วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2565

รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองสามารถถูกหลอกให้เห็นไฟแดงเป็นไฟเขียวได้

street-night
Photo by Tom Hill on Unsplash

นักวิจัยจาก Zhejiang University ของจีนพบว่ารถยนต์ไร้คนขับอาจถูกหลอกให้มองเห็นสัญญาณไฟจราจรสีแดงเป็นสีเขียวได้ นักวิทยาศาสตร์ฉายเลเซอร์ไปที่เซ็นเซอร์ของกล้องห้ารุ่นที่ใช้โดยรถขับเคลื่อนด้วยตนเอง โดยมีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซสองชุดอ่านภาพที่ถ่ายไว้ 

เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 650 นาโนเมตรและความยาวคลื่น 520 นาโนเมตรทำให้ภาพทั้งหมดเป็นสีแดงหรือสีเขียวตามลำดับ ในขณะที่การกะพริบของเลเซอร์ที่ความถี่สูงทำให้เกิดสีในบางส่วนของภาพเท่านั้น การเพิ่มแถบแนวนอนสีเขียวหรือสีแดงทำให้ชุดซอฟต์แวร์ทั้งสองตรวจพบสัญญาณไฟจราจรอย่างไม่ถูกต้องโดยเฉลี่ยว่าเป็นสีเขียว 30%  และสีแดง 86% ของเวลาทั้งหมด ระหว่างกล้องทุกตัว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

เครื่องมือที่อาจทำนายความเสี่ยงของงานคุณจากระบบอัตโนมัติ

robot
Photo by Owen Beard on Unsplash

นักวิทยาศาสตร์จาก Swiss Federal Institute of Technology (EPFL) ในเมืองโลซานน์  และ University of Lausanne ในสวิตเซอร์แลนด์ได้ออกแบบอัลกอริธึมเพื่อทำนายว่าแต่ละอาชีพมีความเสี่ยงจากระบบอัตโนมัติอย่างไร 

ดัชนีความเสี่ยงด้านระบบอัตโนมัติ (automation risk index) หรือ ARI จะตรวจสอบจำนวนข้อกำหนดในรายละเอียดงานที่หุ่นยนต์สามารถทำได้เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ จัดอันดับความสำคัญของทักษะเหล่านี้ และประเมินความสามารถในปัจจุบันของหุ่นยนต์ที่จะทำมัน 

ในการจัดอันดับงาน 967 ตำแหน่งโดย ARI ที่ระบุไว้ในฐานข้อมูล Occupation Information Network นักฟิสิกส์ได้รับการพิจารณาให้เป็นอาชีพที่ปลอดภัยที่สุดจากระบบอัตโนมัติ ในขณะที่พบว่าคนงานบรรจุหีบห่อ และคนงานในโรงฆ่าสัตว์มีความเสี่ยงสูงสุด

นักวิจัยยังได้จัดทำดัชนีความยืดหยุ่นนี้เป็นเว็บไซต์เพื่อผู้ใช้สามารถค้นหาเพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านระบบอัตโนมัติที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน และงานที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ซึ่งใครที่สนใจสามารถทดลองเข้าไปค้นหาดูได้จากลิงก์นี้ครับ https://lis2.epfl.ch/resiliencetorobots/#/

 อ่านข่าวเต็มได้ที่: Silicon Republic

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565

บอทสามารถตรวจพบผู้ใช้ Twitter ที่มีความซึมเศร้า 9 จาก 10 ราย

twitter-bot-depression
ภาพจาก Brunel University London (U.K.)

อัลกอริทึมที่พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Brunel University London และ University of Leicester ในสหราชอาณาจักร สามารถตรวจสอบสภาพจิตใจของบุคคลได้โดยการแยกและวิเคราะห์จุดข้อมูล 38 จุดจากโปรไฟล์ Twitter สาธารณะของพวกเขา

นักวิจัยได้ฝึกอบรมบอทบนฐานข้อมูลสองฐานข้อมูลที่มีประวัติการทวีตของผู้ใช้หลายพันคน และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพจิตของพวกเขา โดยไม่รวมเอาผู้ใช้ที่มีการทวีตน้อยกว่า 5 ทวีต จากนั้นจึงแก้ไขคำที่สะกดผิดและตัวย่อโดยใช้ซอฟต์แวร์ภาษาธรรมชาติ

อัลกอริทึมระบุภาวะซึมเศร้าด้วยความแม่นยำ 88.39% ในชุดข้อมูลหนึ่ง และ 70.69% ในอีกชุดหนึ่ง Abdul Sadka แห่ง Brunel กล่าวว่า "แม้จะไม่ได้แม่นยำ 100% แต่ฉันไม่คิดว่าโซลูชันการเรียนรู้ของเครื่องใด ๆ จะสามารถบรรลุความน่าเชื่อถือได้ที่ระดับ 100% อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณเข้าใกล้ตัวเลข 90 เปอร์เซ็นต์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น”

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Brunel University London (U.K.)

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2565

AI กำลังอธิบายตัวเองให้คนฟัง และดูเหมือนจะได้ผล

linkedin-microsoft-logos
ภาพจาก Reuters

บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลงทุนอย่างหนักในด้านปัญญาประดิษฐ์ที่อธิบายได้ (eXplainable artificial intelligence) หรือ XAI เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปรณรงค์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความโปร่งใสจากการตัดสินใจโดยอัตโนมัติ

ผู้สนับสนุน XAI กล่าวว่าได้ช่วยให้ AI มีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพและการขาย Microsoft เห็นว่ารายรับจากการสมัครสมาชิก LinkedIn เพิ่มขึ้น 8% หลังจากให้บริการซอฟต์แวร์ CrystalCandle แก่ทีมขาย ซึ่งระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงที่จะยกเลิกสมาชิกพร้อมทั้งอธิบายเหตุผล ส่วนผู้ที่ยังคลางแคลงบอกว่าคำอธิบายของ AI ว่าทำไมมันถึงทำนายได้ยังมีความไม่น่าเชื่อถืออยู่มาก 

LinkedIn กล่าวว่าเราไม่สามารถตัดสินความครบถ้วนสมบูรณ์ของอัลกอริธึมได้หากไม่เข้าใจเหตุผล ในขณะที่เครื่องมือเช่น CrystalCandle สามารถช่วยให้แพทย์เรียนรู้ว่าเพราะอะไร AI จึงคาดการณ์ว่าบางคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2565

การท่องเน็ตที่ให้ความรู้สึกทันทีทันใด

microwave-tower
ภาพจาก  Duke Today

นักวิจัยจาก   Duke University, University of Illinois, Yale University, และ ETH Zurich ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้พัฒนาการออกแบบสำหรับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วแสงใน 120 เมืองในสหรัฐอเมริกา แทนที่จะใช้สายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่ฝังไว้คดเคี้ยวไปมาตามพิ้นดิน เครือข่ายจะนำข้อมูลแบบไร้สายผ่านการส่งสัญญาณคลื่นไมโครเวฟ เนื่องจากสัญญาณเดินทางในอากาศเร็วกว่าแสงที่เดินทางผ่านไฟเบอร์ 50%

วิธีการนี้ใช้เครือข่ายที่สร้างขึ้นเองตั้งแต่ต้นปี 2010 ซึ่งช่วยลดเวลาในการส่งข้อมูลระหว่าง Chicago Mercantile Exchange และตลาดหลักทรัพย์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ได้ภายในเสี้ยววินาที นักวิจัยประเมินว่าการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่าย 81 เซนต์ต่อกิกะไบต์ และลดความล่าช้าลงอยู่ใน 5% ของความเร็วที่แสงทำได้ 

อย่างไรก็ตามนักวิจัยบอกว่าไม่ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตมาใช้แบบนี้ได้ทั้งหมด เพราะเอาจริง ๆ แล้วปริมาณข้อมูลในการรับส่งด้วยวิธีนี้ยังเทียบกับวิธีเดิมไม่ได้ มันเหมาะกับงานที่ต้องการการตอบสนองอย่างทันใดเช่นการที่นักดนตรีอาจจะอยู่ห่างกันเป็นร้อยไมล์ แต่เมื่อเล่นเพลงด้วยกันแล้ว เหมือนกับนั่งเล่นอยู่ในห้องเดียวกัน  

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Duke Today