วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ใช้ Wi-Fi ที่ใช้กันทั่ว ๆ ไป ช่วยให้หุ่นยนต์มองเห็นและเคลื่อนไหวในอาคารได้ดีขึ้น

indoor-robot
ภาพจาก UC San Diego Jacobs School of Engineering

นักวิจัยจาก University of California, San Diego (UCSD) ได้พัฒนาวิธีการที่ไม่แพงเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์เดินทางภายในอาคารได้อย่างแม่นยำโดยใช้สัญญาณ Wi-Fi "เราถูกล้อมรอบด้วยสัญญาณไร้สายเกือบทุกที่ที่เราไป" Dinesh Bharadia จาก UCSD อธิบาย "ความสวยงามของงานนี้คือการที่เราสามารถใช้สัญญาณที่อยู่ในชีวิตประจำวันเหล่านี้เพื่อทำแผนที่เฉพาะที่ภายในอาคารด้วยหุ่นยนต์"

นักวิจัยได้สร้างเซ็นเซอร์ Wi-Fi จากเครื่องรับส่งสัญญาณที่มีจำหน่ายทั่วไป ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบผ่านสัญญาณความถี่วิทยุ แทนที่จะใช้สัญญาณแสงหรือภาพ ส่งผลให้พวกมันสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมในที่แสงน้อย แสงที่เปลี่ยนแปลง และสภาพแวดล้อมแบบเดิม ๆ 

Aditya Arun จาก UCSD กล่าวว่า "การตรวจจับ Wi-Fi อาจมาแทนที่ LiDAR [light detection and ranging] ราคาแพง และเสริมเซ็นเซอร์ราคาประหยัดอื่นๆ เช่น กล้องในการทำงานนี้"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UC San Diego Jacobs School of Engineering

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เครื่องติดตามที่เหมือนผ้าพันแผลอาจเป็นแสงสว่างให้โรคนอนไม่หลับ

sleet-test-bandage
ภาพจาก  CNN Business

เครื่องติดตามการนอนหลับที่บ้านออกแบบโดย X-trodes สตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอลที่ยึดติดกับผิวหนังเหมือนผ้าพันแผลแบบมีกาวที่มีเซ็นเซอร์เพื่อติดตามการทำงานของกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวของดวงตา และคลื่นสมองในขณะที่ผู้ใช้นอนหลับ 

ตัวติดตามเป็นแบบไร้สายและส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อการวิเคราะห์โดยซอฟต์แวร์ X-trodes พร้อมรายงานผลการทดสอบส่งไปยังแพทย์ของผู้ใช้

อุปกรณ์นี้สามารถลดต้นทุนการทดสอบการนอนหลับได้ 90% โดยไม่จำเป็นต้องให้ช่างเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่ต้องให้ผู้ทดสอบพักค้างคืนในห้องปฏิบัติการ

Ziv Peremen แห่ง X-trodes กล่าวว่าการทดสอบที่บ้านสามารถสร้างผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น คนที่นอนร่วมของผู้ใช้ อุณหภูมิห้อง และเสียงภายนอก

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNN Business

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

วิธีใหม่ในการตรวจจับโปรแกรมเรียกค่าไถ่ได้เร็วขึ้น

laptopp-with-ransomware
ภาพจาก NC State University News

นักวิจัยด้านวิศวกรรมจาก North Carolina State University (NC State) และ Hewlett Packard Enterprise ได้คิดค้นเทคนิคใหม่ที่สามารถตรวจจับโปรแกรมเรียกค่าไถ่ (ransomware) ได้เร็วกว่าระบบก่อนหน้านี้ ระบบที่เรียกว่า Field-Programmable Gate Array-Accelerated XGBoost Inference for Data Centers using High-Level-Synthesis หรือเรียกว่า FAXID เป็นการอิมพลีเมนต์อัลกอริทึม XGBoost โดยใช้ฮาร์ดแวร์ 

นักวิจัยพบว่า FAXID นั้นเร็วกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน XGBoost บนหน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ถึง 65.8 เท่า และเร็วกว่าการใช้งานบนหน่วยประมวลผลกราฟิก 5.3 เท่า 

Archit Gajjar แห่ง NC State กล่าวว่า FAXID สามารถจัดสรรกล้ามเนื้อการประมวลผลของฮาร์ดแวร์ความปลอดภัยเพื่อแยกปัญหา "ตัวอย่างเช่น คุณอาจอุทิศฮาร์ดแวร์คิดเป็นเปอร์เซนต์หลัก ๆ ปริมาณหนึ่งในการตรวจจับโปรแกรมเรียกค่าไถ่ และอีกบางเปอร์เซ็นต์ของฮาร์ดแวร์กับความท้าทายอื่น เช่น การตรวจจับการปลอมแปลง" 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: NC State University News

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ไม้เทนนิสแบบเสมือนใช้แรงอัดอากาศในการสร้างความรู้สึกเหมือนตีลูกจริง


วีดีโอแสดงการทำงานของ AirRacket

นักวิจัยจาก National Taiwan University, University of Waterloo ของแคนาดา และ University of Maryland ได้ร่วมกันพัฒนา AirRacket ซึ่งเป็นตัวควบคุมเสมือนจริงที่ปล่อยอากาศอัดออกมาเพื่อจำลองแรงของลูกเมื่อกระทบกับแร็กเกต

นักวิจัยได้ออกแบบ AirRacket ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์สามมิติ โดยมีกรวยเก็บอาการอากาศที่อัดเอาไว้ แล้วใช้สร้างความรู้สึกว่าลูกกระทบกับแร็กเก็ตด้วยความแรงกว่าที่เป็นจริงถึงสี่เท่า David Swapp จาก University College London แห่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า เสียงและพลังของแร็กเกตช่วยเพิ่มความเหมือนจริงในการเล่นเทนนิส

ผู้เข้าร่วมการทดสอบกล่าวว่าตัวควบคุมทำให้เกมรู้สึกสมจริงมากขึ้น ในขณะที่ความรู้สึกที่ลูกกระทบแร็กเก็ตช่วยให้พวกเขาตีลูกไปยังเป้าหมายได้ดีขึ้น และทำให้เขารู้สึกได้ว่าพวกเขาตีลูกบอลได้ดีเพียงใด 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist


วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

คอนแทคเลนส์อัจฉริยะสำหรับโรคต้อหินสามารถปล่อยยาได้เมื่อจำเป็น

smart-contact-lens
ภาพจาก New Scientist

คอนแทคเลนส์ไร้สายต้นแบบที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น Sun Yat-Sen และ Jinan ของจีนสามารถช่วยรักษาโรคต้อหินได้ด้วยการจ่ายยาโดยอัตโนมัติเมื่อความดันภายในดวงตามากเกินไป 

ชั้นนอกของเลนส์มีวงแหวนของแผ่นทองแดงเล็กๆ ล้อมรอบรูม่านตา ซึ่งจะตรวจจับการเสียรูปของดวงตาที่เกิดจากแรงกดที่เพิ่มขึ้น เสาอากาศที่อยู่ใกล้กับดวงตาส่งข้อมูลนี้ไปยังคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ชั้นในของเลนส์มียา brimonidine ที่ลดความดันไว้ ซึ่งสามารถถูกปล่อยออกมาได้เมื่อได้รับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์

ในการทดสอบกับกระต่าย นักวิจัยพบว่าความดันตาของสัตว์ลดลงประมาณหนึ่งในสามหลังจากสวมเลนส์เป็นเวลา 30 นาที และโดยเฉลี่ยมากกว่า 40% หลังจากสวมใส่เป็นเวลาสองชั่วโมง

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist