วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เทศกาลภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่า AI สามารถทำอะไรได้บ้างบนหน้าจอขนาดใหญ่

AI-Film-Festival
ภาพจาก Associated Press โดย Wyatte Grantham-Philips

บริษัทผลิตวิดีโอด้วย AI อย่าง Runway ได้เปิดฉากงานเทศกาลภาพยนตร์ AI ประจำปีที่มหานครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยจัดแสดงภาพยนตร์สั้น 10 เรื่องที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยใช้ AI อย่างน้อยบางส่วน

จำนวนผู้ส่งผลงานเข้าประกวดพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากประมาณ 300 เรื่องในการจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2023 เป็นราว 6,000 เรื่องในปีนี้ 

ผู้สร้างภาพยนตร์ได้รับการสนับสนุนให้ใช้เครื่องมือ AI ของ Runway ในการสร้างสรรค์ผลงาน แต่ก็อนุญาตให้ใช้เครื่องมือ AI อื่นๆ ได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ ภาพยนตร์บางเรื่องยังผสมผสานองค์ประกอบที่สร้างโดย AI เข้ากับภาพและเสียงจริง หรือฉากการแสดงจริงอีกด้วย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press โดย Wyatte Grantham-Philips

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

IBM ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ควอนตัมใหม่ เส้นทางสู่ Quantum Starling

IBM-Quantum
ภาพจาก CNBC โดย Chris Eudaily

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา IBM ได้ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ควอนตัมรุ่นใหม่ Quantum Nighthawk ซึ่งสามารถรันวงจรควอนตัมได้ถึง 5,000 เกท พร้อมทั้งเผยแผนงานระยะยาวเพื่อพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาดใหญ่ที่ทนทานต่อข้อผิดพลาดอย่าง Quantum Starling ภายในปี 2029

แผนงานนี้ได้กำหนดไทม์ไลน์สำหรับการสร้างส่วนประกอบที่จำเป็น โดยในปีนี้ บริษัทกำลังสร้างชิป Quantum Loon ซึ่งจะตามมาด้วยโมดูลโปรเซสเซอร์ควอนตัม Quantum Kookaburra ในปีหน้า และอะแดปเตอร์ Quantum Cockatoo ในปี 2027

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNBC โดย Chris Eudaily

เมื่อเด็กไร้เดียงสาคุยกับลุง (อา) สามานย์

niece-talks-to-evil-uncle
ภาพโดย ChatGPT

#ศรัณย์วันศุกร์ วันนี้ คงต้องขอคุยเรื่องที่น่าจะฮอตที่สุดประจำสัปดาห์นี้นะครับ ก็คือเรื่องคลิปเสียงของนายกของไทยที่คุยกับผู้นำสูงสุดตัวจริงของกัมพูชาไอ้ฮุนเซ็น ขอใช้สรรพนามว่าไอ้แล้วกันนะครับ เพราะก็ไม่เคยนับถือมันอยู่แล้ว ยิ่งมีเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งสะท้อนว่าคนแบบมันคบไม่ได้ 

เวลามีปัญหาในประเทศมัน มันเอาเรื่องประเทศมาเล่น เราตกเป็นเหยื่อมันมาตั้งแต่ยุคที่มีการกล่าวหาว่ากบ สุวนันท์ ว่าไปให้สัมภาษณ์ด่าประเทศมัน มันทำเรื่องขึ้นมาเพราะตอนนั้นคะแนนนิยมในตัวมันตกมาก สองประเทศแทบลุกเป็นไฟ เกือบเกิดสงครามกัน มันก็ไม่สน เพราะที่สุดคะแนนนิยมก็กลับมาที่ตัวมัน ตอนนี้ในประเทศมัน ลูกชายมันก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับมันในตอนนั้น มันจึงหยิบยกเรื่องชายแดนขึ้นมาเป็นประเด็นอีก

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็เกิดจากการรับมือของฝั่งเรา ที่ดูจะตัดสินใจช้า และเป็นฝ่ายตั้งรับตลอด โดยนายกของเรานี่นอกจากเป็นผู้ไร้ประสบการณ์แล้ว ยังไร้เดียงสาจนคิดว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวตัวเองกับของไอ้ฮุนเซน จะทำให้เจรจากันได้ ซึ่งตรงนี้ไม่เข้าใจว่าคนรอบตัวนายกที่มีประสบการณ์มากกว่า ได้พูดให้ฟังไหม หรือพูดให้ฟังแล้วแต่นายกไม่เชื่อ หรือพ่อตัวเองก็บริฟมาว่าคุยกับไอ้ลุง (อา) สามานย์นี้ได้ อันนี้ไม่รู้จริง ๆ นะ

เมื่อรัฐบาลโต้ตอบช้า กองทัพโดยแม่ทัพภาคก็เลยต้องโต้ตอบก่อน อันนี้พอเข้าใจได้ แต่ส่วนตัวก็มองว่าบางทีการโต้ตอบโดยไม่ผ่านกลไกรัฐบาล มันก็ทำให้ไอ้คนเฮงซวยอย่างฮุนเซ็น มันเอาไปเป็นประเด็นปลุกปั่นยุยงได้ แต่ก็เข้าใจอีกแหละว่า มันไม่มีตัวกลางที่ประสานได้ระหว่างกองทัพและรัฐบาล อย่างรัฐมนตรีกลาโหมก็ไปเอา ภูมิธรรม มานั่ง ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เอาจริง ๆ สุทิน ยังดูดีกว่า นี่คือปัญหาของการมองแต่การเมือง แล้วยิ่งได้นายกที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความพร้อม ยิ่งไปกันใหญ่ 

แต่ตอนหลังพอทางฝั่งเราเริ่มปรับตัวได้ รัฐบาลกับกองทัพเริ่มไปทางเดียวกัน มีการปิดด่านที่เป็นหัวใจของไอ้ฮุนเซนมันก็คือเรื่องกาสิโน และรัฐบาลยังไปทางเดียวกับกองทัพอีก มันก็เดือดร้อนตีโพยตีพาย อาละวาดฟาดงวงฟาดงา ไม่สนใจอะไรแล้วปล่อยคลิปออกมา ซึ่งจะเห็นว่ามันไม่สนใจแล้ว ลุง (อา) หลาน อะไร แล้วยังเอาไปประโคมได้อีกว่าเรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องรอง เรื่องประเทศสำคัญกว่า โกยคะแนนไปอีก ในขณะที่นายกไทยต้องมาเคลียร์กับประชาชนตัวเอง เคลี่ยร์กับกองทัพ เรามีแต่เสียกับเสีย แต่นอกจากความเลวของไอ้ฮุนเซนแล้ว ก็ต้องบอกว่าเพราะความไร้เดียงสาของนายกเราด้วย

คือในส่วนตัวมองว่าการคุยกันโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวมันทำได้ และก็เข้าใจได้ว่าไม่คิดว่ากำลังคุยกันกับคนสามานย์ที่ตัวเองหลงนับถือ แอบอัดเสียงแล้วเอามาใช้ประโยชน์ส่วนตัว แต่วิธีการพูดจาที่ใช้นี่ มันไม่เหมาะสมไง คือไม่ว่าจะมีคลิปหรือไม่ มันก็ไม่ควรพูดแบบนี้ 

ประการแรก ถ้าเข้าใจสถานการณ์ว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามหรอก โดยเฉพาะฝั่งกัมพูชามันไม่อยากรบกับเราหรอก เพราะมันรู้ว่ามันสู้กำลังรบเราไม่ได้ แล้วถ้าปิดด่านกันจริง ๆ คนที่เดือดร้อนหนักกว่าคือกัมพูชา ถ้าเข้าใจประเด็นนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดอ่อนน้อมแบบนั้น เราไม่มีความจำเป็นต้องไปง้อมันนะ แล้วมันก็เอาอันนี้ไปใช้ประโยชน์บอกไทยกลัวมัน  

ประการสอง การไปบอกว่าแม่ทัพภาคเป็นฝั่งตรงข้าม ในบริบทจะให้เข้าใจว่าไง พยายามมองในแง่ดีที่สุดแล้วกันว่า แม่ทัพภาคเป็นฝั่งตรงข้ามกับไอ้ฮุนเซน แต่ก็นั่นแหละมันก็ต้องมีคำถามนะว่านายกอยู่ฝั่งไหนถ้างั้น 

แต่ประโยคต่อมาบอกว่าเขาพูดจาเอาเท่ ไม่เกิดประโยชน์ เฮ้ยอันนี้มันไม่ได้นะ มันแสดงถึงความที่ส่วนตัวไม่ชอบกองทัพอยู่แล้ว เพราะยึดอำนาจทั้งพ่อ ทั้งอาหญิง แต่ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะคุยในนามส่วนตัวหรืออะไร คุณเป็นนายกของประเทศ คุณไม่สามารถด่าผู้นำกองทัพที่ทำหน้าที่ของตัวเองแบบนี้ได้ ไม่ว่าคุณจะชอบกองทัพหรือไม่ก็ตาม แล้วไอ้ฮุนเซนมันก็เอาไปใช้ประโยชน์อีก โพสต์บอกประชาชนมันว่า ที่ด่านปิดประชาชนของมันเดือดร้อน เป็นเพราะไทยไม่สามารถคุมกองทัพได้ ไม่เหมือนมันที่คุมกองทัพได้ (จริง ๆ คุมได้หรือเปล่าไม่รู้นะ ได้ข่าวว่ากองทัพมันก็เริ่มจะไม่พอใจมันเหมือนกัน) แต่เอาเถอะเราไม่ควรเห็นด้วยกับการที่ทหารออกมายึดอำนาจนะ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน 

เอาจริง ๆ ก่อนมาเป็นนายก ก็มีกิจการเป็นของตัวเอง ก็น่าจะรู้นะว่ามันควรไหมที่จะไปด่าผู้จัดการบริษัทตัวเองที่กำลังพยายามรักษาผลประโยชน์บริษัท แต่ทำให้บริษัทคู่แข่งที่ตัวเองอยากจะเจรจาด้วยไม่พอใจให้เขาฟัง ถ้าเรื่องมันหลุดออกมา นอกจากอาจจะทำให้ผู้จัดการบริษัทตัวเองรู้สึกไม่ดีแล้ว ไอ้บริษัทคู่แข่งนี่เขาจะคิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง นอกจากนี้ ลูกน้องอื่น ๆ ในบริษัทแน่นอนว่าต้องขาดความไว้ใจ เฮ้ยเขาจะเอาเราไปด่าประจาน เมื่อไรก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ เรากำลังทำเพื่อบริษัท 

ประการสาม ที่บอกว่าอยากได้อะไรให้บอก อันนี้มันสุ่มเสี่ยงต่อการตีความมาก ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเขาจะขายชาติอะไร เหมือนพวกเกลียดทักษิณเข้าไส้พยายามจะโยงไปให้ได้ เผื่อจะจุดไฟประท้วงติด เอาประชาชนลงมาบนถนน ให้ทหารออกมาอีก บอกเลยนะ ถ้าทำแบบนี้เข้าทางไอ้ฮุนเซนมันเลย  ส่วนตัวพยายามเข้าใจว่าต้องการจะบอกว่า ไม่พอใจอะไรก็ให้โทรมาบอก โทรมาคุยกัน อย่าไปโพสต์ ถ้าพูดแบบนี้มันจะชัดเจนกว่า 

ประการที่สี่ อันนี้ฝั่งด่า ฝั่งเกลียดไม่ค่อยมีใครพูดถึงคือ นายกไม่ได้ยอมเปิดด่านฝ่ายเดียวนะ แต่พยายามยืนยันว่าให้ทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกัน อันนี้ดี และก็ยังทิ้งท้ายว่า (คือไอ้ฮุนเซนมันไม่ยอมแถลง เพราะมันจะเอาแต่ได้ของมันฝ่ายเดียว) ขอไปคุยกับกลาโหมก่อน คือไม่ได้รับปากอะไรมัน ซึ่งก็โอเค เป็นการจบการเจรจาที่ดี แต่ถ้าจะดีกว่านี้คือ น่าจะถามไอ้ฮุนเซนไปด้วยเลยว่า แล้วจะไปยื่นศาลโลกทำไม กลับมาใช้กลไก JBC เหมือนเดิม แล้วก็เปิดด่านกันตามปกติ 

ที่ประชาชนคนไทยหลายคน โดยเฉพาะพวกที่เกลียดตระกูลชินวัตรสุดขีด ตีความไปว่าไปยอมทุกอย่างจะยกดินแดนให้มันก็ได้ อันนี้ก็เวอร์เกินไป คิดว่าพวกเกลียดจะยกเอามาเป็นข้ออ้างลงถนนมากกว่า ส่วนตัวตีความการติดต่อครั้งนี้แค่ว่า ยอมมันมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ไม่ว่าจะรบกัน หรือเลิกค้าขายกัน คนที่เสียมากกว่าคือกัมพูชา ถ้านายก เข้าใจสถานการณ์นี้ และเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวออกไปสักนิด ไม่น่าจะไปพูดแบบนี้ 

คราวนี้เมื่อพูดไปแล้ว คลิปออกมาแล้ว ควรทำยังไง ถ้าเป็นประเทศที่ผู้นำมีความรับผิดชอบสูง เขาคงลาออก เพื่อรับผิดชอบ หรือไม่ก็ยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสินว่า นายกพูดไปในแนวทางนี้พวกคุณยังสนับสนุนให้นายกทำหน้าที่ต่อไปไหม ซึ่งจริง ๆ เป็นวิธีที่จะวัดว่าที่ตัวเองทำนี่ประชาชนส่วนใหญ่จริง ๆ  เห็นว่ายังไง เพราะประชาชนไม่ได้มีแต่ด่าอย่างเดียว แต่ก็มีบางส่วนเห็นว่าทำดีแล้ว เพื่อสันติภาพ เลือกตั้งวัดกันไปเลย ถ้าได้กลับเข้ามาเป็นายกอีก คราวนี้ก็จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าสิ่งที่ตัวเองทำประชาชนสนับสนุน พวกที่ด่านี่คือพวกที่เกลียดตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อะไรแบบนี้ 

แต่อดคิดไม่ได้นะ ว่าเรื่องราวนี้เบื้องหลังมันมีอะไรซับซ้อนกว่านี้หรือเปล่า เพราะพรรคภูมิใจไทย กำลังจะถูกยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ซึ่งเขาไม่ยอม และจะถอนตัวอยู่แล้ว เพราะเกิดเรื่องคลิปนี่ ถ้าเป็นฟุตบอลก็คือมีคนแอสซิสต์ลูกสวย ๆ มาให้ยิงประตูเลย รีบแถลงการณ์เลย บอกว่าอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว เพราะไม่รักษาอธิปไตยของชาติ ได้ใจคนเกลียดทักษิณ แต่ไม่ตามข่าวการเมืองไปเต็ม ๆ  

แต่ถึงตอนนี้คิดว่านายกก็คงทั้งไม่ลาออก และยุบสภา ถ้ามองในมุมมองที่ว่า แผนที่ไอ้ฮุนเซนมันจะปั่นไทย ก็ยังไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซนต์ ก็โอเคนะ แต่ก็ไม่ควรอยู่นาน ถ้าผ่านงบประมาณได้ ก็ยุบสภาเถอะ 

แต่ก่อนจะยุบสภา หรือจะลากอยู่ยาวก็ตาม ควรจะตอบโต้ไอ้ฮุนเซ็น โดยใช้วิธีทางการทูต ลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา เรียกทูตไทยกลับ เหลือแต่อุปทูต ถ้ามันยังจะทำท่าทีไม่ดีต่อ ก็ปิดสถานทูต ปิดด่านเน้นตรงที่เป็นหัวใจของมัน ทำเรื่องปราบปรามแกงค์คอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง คือทำให้กระทบกับไอ้ฮุนเซนมากที่สุด น่าเศร้าใจแทนคนกัมพูชานะประเทศต้องมีผู้นำแบบไหนถึงมีรายได้หลักจากแกงค์คอลเซ็นเตอร์ หวังว่าไทยจะไม่ตกต่ำลงไปถึงจุดนี้นะ เพราะอยู่กับนายกทหารที่ยึดอำนาจมาเกือบสิบปี ซึ่งก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร พอมาได้เลือกตั้งก็ถูกมรดกจากการยึดอำนาจ คนที่พร้อมก็ไม่ได้เป็น สุดท้ายได้นายกแบบคนปัจจุบันนี้มา เศร้าใจจริง ๆ ...

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ยังมีความต้องการนักศึกษาฝึกงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (ในอเมริกา) ในช่วงฤดูร้อนนี้

AI
Photo by Steve Johnson on Unsplash

แม้จะมีความกังวลว่า AI อาจเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานในตลาดวิศวกรรมซอฟต์แวร์ แต่ข้อมูลจาก ZipRecruiter เผยให้เห็นว่านายจ้างยังคงลงทุนในกลุ่มวิศวกรซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ สามารถคาดหวังรายได้ระหว่าง 20 ถึงเกือบ 29 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นหมวดหมู่ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในบรรดาตำแหน่งฝึกงานช่วงฤดูร้อนนี้

โดยรวมแล้ว การสำรวจของ ZipRecruiter พบว่าตำแหน่งฝึกงานด้านวิศวกรรมยังคงเป็นที่นิยมสูงสุดในปี 2025 ในขณะที่โอกาสในสายงาน ข้อมูลและการวิเคราะห์ เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Bloomberg โดย Emma Haidar

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AMD คว้าทั้งเหรียญทองและเงินจากรายการ Top500 ล่าสุด

AMD-Elcapitan
ภาพจาก  Tom's Hardware โดย Anton Shilov

จากการจัดอันดับล่าสุดของ Top500.org ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ El Capitan และ Frontier ของ AMD คว้าอันดับหนึ่งและสองของโลก ตามมาด้วย Aurora ของ Intel ในอันดับที่สาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั้งสามเครื่องนี้ทำงานอยู่ในห้องปฏิบัติการของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ

อันดับที่สี่คือ Jupiter Booster ของเยอรมนี ในขณะที่ Eagle ของ Microsoft อยู่ในอันดับที่ห้า สหรัฐอเมริกายังคงรักษาสถานะผู้นำในด้านจำนวนระบบทั้งหมดที่อยู่ในรายชื่อนี้ ในขณะที่จีนยังคงมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากไม่ได้ส่งผลลัพธ์ของระบบล่าสุดเข้าร่วมการจัดอันดับของ Top500.org อีกต่อไป

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Tom's Hardware โดย Anton Shilov