![]() |
ภาพจาก MIT News |
อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News
![]() |
ภาพจาก MIT News |
อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News
![]() |
Markus Spiske on Unsplash |
นักวิจัยจาก Proofpoint บริษัท รักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ได้ระบุว่ากลุ่มแฮ็กที่รู้จักกันในชื่อ TA800 กำลังแจกจ่ายมัลแวร์ (malware) ใหม่ที่เขียนด้วยภาษาโปรแกรม Nim เพื่อให้ตรวจจับได้ยากขึ้น มัลแวร์ NimzaLoader ซึ่งเผยแพร่ผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่เชื่อมต่อกับโปรแกรมดาวน์โหลด PDF ปลอม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และสามารถป้อนคำสั่งให้ทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ Sherrod DeGrippo จาก Proofpoint กล่าวว่า“ TA800 มักใช้ประโยชน์จากมัลแวร์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร และนักพัฒนาอาจเลือกใช้ภาษาโปรแกรมที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันเช่น Nim เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากวิศวกรย้อนกลับ (reverse engineer) อาจไม่คุ้นเคยกับโปรแกรมที่เขียนด้วย Nim หรือไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโปรแกรมตรวจจับสำหรับโปรแกรมดังกล่าว ดังนั้นเครื่องมือและแซนด์บ็อกซ์อาจมีปัญหาในการวิเคราะห์ตัวอย่างของพวกมัน"
อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet
![]() |
Project Debater โต้วาทีกับมนุษย์ Credit: Jason Henry/NYT/Redux/eyevine |
อ่านข่าวเต็มได้ที่: Nature
![]() |
Photo: Martin Harvey/Getty Images |
นักวิจัยจาก Nanjing Agricultural University (NAU) ของจีนได้สำรวจการทำฟาร์มอัจฉริยะ รวมถึงเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นรากฐานของมัน และค้นพบปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) ทางการเกษตร ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อความถูกต้องของ IoT ได้แก่ ความเสียหายของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความผิดพลาดของเซ็นเซอร์ในการเพาะพันธุ์สัตว์ปีกและปศุสัตว์ และการบุกรุกระบบควบคุมในเรือนเพาะ Xing Yang จาก NAU กล่าวว่าช่องโหว่ที่ต้องแก้เร่งด่วนที่สุดในการเกษตรอัจฉริยะ เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพเช่นการบุกรุกระบบควบคุมโรงงาน และการระบุตำแหน่งที่ผิดพลาดของอากาศยานไร้คนขับ Yang ยกตัวอย่างพื้นที่ชนบทมีโอกาสอย่างมากที่จะมีสัญญาณเครือข่ายที่ไม่ดี ซึงจะนำไปสู่การได้สัญญาณที่ผิดพลาดจากสถานีฐาน Yang และเพื่อนร่วมงานของเขาเสนอแนะให้ใช้มาตรการตอบโต้เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งรวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจจับผู้ใช้ที่เป็นอันตราย และการประยุกต์ใช้มาตรฐานความมั่นคงในระดับอุตสาหกรรมที่มีอยู่ เพื่อออกแบบกกรอบการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะสำหรับ IoT ทางการเกษตร
อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum
![]() |
ภาพจาก New Atlas |
IBM Research ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI เพื่อพัฒนายาปฏิชีวนะชนิดใหม่ให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และตอนนี้มันได้ผลิตยาที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นยาที่เป็นทางเลือกที่ใช้ได้จริงสองตัวแล้ว การที่ยาแต่ละตัวใช้เวลาผลิตหลายปีเป็นเพราะมันต้องใช้การผสมผสานโมเลกุลเข้าด้วยกัน ซึ่งมีทางเลือกในการผสมแบบนับไม่ถ้วน เพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วชึ้น นักวิจัยใช้ตัวแบบที่เรียกว่า deep generative autoencoder เพื่อตรวจสอบช่วงของลำดับเป๊ปไทด์ (peptide) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟังก์ชันและโมเลกุลที่อยู่ภายในของพวกมัน และมองหาความคล้ายคลึงกับเป็ปไทด์ตัวอื่น ๆ จากนั้นนักวิจัยใช้ระบบ Controlled Latent attribute Space Sampling (CLaSS) เพื่อสร้างโมเลกุลเปปไทด์ใหม่ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตามข้อมูลที่รวบรวมได้โดยตัวแบบ ระบบ AI ระบุ สังเคราะห์ และทดลองกับสิ่งที่น่าจะเป็นเปปไทด์ของยาปฏิชีวนะใหม่ 20 ตัวในช่วง 48 วันซึ่งสามารถผลิตได้ 2 ตัวที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านแบคทีเรีย แบบ Gram-positive และ Gram-negative หลายชนิด
อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Atlas