วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568

คำสั่งบริหารของทรัมป์ห้ามรัฐต่างๆ บังคับใช้กฎระเบียบด้านปัญญาประดิษฐ์ของตนเอง

buildings
Photo by Toomas Tartes on Unsplash

คำสั่งฝ่ายบริหารที่ลงนามเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม โดยประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯ ได้ระงับไม่ให้มลรัฐต่างๆ บังคับใช้กฎระเบียบด้าน AI ของตนเอง และเรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "กรอบการทำงานระดับชาติเพียงหนึ่งเดียว (single national framework)" สำหรับ AI

ทางด้าน David Sacks ผู้รับผิดชอบด้านคริปโทและ AI ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่าคณะทำงานไม่มีแผนที่จะคัดค้านกฎหมาย AI ของมลรัฐทุกฉบับ และจะไม่มุ่งเป้าจัดการกับกฎระเบียบระดับรัฐที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็กและ AI

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNN โดย  Samantha Waldenberg, Hadas Gold และ Clare Duffy

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยของบริษัท AI ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

ืOpen-AI
ภาพจาก Reuters โดย Zaheer Kachwala และ Arnav Mishra

ดัชนีความปลอดภัย AI (AI safety index) ฉบับล่าสุดจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Future of Life Institute พบว่าบริษัท AI ชั้นนำอย่าง Anthropic, OpenAI, xAI และ Meta ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้นใหม่

ผลการประเมินความปลอดภัยระบุว่า ไม่มีบริษัทใดเลยที่มีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงพอในการควบคุมระบบที่มีความฉลาดเหนือมนุษย์ (Superintelligent systems) แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะกำลังเร่งพัฒนาระบบดังกล่าวกันอย่างเต็มที่ก็ตาม

Max Tegmark ประธานของ Future of Life ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "บริษัท AI ในสหรัฐฯ ยังคงถูกกำกับดูแลน้อยกว่าร้านอาหารเสียอีก และพวกเขายังคงเดินหน้าวิ่งเต้น (Lobbying) เพื่อต่อต้านมาตรฐานความปลอดภัยที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters โดย Zaheer Kachwala และ Arnav Mishra

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568

นักวิจัยพบว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์บนไฮเปอร์ไวเซอร์เพิ่มขึ้น

OS
Photo by Claudio Schwarz on Unsplash

นักวิจัยจากบริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย Huntress รายงานว่า Ransomware ที่มุ่งโจมตี Hypervisor มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 3% ของการเข้ารหัสที่เป็นอันตรายทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 พุ่งสูงขึ้นเป็น 25% ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยระบุว่ากลุ่ม Akira ransomware คือผู้อยู่เบื้องหลังกิจกรรมส่วนใหญ่นี้

นักวิจัยกล่าวว่า สาเหตุที่ผู้โจมตีหันมามุ่งเป้าไปที่ Hypervisors นั้น เป็นเพราะระบบเหล่านี้ยังขาดการป้องกันที่เพียงพอ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Register โดย Simon Sharwood

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568

'เจ้าพ่อแห่งปัญญาประดิษฐ์' กล่าวว่า นักเรียนยังคงควรเรียนการเขียนโค้ดต่อไป

Geoffrey-Hinton
ภาพจาก Business Insider โดย Brent D. Griffiths

แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการเขียนโค้ดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ Geoffrey Hinton ผู้ได้รับรางวัล ACM A.M. Turing Award ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า ปริญญาสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) และการเรียนรู้ที่จะเขียนโค้ดนั้นยังคงมีคุณค่า

สำหรับผู้ที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นนักวิจัยหรือวิศวกร AI ระดับสูง Hinton แนะนำให้มุ่งเน้นไปที่การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) แทนที่จะเน้นทักษะเฉพาะเจาะจงที่อาจถูกแทนที่โดย AI ได้

Hinton ยังกล่าวอีกว่า ทักษะบางอย่างจะมีคุณค่าเสมอ เช่น คณิตศาสตร์ (Math), สถิติ (Statistics), ทฤษฎีความน่าจะเป็น (Probability theory) และพีชคณิตเชิงเส้น (Linear algebra)

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Business Insider โดย Brent D. Griffiths

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568

Microsoft ปิดช่องโหว่ไฟล์ทางลัดของ Windows อย่างเงียบ ๆ หลังจากถูกจารกรรมข้อมูลมานานหลายปี

Microsoft
Photo by Simon Ray on Unsplash

Microsoft ได้แก้ไขช่องโหว่ที่สำคัญในไฟล์ทางลัด (shortcut) ของ Windows ซึ่งนักวิจัยจาก Trend Micro ระบุว่าถูกใช้ประโยชน์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล 11 กลุ่ม นับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งรวมถึงกลุ่มจากเกาหลีเหนือ อิหร่าน รัสเซีย และจีน 

ช่องโหว่ดังกล่าวทำให้ไฟล์ทางลัด .lnk ที่เป็นอันตรายสามารถซ่อนเพย์โหลด (payloads) ที่มุ่งร้ายได้ โดยการเติมอาร์กิวเมนต์บรรทัดคำสั่ง (command-line arguments) ที่เป็นอันตรายด้วยช่องว่าง (whitespace) หรืออักขระที่ไม่สามารถพิมพ์ได้ (non-printing characters) 

ด้วยการแก้ไขนี้ คำสั่งทั้งหมดจะถูกแสดงในกล่องโต้ตอบ "Properties" ของ Windows

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Register โดย Carly Page

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สวิตเซอร์แลนด์เตือนไม่ให้ใช้ Microsoft 365 และบริการคลาวด์อื่นๆ เนื่องจากขาดการเข้ารหัสที่เหมาะสม

icons
ภาพจาก TechRadar โดย Craig Hale

Privatim ซึ่งเป็นที่ประชุมของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ (Conference of Swiss Data Protection Officers) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Microsoft 365, Amazon's AWS, และ Google Cloud เนื่องจากบริการเหล่านี้ ขาดการเข้ารหัสแบบ End-to-End ที่แท้จริง (true end-to-end encryption)

Privatim ระบุว่า ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวและเป็นความลับสูงไม่ควรถูกจัดเก็บไว้กับผู้ให้บริการ SaaS ระดับนานาชาติ เว้นแต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นจะได้รับการเข้ารหัสโดยรัฐบาล และผู้ให้บริการถูกห้ามไม่ให้เข้าถึงคีย์ (Keys) การเข้ารหัส

ในทางตรงกันข้าม Proton ของสวิตเซอร์แลนด์ ใช้โครงสร้างพื้นฐานของสวิตเซอร์แลนด์และสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงมีการเข้ารหัสฝั่งไคลเอนต์ (client-side encryption)

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechRadar โดย Craig Hale

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568

รายงานบุคลากรด้านความมั่นคงทางไซเบอร์พบว่าปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะกำลังเลวร้ายลง

cyber-security
ภาพจาก Computing (U.K.) โดย Penny Horwood

รายงาน ISC2 2025 Cybersecurity Workforce Study ซึ่งสำรวจผู้เชี่ยวชาญกว่า 16,000 คนจากทั่วโลก เปิดเผยว่า ในขณะที่การลดงบประมาณและการปลดพนักงานเริ่มคลี่คลายลง แต่ 33% ขององค์กรยังคงมีบุคลากรไม่เพียงพอ และ 29% ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างสำหรับทักษะที่จำเป็นได้ โดยมี 72% ที่ระบุว่าความเสี่ยงของการถูกโจมตีเพิ่มขึ้น

การขาดแคลนทักษะ กลายเป็นข้อกังวลสูงสุดแทนที่จะเป็นจำนวนพนักงาน โดย 88% รายงานเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากช่องว่างทางทักษะ การนำ AI มาใช้กำลังเร่งตัวขึ้น โดยมี 28% ที่ได้รวมเครื่องมือ AI เข้ามาใช้แล้ว และ 69% กำลังศึกษาการใช้ AI ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการทักษะเฉพาะทางและกลยุทธ์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Computing (U.K.) โดย Penny Horwood

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

มาเลเซียเตรียมแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

social-media
Photo by Alexander Shatov on Unsplash

Fahmi Fadzil รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป และกำลังทบทวนกลไกเพื่อนำข้อจำกัดด้านอายุมาใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่ออสเตรเลียกำลังจะปิดบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีในเดือนธันวาคมนี้ และฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เดนมาร์ก และกรีซ ก็กำลังร่วมกันทดสอบต้นแบบของแอปยืนยันอายุด้วย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters โดย Rozanna Latiff และ Stanley Widianto

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568

สหภาพยุโรปอัปเดตแอป Blueprint สำหรับการยืนยันอายุ

teen-phone
ภาพจาก Biometric Update โดย Masha Borak

พิมพ์เขียวแอปพลิเคชันยืนยันอายุฉบับที่สองที่เผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกร้องให้มีการรวม พาสปอร์ตและบัตรประจำตัวประชาชน และ eID เข้าเป็นวิธีการเริ่มต้นใช้งาน (onboarding methods) สำหรับการสร้างหลักฐานยืนยันอายุ และสนับสนุนการใช้งาน Digital Credentials API

พิมพ์เขียวนี้ซึ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์กับ EU Digital Identity Wallets ที่กำลังจะเปิดตัว และจะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเครื่องมือในระดับท้องถิ่นโดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและบริษัทในภาคเอกชนต่อไป

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Biometric Update โดย Masha Borak

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568

พรรคประชาชนทำอะไรก็โดนไม่ทำอะไรก็โดน

#ศรัณย์วันศุกร์ วันนี้ อยากมาชวนฟังเพลงเก่าของวงไมโครสักเพลงครับ มันมีเนื้อท่อนหนึ่งซึ่งเขากัยสถานการณ์พรรคประชาชนในตอนนี้ครับ 

------

 ไม่ทำอะไรก็โดน ถึงจะทำก็โดน

สู้เกินไปก็โดน ถอยเกินไปก็โดน

แล้วยังไงต่อไป แล้วจะเอายังไง

-----

ไปฟังเพลงกันครับ 


สถานการณ์การเมืองวันนี้ ที่น่าสงสารที่สุดนอกจากประชาชนคนไทยแล้ว ก็มีพรรคการเมืองที่ดันชื่อพรรคประชาชนอีกต่างหาก ที่ต้องมารับกรรมกับสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้ก่อขึ้น อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วนะครับว่าแพทองธารถูกคน 9 คน สั่งถอดถอนอกจากตำแหน่งนายก ในคดีคลิปเสียงที่คุยกับฮุนเซน ซึ่งต้องบอกว่าผมก็ไม่พอใจในสิ่งที่แพทองธารทำ แต่ถามว่าเห็นด้วยกับคำตัดสินของคน 9 คนไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ขอไม่พูดอะไรแล้วกันนะครับ เพราะเป็นอีกสิ่งหนึ่งในประเทศนี้ที่แตะไม่ได้ 

จริง ๆ ถ้าแพทองธารตัดสินใจยุบสภาให้ประชาชนตัดสินซะ คือมีสปิริตทางการเมืองซะหน่อย เพราะมันก็มีทั้งคนที่เห็นว่าไม่เป็นไร และคนที่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก ให้ประชาชนตัดสินกันไปเลยว่าประชาชนส่วนไหนที่มากกว่ากัน แต่ก็ไม่ทำ พอมาถึงทางตันถึงจะมาทำ ซึ่งก็เป็นปัญหาอีกว่ารักษาการอย่างภูมิธรรมทำได้ไหม  ซึ่งไปไปมา ๆ ดูเหมือนจะทำไม่ได้

พูดถึงเรื่องนี้ก็ประหลาดดี นี่ถ้าแคนดิเดตนายกที่เหลือมีอันเป็นไปหมด จะทำกันยังไง เป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหามีจุดอ่อนเต็มไปหมด ทำให้ได้รัฐบาลผสม ซึ่งมีความอ่อนแอ เลือกตั้งสว. ก็อะไรไม่รู้ องค์กรอิสระก็แตะต้องไม่ได้ เรื่องคุณธรรมจริยธรรมก็เอามาใช้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องพวกนี้หลาย ๆ ครั้งมันก็คือการตีความ ซึ่งมาตรฐานก็ไม่มี มันแล้วแต่คนเลย บอกว่าปราบโกง ก็ไม่เห็นมันจะปราบอะไร นักการเมืองตัวจริงมาไม่ได้ ก็ส่งเครือญาติมา แล้วตัวจริงก็ยังนั่งบงการอยู่หลังฉาก ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะรัฐธรรมนูญนี้แหละ คนชนะเลือกตั้งไม่ได้เป็นนายก ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีความพร้อมที่สุดในรอบสิบปี น่าจะได้โอกาสมาลองทำงานดู ก็ไม่ได้ทำ แล้วยังเขี่ยเขาออกจากวงไปอีก สุดท้ายก็ได้คนอย่างที่เห็น แล้วก็เป็นปัญหามาถึงตอนนี้ 

ดังนั้นถ้ามีโอกาสจะแก้รัฐธรรมนูญก็ขอร้องอย่าขวางกันเลย เลิกซะทีกับคำว่าฉันโหวตชนะมา ปากบอกว่าไม่ชอบประชาธิปไตย แต่ถ้าชนะฉันเอา อะไรที่เคยรับมาแล้ว ถ้ามันเป็นปัญหาก็ต้องแก้ และการแก้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะแก้เลย ถ้าเขาแก้แล้วไม่พอใจก็ไม่ต้องโหวตรับ แล้วก็ใช้รัฐธรรมนูญเดิมไป ไม่ใช่แหกปากอย่างเดียวว่าฉันโหวตชนะมาอย่ามาแตะนะ     

กลับมาที่ว่าทำพรรคประชาชนถึงกลายเป็นพรรคที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้ก็คือ ทำอะไรก็โดน โหวตให้ฝั่งเพื่อไทยก็โดนด่า โหวตให้ภูมิใจไทยก็โดนด่า อยู่เฉย ๆ แล้วเดี๋ยวเกิดได้ประยุทธ์มาก็โดนด่า คือทำหรือไม่ทำก็โดนจริง ๆ ตรงกับเนื้อเพลงเลย

นอกจากนี้ยังมีคนรู้มากคอยแซะอีกว่าจริง ๆ ไม่อยากให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่หรอก ทำไปอย่างนั้นแหละ และนี่ก็คงเข้าทางคนที่คิดแบบนี้พอดี เพราะเพื่อไทยเสนอว่าถ้าโหวตชัยเกษม ยุบเลย ไม่ต้องรอ 4 เดือน แต่พรรคประชาชนเขาตัดสินใจไปแล้วไง จะให้เขาพลิกไปพลิกมาเหมือนพรรคการเมืองทั่ว ๆ ไปเขาก็คงไม่ทำ

ซึ่งจุดนี้ต้องบอกว่าเพื่อไทยทำตัวเองจนกลายเป็นพรรคการเมืองที่เชื่อถือไม่ได้ เคยไม่รักษาสัญญากับประชาชน (ทั้งประชาชนจริง ๆ และพรรคประชาชน) มาแล้ว ตอนจะข้ามขั้วมา มีคนถามว่าทำไมทำแบบนี้ก็บอกว่าเป็น "เทคนิคการหาเสียง" แล้วตอนนี้ออกมารับปาก ทำไมถึงจะพลิกอีกไม่ได้ ที่มายื่นข้อเสนอว่าจะยุบสภาเลยตอนนี้ มีอะไรที่จะรับประกันว่า จะไม่พูดว่าก็เป็นแค่ "เทคนิคการขอเสียง" ยิ่งนางแบกตัวใหญ่ ออกมาพูดว่า คำพูดที่ออกมาจากปากตัวเอง ไม่ต้องยึดถือ ยึดถือผลประโยชน์มากกว่า ยิ่งสะท้อนความเป็นตัวตนของพรรคนี้เข้าไปใหญ่ 

อีกอย่างข้อเสนอที่บอกจะยุบสภาเลย ก็ออกมาสุดท้าย เหมือนไม่มีทางไปแล้ว ที่เขาเรียกกันว่าเป็นโปรไฟไหม้ คือไม่เคยมาคุยอย่างจริงใจ แคนดิเดตนายกก็ไม่เอามาคุยกับเขา ขนาดตัวแคนดิเดตนายกเองยังออกมาพูดเหมือนกับว่าพรรคก็ไม่เคยติดต่อตัวเองมาด้วยซ้ำ แล้วมันจะให้เชื่อได้ยังไง ถ้าเป็นนิทานอีสป ก็คงเรืองเด็กเลี้ยงแกะนั่นแหละ โกหกจนตอนพูดจริงก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว 

ถ้าต้องการเวลาคุย อยากให้เลื่อนโหวต ในสภาวันนี้ก็ควรจะแสดงพฤติกรรมดี ๆ แต่ที่เห็นคือจะหักอย่างเดียว เอะอะก็จะฟ้องทำการขัดรัฐธรรมนูญ คือเรื่องดีลเหมือนกัน ถ้าโหวตเพื่อไทยไม่เป็นไร ถ้าไปโหวตภูมิใจไทย นี่ผิดมาก เหมือนในพรรคหาทางออกมาแล้วว่าจะมาทางนี้ คือพยายามบอกว่าการทำแบบพรรคประชาชนคือโหวตแล้วไม่ร่วมรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขให้แก้รัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภาในสี่เดือนมันผิดมาก แต่ตัวเองก็ประกาศว่ายอมรับเงื่อนไขพรรคประชาชนทุกข้อเหมือนกัน ถ้าเป็นตัวเองทำได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นทำไม่ได้ ทำแบบนี้เขาคงจะยอมกลับไปเจรจาด้วยหรอก

ส่วนตัวมองว่าที่เพื่อไทยดิ้นมาก ๆ นี่ไม่ใช่เห็นแก่ประเทศชาติหรอกนะ เพราะถ้าเห็นแก่ประเทศชาติคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ แต่ดิ้นเพราะไม่อยากให้ภูมิใจไทยได้อำนาจการปกครอง และก็ที่ด่าพรรคประชาชนแรง ๆ ถึงกับป้ายสีบางเรื่องด้วย ก็เพราะกลัวว่าการทำแบบนี้ของพรรคประชาชนจะทำให้เขาได้คะแนน และจะชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกครั้ง ก็เลยพยายามเอาสิ่งที่เขาทำ และตัวเองก็ยอมรับ แต่พอเขาไม่เลือกตัวเอง ก็เอามาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ ถ้ามันแย่จริงตัวเองจะยอมรับทำไม ทำตัวแบบนี้ ยังหวังจะให้คนอื่นมาไว้ใจตัวเองอีก มีคำกล่าวฝรั่งบอกว่า ถ้าถูกหลอกครั้งที่หนึ่ง  ด่าคนหลอก แต่ถ้ายังถูกหลอกครั้งที่สองก็ด่าตัวเองเถอะ (Fool me once, shame on you; fool me twice, shame on me)  

จริง ๆ ฝั่งภูมิใจไทย ก็เชื่อถือไม่ได้พอ ๆ กันแหละ (เพียงแต่เขายังไม่เคยหลอกครั้งที่หนึ่ง) ไม่ได้ดีกว่าเพื่อไทยหรอก ถ้าไม่ขัดผลประโยชน์กันกับเพื่อไทย ก็คงอยู่กันยาวไปเรื่อย ๆ ไม่เคยแสดงความจริงใจจะแก้รัฐธรรมนูญอะไรหรอก มารับเงื่อนไขก็เพราะอยากเป็นรัฐบาล และตอนนี้ก็เห็นหน้าตาคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีบางคน โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่พลังประชารัฐกับประยุทธ์ แล้วบอกตามตรงว่าเซ็ง นอกจากนี้หลายคนก็มีมลทินติดตัว แม้แต่ตัวว่าที่นายกเองก็ตาม เรื่องคดีฮั้วสว. เรื่องที่เดินเขากระโดง ซึ่งก็หวังว่าพรรคประชาชนจะควบคุมไม่ให้ภูมิใจไทยเข้าไปแทรกแซงได้ 

คือเลือกทางไหนมันก็แย่ทั้งนั้น แต่พรรคประชาชนก็จำเป็นต้องเลือก และเขาก็ได้บอกเหตุผลแล้วว่า ทำไมถึงเลือกภูมิใจไทย หลัก ๆ ก็คือเหตุผลทางจำนวนสส.  คือถ้าเลือกเพื่อไทย เพื่อไทยอาจสามารถรวมจำนวนสส. ให้เกินครึ่งได้ง่ายกว่า และมันเป็นงานถนัดเพื่อไทยด้วย 

ส่วนตัวไม่ชอบภูมิใจไทย และอนุทินมาก ๆ แต่ก็เข้าใจว่าพรรคประชาชนก็ต้องเลือกสักทางหนึ่ง ดังนั้นก็รู้สึกไม่เข้าใจกองเชียร์พรรคเค้าเอง ที่ออกมาร่วมด่าสาดเสียเทเสีย เพราะเลือกทางที่ตัวเองไม่เห็นด้วย จริง ๆ ควรจะรับฟังเหตุผล แล้วก็ติดตามดูว่าทางเลือกนี้มันเป็นยังไง แล้วก็หวังว่าเค้าจะเลือกถูก ส่วนตัวมองว่าเขาแสดงความกล้าตัดสินใจด้วยซ้ำ 

ส่วนกองเชียร์เพื่อไทยจะออกมาด่าก็เข้าใจได้ แต่อยากให้มองตัวเองว่า ที่สถานการณ์มันเดินมาถึงตรงนี้มันก็เกิดจากพรรคเพื่อไทยเองทั้งนั้น แต่อย่างว่าชี้นิ้วโทษคนอื่น มันง่ายกว่าโทษตัวเองอยู่แล้ว     

พรรคประชาชนต้องโดนด่าเพราะสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เขาเป็นพรรคที่ได้ผลเลวร้ายจากรัฐธรรมนูญฉบับบ้าบอนี้ที่สุด ชนะเลือกตั้งก็ไม่ได้เป็นนายก คนดี ๆ เก่ง ๆ ก็ถูกเขี่ยออกจากระบบไปทีละชุด แล้วคนเชียร์รัฐธรรมนูญนี้ ก็แกล้งมองไม่เห็นความไม่ปกติ เพราะมันทำให้ตัวเองที่เลือกตั้งแพ้ แต่คนชนะที่ตัวเองไม่ชอบก็ไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ คนเหล่านี้ต้องให้เหตุการณ์มันเกิดกับพรรคที่ตัวเองเชียร์ก่อนถึงจะเห็นปัญหา 

สรุปพรรคประชาชนไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้เลย มีแต่โดนกับโดน ต่อให้ได้ไปเลือกตั้ง หลายคนบอกว่าเขาได้เปรียบ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ พรรคการเมืองอย่างเพื่อไทย กับภูมิใจไทย จะไม่ร่วมงานกับเขา แต่สองพรรคนี้พร้อมจะกลับมาร่วมมือกันเสมอ พรรคประชาชนถ้าอยากเป็นรัฐบาลจะต้องได้คะแนนพรรคเดียวให้เกินครึ่ง เขาจะได้คะแนนหลัก ๆ จากระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนเขตค่อนข้างยาก สู้บ้านใหญ่ไม่ได้ และคนที่เขาคัดเลือกมาลงเขตก็เป็นสาเหตุด้วย และยิ่งเกิดเหตุการณ์นี้อาจจะมีคนที่ไม่เข้าใจ เลยไม่โหวตให้อีก คือยังไงก็คิดว่าไม่ถึงครึ่ง โอกาสเดียวที่จะได้เป็นรัฐบาลก็ผ่านไปแล้ว คือต้องยอมร่วมรัฐบาลกับอนุทิน แต่จริง ๆ สมมติบอกว่าจะร่วมรัฐบาลด้วย อนุทินอาจไม่เอาก็ได้นะ ทั้งภูมิใจไทย และเพื่อไทย อาจยอมไปเอาประยุทธ์กลับมาก็ได้ 

สรุปโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง และอาจไม่ได้ประโยชน์อะไรมากกกว่าเดิมด้วย ติดแล้วก็เศร้าเนอะ...

ChatGPT จะถูกควบคุมโดยผู้ปกครองหลังจากวัยรุ่นฆ่าตัวตาย

chatGPT
Photo by Levart_Photographer on Unsplash

OpenAI กล่าวว่าจะเปิดตัวฟีเจอร์ควบคุมโดยผู้ปกครองสำหรับ ChatGPT ภายในเดือนหน้า หลังจากมีคดีความที่กล่าวหาว่าแชทบอทดังกล่าวมีส่วนทำให้วัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียปกปิดความคิดฆ่าตัวตายก่อนที่จะจบชีวิตลง

เครื่องมือใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมโยงบัญชี จำกัดการใช้งาน และรับการแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบสัญญาณของความทุกข์ใจอย่างรุนแรง การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการพึ่งพาแชทบอท AI ของวัยรุ่น และสะท้อนให้เห็นถึงข้อถกเถียงในอดีตเกี่ยวกับอันตรายของโซเชียลมีเดีย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Washington Post โดย Gerrit De Vynck

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568

AI ยังไม่พร้อมที่จะเป็นนักเขียนโปรแกรมตัวจริง

programmer
ภาพจาก IEEE Spectrum โดย Rina Diane Caballar

แม้เครื่องมือเขียนโค้ด AI จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านการสร้างโค้ด การแก้ไขข้อผิดพลาด และการปรับปรุงเอกสาร แต่ทีมนักวิจัย Cornell University, Massachusetts Institute of Technology, Stanford University, และ University of California, Berkeley ได้นำเสนอหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า AI ยังไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นนักเขียนโค้ดอิสระอย่างสมบูรณ์

โมเดล AI ในปัจจุบันยังคงประสบปัญหาในการจัดการกับโค้ดขนาดใหญ่ ความซับซ้อนเชิงตรรกะ การวางแผนระยะยาว และงานดีบักที่ต้องใช้ความเข้าใจเชิงบริบทอย่างลึกซึ้ง ข้อผิดพลาดที่ได้รับการบันทึกไว้ได้แก่ การสร้างข้อผิดพลาดแบบภาพหลอน (hallucinated errors) และการแก้ไขที่ผิดพลาด

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum โดย Rina Diane Caballar

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ผู้ปกครองกล่าวหาว่า ChatGPT เป็นผู้รับผิดชอบต่อการฆ่าตัวตายของลูกชายของพวกเขา

open-AI-logo
Photo by Andrew Neel on Unsplash


พ่อแม่ของ Adam Raine เด็กชายวัย 16 ปีที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย กำลังฟ้องร้อง OpenAI โดยกล่าวหาว่า ChatGPT มีส่วนทำให้ลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตจากการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการฆ่าตัวตาย คดีความที่ยื่นฟ้องเมื่อวันอังคารนี้ ถือเป็นคดีแรกที่กล่าวหา OpenAI โดยตรงในข้อหาทำให้เสียชีวิตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

Adam ซึ่งกำลังเผชิญกับความทุกข์จากการสูญเสียคนใกล้ชิด ปัญหาสุขภาพ และความล้มเหลวทางสังคม เริ่มใช้ ChatGPT เพื่อทำงานโรงเรียนในตอนแรก แต่ต่อมาได้ระบายปัญหาด้านสุขภาพจิตกับแชทบอทดังกล่าว คดีความอ้างว่าแชทบอทได้ส่งเสริมความคิดที่เป็นอันตรายแทนที่จะให้การป้องกันที่เหมาะสม “เขาจะยังคงอยู่ที่นี่ ถ้าไม่มี ChatGPT” Matt Raine ผู้เป็นพ่อกล่าว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Time โดย Solcyré Burga

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สร้างวิดีโอไทม์แลปส์ได้ง่าย ๆ

part-of-timelapse-video
ภาพจาก Cornell Chronicle โดย Tom Fleischman

นักวิจัยจาก Cornell University ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนทั่วไปให้กลายเป็นวิดีโอไทม์แลปส์แบบพาโนรามาได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง

โครงการนี้นำโดย Abe Davis ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกมีการล็อกดาวน์จากโควิด-19 โดยมีการรวบรวมภาพถ่ายหลายพันภาพจากสถานที่ในชีวิตประจำวัน 

ทีมวิจัยได้สร้างเทคนิคการจัดเรียงภาพแบบใหม่เพื่อจัดการกับภาพที่ไม่เรียงลำดับเวลาหลายพันภาพ และใช้เทคนิคที่เรียกว่า "time splatting" ซึ่งใช้ข้อมูล GPS ตำแหน่งดวงอาทิตย์ และข้อมูลสภาพอากาศเพื่อสร้างภาพฉากขึ้นใหม่และยังสามารถปรับแสงได้อีกด้วย 

ดูวีดีโอได้จากลิงก์ข่าวเต็มครับ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Cornell Chronicle โดย Tom Fleischman

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568

NIST ร่างแนวทางที่มีจุดมุ่งหมายที่จะปรับปรุงความปลอดภัยในการพัฒนาซอฟต์แวร์

NIST-SSDF
ภาพจาก NIST

National Cybersecurity Center of Excellence (NCCoE) ของ National Institute of Standards and Technology หรือ NIST ร่วมกับองค์กรสมาชิก 14 แห่งในกลุ่ม Software Supply Chain and DevOps Security Practices Consortium กำลังพัฒนาแนวทางสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัย เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งพิเศษของทำเนียบขาวฉบับที่ 14306

ร่างแนวทางดังกล่าวคือ NIST Special Publication 1800-44 ซึ่งได้สรุปแนวทางปฏิบัติระดับสูงของ DevSecOps และมีเจตนาที่จะต่อยอดจาก Secure Software Development Framework (SSDF) โดยขณะนี้เปิดรับความคิดเห็นจากสาธารณะเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าวจนถึงวันที่ 12 กันยายน 2025

อ่านข่าวเต็มได้ที่: NIST

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Tesla ถูกตัดสินว่ามีความผิดบางส่วนในเหตุที่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติชนกันจนมีผู้เสียชีวิต

Tesla
ภาพจาก BBC News โดย  Lily Jamali

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะลูกขุนในรัฐฟลอริดาได้ตัดสินว่า ข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนตัวเองของ Tesla มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุในปี 2019 ซึ่งเป็นเหตุให้หญิงสาววัย 22 ปีเสียชีวิต และอีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส

คำตัดสินนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของบริษัทรถยนต์รายนี้ ซึ่งกำลังทุ่มเทอนาคตส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนารถแท็กซี่ไร้คนขับ หากคำตัดสินนี้ยืนยันตามการอุทธรณ์ Tesla อาจต้องจ่ายค่าเสียหายเชิงลงโทษและค่าชดเชยสูงถึง 243 ล้านดอลลาร์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BBC News โดย  Lily Jamali

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568

เกือบครึ่งหนึ่งของโค้ดทั้งหมดที่สร้างโดย AI มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย

typing-keyboard
ภาพจาก TechRadar โดย Craig Hale

งานวิจัยล่าสุดจาก Veracode ผู้ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยแอปพลิเคชัน เปิดเผยว่า 45% ของโค้ดที่สร้างโดย AI มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย โดยยังไม่พบการปรับปรุงที่ชัดเจนในจุดนี้ จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) หรือ LLM ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือใหม่กว่า

จากการวิเคราะห์โมเดลกว่า 100 โมเดลในงานเขียนโค้ด 80 ชิ้น พบว่า โค้ดภาษา Java ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีอัตราความล้มเหลวเกิน 70% ตามมาด้วย Python, C# และ JavaScript 

รายงานยังเตือนว่า การพึ่งพาการเขียนโค้ดด้วย AI โดยไม่มีการกำหนดมาตรการความปลอดภัยที่ชัดเจน ซึ่งเรียกว่า "vibe coding" อาจเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechRadar โดย Craig Hale

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

หนึ่งในห้าของบทความวิทยาการคอมพิวเตอร์อาจมีเนื้อหาที่สร้างจาก AI

chatGPT
ภาพจาก Science โดย Phie Jacobs 

จากการวิเคราะห์บทคัดย่อและบทนำของบทความกว่า 1 ล้านชิ้นในวงกว้าง โดยนักวิจัยจาก Stanford University และ University of California, Santa Barbara พบว่า เกือบหนึ่งในห้าของบทความวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ตีพิมพ์ในปี 2024 อาจมีข้อความที่สร้างขึ้นโดย AI

ผลการศึกษาพบว่า ณ เดือนกันยายน 2024 บทความวิทยาการคอมพิวเตอร์ถึง 22.5% แสดงร่องรอยการได้ข้อมูลมาจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language models) เช่น ChatGPT 

นักวิจัยใช้การสร้างตัวแบบทางสถิติเพื่อตรวจจับรูปแบบคำศัพท์ทั่วไปที่เชื่อมโยงกับงานเขียนของ AI

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Science โดย Phie Jacobs

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

นักวิจัยเลี่ยงลายน้ำป้องกัน Deepfake บนรูปภาพที่ถูกสร้างด้วย AI ได้สำเร็จ

U-Of-Waterloo
ภาพจาก  CBC News (Canada) โดย Anja Karadeglija

นักวิจัยจาก University of Waterloo ในประเทศแคนาดา ได้พัฒนาเครื่องมือที่สามารถลบลายน้ำ ที่ระบุว่าเนื้อหานั้นถูกสร้างขึ้นโดย AI ได้อย่างรวดเร็ว เครื่องมือ UnMarker ซึ่งสามารถลบลายน้ำ (watermark) ได้โดยไม่ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบที่สร้างลายน้ำนั้นขึ้นมา หรือแม้แต่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวลายน้ำเอง

Andre Kassis จาก University of อธิบายว่า "เราแค่ใช้เครื่องมือนี้ และภายในเวลาไม่เกินสองนาที มันก็จะแสดงผลเป็นภาพที่ดูเหมือนภาพต้นฉบับที่มีลายน้ำทุกประการ" แต่ภาพที่ได้จะไม่มีลายน้ำที่บ่งบอกว่าภาพนั้นสร้างโดย AI อีกต่อไป

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CBC News (Canada) โดย Anja Karadeglija

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

การศึกษาเกี่ยวกับ AI Chatbots ช่วยบำบัด เตือนถึงความเสี่ยงและอคติ

Stanford-University-Campus
ภาพจาก UPI โดย Chris Benson

การศึกษาของ Stanford University ที่ประเมินแชทบอทสุขภาพจิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ห้าตัว พบว่าแชทบอทเหล่านี้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดยแสดงให้เห็นถึงอคติและไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง

ในการทดลองหนึ่ง แชทบอทมีปฏิกิริยาในเชิงลบต่อภาวะต่าง ๆ เช่น โรคจิตเภท และการติดสุรามากกว่าภาวะซึมเศร้า โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) หรือ LLM รุ่นใหม่กว่าก็แสดงอคติที่คล้ายกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าความก้าวหน้าทางเทคนิคยังไม่สามารถลดปัญหานี้ได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UPI โดย Chris Benson