![]() |
| Photo by Kelly Sikkema on Unsplash |
ปกติผมไม่เคยคิดรีวิวปีที่ผ่านมาอะไรเลยครับ เพราะชีวิตตัวเองหลังจากผ่านหลักเลขสี่มาแต่ละปีมันก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ได้มีความแตกต่างแต่ปีนี้มันมีอะไรซึ่งทำให้อยากจะรีวิวไว้สักหน่อยครับ
ปี 2568 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ ผมอยากเรียกมันว่าปีแห่งความเจ็บป่วยครับ และมันเป็นความเจ็บป่วยแบบที่มีสัญญาณมาก่อน แต่ผมไม่สนใจมันเองครับ สิ่งที่ร่างกายมันเตือนแต่ผมไม่สนใจ จนมาย้อนกลับไปมองหลังจากป่วยแล้วคือ มันมีคืนที่ผมนอนไม่หลับบ่อยขึ้นครับ และมีบางคืนที่ผมนอนลงบนเตียงแล้วรู้สึกแน่นหายใจไม่ออกต้องลุกขึ้นมาเดินสักพักหนึ่งถึงจะลงไปนอนต่อได้ คือมันไม่ได้เกิดทุกคืนนะครับ แต่มันเกิดขึ้นประมาณเดือนละครั้ง หรือสองครั้ง เดี๋ยวผมจะมาสรุปสาเหตุให้ฟังนะครับว่ามันเกิดเพราะอะไร เรามารีวิวปีนี้ให้เสร็จกันก่อน
ผมเริ่มปีด้วยสิ่งที่ดีนะครับ วันปีใหม่ ลูกชายคนโตกับแฟนเขา พาผมกับภรรยาไปไหว้พระ แล้วก็ไปกินติ่มซำเจ้าดังกัน ซึ่งในวันนั้นผมก็ปกติทุกอย่างยกเว้นเริ่มไอมากขึ้น จนตอนกลางคืนผมมีอาการนอนไม่ได้แน่นต้องลุกมาเดิน แล้วพอลงนอนก็นอนไม่หลับ ก็คิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวกลางคืนก็คงนอนหลับ ตอนเช้าก็มานั่งทำงาน คราวนี้อาการแน่นท้องมันไม่ยอมหายครับ แค่จะนั่งทำงานก็รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว เอาเป็นว่านั่งไม่ได้ครับ ต้องลุกเดินอย่างเดียว แล้วเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน พอรู้สึกง่วงจะล้มตัวลงนอนก็นอนไม่ได้แน่นหายใจไม่ออก
ผมเริ่มรู้สึกว่าน่าจะไม่ปกติแล้ว ก็บอกภรรยาว่าต้องไปหาหมอแล้วละ ภรรยาก็พาไปฉุกเฉินครับ วันนั้นคือวันที่ 2 มกราคม 2568 ครับ จากวันนั้นเป็นต้นมาปีนี้ก็กลายเป็นปีเจ็บป่วยของผมครับ ผมโดนใส่สายสวนผ่านหลอดอาหารเพื่อระบายลมจากกระเพาะอาหาร เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดยใส่สายสวนแบบนี้ เจ็บมากครับ
จากการไปตรวจวันนั้น โดนทำ CT-Scan พบนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งคุณหมอคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมแน่นท้องอึดอัด แต่คุณหมอไม่สามารถผ่าให้ผมได้เลย เพราะผมต้องไปรักษาอาการไอ ซึ่งเกิดจากปอดติดเชื้อให้หายก่อน คุณหมอบอกว่าผ่าไม่ยากใช้ส่องกล้อง แต่ผ่าเลยไม่ได้ถ้าปอดยังมีปัญหา เพราะดมยาสลบไม่ได้
ผมต้องรักษาปอดอยู่สองเดือนครับ กินยาเม็ดใหญ่ ๆ 80 เม็ด ยาอะไรไม่รู้ครับ เม็ดใหญ่เป็นบ้า ขนาดผมเป็นคนกินยาง่ายยังสยอง แล้วช่วงสองเดือนนั้นเหมือนตกนรกครับ เพราะอาการแน่นท้อง คลื่นไส้ เวียนหัวยังคงอยู่เหมือนเดิม นั่งไม่ได้ และนอนไม่หลับ ผมต้องขอนักศึกษาสอนออนไลน์ เพราะไม่กล้าไปสอนในห้องครับ กลัวไปเป็นอะไรหน้าห้อง แล้วเรื่องนอนไม่หลับนี่ เกือบทำให้ผมต้องติดยานอนหลับไปเลยครับ โชคดีที่โลกนี้มีอินเทอร์เน็ตทำให้ผมจากที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย เพราะตัวเองไม่เคยเป็นมีความรู้มากขึ้นอย่างมาก ผมเคยเขียนถึงเรื่องนอนไม่หลับนี้มาแล้วในบล็อกนี้นะครับ ถ้าสนใจไปอ่านกันได้
พอรักษาปอดหาย เดือนมีนาคม อาการคลื่นไส้อะไรมันก็ดีขึ้นนะครับ ก็ไปพบคุณหมอที่รักษานิ่ว เราก็ดีใจกันครับว่าโอเคผ่าตัดได้แล้ว แต่คิวรพ.รัฐนี่มันก็อย่างที่รู้กันแหละครับว่าเป็นยังไง ซึ่งคุณหมอก็พยายามช่วยหาคิวให้ จนได้คิวปลายเดือนพฤษภาคม ก็คือผมรักษาปอดหายมีนาคม ต้องรออีกสองเดือนคือ พฤษภาคม นั่นเท่ากับผมต้องรอไปอีกสองเดือน นั่นคือเร็วสุดเท่าที่คุณหมอช่วยได้ แต่โชคดีครับ อาการแน่นท้องของผมก็ดีขึ้น และผมก็กลับมานอนหลับได้ ถึงมันจะยังไม่เหมือนเดิม แต่ก็นับว่าทรมานน้อยลง และพฤษภาคมก็เป็นช่วงปิดเทอม ผมจะมีเวลาพักหลังผ่าตัดสักหนึ่งอาทิตย์ก่อนกลับไปสอน และผมก็ได้ไปทำพรีแอดมิสชันก่อนผ่าตัดหนึ่งสัปดาห์เรียบร้อย
แต่เรื่องยังไม่จบครับ หลังจากผมไปทำพรีแอดมิสชันได้สองวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากทีมงานของคุณหมอครับ บอกคุณหมอขอเลื่อนผ่าตัด ตอนแรกผมก็ยังนึกว่าเลื่อนไปอีกสักอาทิตย์ แต่ได้คำตอบกลับมาช็อคครับ คือเลื่อนไปเดือนสิงหาคมครับ แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องไปทำพรีแอดมิชชันใหม่แล้ว ช่วงนี้ก็รักษาตัวเองให้ดี ๆ แล้วกัน อย่าปล่อยให้ปอดเป็นอะไรอีก สิงหาคมคือเดือนแปด นี่ผมจะต้องอยู่กับความหวาดระแวงว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหมไปอีกสามเดือน
แต่โชคดีครับ หลังจากผ่านครึ่งปีแรกไปดูเหมือนกราฟชีวิตผมจะกลับมาเป็นปกติ คืออาการแน่นท้อง อึดอัดคลื่นไส้อะไรมันก็ดูเหมือนจะหายไปแล้ว บางครั้งแอบถามตัวเองว่าหรือว่าไม่ต้องผ่าดีไหม แต่พอไปคุยกับคุณหมอซึ่งดูแลด้านสุขภาพอยู่ คุณหมอก็บอกว่าเอาออกไปเถอะ ทิ้งไว้อาการมันจะกำเริบเมื่อไหร่ก็ได้ (คิด ๆ แล้วดีใจที่ผ่าเอาออกครับ เพราะถ้าทิ้งไว้อาจเป็นอย่างหนุ่ม กรรชัย ก็ได้) อาการนอนไม่หลับก็ดีขึ้นจนเกือบปกติ (ยังไม่ปกติเหมือนเดิมหรอกครับ เอาจริง ๆ ถึงตอนนี้ผมก็ว่ามันก็ยังไม่เหมือนเดิม แต่ก็เรียกว่าดีขึ้นมาก ๆ)
เป็นอันว่าเดือนสิงหาคมก็ได้ผ่าครับ และคุณหมอก็เก่งมากครับ ผ่าตัดเรียบร้อย เข้านอนคืนวันพฤหัส ผ่าวันศุกร์ตอนบ่าย วันเสาร์บ่ายได้กลับบ้านครับ อ้อแต่ก็เจอประสบการณ์ต้องสวนปัสสาวะเป็นคร้งแรกในชีวิตเจ็บตัวอีกแล้วครับ บอกตรง ๆ แผลผ่าตัดไม่เจ็บเลย อีสวนปัสสาวะนี่เจ็บกว่ามาก
หลังจากผ่าตัดก็ติดตามอาการมาสองครั้งแล้ว ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังปกติอยู่ครับ อ้อขอแทรกนิดหนึ่ง ช่วงที่ยังมีอาการคลื่นไส้วิงเวียนอยู่ มีนัดทำฟันด้วยครับ แล้วก็ต้องไปหลายครั้งมาก แต่ละครั้งก็ต้องภาวนาขอความเข้มแข็งให้ตัวเองอดทนนอนอ้าปากอยู่บนเตียงหมอฟันได้โดยไม่อาเจียนออกมาซะก่อน เป็นการทำฟันที่ต้องลุ้นและทรมานมากครับ คือปกติเป็นคนไม่กลัวการทำฟันเลยนะครับ แต่ช่วงนั้นพอมีนัดทำฟันที่ไรเครียดทุกที
สรุปก็คือปีนี้ 12 เดือนป่วยไปแปดเดือน ไปหาหมอทุกเดือน บางเดือนสองสามครั้ง ทั้งหมอปอด หมอนิ่ว หมอตรวจสุขภาพ ทำ X-Ray เจาะลือด CT-Scan ทำฟัน และอื่น ๆ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ดังนั้นก็ขอเรียกปีนี้ของตัวเองว่าปีแห่งความเจ็บป่วยแล้วกันนะครับ และมันก็กำลังจะผ่านไปแล้วครับ
ก็ขอขอบคุณ และต้องขอโทษนักศึกษาด้วยที่ช่วงครึ่งปีแรก ต้องเรียนกันแบบออนไลน์เป็นหลัก ขอขอบคูณน้อง ๆ อาจารย์ทุกท่านที่ช่วยรับภาระวิชาสัมมนาแทนให้
ผมขอจบการรีวิวด้วยการมองย้อนไปว่าอะไรทำให้ผมมีอาการนี้ โดยเฉพาะเรื่องการนอนไม่หลับ คือเท่าที่ศึกษามานิ่วมันเกิดจากการกินของเราครับ พวกของมัน ของหวาน ดังนั้นใครที่ยังไม่เป็นลองลดดูนะครับ ส่วนที่เป็นแล้ว สำหรับบางคนมันก็ไม่เคยแสดงอาการนะครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวล แต่ถ้าใครตรวจเจอแล้ว คุณหมอแนะนำให้เอาออก ก็เอาออกเถอะครับ
ส่วนเรื่องการนอนไม่หลับ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตแบบไม่ระมัดระวังในเรื่องการนอนครับ ใช้ชีวิตแบบนี้มานานมาก โดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองแก่ลงทุกวันจนเข้าวัยจะเกษียณแล้ว คือผมจะเข้านอนไม่เป็นเวลา จะนอนดึกหรือบางทีก็เกือบเช้า คือไม่ใช่ทุกวันนะครับ แต่บ่อยมาก
ถามว่าทำอะไรก็บอกว่าส่วนใหญ่คือทำงานครับ คือการเตรียมสอน ถึงแม้ผมจะสอนหนังสือมานานมากแล้ว แต่ผมก็มักจะเตรียมสอนเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ ครับ ยิ่งในสิบปีหลังมานี้เทคโนโลยียิ่งเปลี่ยนเร็ว ยิ่งต้องเตรียมให้ทันสมัย และยังตั้งใจจะทำวีดีโอวิชาที่ตัวเองสอนให้ครบทุกวิชาอีก และก็บ้าเทคโนโลยีทำวีดีโอด้วยครับ อยากทำให้มันดี ๆ แข่งกับพวก Youtuber ทั้งหลาย 55
นอกจากนี้ยังเชียร์ทีมรักลิเวอร์พูลดึก ๆ ดื่น อีก ตีสองตีสามก็ตื่นมาดู บางคืนก็ทำงานจนถึงตีสามได้เวลาดูบอลเลย แล้วมางีบเอาหน่อยหนึ่งแล้วก็ไปสอน เอาเป็นว่าผมนอนไม่เป็นเวลา และประมาทครับ เพราะทั้งชีวิตตัวเองเป็นคนนอนหลับง่าย หัวถึงหมอนตอนไหนก็หลับได้ตอนนั้น นอนสักสองชั่วโมงก็ไปทำงานได้ทั้งวัน แล้วก็ใช้วิธีกลับมานอนชดเชยเอา
ซึ่งนี่แหละครับ ผมว่ามันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมนอนผิดปกติ จนเกือบต้องกินยานอนหลับไปตลอดชีวิต ถ้าไม่ศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองก่อน จนถึงตอนนี้ถึงแม้จะพยายามปรับปรุงแก้ไขยังไง มันก็ยังไม่เหมือนเดิมนะครับ ดังนั้นถ้าใครยังไม่เป็น และมีอุปนิสัยการนอนที่ไม่ดีเหมือนผม ก็ลองตั้งเป็นปณิธานปีใหม่ปีนี้ก็ได้ครับว่าจะปรับปรุงตัวเองเรื่องการนอน
สำหรับผมปีใหม่นี้ก็ตั้งใจว่าจะดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ทำงานให้น้อยลงแต่ให้ได้ผลมากขึ้น และจะเขียนบล็อกคอลัมน์ต่าง ๆ ที่เริ่มไว้ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น #พุธขุดบล็อกเชน #พฤหัสจัดAI และ #sarunitnews ก็จะกลับมาสม่ำเสมอมากขึ้นครับ ก็หวังว่าจะติดตามอ่านกันต่อไปนะครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอสวัสดีปีใหม่ 2569 ครับ ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกคนครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น