ก่อนอื่นต้องบอกก่อนสำหรับผู้ที่อาจยังไม่ทราบนะครับว่า ไอ้ทีเราเรียกว่ายานอนหลับที่รู้จักกันนี่ ส่วนใหญ่มันเป็นยาที่เขาคิดขึ้นมาเพื่อรักษาคนป่วยที่มีภาวะทางจิต อย่างซึมเศร้า วิตกกังวล หรือโรคตื่นตระหนก (pannic) เป็นต้น แต่ผลของยาอย่างหนึ่งก็คือมันช่วยให้เรานอนหลับได้ คอนเซปต์ง่าย ๆ ก็คือเราจะนอนหลับได้ เราก็ต้องผ่อนคลายก่อนถูกไหมครับ ยาพวกนี้มันจะช่วยให้ผ่อนคลาย แล้วก็นำไปสู่การนอนหลับ ดังนั้นมันจึงถูกนำมาใช้ช่วยในการรักษาคนที่มีอาการนอนไม่หลับ ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่ามีคนป่วยเป็นโรคนี้กันเยอะมาก จากช่วงที่ตัวเองมีปัญหาการนอนหลับมาก ๆ นี่แหละครับ เพราะค้นหาข้อมูลเรื่องนี้เยอะ
จากการค้นคว้าของตัวเอง ก็ทำให้ได้ไปเจอช่อง Youtube ของคุณหมอธนีย์ (Dr. Tany) ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับยานอนหลับในกลุ่มที่มักจะถูกนำมาใช้กัน ซึ่งยานอนหลับในกลุ่มนี้ปัญหาอันหนึ่งของมันก็คือ ถ้าเราใช้มันเป็นหลักต่อเนื่องกันเพื่อช่วยให้เรานอนหลับ โดยไม่คิดจะหาต้นตอสาเหตุของปัญหา มันจะติดได้ง่ายมาก คือถ้าไม่กินก็นอนไม่หลับ และอาจจะต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ถ้ากินไปนาน ๆ ก็จะมีผลกระทบกับสมองด้วย ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็ดูวีดีโอของคุณหมอได้เลยครับ
ยาที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ก็อยู่ในกลุ่มยาที่คุณหมอพูดถึงด้วยนะครับ และคุณหมอได้มีคลิปเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับข่าวแพทย์หญิงรพ.ตำรวจด้วยนะครับ ถ้าสนใจก็เข้าไปดูกันได้
พวกยานอนหลับเหล่านี้จะต้องถูกสั่งโดยแพทย์นะครับ หรือบางตัวอาจจะสั่งโดยเภสัชกรได้ เราจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาซื้อเองตามชอบไม่ได้นะครับ ผิดกฎหมาย โดยหมอ หรือเภสัชกรที่มีความรับผิดชอบ จะเตือนเราก่อนเสมอนะครับว่าให้กินเท่าที่จำเป็นจริง ๆ คือถ้าพอจะนอนหลับได้เอง ก็พยายามนอนไปก่อน และหมอจะสั่งปริมาณไม่เยอะนะครับ ประมาณ 10 เม็ด อะไรแบบนี้ คือให้เราไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ถ้า 10 เม็ดยังไม่หาย ก็ต้องมารักษา หาสาเหตุกันจริง ๆ จัง ๆ แล้ว
คราวนี้มาดูกันครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงต้องมากินยานอนหลับ ต้องบอกว่าปี 2025 นี้เป็นปีที่ไม่ดีของผมเลย ด้านสุขภาพ คือผมมีอาการไอมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว พอเริ่มต้นปีมามันก็ยังไออยู่ และหลังปีใหม่ไม่กี่วัน ผมมีอาการแน่นท้อง ชนิดที่ว่าล้มตัวลงนอนไม่ได้เลย เลยต้องเข้ารพ. ซึ่งผลจากการเข้าโรงพยาบาล เป็นอะไรมากกว่าที่ผมคาดไว้ครับ คือหนึ่งผมมีอาการปอดอักเสบ สองจากการทำ CT Scan พบนิ่วในถุงน้ำดี และอาการจุกเสียดแน่นท้องนี้อาจมาจากนิ่วนี่แหละ
แต่ผมจะยังผ่านิ่วไม่ได้ ถ้าไม่รักษาอาการไอ อาการปอดอักเสบให้หายก่อน ผมต้องกินยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาปอดอักเสบนี่เป็นเวลาสองเดือนครับ ปัญหาที่เกิดกับผมก็คือ ด้วยอาการปวดแน่นท้องที่เกิดเป็นช่วง ๆ นี่ มันทำให้ผมเรียกว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ แล้วยังมีอาการไอมารบกวน กลางคืนนอนไม่หลับ พอเช้าตื่นขึ้นมา ยังมีอาการแน่นท้องคลื่นไส้อีก เรียกว่าทรมานมาก
ก็กลับไปหาคุณหมอที่รักษานิ่ว ซึ่งคุณหมอก็ยังยืนยันว่าผ่าไม่ได้ เพราะถ้าผ่า แล้วปอดผมไม่ปกติ มันมีความเสี่ยงมาก และคุณหมอมองว่าเคสของผมมันยังรอได้ไม่ต้องรีบผ่า ก็ให้ยาแก้คลื่นไส้อีกตัวมาแทน และพอผมปรึกษาว่าผมนอนไม่ได้ คุณหมอก็สั่งยากลุ่มยานอนหลับตัวหนึ่งมา 10 เม็ด และก็บอกว่าให้กินเท่าที่จำเป็นนะ
กลับมาบ้านกินเข้าไปหนึ่งเม็ด หลับสบายมากในรอบหลายวันครับ รู้สึกดีใจ และตื่นมาด้วยความสดใสที่เราได้หลับเต็มที่ อาการปวดแน่นท้องมันมันก็ดูดีขึ้นในตอนเช้า แต่พอตกบ่ายมันก็กลับมาอีกนะครับ แต่ก็ยังดีคือมีช่วงดี ๆ ให้พัก ให้ได้ทำงานแบบไม่ทรมานบ้าง
ตอนนั้นผมยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับยานอนหลับเลยนะครับ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นอาจารย์ ก็เลยอยากค้นดูสักหน่อยว่ายาที่เรากินเข้าไปมันคืออะไร และมันทำงานยังไง ก็เจอข้อมูลเยอะมาก และที่ชัดเจนที่สุดก็คือของคุณหมอธนีย์ ก็เลยรู้ว่าคุณหมอที่รักษานิ่ว ได้พยายามสั่งยาตัวที่น่าจะเบาที่สุดแล้ว และโดสน้อยที่สุดแล้ว แต่ถ้ากินไปเยอะ ๆ มันก็ติดอยู่ดี
คืนถัดมาผมก็เลยลองไม่กินดู ปรากฎว่านอนไม่ได้เหมือนเดิม คืออาการไอ อาการแน่นท้องนี่มันยังอยู่ คืออย่างที่บอกไปแล้วนะครับ ยากลุ่มนี้มันทำให้เราผ่อนคลาย ผมวิเคราะห์ว่า อาการของผมมันน่าจะเกิดจากการที่อวัยวะในช่องท้องของผมนี่ มันน่าจะมีอาการบีบเกร็ง จนทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง ประกอบกับการไอด้วย ซึ่งยาที่กินเข้าไป มันน่าจะทำให้อวัยวะของเราไม่บีบเกร็งด้วย เราก็เลยนอนหลับ
พวกเราหลายคนน่าจะเคยมีอาการนอนไม่หลับกันบ้างใช่ไหมครับ แน่นอนว่าวันถัดมามันก็จะไม่สดชื่น อาจง่วง ๆ มาก แต่ก็ยังไม่เป็นอะไรมากนักใช่ไหมครับ ถ้ามันอดนอนแค่คืนเดียว หรือสองคืน แต่สำหรับผมมันทรมานมากครับ เพราะผมมีอาการปวดท้องคลื่นไส้อยู่แล้ว ยิ่งกลางคืนไม่ได้นอน ก็ทรมานทั้งคืน แล้วยังมาต่อด้วยทรมานทั้งวันอีก
สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้กินยาต่อเนื่องกันไปเพื่อให้มันนอนหลับ แต่ด้วยการกลัวว่ามันจะติดยา ก็เลยโทรไปที่รพ. เพื่อขอนัดคุณหมอเรื่องนอนไม่หลับโดยตรง ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันเป็นปัญหาประการหนึ่งนะครับ เพราะพอเราแจ้งอาการไปปุ๊ปว่านอนไม่หลับ เจ้าหน้าที่จะคิดถึงแต่คุณหมอจิตเวช เพราะอย่าที่บอกไปแล้ว ยานอนหลับจริง ๆ แลัว มันคือใช้ผลของยาด้านจิตเวช และคิวของหมอจิตเวช นี่นานมากครับ อย่างผมเมื่อโทรไปนัดนี่คือคิวเร็วที่สุดคือ 3 เดือน ซึ่งผมก็ต้องทำนัดไป
จริง ๆ ผมมาค้นคว้าทีหลังนะครับว่า คุณหมออายุรกรรมประสาท ก็สามารถที่จะรักษาการนอนไม่หลับที่เพิ่งเริ่มได้ และถ้าหมอวิเคราะห์แล้ว ไม่เกี่ยวกับอาการทางจิตเวช คุณหมอในกลุ่มนี้ก็นาจะรักษาได้ และการรักษาโรคนอนไม่หลับถ้าไม่เกี่ยวกับจิตเวช อีกอันหนึ่งที่ทำได้ก็คือการปรับพฤติกรรมการนอน
ซึ่งผมก็ได้ใช้การปรับพฤติกรรมการนอนของตัวเองด้วยนะครับ คือต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนที่มีความสุขเรื่องการนอนมาก คือนอนเมื่อไหร่มันก็หลับ ดังนั้นก็จะเข้านอนตามใจชอบ บางทีก็หลับเร็วหน่อย แล้วตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมาดูบอล บางคืนทำงานดึกถึงตีหนึ่งตีสอง หรือบางทีตีสี่เข้านอนก็มี ซึ่งช่วงหลัง ๆ ทำงานไม่ทัน ก็จะนอนดึกมากขึ้น เรียกว่าหลับเที่ยงคืน หรือตีหนึ่งตีสองเป็นปกติ และนี่น่าจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งนอกจากกอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ
ดังนั้นผมก็กินยา และปรับพฤติกรรมการนอนไปพร้อม ๆ กัน แต่มันก็ไม่ได้เห็นผลทันใจ นะครับ คือผมกินยาติดกันไปสักสองคืน ผมก็ลองหยุดกินดู แต่มันก็ยังนอนไม่หลับ และมันก็ทรมานเหมือนเดิม ผมก็เลยพยายามนัดกับคุณหมอจิตเวชอีกโรงพยาบาลหนึ่ง (ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องหมออายุรกรรม) ซึ่งอันนี้เร็วขึ้นหน่อยคือหนึ่งเดือน ก็เลยนัดไว้ก่อน
ช่วงนั้นมีนัดกับคุณหมอรักษานิ่วอีก ก็เลยขอให้คุณหมอลองสงต่อคุณหมอจิตเวช ที่ต้องรอสามเดือน เผื่อถ้ามีการส่งต่ออาจเร็วขึ้น คุณหมอก็พยายามส่งต่อให้ แต่ปรากฎว่าไม่ได้ ก็ต้องรอสามเดือนหมือนเดิม ก็เลยขอคุณหมอช่วยจ่ายยาช่วยนอนหลับมาให้ก่อน บอกคุณหมอว่าไม่ได้กินทุกวัน พยายามหยุดกินแล้ว แต่ถ้ามีวันไหนต้องทำงาน ก็จะกินคืนก่อนหน้านั้น เพราะถ้าไม่ได้นอนมันทำงานไม่ได้ ซึ่งคุณหมอก็จ่ายมาให้อีก 20 เม็ด
ผ่านมาหนึ่งเดือนก็ได้เวลานัดเจอกับจิตแพทย์ที่นัดไว้ของอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมก็ได้ดูคลิปของคุณหมอธนีย์ เกี่ยวกับยานอนหลับในกลุ่มที่จะไม่ทำให้เราติดยา ตามคลิปนี้เลยครับ
แต่มันก็มีปัญหาของมันเหมือนกันนะครับ และมีราคาค่อนข้างแพงด้วย
ผมก็เลยว่าจะลองคุยกับคุณหมอเรื่องถ้าผมจะกินยาตัวนี้แทนดีไหม ปรากฎว่าผิดหวังมากครับ คือคุณหมอมองว่าที่ผมเป็นนี่มันจิ๊บจ๊อยมาก เดียวพอรักษานิ่วหายมันก็หายไปเอง แล้วก็ให้ยาตัวเดิมที่ผมเคยได้จากคุณหมอรักษานิ่วมานั่นแหละครับ แล้วให้มา 30 เม็ด ซึ่งผมก็ประหลาดใจมาก คือเขาไม่คิดว่าผมจะติดยาเลยหรือ แล้วไม่นัดดูอาการต่อด้วยนะครับ
เมื่อเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องใช้วิธีเดิมครับ คือพยายามไม่กินทุกวัน แต่คนเรายังไงมันก็ต้องทำงานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วันนะครับ ถ้าไม่กินเลยแล้วไม่ได้นอนมันทำงานไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราเป็นโรคอยู่ แล้วร่างกายไม่ได้พักผ่อนมันก็ไม่หาย
ดังนั้นสัปดาห์หนึ่งก็ต้องกินประมาณสามวันถึงสี่วัน แต่สิ่งที่ผมสังเกตดู บางคืนมันเริ่มไม่ได้ผลเหมือนเดิมนะครับ แต่ผมก็ไม่ปรับยาเองนะครับ คือถ้าค้นในเว็บเขาบอกว่าเราเพิ่มโดสได้ถ้าต้องการให้นอนหลับเขาจะใช้โดสนี้กัน แต่ผมไม่เพิ่มครับ หลับก็หลับ ไม่หลับก็ทนเอา
แต่เมื่อร่างกายได้พักผ่อน และยารักษาโรคได้ผลอาการไอมันก็เริ่มหาย อาการปวดแน่นท้องมันก็ดีขึ้นด้วย แต่ก่อนที่ต้องกินยาแก้จุกเสียดแน่นสามเวลาก่อนอาหาร ก็เหลือมื้อเดียวก่อนอาหารเย็น ดังนั้นถ้าคืนไหนอดนอน ตื่นมาความทรมานมันก็เริ่มน้อยลง ดังนั้นถ้าคืนไหนไม่หลับ มันก็ไม่ทรมานเหมือนเดิมแล้วครับ ก็แค่ง่วง ๆ
เมื่อครบสองเดือนของการรักษาปอด อาการไอไม่มีแล้ว อาการแน่นท้องไม่มีแล้วแล้ว ผมก็ลดลงอีก เหลือสัปดาห์ละสองวัน หรือหนึ่งวัน ซึ่งถ้าไม่กินการนอนมันก็ยังไม่ปกตินะครับ คือมันอาจจะหลับได้ แต่ตื่นมากลางดึก แล้วหลับต่อยาก หรือบางทีก็หลับยาวแต่ไปไม่สุดทาง คืออาจจะตื่นมาสักตีห้า แทนที่จะเป็นหกโมงอย่างที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ (ที่แย่ ๆ คือบางคืนตีสาม แล้วหลับต่อไม่ได้) แต่ผมว่ามันก็เริ่มดีขึ้น และต่อให้อดนอนบ้าง แต่ถ้าร่างกายเราแข็งแรงมันก็ยังทำงานได้ แล้วคืนถัดไปมันก็เหมือนนอนชดเชยกัน
สุดท้ายก็ได้เจอหมอจิตเวชที่รอมานานสามเดือนซะที ก็เล่าอาการต่าง ๆ ให้ฟัง ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าผมปฏิบัติตัวถูกแล้ว แต่กว่าที่จะได้เจอคุณหมอนี่ผมก็กินยามาสามสิบกว่าเม็ดแล้ว ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันอาจติดแล้วก็ได้ เพราะถ้าไม่กินมันก็ยังนอนไม่ดีอยู่ คุณหมอก็เลยสั่งยากลุ่มที่ไม่ติดให้ และให้กินคู่กับตัวเดิมไป แต่ลดปริมาณลง โดยอาจจะกินตัวเดิมวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน (ซึ่งจริง ๆ ผมก็ไม่ได้กินทุกวันอยู่แล้ว) โดยคุณหมอคิดว่าสาเหตุหนึ่งที่นอนหลับไม่ดีมันอาจมาจากความเจ็บป่วย (นิ่ว) ด้วย ถ้าจัดการตรงนี้ได้อาจดีขึ้น
ซึ่งเมื่อผมลองมากินดูตามที่หมอบอก ก็ดีขึ้นบ้างนะครับ แต่มันก็ยังตื่นกลางดึก แต่ก็โอเคหลับต่อได้ดีกว่าตอนไม่กินยา (ในบางคืน) บางคืนก็หลับต่อได้แต่ใช้เวลาหน่อย แต่ก็มีบางคืนมันก็ไม่หลับนะครับ ต่อให้กินยา และก็ยังนอนไม่ได้สุดทางอย่างที่ตั้งใจไว้อยู่ดี
ผ่านไปหนึ่งเดือนไปเจอคุณหมออีกรอบ คราวนี้คุณหมอให้ยากลุ่มเมลาโทนินมาปรับวงจรการนอน ให้วิตามิน B1 มาบำรุงสมอง และให้กินเฉพาะยาตัวที่ไม่ติดในกรณีที่ถ้าคืนก่อนหน้านอนไม่หลับ หรือนอนไม่ดี ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ ไม่กินยานอนหลับเลย กินแต่เจ้าตัวเมลาโทนิน ก็หลับได้ดีขึ้น มีตื่นกลางดึกบ้าง นอนได้ยาวขึ้น แต่บางคืนก็ไม่หลับบ้าง หรือหลับแต่ก็ยังไม่สุดทาง เอาเป็นว่ายังไม่ปกติ แต่ก็ดีขึ้นมาก ตอนนี้บางคืนก็ไม่กินเจ้าเมลาโทนินนี่เลยก็อาการเดียวกัน คือตอนนี้กินกับไม่กิน ก็เหมือนกันแล้ว เอาไว้เจอคุณหมออีกรอบในอีกสามเดือนก็คงต้องถามดู
สิ่งหนึ่งที่ผิดแผนคือ ผมควรจะได้ผ่านิ่วไปแล้วในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่า การกังวลเรื่องนิ่วมีส่วนทำให้ผมนอนไม่หลับไหม แต่ปรากฏว่าคุณหมอขอเลื่อนผ่าไปเป็นเดือนสิงหาคม หลังจากกำหนดที่ต้องพบกับคุณหมอจิตเวชอีก ก็เลยไม่รู้ว่ามันยังไงกันแน่ ไอ้การที่เรากังวลเรื่องนิ่วของเรามันมีผลไหม
อ่านมาตั้งนาน ผมอยากสรุปอย่างนี้นะครับ สำหรับคนที่ต้องใช้ยานอนหลับอยู่ อย่างแรกให้เราตระหนักว่ายาที่ใช้มันมีผลข้างเคียง และเราอาจติดยาได้ ดังนั้นให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ให้หาสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้เรานอนไม่หลับ ปรับพฤติกรรมการนอน และถ้าจำเป็นต้องใช้ยาจริง ๆ เพื่อทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปได้ หรือเพื่อการรักษาโรคของเรา ก็ใช้ไปก่อนครับ อย่าไปเครียดมาก เรื่องการติดนี่มันรักษาทีหลังได้ ถ้าเราตั้งใจจะเลิกใช้มันจริง ๆ
ถ้าไม่จำเป็นอย่าได้พึ่งยานอนหลับเป็นดีที่สุดครับ ถ้าไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร แค่มีพฤติกรรมการนอนไม่ดี ก็ปรับพฤติกรรมการนอนครับ เข้านอน และตื่นให้ตรงเวลา หาเวลาออกกำลังกายบ้าง และที่สำคัญอย่าทำให้การนอนเครียดครับ คือพอไปดูอะไรมาเยอะอ่านอะไรมาเยอะ แล้วก็มาเครียดว่าต้องทำนู่นนี่
สิ่งที่ผมทำคือพยายามเข้านอนให้ตรงเวลา ไม่ต้องสี่ท่ม อย่างที่หลายคนบอก แต่ให้มีเวลาที่จะนอนต่อเนื่องได้สักเจ็ดชั่วโมง อย่างผมนี่ผมตั้งเอาไว้เที่ยงคืน พยายามให้มันง่วงอยากนอนในเวลาใกล้ ๆ เดิมทุกวัน คือสักครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาที่จะนอน ก็ควรพร้อมที่จะนอน พอง่วงปุ๊ปก็เข้านอนเลย ถ้านอนสักครึ่งชั่วโมงแล้วไม่หลับก็ลุกขึ้นมาเดินรอบ ๆ ห้อง หรือเปิดไฟที่มีสีเหลืองอ่านหนังสือที่มันหนัก ๆ หัวครับ ใครไม่มีหาไว้สักเล่มครับ เทคนิคการอ่านกราฟหุ้นก็ได้ครับผมว่าหนักหัวดี มันมีสารพัดรูปแบบ :) แล้วก็พยายามตื่นให้ตรงเวลา ตื่นแล้วก็ออกไปเดินรับแสดงแดดตอนเช้า หาเวลาออกกำลังกาย แต่อย่าออกตอนก่อนนอนนะครับ ประมาณสองชั่วโมงก่อนนอนนี่ไม่ควรออกกำลังกายแล้ว
อีกจุดหนึ่งก็คือ ช่วงที่ผมหาข้อมูลยานอนหลับ ผมเห็นกระทู้ในพันทิพย์หลายกระทู้ ที่มีความพยายามจะหาซื้อยานอนหลับมากินเอง ซึ่งผมแนะนำว่า อย่าทำเลยครับ ให้หมอดูแลดีที่สุด และเพราะความต้องการนี้แหละครับ ที่อาจทำให้หมอที่เป็นข่าวหรืออาจมีหมออีกหลายคนหากินกับตรงนี้ จากที่ผมได้รับยามา ยานอนหลับในกลุ่มที่ติดนี้ เม็ดหนึ่งถ้าสั่งจ่ายจากรพ.ตามปกติถูกมากนะครับ เม็ดละประมาณห้าสิบสตางค์เท่านัั้น แต่พอเอามาขายแบบผิดกฎหมาย ผมก็ไม่รู้ว่าเขาขายกันเม็ดละเท่าไร อย่าไปเสียเงินแพง ๆ แล้วเสี่ยงชีวิตกันอีกเลยครับ
ที่พูดมานี่ผมก็ยังไม่ได้กลับมาปกติ 100% นะครับ เพียงแต่มันดีขึ้นจากอาการหนัก ๆ ที่เป็นเมื่อต้นปีมาก คือตอนนั้นจะเริ่มนอนยังนอนไม่ได้เลย แต่ตอนนี้กลับมาหลับง่ายเหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ว่าจะต้องหาสาเหตุให้ได้ต่อไปว่าทำไมมันยังหลับได้ไม่ดี คือยังตื่นกลางดึก ยังหลับไม่สุดทาง หลังผ่าตัดแล้ว ถ้ายังไม่หาย ก็ว่าจะลองไปเช็คทางฮอร์โมน หรือพวกวิตามินดูบ้างครับ ว่าเราขาดอะไรไหม หรืออาจไปทำ slee test ดู
ขอให้ทุกคนที่หลับดีอยู่แล้วก็หลับดีกันต่อไป ส่วนใครนอนไม่หลับก็ขอให้ดีขึ้นนะครับ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น