความมั่นคงระบบ  ถูกจับและถูกสั่งให้เล่นซ้ำได้ Rapid7 แจ้งข้อบกพร่องแก่ Fortress จากนั้นจึงเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อบริษัทไม่ตอบสนองหลังจากผ่านไปแล้วสามเดือน สำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนของ Fortress เรียกคำกล่าวอ้างของช่องโหว่ในระบบ S03 ว่า "ไม่จริง เป็นการทำให้เข้าใจผิดโดยจงใจ และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง" โดยไม่ระบุว่าเหตุใดจึงไม่จริง หรือ Fortress ได้แก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechCrunch