#อาทิตย์ติดแอนฟิลด์วันนี้ขอมาสรุปฤดูกาลนี้ของเรา และยินดีกับแชมป์ยุโรปทีมใหม่ครับ เริ่มจากทีมเราก่อนแล้วกันครับ นัดสุดท้ายทั้งสองทีมก็ให้เกัียรติกัน เขาให้เกียรติเราแชมป์ลีก เราให้เกียรติเขาแชมป์เอฟเอคัพ ผมว่าภาพแบบนี้มันหายากนะครับ เพราะโอกาสที่สองแชมป์จะมาเจอกันเองในวันสุดท้ายของฤดูกาลแบบนี้ คงอีกนานกว่าที่จะเกิดขึ้น
ส่วนผลการแข่งขันเรียกว่าเกือบงานกร่อย เพราะเราโดนยิงนำไปก่อน ถ้าแพ้ในบ้านส่งท้ายนี่สำหรับผมมันจะฉลองกันไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนะครับ ดีที่ยังมาตีเสมอได้ทั้งที่เหลืออยู่แค่ 10 คน คือจริง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ซีเรียสกับผลการแข่งขัน แต่ยังไงไม่แพ้ก็ดีกว่าแพ้นะครับ
จริง ๆ ที่ผมกังวลมากกว่าผลการแข่งขันคือการเสียประตูของเราครับ มันเกิดจากการผิดพลาดกันเองอีกแล้ว และมันไม่ใช่เพิ่งมาเกิดหลังจากเราคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่มันเกิดมาตั้งแต่ครึ่งหลังของฤดูกาล ซึ่งถ้ามันทำให้เราพลาดแชมป์นี่คงน่าเสียดายมาก
โชคดีที่ความเสียหายไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น เพียงแต่ทำให้เราคว้าแชมป์ช้าลงเท่านั้น ก็หวังว่าทีมเราจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ในฤดูกาลถัดไปนะครับ เพราะผมเชื่อว่าฤดูกาลหน้าจะหนักหนาสาหัสกว่านี้ เพราะหลายทีมมีฤดูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเองไปแล้ว ฤดูกาลหน้าไมน่าจะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับแมนซิตี้ ถ้าเรายังคงพลาดเองง่าย ๆ แบบนี้ผมว่าเราจะเหนือยมาก
ส่วนที่ต้องชมก็คือความมุ่งมั่นของนักเตะ และความกล้าลุยของอาร์เน่ ที่จัดสินใจถอดกองหลัง ส่งตัวรุก เรียกว่าไม่ยอมแพ้ จะยิงคืนให้ได้ ซึ่งมันก็เป็นดาบสองคมนะครับ เพราะถ้าโดนส่วนแล้วพลาดก็จบ แล้วก็เกือบโดนอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ต้องทำให้กราเฟนเบอร์กต้องเสียใบแดง จากความผิดพลาดของตัวเอง และเขาจะพลาดการลงสนามในฤดูกาลหน้า 1-3 นัด
แต่สุดท้ายสิบคนของเราก็บุกกดใส่พาเลซ ซึ่งเกมแพลนก็คือหวังอุดเอาผลการแข่งขัน แต่สุดท้ายซาลาห์ก็ยิงประตูที่ 29 ในฤดูกาล ตีเสมอให้เราได้สำเร็จ สมกับตำแหน่งรองเท้าทองคำ ซึ่งคลอปป์ที่เข้ามาชมอยู่ในเกมนี้ ก็ลุกขึ้นมาปรบมือดีใจร่วมกับเดอะคอปทั้งโลก ทั้งนักเตะ โค้ช และแฟนบอลคงไม่มีใครอยากแพ้คาบ้านในเกมฉลองแชมป์หรอกนะครับจริงไหม
สุดท้ายก็ได้ฉลองแชมป์กันในสนาม ได้เห็นภาพชูถ้วยแชมป์ลีก ซึ่งต้องบอกว่าผมไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทั้ง ๆ ที่เชียร์มาร่วมสี่สิบเกือบห้าสิบปี เป็นบรรยากาศที่สุดประทับใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ชมอยู่หน้าจอโทรทัศน์นะครับ ถ้ามีโอกาสอยู่ในสนามจริงอาจร้องไห้ก็เป็นได้ ก็หวังว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีสุดท้ายนะ แต่เป็นปีเริ่มแรกของยุคอาร์เน่ ซึ่งจะนำความสำเร็จมาให้เล่าต่อไปอีกหลาย ๆ ปี ถ้าคลอปป์คือบิล แชงค์ลีย์ ผู้วางรากฐาน ก็ขอให้อาร์เน่ คือบ๊อบ เพลสลีย์ ผู้พาลิเวอร์พูลทะยานกวาดแชมป์มากมาย
วันรุ่งขึ้นคือวันแห่ถ้วย ซึ่งผมก็รับชมจาก LFCTV เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมากเช่นกัน มีผู้คนมาร่วมต้อนรับมาร่วมฉลอง สมกับที่เรารอการแห่แบบนี้มาถึง 35 ปี ผมดูอย๋ได้ถึงสักสามทุ่มกว่า ๆ บ้านเรา ก็รู้สึกง่วงมาก ๆ อาจจะด้วยปัญหาสุขภาพ ก็เลยขึ้นไปนอน ก่อนที่จะตื่นเช้าขึ้นมาพบข่าวเศร้าที่มีคนขับรถเข้าไปพุ่งชนคนที่ออกมาร่วมฉลองแชมป์ โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีเด็กอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บนี้ด้วย และมีเด็กคนหนึ่งติดอยู่ใต้ท้องรถ ตอนรถหยุดด้วย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น งานฉลองของเราก็น่าจะสมบูรณ์กว่านี้ มีเพื่อนที่ไปอบู่ในเมืองลิเวอร์พูลโพสต์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีรถเข้าไปได้ เกิดจากการที่ตำรวจทำหน้าที่ไม่ดี แต่จากที่ฟังข่าวอีกทางหนึ่งเหมือนกับว่าตำรวจกำลังเปิดทางให้รถพยาบาลเข้าไป เลยเป็นเหตุให้รถคันนี้ฉวยโอกาสเข้ามา
สรุปภาพรวมของฤดูกาลของเรานะครับ
โดยภาพรวมอันดับหนึ่ง ชนะ 25 เสมอ 9 แพ้ 4 ยิงได้ 86 เสีย 41 ผลต่างประตู 45 แต้ม 84
ดูเฉพาะในบ้านก็อันดับหนึ่ง ชนะ 14 เสมอ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 42 เสีย 16 ผลต่างประตู 26 แต้ม 46
ดูเฉพาะเกมเยือนก็อันดับหนึ่ง ชนะ 11 เสมอ 5 แพ้ 3 ยิงได้ 44 เสีย 25 ผลต่างประตู 19 แต้ม 38
ถ้าไม่ปล่อยจอยหลังคว้าแชมป์สถิติเกมเยือนน่าจะดีกว่านี้ สรุปก็คือเกมในบ้านยังเป็นจุดแข็งของเรา ถ้าไม่พลาดกับฟอร์เรสต์เราจะไม่แพ้ในบ้านเลย เกมเยือนก็ถือว่าโอเค ก่อนคว้าแชมป์แพ้ไปนัดเดียวกับคือแพ้ฟูแล่ม
เราชนะมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง 25 นัด
แพ้น้อยสุดร่วมกับอาร์เซนอล 4 นัด
ยิงได้มากที่สุด 86 ลูก
เสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับสองรองจากอาร์เซนอล 41 ลูก (มาเสียเยอะเพราะพลาดกันเองครึ่งหลังของฤดูกาล)
ซาลาห์คว้าทุกรางวัลในอังกฤษ นักเตะยอดเยี่ยม รองเท้าทองคำ แอสซิสต์สูงสุด
กราเฟนเบอร์ก ได้ดาวรุ่งยอดเยี่ยม
ส่วนเทรนต์ อาเลกซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็ย้ายไปรีอัล มาดริดอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ แต่ข้อดีคือเราก็ไม่ได้เสียฟรี ได้ค่าตัวมาประมาณ 10 ล้านปอนด์ เพราะมาดริดต้องการตัวไปทันทีเพื่อเล่นชิงแชมป์สโมสรโลก ซึ่งก็ต้องชมทีมงานที่ต่อรองมาจนได้ตั้ง 10 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่สามารถย้ายไปแบบฟรี ๆ หลังจบฤดูกาล ต้องของคุณรายการชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย
แต่ในวันที่เทรนต์ประกาศตัวเป็นผู้เล่นของมาดริดอย่างเป็นทางการ ฟริมปงก็ประกาศตัวเป็นสมาชิกใหม่ของเราอย่างเป็นทางการเช่นกัน เรียกว่าเก่าไปใหม่มาทันทีไม่โกง ตอนนี้ก็รอติดตามข่าวของเวียยร์ตซ์ครับ โปรเจกต์ 100 ล้าน+ คนแรกของเรา
ส่วนเมื่อคืนนี้ก็ได้บทสรุปของแชมป์ยุโรปประจำฤดูกาลนี้กันแล้วนะครับ นั่นคือ PSG ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ผมไม่ได้ดูหรอกนะครับ ด้วยปัญหาสุขภาพ แต่จากที่ดูไฮไลต์ ต้องบอกว่าเขาสมควร และเหมาะสมทุกประการ คือเหลือกว่าคู่ชิงคืออินเตอร์ มิลาน ทุกกระบวนท่า
อย่างที่เคยบอกครับผมเชียร์ PSG ให้ได้แชมป์ เพราะถ้าเราตกรอบเพราะทีมแชมป์ก็คงทำให้เสียใจน้อยลงนะครับ :) แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่า PSG เป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบเพลย์ออฟ ส่วนทีมเราเป็นทีมที่ดีที่สุดในรอบลีกเฟส (เราเป็นอันดับหนึ่งรอบนี้) ส่วนจะมีโค้ชคนไหน บอกว่าทีมของเขาดีที่สุดในแชมป์เปี้ยนส์ลีก ก็ปล่อยให้เขาคิดไปนะครับ เสียดายที่เราต้องมาเจอ PSG ในช่วงที่เขาฟอร์มกลับมาพอดี ทั้ง ๆ ที่ในรอบลีกเฟส เขาต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายกว่าจะได้เข้ารอบมา
โอเคครับ ฤดูกาลนี้ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ถึงตอนนี้ก็รอลุ้นว่าเราจะได้ใครมาเสริมเพิ่มอีก เพื่อสู้กันต่อในฤดูกาลหน้า และจะมีใครที่ต้องไปจากเราบ้าง แล้วพบกันในบทความต่อไปของ #อาทิตย์ติดแอนฟิลด์ครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น