วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เมื่อผมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อสั่งพิมพ์เอกสาร MS Word 23 หน้า

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟังครับ และเผื่อใครเจอเหมือนผมอาจนำไปใช้ได้ เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อ 2-3 วันก่อน ภรรยาของผมก็ได้อีเมล์แนบไฟล์เอกสาร Ms Word ซึ่งมีขนาดประมาณ 2 เมกะไบต์กว่า ๆ มีจำนวนหน้าทั้งหมด 23 หน้า มาให้ผมช่วยพิมพ์ให้จากที่ทำงาน ผมก็แปลกใจนิดหน่อยเพราะที่บ้านก็มีเครื่องพิมพ์จะส่งมาให้ผมพิมพ์ทำไม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากดาวน์โหลดไฟล์มาแล้วผมก็ลองเปิดดูก็ดูปกติดี ก็เลยทิ้งไว้ก่อนเอาไว้พิมพ์ตอนก่อนจะกลับบ้าน พอถึงเวลาที่จะพิมพ์ก็เกิดเรื่องครับคือพอผมสั่งพิมพ์มันไม่พิมพ์ครับ คือเหมือนไม่มีไฟล์อะไรส่งไปที่เครื่องพิมพ์เลย ตอนแรกก็นึกว่าเครื่องพิมพ์มีปัญหา ไปตรวจดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็เลยลองสั่งพิมพ์ไฟล์อื่นดูปรากฏว่าพิมพ์ได้ปกติ ก็เลยลองกลับมาใช้วิธีที่ผมมักจะใช้ได้ผลคือจัดเก็บไฟล์ลงไปเป็นแฟ้มใหม่แล้วลองพิมพ์ดู ปรากฏว่าอาการเหมือนเดิมครับ ก็เลยโทรศัพท์กลับไปหาภรรยา ซึ่งภรรยาก็บอกว่า "ก็มันเป็นแบบนี้ถึงได้ส่งไปให้พิมพ์ให้ไง" พร้อมทั้งกำชับด้วยข้อความห้วนสั้นเรียบง่ายแต่ได้ใจความว่า "พิมพ์มาให้ได้นะ" เอาละซีครับคราวนี้ก็เดือดร้อนละครับ งานเข้าเต็ม ๆ ผมก็เลยลองเข้าไปค้นในอินเตอร์เน็ตดู ก็เจอคำตอบหนึ่งเขาบอกว่า การที่พิมพ์ไม่ออกอาจเป็นเพราะตั้งค่าหน้ากระดาษไม่ถูกต้อง ผมก็เลยไปเปิดดูไฟล์ก็ปรากฏว่าเรียบร้อยดี แสดงว่าไม่ใช่ปัญหา คราวนี้ผมก็เลยลองสั่งพิมพ์ออกมาเป็นไฟล์ .pdf ดู ปรากฏว่าเก่งมากครับ 23 หน้าออกมาได้หนึ่งหน้า ด้วยความที่อยากกลับบ้านเต็มแก่ครับเห็นมันออกมาหนึ่งหน้าใน .pdf ก็เลยลองมั่วดู โดยใช้วิธีสั่งพิมพ์ทีละหน้า ปรากฏว่าหน้าแรกมันพิมพ์ออกครับ ก็ดีใจมาก เอาละแค่ 23 หน้าเอง (ในใจคิดว่าโชคดีที่ไม่ใช่ 100 หน้า) พิมพ์ทีละหน้าก็ยังไหว เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหาสาเหตุกันใหม่ ปรากฏว่าสั่งพิมพ์ทีละหน้าไปได้ 2 หน้าครับ พอถึงหน้าที่ 3 มันไม่พิมพ์ ข้ามไปพิมพ์หน้าที่ 4 มันก็ไม่พิมพ์ หน้าไหน ๆ มันก็ไม่พิมพ์ ก็เลยคิดว่าปัญหาอาจอยู่ที่ 2 หน้าแรก ก็เลยลบมันทิ้งไป แล้วลองสั่งพิมพ์ดูปรากฏว่ามันออกหน้า 3 มาอีกหน้าหนึ่งครับ จากนั้นก็เหมือนเดิมคือไม่ออกอะไรอีกเลย แถมมีอาการหนักขึ้นอีกคือพอสั่งจัดเก็บมันบอกว่าจัดเก็บไม่ได้ไฟล์ไม่ถูกต้อง แล้วก็แฮงค์ไปเฉย ๆ คราวนี้ก็หน้ามืดละครับอยากกลับบ้านก็อยากกลับแต่คำว่า "พิมพ์มาให้ได้นะ" มันยังก้องอยู่ในหู ก็เลยลองนั่งใจเย็น ๆ คิดดูว่ายังลืมอะไรอีกหรือเปล่า แล้วก็คิดได้วิธีหนึ่งครับที่ยังไม่ได้ลอง คือผมก็เอาไฟล์ต้นฉบับที่ภรรยาส่งมาให้ (คือไอ้ที่ผมบอกว่าลองตัดหน้าทิ้งดูอะไรนี่ ผมทำกับแฟ้มที่ผมสำรองขึ้นมานะครับ ดังนั้นถ้าพวกเราจะลองทำอะไรนี่อย่าทำกับต้นฉบับนะครับ) มาจัดเก็บเป็น .rtf ครับ ผมลองตรวจดูขนาดของไฟล์ดูครับ มหัศจรรย์มากจากต้นฉบับ .doc ของภรรยาผม 2 เมกะไบต์กว่า ๆ พอเป็น .rtf มันเป็น 34 เมกะไบต์กว่า ๆ ครับ แต่ตอนนั้นก็ไม่สนแล้วละครับ ลองสั่งพิมพ์ดู โอสวรรค์เบี่ยง เอ๊ย... สวรรค์ทรงโปรด มันออกครับ 23 หน้าครบถ้วนบริบูรณ์ จากนั้นผมก็ลองจัดเก็บจาก .rtf มาเป็น .doc ครับขนาดลดลงเหลือ 2 เมกะไบต์กว่า ๆ เล็กกว่าไฟล์ต้นฉบับเล็กน้อย แล้วลองสั่งพิมพ์เป็น .pdf ดู คราวนี้ปรากฏว่าออกครบ 23 หน้าครับ เฮ้อ... mission complete ครับ หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็กลับบ้านครับ แล้วก็เอาที่พิมพ์ได้ไปให้ภรรยา ซึ่งเธอก็บอกว่า "ขอบคุณค่ะ" แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้วครับ...

2 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องนี้สนุกดีครับ :) อาจารย์เล่าซะเห็นภาพเลย
    แล้วสาเหตุจริงๆนี่คืออะไรเหรอครับ ทำไมพอเปลี่ยนนามสกุลไฟล์เป็น .rtf แล้วถึงปริ้นท์ออกมาได้ แถมขนาดไฟล์ยังเพิ่มขึ้น 10 กว่าเท่า

    ปล.อาจารย์กับภรรยาหวานกันจังครับ :D

    ตอบลบ
  2. ดูสาเหตุได้จากบทความภาค 2 เลยครับ

    ตอบลบ