ในยุคที่เราใช้เครือข่ายสังคมในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ปัญหาประการหนึ่งก็คือข้อมูลบางอย่างบางครั้งก็ผิดพลาด ไม่ว่าจะผิดพลาดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ และข้อมูลเหล่านี้ก็มักจะถูกส่งกันต่อ ๆ ไปในเครือข่ายสังคมซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความสับสน ดังนั้นนักวิจัยจาก Masdar Institute of Technology และ Qatar Computing Research Institute จึงได้ร่วมมือกันเพื่อที่จะเปิดบริการเพื่อให้ผู้คนในเครือข่ายสังคมได้ช่วยกันตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ซึ่งบริการดังกล่าวคือ verily ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ครับ แรงจูงใจที่จะให้ผู้คนเข้ามาช่วยกันตรวจสอบข่าวสารก็คือ คนที่เข้ามาร่วมตรวจสอบจะได้แต้มครับ ใครได้แต้มมากก็มีชื่อเสียงมาก
ก็หวังว่าบริการนี้จะเปิดให้ใช้กันโดยเร็วนะครับ แต่ผมว่าพวกเราไม่ต้องรอก็ได้ครับ แค่คิดเสียหน่อยเมื่อได้รับข่าวอะไรมาว่ามันควรจะเป็นเรื่องจริงไหม หรือเช็คจากแหล่งข่าวหลาย ๆ แหล่ง อย่าใช้ความเชื่อหรืออคติในการส่งต่อข่าวสารแค่นี้ก็จะช่วยลดการแพร่กระจายของข่าวผิด ๆ หรือข่าวลือทั้งหลายได้ครับ
ที่มา: MIT Technology Review
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social Network แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social Network แสดงบทความทั้งหมด
วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556
โปรแกรมที่ใช้เครือข่าย LinkedIn ในการแนะนำอาชีพ
LinkedIn เป็นเครือข่ายสังคมที่เน้นไปในเรื่องของการหางาน โดยคนที่ใช้เครือข่ายนี้ก็จะโพสต์คุณสมบัติของตัวเองไว้ในเครือข่ายนี้ ซึ่งบริษัทที่ต้องการคนไปทำงานด้วยก็มักจะมาหาข้อมูลจากเครือข่ายนี้ นอกจากประโยชน์จากการหางานแล้ว LinkedIn ยังเปิดโอกาสให้เราได้สร้างเครือข่ายสังคมของคนที่อยู่ในวงการอาชีพเดียวกันได้ด้วย นักวิจัยจาก University of California, Santa Barbara มองเห็นประโยชน์ของการนำข้อมูลจากเครือข่ายนี้ไปใช้ครับ โดยเขาได้พัฒนาโปรแกรมชื่อ LinkedVis ซึ่งจะช่วยแนะนำเส้นทางอาชีพให้กับเรา โปรแกรมนี้ทำงานโดยวิเคราะห์เส้นทางอาชีพของคนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเรา จากนั้นจึงนำผลจากการวิเคราะห์ดังกล่าวมาแนะนำเราครับ ยิ่งไปกว่านั้นโปรแกรมนี้ยังมีความสามารถตอบคำถามประเภทถ้า.... ได้อีกด้วยครับ ตามข่าวยกตัวอย่างว่าโปรแกรมสามารถตอบคำถามเช่น ถ้าฉันกลับไปเรียนต่อป.เอก จะมีโอกาสที่ดีขึ้นไหม? น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ แต่ถ้าอยากใช้โปรแกรมนี้คงต้องรอหน่อยครับ เพราะผู้วิจัยกำลังคุยกับทาง LinkedIn อยู่ แต่ตามข่าวบอกว่าทาง LinkedIn สนใจโปรแกรมนี้มากครับ
ที่มา: New Scientist
ที่มา: New Scientist
วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
หุ่นยนต์ที่จะส่งกลิ่นทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรา
ปกติเรามักจะใช้เสียงเพื่อเตือนเวลาใครพูดถึงเราในเครือข่ายสังคมใช่ไหมครับ แต่คุณ Benjamin Redford เขาใช้กลิ่นในการเตือนครับ โดยเขาได้สร้างหุ่นยนต์ที่เรียกว่า Olly ซึ่งเจ้า Olly นี้จะส่งกลิ่นออกมาทุกครั้งที่มีการอ้างถึงเราทางเครือข่ายสังคมซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ด้วยนะครับว่าเราจะให้ Olly ติดตามเครือข่ายอะไรบ้าง เหตุผลที่เขาสร้างเจ้า Olly ขึ้นมาก็คือเขามองว่าเราใช้สายตาเพื่อดูจอภาพมามากพอแล้ว เราน่าจะใช้ประสาทสัมผัสส่วนอื่นในการติดตามข่าวสารข้อมูลบ้าง ตัวอย่างของผู้ใช้งานเจ้า Olly เช่นพ่อครัวคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกาให้เจ้า Olly ส่งกลิ่น tortilla ซึ่งเป็นอาหารเม็กซิโกประเภทหนึ่งเวลามีคนพูดถึงร้านของเขา และยังมีบริษัทแห่งหนึ่งวางแผนที่จะใช้ Olly ในแผนรณรงค์การตลาดในปีนี้
ถึงตอนนี้หลายคนอาจอยากได้เจ้า Olly มาใช้สักตัวหนึ่งใช่ไหมครับ บางคนอาจถามว่าจะซื้อได้ที่ไหน แต่เท่าที่ผมค้นมาไม่มีขายนะครับ เห็นแต่เว็บที่ให้เราแจ้งอีเมลแสดงความจำนงค์เอาไว้ http://ollyfactory.com/get แต่ถ้าอยากได้ตอนนี้เราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งทางคุณ Benjamin เขาได้ทำเว็บไซต์สอนวิธีสร้าง Olly เอาไว้ครับ ถ้าใครสนใจเชิญเข้าไปดูได้ตามลิงก์นี้ครับ http://ollyfactory.com/instructions ถ้าใครสร้างแล้วประสบความสำเร็จจะสร้างเผื่อผมสักตัวก็ยินดีครับ...
ที่มา: ฺฺBBC News
ถึงตอนนี้หลายคนอาจอยากได้เจ้า Olly มาใช้สักตัวหนึ่งใช่ไหมครับ บางคนอาจถามว่าจะซื้อได้ที่ไหน แต่เท่าที่ผมค้นมาไม่มีขายนะครับ เห็นแต่เว็บที่ให้เราแจ้งอีเมลแสดงความจำนงค์เอาไว้ http://ollyfactory.com/get แต่ถ้าอยากได้ตอนนี้เราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งทางคุณ Benjamin เขาได้ทำเว็บไซต์สอนวิธีสร้าง Olly เอาไว้ครับ ถ้าใครสนใจเชิญเข้าไปดูได้ตามลิงก์นี้ครับ http://ollyfactory.com/instructions ถ้าใครสร้างแล้วประสบความสำเร็จจะสร้างเผื่อผมสักตัวก็ยินดีครับ...
ที่มา: ฺฺBBC News
วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ใช้เครือข่ายสังคมเพื่อแก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับ
นักวิจัยจาก Lincoln University กำลังทำวิจัยที่จะนำเครือข่ายสังคมยอดนิยมอย่าง Twitter และ Facebook มารักษาโรคนอนไม่หลับ โดยในปัจจุบันเขามีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า computer-based cognitive behavioral therapy (CBT) อยู่แล้ว เพียงแต่โปรแกรมดังกล่าวไม่ได้ดึงดูดให้คนไข้เข้ามาใช้เป็นประจำเหมือน Twitter และ Facebook ดังนั้นถ้ามีการพัฒนาโปรแกรมในลักษณะที่เป็นเกมให้เล่นผ่านเครือข่ายสังคมดังกล่าวจะทำให้การรักษาโรคได้ผลดีขึ้น
ที่มา: BBC News
ที่มา: BBC News
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)