วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ระบบ AI ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์โรคหัวใจ

ecg
Photo by Tim Cooper on Unsplash

นักวิจัยจาก Technion – Israel Institute of Technology ได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ที่สามารถวินิจฉัยปัญหาหัวใจโดยอาศัยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) หลายร้อยรายการ ระบบ AI ใช้โครงข่ายประสาทเทียมผสาน (augmented neural network) ที่ได้รับการฝึกฝนโดยใช้การทดสอบ ECG มากกว่า 1.5 ล้านครั้งจากผู้ป่วยหลายร้อยคนทั่วโลก ระบบมีความแม่นยำในการอ่าน ECG มากกว่ามนุษย์ และสามารถตรวจจับสภาวะทางพยาธิสภาพที่แพทย์โรคหัวใจที่เป็นมนุษย์ทำไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ระบบสามารถระบุผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง แม้ว่าอาการจะไม่ปรากฏใน ECG โดย AI อธิบายการตัดสินใจของมันโดยใช้คำศัพท์ด้านโรคหัวใจที่เป็นทางการ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Jerusalem Post

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เด็ก ๆ รวบรวมข้อมูลได้อย่างไร

how-children-learn
ภาพจาก Max Planck Gesellschaft (Germany)

นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology (MPI EVA) ของเยอรมนี Massachusetts Institute of Technology และ Stanford University ใช้ตัวแบบคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยระบุวิธีที่เด็กๆ รวมข้อมูลประเภทต่าง ๆ เมื่อเรียนรู้คำศัพท์ ทีมทำการทดลองเพื่อวัดความไวของเด็กต่อแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จากนั้นจึงสร้างอัลกอริทึมเพื่อคาดการณ์กระบวนการรวมข้อมูล เมื่อแหล่งข้อมูลเหล่านั้นถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างมีเหตุผล อัลกอริธึมถือว่าการเรียนรู้ภาษาเป็นการอนุมานทางสังคม ซึ่งเด็กพยายามเรียนรู้ความตั้งใจของผู้พูด แหล่งข้อมูลที่ชัดเจนเชื่อมโยงกับความตั้งใจนี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งสนับสนุนการบูรณาการตามธรรมชาติ ในการแปลงการคาดการณ์ของตัวแบบเป็นการทดลองจริง Manuel Bohn จาก MPI EVA กล่าวว่า "เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ตัวแบบเชิงเหตุผลของการรวมข้อมูลทำนายพฤติกรรมที่แท้จริงของเด็กในสถานการณ์ใหม่เหล่านี้ทำได้เป็นอย่างดี ซึ่งบอกเราว่าเรามาถูกทางแล้วในการทำความเข้าใจจากมุมมองทางคณิตศาสตร์ว่าเด็กเรียนรู้ภาษาอย่างไร”

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Max Planck Gesellschaft (Germany)

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

การใช้ยาปฏิชีวนะในแอฟริกา: การเรียนรู้ของเครื่องกับยาวิเศษ

ePOCT+-using
ภาพจาก Deutsche Welle (Germany)

นักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสและแพทย์ชาวแอฟริกันใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อช่วยให้แพทย์สั่งยาปฏิชีวนะให้เด็กในแอฟริกาน้อยลง หรือเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น นักวิจัยที่เข้าร่วมในโครงการ DYNAMIC ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้ออกแบบเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) ePOCT+ เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง และระบุยาหรือการรักษาที่เหมาะสม นักพัฒนาซอฟต์แวร์กล่าวว่า ePOCT+ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเรียนรู้จากชุมชนท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น Rainer Tan จากศูนย์การดูแลปฐมภูมิและสาธารณสุขของสวิตเซอร์แลนด์กล่าวว่า "เครื่องมือนี้รวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและการเจ็บป่วย ข้อมูลตามฤดูกาล เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้ได้มากเกี่ยวกับประชากรที่เฉพาะเจาะจง" นักวิจัยได้ทำการทดสอบ ePOCT+ ที่สถานพยาบาล 140 แห่งในแทนซาเนียและรวันดา Godfrey Kavishe จากสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติของแทนซาเนียหวังว่าเครื่องมือนี้จะหยุดการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปโดยไม่จำเป็น ซึ่งพ่อแม่บางคนในแอฟริกาเข้าใจผิดว่าเป็น "ยาวิเศษ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Deutsche Welle (Germany)


วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ร้านพิซซ่าแห่งแรกที่จัดการด้วยหุ่นยนต์เกิดขึ้นแล้วในปารีส

pazzi-robot-pizza
ภาพจาก EuroNews

Pazzi ซึ่งเป็นร้านพิชซ่าที่ใช้หุ่นยนต์เต็มรูปแบบแห่งแรกได้เปิดขึ้นในย่าน Beaubourg ของปารีส หลังจากแปดปีของการพัฒนาและการปรับปรุง  พนักงานหุ่นยนต์ของ Pazzi จะดูแลทุกด้านของการเตรียมพิซซ่า ตั้งแต่การสั่งพิซซ่า เตรียมแป้ง ไปจนถึงการเอาพิซซ่าใส่กล่อง Thierry Graffagnino แห่ง Pazzi กล่าวว่าเนื่องจากแป้งพิซซ่ามีความท้าทายเป็นพิเศษในการจัดการ "เราต้องให้หุ่นยนต์มีวิธีการแก้ไขเหล่านี้ด้วยตัวเอง ซึ่งแม้แต่ผู้ผลิตพิซซ่าบางรายยังไม่สามารถจัดการเองได้" Sebastien Roverso ผู้ร่วมประดิษฐ์หุ่นยนต์ของ Pazzi กล่าวว่า "เราอยู่ในกระบวนการที่รวดเร็วมาก ด้วยการควบคุมเวลาที่สมบูรณ์แบบ และการควบคุมคุณภาพ เนื่องจากเรามีความเสถียรที่หุ่นยนต์นำมาให้ และสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมและผ่อนคลาย แนวคิดก็คือการใช้เวลาสักสองสามนาทีที่น่าพึงพอใจในการดูหุ่นยนต์ในระหว่างรอรอพิซซ่า”

อ่านข่าวเต็มได้ที่: EuroNews 

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

หุ่นยนต์จาก MIT ช่วยคนที่เคลื่อนไหวได้จำกัดแต่งตัว

robot-help-dressing
ภาพจาก Engadget

นักวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology ได้ออกแบบอัลกอริธึมเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์แต่งตัวให้มนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประกันความปลอดภัยของมนุษย์โดยพิจารณาความแตกต่างกันของคน ทีมงานปฏิเสธที่จะใช้ตัวแบบเริ่มต้นเพียงรูปแบบเดียว ซึ่งจะทำให้เครื่องเข้าใจปฏิกิริยาต่อตัวแบบเดียวจากความเป็นจริงที่อาจมีตัวแบบได้หลาย ๆ แบบ ซึ่งการทำแบบนี้จะจำลองได้ใกล้เคียงขึ้นว่าคนเราเข้าใจคนอื่น ๆ ได้อย่างไร หุ่นยนต์ช่วยลดความไม่แน่นอนและปรับแต่งตัวแบบเหล่านั้นด้วยการรวบรวมข้อมูลมากขึ้น ทีมงานของ MIT ยังจัดประเภทความปลอดภัยใหม่สำหรับวางแผนจับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการชน หรือทำให้ปลอดภัยในกรณีที่เกิดการชน ดังนั้นหุ่นยนต์จึงสามารถแต่งตัวให้เสร็จเร็วขึ้นได้อย่างปลอดภัย Zackory Erickson แห่งมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าวว่า "งานวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหุ่นยนต์ช่วยเหลือได้หลากหลายกรณี โดยมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดในการทำให้หุ่นยนต์สามารถให้ความช่วยเหลือด้านกายภาพแก่ผู้ทุพพลภาพได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Engadget