วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2566

อัลกอริทึมช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งบอทส่วนตัวได้อย่างละเอียด

bot
Photo by Kenny Eliason on Unsplash

อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) ที่พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Stevens Institute of Technology, Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ University of California, Berkeley สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ส่วนบุคคลได้โดยลดอินพุตลง 

นักวิจัยใช้อัลกอริทึมเพื่อขอข้อมูลจากเจ้าของหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หลังจากที่บอทล้มเหลวในการทำงาน ซึ่งจะระบุว่าความรู้ใดที่บอทขาดหายไป และเติมเต็มช่องว่างโดยใช้แอปพลิเคชัน visual motor attention agent simulation  ที่พัฒนาโดย  Stanford University

อ่านข่าวเต็มได้ที่: EE Times

วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566

AI ออกแบบหุ่นยนต์ใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นใช้เวลาหลักวินาที

robot
ภาพจาก Northwestern University

ทีมวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์ของ Northwestern University ได้สร้างปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ที่สามารถออกแบบหุ่นยนต์ตั้งแต่เริ่มต้นได้เกือบจะในทันที

นักวิจัยได้สั่งให้อัลกอริทึมออกแบบหุ่นยนต์จากบล็อกที่มีขนาดประมาณก้อนสบู่ ซึ่ง AI สามารถออกแบบได้สำเร็จภายใน 26 วินาที Sam Kriegman จาก Northwestern กล่าวว่า "เราบอก AI ว่าเราต้องการหุ่นยนต์ที่สามารถเดินบนพื้นดินได้ จากนั้นเราก็กดปุ่มและรอรับมัน!" 

อัลกอริทึมทำงานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งไม่ต้องมีประสิทธิภาพสูงนัก ระบบ AI อื่น ๆ มักต้องการซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูง และต้องมีชุดข้อมูลขนาดใหญ่ 

นักวิจัยประดิษฐ์หุ่นยนต์จากพิมพ์เขียวที่ได้จาก AI เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของมันในสภาพการทำงานจริง

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Northwestern Now

วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ข้อมูลอุปกรณ์สวมใส่แสดงการนอนที่ลดลงและกิจกรรมที่นำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด

pregnant
ภาพจาก  Stanford Medicine News Center

นักวิทยาศาสตร์จาก Stanford School of Medicine (Stanford Medicine) และ Washington University ในเมืองเซนต์หลุยส์ เชื่อมโยงการอดนอนและการออกกำลังกายที่ลดลงในระหว่างตั้งครรภ์ ร่วมกับความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด

Nima Aghaeepour จาก Stanford Medicine กล่าวว่า "เราแสดงให้เห็นว่าอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) สามารถสร้าง 'นาฬิกา' ของการออกกำลังกายและการนอนหลับในระหว่างตั้งครรภ์ และสามารถบอกได้ว่าการตั้งครรภ์ยาวนานแค่ไหน"

นักวิจัยขุดข้อมูลจากอุปกรณ์ Actigraphy (ใช้เพื่อประเมินรอบของกิจกรรมและการพักผ่อน) ที่สวมใส่โดยผู้หญิงมากกว่า 1,000 รายในระหว่างตั้งครรภ์ จากนั้นใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงในการนอนหลับและการออกกำลังกาย

พวกเขาพบว่าผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลรูปแบบที่เร็วเมื่อเทียบกับควาเวลาของการตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะคลอดลูกเร็ว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Stanford Medicine News Center

วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หุ่นยนต์อเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนรูปร่างสำหรับผู้ใช้ที่หลากหลาย

Terraflex-robot
ภาพจาก University of Bristol News (U.K.)


หุ่นยนต์รูปทรงสี่หน้า (tetrahedron-shaped) ที่พัฒนาโดยนักวิจัยจาก University of Bristol ในสหราชอาณาจักร มีท่อที่ยืดหยุ่นซึ่งช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง ขนาด และการเคลื่อนไหวตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้

Tetraflex สามารถนำทางในพื้นที่ขนาดเล็กและภูมิประเทศที่ยากลำบาก และสามารถขนส่งสิ่งของที่เปราะบางได้ด้วยการห่อหุ้มสิ่งของเหล่านั้นด้วยลำตัวของมัน

หุ่นยนต์ทำจากท่อนยึด (strut) แบบอ่อนที่ประกอบด้วยยางสุญญากาศที่เชื่อมต่อกับโหนด (node) แข็ง  การเปลี่ยนความดันอากาศในเครื่องสูบลม (bellow) จะควบคุมรูปร่างและขนาดของหุ่นยนต์ และการเปลี่ยนความยาวของท่อนยึดตามลำดับเฉพาะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวประเภทต่าง ๆ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Bristol News (U.K.)


วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ถอดรหัสความซับซ้อนของโรคอัลไซเมอร์

brain
ภาพจาก MIT News

ทีมนักวิจัยจากหลายสถาบันที่นำโดย Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเซลล์ทุกประเภทในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ โดยหวังว่าจะพบเป้าหมายการรักษาใหม่

Manolis Kellis จาก MIT กล่าวว่า "สิ่งที่เราตั้งใจจะทำคือการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการคำนวณและชีววิทยาของเราเข้าด้วยกัน และพิจารณาโรคอัลไซเมอร์อย่างไม่มีอคติในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยใช้ผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน"

ทีมวิจัยทีมหนึ่งให้คำจำกัดความการหยุดชะงักของการแสดงออกของยีนเมื่อโรควิวัฒนาการผ่านการจัดลำดับ RNA เซลล์เดียว โดยใช้เซลล์ 54 ชนิดที่ระบุในตัวอย่างสมองหลังการชันสูตรศพจำนวน 427 ตัวอย่าง

อีกทีมหนึ่งใช้วิธีการ ATAC-Seq บวกกับการจัดลำดับ RNA เซลล์เดียวเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงอีพิจีโนมิก (epigenomic) ของเซลล์ในกลุ่มควบคุม 48 กลุ่มและ 44 คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นหรือระยะสุดท้าย

การตรวจสอบอื่น ๆ มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของ microglia และความเสียหายของ DNA ต่อโรคอัลไซเมอร์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News