วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สวีเดนกลายมาเป็นซิลิคอนวัลเลย์ของยุโรปได้อย่างไร

Sebastian-Siemiatkowski
Sebastian Siemiatkowski ภาพจาก Reuters

Sebastian Siemiatkowski แห่ง Klarna มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทฟินเทคของสวีเดน กล่าวถึงความสำเร็จของเขาที่มีต่อรัฐสวัสดิการของสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายของรัฐบาลในปี 1998-2001 ที่จะมอบคอมพิวเตอร์ให้กับทุกครัวเรือน ในช่วงเวลานั้น โครงการดังกล่าวได้ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตามบ้านจำนวน 850,000 เครื่อง แจกจ่ายให้กับเกือบ 25% ของครัวเรือน 4 ล้านครัวเรือนในสวีเดนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่ออายุ 16 ปี Siemiatkowski เริ่มเขียนโค้ดบนคอมพิวเตอร์ที่ครอบครัวของเขาได้รับมา และมากกว่าสองทศวรรษต่อมา บริษัทรับชำระเงินมูลค่า 46 พันล้านดอลลาร์ของเขากำลังเตรียมที่ออกสู่สาธารณะ ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและผู้ร่วมทุนบางคนกล่าวว่านโยบายคอมพิวเตอร์ การลงทุนในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในช่วงแรกของประเทศ และเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม ซึ่งรวมถึงกองทุนดูแลเด็กฟรีและการประกันรายได้ ช่วยส่งเสริมนวัตกรรม องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาพบว่าสวีเดนมีอัตราสตาร์ตอัพ (startup) สูงเป็นอันดับสาม ซึ่งจัดอันดับโดยใช้สตาร์ตอัพต่อพนักงาน 1,000 คน Sarah Guemouri แห่ง Atomico ตั้งข้อสังเกตว่าสตอกโฮล์มอยู่ในอันดับที่สองรองจาก ซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley) สำหรับยูนิคอร์น (สตาร์ตอัพที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์)

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters


วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564

วิธีการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อทำนายความเสี่ยงของโรคจิตเภทโดยใช้การตรวจเลือด

ภาพจาก Baylor College of Medicine

กลุ่มนักวิจัยที่นำโดย Baylor College of Medicine ใช้วิธีการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อวิเคราะห์บริเวณที่จำเพาะเจาะจงของจีโนมของคนเพื่อพยายามตรวจหาเครื่องหมายอีพิเจเนติก (epigenetic) ของโรคจิตเภท ในการพัฒนาตัวแบบ นักวิจัยใช้ดีเอนเอ (DNA) จากตัวอย่างเลือดเพื่อหาเครื่องหมายอีพิเจเนติกที่แตกต่างกันระหว่างคนที่เป็นจิตเภทกับคนที่ไม่เป็น นักวิจัยได้ระบุบริเวณจำเพาะเจาะจงของจีโนมที่เรียกว่า CoRSIVs (correlated regions of systemic interindividual variation) ที่ซึ่งดีเอ็นเอเมธิลเลชัน (DNA methylation) ซึ่งเป็นเครื่องหมายทั่วไปของอีพิเจเนติก และมีความคงตัวในเนื้อเยื่อของแต่ละคน แต่มีความแตกต่างกันระหว่างคนแต่ละคน ตัวแบบให้ความแม่นยำถึง 80 % ในการระบุผู้ป่วยจิตเภทจากชุดข้อมูลที่เป็นอิสระต่อกัน 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Baylor College of Medicine

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564

คนหนุ่มสาวได้ความรู้จากทีวีไม่ใช่โรงเรียน

programming
Photo by Karl Pawlowicz on Unsplash

การสำรวจคนหนุ่มสาวอายุ 16 ถึง 21 ปี จำนวน 1,000 คนในสหราชอาณาจักรโดยบริษัทที่ปรึกษา Accenture พบว่าภาพยนตร์ ทีวี และโซเชียลมีเดีย—ไม่ใช่โรงเรียน—เป็นแหล่งความรู้หลักเกี่ยวกับอาชีพด้านเทคโนโลยีของพวกเขา โซเชียลมีเดียนำมาเป็นอันดับหนึ่ง (31%) เมื่อเทียบกับผู้ปกครอง (29%) และครู (24%) ในขณะที่ทีวีและภาพยนตร์ถูกอ้างถึง 27% และโรงเรียน 19% ในขณะเดียวกัน 44% ของผู้หญิงบอกว่าพวกเขามีทักษะด้านดิจิทัลที่ดี โดยผู้ชายอยู่ที่ 40% แต่น้อยกว่า 25% มีความมั่นใจในการได้งานด้านเทคโนโลยี ผู้ตอบแบบสอบถามที่สนใจงานด้านเทคโนโลยีกล่าวว่าพวกเขาจะประกอบอาชีพด้านปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์ข้อมูล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นหัวข้อหลัก 3 อันดับแรกในสื่อเทคโนโลยีออนไลน์ในตอนนี้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet


วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564

อัลกอริทึม AI เพื่อประเมินศักยภาพการแพร่กระจายของมะเร็งผิวหนัง

melenoma-cells
ภาพจาก University of Texas Southwestern Medical Center

อัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ใหม่สามารถทำนายมะเร็งผิวหนังที่มีศักยภาพในการแพร่กระจายสูง นักวิจัยจาก University of Texas Southwestern Medical Center (UTSW) ที่พัฒนาอัลกอริทึมนี้ใช้ AI เพื่อระบุความแตกต่างระหว่างภาพของเซลล์มะเร็งผิวหนังที่มีศักยภาพในการแพร่กระจายสูงและต่ำ จากนั้นจึงใช้วิศวกรรมย้อนกลับเพื่อหาว่าคุณสมบัติใดของภาพที่ทำให้เกิดความแตกต่าง พวกเขาสร้างภาพดิบ 1.7 ล้านภาพจากวิดีโอของเซลล์ที่สุ่มจากตัวอย่างเนื้องอกจากผู้ป่วยเจ็ดรายซึ่งมีประมาณ 12,000 เซลล์ Gaudenz Danuser ของ UTSW กล่าวว่า "ตอนนี้เรามีกรอบการทำงานทั่วไปที่ช่วยให้เราสามารถเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อและทำนายกลไกภายในเซลล์ที่ก่อให้เกิดโรคได้"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Texas Southwestern Medical Center

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564

CISA เริ่มโปรแกรมเพื่อสู้กับซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่

ภาพจาก Federal Computer Week

Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Cyber Defense Collaborative (JCDC) ซึ่งเป็นโครงการต่อต้านซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ที่ได้รัยการสนับสนุนด้านการแบ่งปันข้อมูลของทั้งภาครัฐและเอกชน  Jen Easterly ผู้อำนวยการ CISA กล่าวว่าองค์กรดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนากลยุทธ์การป้องกันทางไซเบอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกระหว่างรัฐบาลกลางและพันธมิตรภาคเอกชน หน้าเว็บของ CISA กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานจะทำงานในสำนักงาน JCDC เพื่อเป็นผู้นำในการพัฒนาแผนการป้องกันทางไซเบอร์ของสหรัฐ  ที่รวมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการกับการบุกรุกทางไซเบอร์ เป้าหมายหลักคือการประสานงานกลยุทธ์ภาครัฐและเอกชนเพื่อต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ ในขณะเดียวกันก็วางกรอบ (framework) การโต้ตอบต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น Shawn Henry จากบริษัทผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย CrowdStrike Services กล่าวว่า JCDC "จะสร้างสภาพแวดล้อมการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนากลยุทธ์การป้องกันทางไซเบอร์เชิงรุก และช่วย ประสานงานเพื่อป้องกันและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Federal Computer Week