วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Blackwell ของ Nvidia พิชิตมาตรฐานการฝึกอบรม LLM ที่ใหญ่ที่สุด

Nvidia-GPU-Towers
ภาพจาก  IEEE Spectrum โดย Dina Genkina

GPU Blackwell ของ Nvidia คว้าอันดับหนึ่งในการทดสอบทั้งหกเกณฑ์มาตรฐานของการแข่งขัน MLPerf machine learning ของกลุ่มบริษัท MLCommons โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 

งาน LLM (Large Language Model) pretraining ในครั้งนี้ใช้ทรัพยากรมากกว่าที่ผ่านมา โดยโมเดล GPT3 ถูกแทนที่ด้วย Meta's Llama 3.1 403B

ในการทดสอบ LLM fine-tuning ครั้งนี้ Instinct MI325X GPU ของ AMD ทำผลงานได้เทียบเท่ากับ  H200s ของ Nvidia's และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Instinct MI300X 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum โดย Dina Genkina


คุยกันเรื่องยานอนหลับในมุมมองของคนที่เกือบต้องติดยานอนหลับ

#ศรัณย์วันศุกร์วันนี้ ขอมาคุยเรื่องยานอนหลับครับ จริง ๆ ผมว่าจะเขียนเรื่องนี้อยู่นานแล้ว เพราะตัวเองมีประสบการณ์ที่ต้องใช้ยานอนหลับ จนน่าจะเกือบติด หรือติดไปแล้วก็ไม่รู้ แล้วพอดีช่วงนี้ก็มีข่าวหมอชือดังรพ.ตำรวจ มีการสั่งซื้อยานอนหลับตัวหนึ่งแล้วอาจจะแอบเอามาขายอย่างไม่ถูกต้อง ขอใช้คำว่าอาจไว้ก่อนนะครับ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนสำหรับผู้ที่อาจยังไม่ทราบนะครับว่า ไอ้ทีเราเรียกว่ายานอนหลับที่รู้จักกันนี่ ส่วนใหญ่มันเป็นยาที่เขาคิดขึ้นมาเพื่อรักษาคนป่วยที่มีภาวะทางจิต อย่างซึมเศร้า วิตกกังวล หรือโรคตื่นตระหนก (pannic) เป็นต้น แต่ผลของยาอย่างหนึ่งก็คือมันช่วยให้เรานอนหลับได้ คอนเซปต์ง่าย ๆ ก็คือเราจะนอนหลับได้ เราก็ต้องผ่อนคลายก่อนถูกไหมครับ ยาพวกนี้มันจะช่วยให้ผ่อนคลาย แล้วก็นำไปสู่การนอนหลับ ดังนั้นมันจึงถูกนำมาใช้ช่วยในการรักษาคนที่มีอาการนอนไม่หลับ ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่ามีคนป่วยเป็นโรคนี้กันเยอะมาก จากช่วงที่ตัวเองมีปัญหาการนอนหลับมาก ๆ นี่แหละครับ เพราะค้นหาข้อมูลเรื่องนี้เยอะ 

จากการค้นคว้าของตัวเอง ก็ทำให้ได้ไปเจอช่อง Youtube ของคุณหมอธนีย์ (Dr. Tany) ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับยานอนหลับในกลุ่มที่มักจะถูกนำมาใช้กัน ซึ่งยานอนหลับในกลุ่มนี้ปัญหาอันหนึ่งของมันก็คือ ถ้าเราใช้มันเป็นหลักต่อเนื่องกันเพื่อช่วยให้เรานอนหลับ โดยไม่คิดจะหาต้นตอสาเหตุของปัญหา มันจะติดได้ง่ายมาก คือถ้าไม่กินก็นอนไม่หลับ และอาจจะต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ถ้ากินไปนาน ๆ ก็จะมีผลกระทบกับสมองด้วย  ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็ดูวีดีโอของคุณหมอได้เลยครับ 



ยาที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ก็อยู่ในกลุ่มยาที่คุณหมอพูดถึงด้วยนะครับ และคุณหมอได้มีคลิปเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับข่าวแพทย์หญิงรพ.ตำรวจด้วยนะครับ ถ้าสนใจก็เข้าไปดูกันได้ 



พวกยานอนหลับเหล่านี้จะต้องถูกสั่งโดยแพทย์นะครับ หรือบางตัวอาจจะสั่งโดยเภสัชกรได้ เราจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาซื้อเองตามชอบไม่ได้นะครับ ผิดกฎหมาย  โดยหมอ หรือเภสัชกรที่มีความรับผิดชอบ จะเตือนเราก่อนเสมอนะครับว่าให้กินเท่าที่จำเป็นจริง ๆ คือถ้าพอจะนอนหลับได้เอง ก็พยายามนอนไปก่อน และหมอจะสั่งปริมาณไม่เยอะนะครับ ประมาณ 10 เม็ด อะไรแบบนี้ คือให้เราไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ถ้า 10 เม็ดยังไม่หาย ก็ต้องมารักษา หาสาเหตุกันจริง ๆ จัง ๆ แล้ว 

คราวนี้มาดูกันครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงต้องมากินยานอนหลับ ต้องบอกว่าปี 2025 นี้เป็นปีที่ไม่ดีของผมเลย ด้านสุขภาพ คือผมมีอาการไอมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว พอเริ่มต้นปีมามันก็ยังไออยู่ และหลังปีใหม่ไม่กี่วัน ผมมีอาการแน่นท้อง ชนิดที่ว่าล้มตัวลงนอนไม่ได้เลย เลยต้องเข้ารพ. ซึ่งผลจากการเข้าโรงพยาบาล เป็นอะไรมากกว่าที่ผมคาดไว้ครับ คือหนึ่งผมมีอาการปอดอักเสบ สองจากการทำ CT Scan พบนิ่วในถุงน้ำดี และอาการจุกเสียดแน่นท้องนี้อาจมาจากนิ่วนี่แหละ 

แต่ผมจะยังผ่านิ่วไม่ได้ ถ้าไม่รักษาอาการไอ อาการปอดอักเสบให้หายก่อน  ผมต้องกินยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาปอดอักเสบนี่เป็นเวลาสองเดือนครับ ปัญหาที่เกิดกับผมก็คือ ด้วยอาการปวดแน่นท้องที่เกิดเป็นช่วง ๆ นี่ มันทำให้ผมเรียกว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ แล้วยังมีอาการไอมารบกวน กลางคืนนอนไม่หลับ พอเช้าตื่นขึ้นมา ยังมีอาการแน่นท้องคลื่นไส้อีก เรียกว่าทรมานมาก 

ก็กลับไปหาคุณหมอที่รักษานิ่ว ซึ่งคุณหมอก็ยังยืนยันว่าผ่าไม่ได้ เพราะถ้าผ่า แล้วปอดผมไม่ปกติ มันมีความเสี่ยงมาก และคุณหมอมองว่าเคสของผมมันยังรอได้ไม่ต้องรีบผ่า ก็ให้ยาแก้คลื่นไส้อีกตัวมาแทน และพอผมปรึกษาว่าผมนอนไม่ได้ คุณหมอก็สั่งยากลุ่มยานอนหลับตัวหนึ่งมา 10 เม็ด และก็บอกว่าให้กินเท่าที่จำเป็นนะ  

กลับมาบ้านกินเข้าไปหนึ่งเม็ด หลับสบายมากในรอบหลายวันครับ รู้สึกดีใจ และตื่นมาด้วยความสดใสที่เราได้หลับเต็มที่ อาการปวดแน่นท้องมันมันก็ดูดีขึ้นในตอนเช้า แต่พอตกบ่ายมันก็กลับมาอีกนะครับ แต่ก็ยังดีคือมีช่วงดี ๆ ให้พัก ให้ได้ทำงานแบบไม่ทรมานบ้าง  

ตอนนั้นผมยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับยานอนหลับเลยนะครับ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นอาจารย์ ก็เลยอยากค้นดูสักหน่อยว่ายาที่เรากินเข้าไปมันคืออะไร และมันทำงานยังไง ก็เจอข้อมูลเยอะมาก และที่ชัดเจนที่สุดก็คือของคุณหมอธนีย์ ก็เลยรู้ว่าคุณหมอที่รักษานิ่ว ได้พยายามสั่งยาตัวที่น่าจะเบาที่สุดแล้ว และโดสน้อยที่สุดแล้ว แต่ถ้ากินไปเยอะ ๆ มันก็ติดอยู่ดี 

คืนถัดมาผมก็เลยลองไม่กินดู ปรากฎว่านอนไม่ได้เหมือนเดิม คืออาการไอ อาการแน่นท้องนี่มันยังอยู่ คืออย่างที่บอกไปแล้วนะครับ ยากลุ่มนี้มันทำให้เราผ่อนคลาย ผมวิเคราะห์ว่า อาการของผมมันน่าจะเกิดจากการที่อวัยวะในช่องท้องของผมนี่ มันน่าจะมีอาการบีบเกร็ง จนทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง ประกอบกับการไอด้วย   ซึ่งยาที่กินเข้าไป มันน่าจะทำให้อวัยวะของเราไม่บีบเกร็งด้วย เราก็เลยนอนหลับ 

พวกเราหลายคนน่าจะเคยมีอาการนอนไม่หลับกันบ้างใช่ไหมครับ แน่นอนว่าวันถัดมามันก็จะไม่สดชื่น อาจง่วง ๆ มาก แต่ก็ยังไม่เป็นอะไรมากนักใช่ไหมครับ ถ้ามันอดนอนแค่คืนเดียว หรือสองคืน แต่สำหรับผมมันทรมานมากครับ เพราะผมมีอาการปวดท้องคลื่นไส้อยู่แล้ว ยิ่งกลางคืนไม่ได้นอน ก็ทรมานทั้งคืน แล้วยังมาต่อด้วยทรมานทั้งวันอีก 

สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้กินยาต่อเนื่องกันไปเพื่อให้มันนอนหลับ แต่ด้วยการกลัวว่ามันจะติดยา ก็เลยโทรไปที่รพ. เพื่อขอนัดคุณหมอเรื่องนอนไม่หลับโดยตรง ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันเป็นปัญหาประการหนึ่งนะครับ เพราะพอเราแจ้งอาการไปปุ๊ปว่านอนไม่หลับ เจ้าหน้าที่จะคิดถึงแต่คุณหมอจิตเวช เพราะอย่าที่บอกไปแล้ว ยานอนหลับจริง ๆ แลัว มันคือใช้ผลของยาด้านจิตเวช  และคิวของหมอจิตเวช นี่นานมากครับ อย่างผมเมื่อโทรไปนัดนี่คือคิวเร็วที่สุดคือ 3 เดือน ซึ่งผมก็ต้องทำนัดไป 

จริง ๆ ผมมาค้นคว้าทีหลังนะครับว่า คุณหมออายุรกรรมประสาท ก็สามารถที่จะรักษาการนอนไม่หลับที่เพิ่งเริ่มได้ และถ้าหมอวิเคราะห์แล้ว ไม่เกี่ยวกับอาการทางจิตเวช คุณหมอในกลุ่มนี้ก็นาจะรักษาได้ และการรักษาโรคนอนไม่หลับถ้าไม่เกี่ยวกับจิตเวช อีกอันหนึ่งที่ทำได้ก็คือการปรับพฤติกรรมการนอน

ซึ่งผมก็ได้ใช้การปรับพฤติกรรมการนอนของตัวเองด้วยนะครับ คือต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนที่มีความสุขเรื่องการนอนมาก คือนอนเมื่อไหร่มันก็หลับ ดังนั้นก็จะเข้านอนตามใจชอบ บางทีก็หลับเร็วหน่อย แล้วตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมาดูบอล บางคืนทำงานดึกถึงตีหนึ่งตีสอง หรือบางทีตีสี่เข้านอนก็มี ซึ่งช่วงหลัง ๆ ทำงานไม่ทัน ก็จะนอนดึกมากขึ้น เรียกว่าหลับเที่ยงคืน หรือตีหนึ่งตีสองเป็นปกติ และนี่น่าจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งนอกจากกอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ

ดังนั้นผมก็กินยา และปรับพฤติกรรมการนอนไปพร้อม ๆ  กัน แต่มันก็ไม่ได้เห็นผลทันใจ นะครับ คือผมกินยาติดกันไปสักสองคืน ผมก็ลองหยุดกินดู แต่มันก็ยังนอนไม่หลับ และมันก็ทรมานเหมือนเดิม ผมก็เลยพยายามนัดกับคุณหมอจิตเวชอีกโรงพยาบาลหนึ่ง (ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องหมออายุรกรรม) ซึ่งอันนี้เร็วขึ้นหน่อยคือหนึ่งเดือน ก็เลยนัดไว้ก่อน 

ช่วงนั้นมีนัดกับคุณหมอรักษานิ่วอีก ก็เลยขอให้คุณหมอลองสงต่อคุณหมอจิตเวช ที่ต้องรอสามเดือน เผื่อถ้ามีการส่งต่ออาจเร็วขึ้น คุณหมอก็พยายามส่งต่อให้ แต่ปรากฎว่าไม่ได้ ก็ต้องรอสามเดือนหมือนเดิม ก็เลยขอคุณหมอช่วยจ่ายยาช่วยนอนหลับมาให้ก่อน บอกคุณหมอว่าไม่ได้กินทุกวัน พยายามหยุดกินแล้ว แต่ถ้ามีวันไหนต้องทำงาน ก็จะกินคืนก่อนหน้านั้น เพราะถ้าไม่ได้นอนมันทำงานไม่ได้ ซึ่งคุณหมอก็จ่ายมาให้อีก 20 เม็ด

ผ่านมาหนึ่งเดือนก็ได้เวลานัดเจอกับจิตแพทย์ที่นัดไว้ของอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมก็ได้ดูคลิปของคุณหมอธนีย์ เกี่ยวกับยานอนหลับในกลุ่มที่จะไม่ทำให้เราติดยา ตามคลิปนี้เลยครับ 

  


 แต่มันก็มีปัญหาของมันเหมือนกันนะครับ และมีราคาค่อนข้างแพงด้วย 

ผมก็เลยว่าจะลองคุยกับคุณหมอเรื่องถ้าผมจะกินยาตัวนี้แทนดีไหม ปรากฎว่าผิดหวังมากครับ คือคุณหมอมองว่าที่ผมเป็นนี่มันจิ๊บจ๊อยมาก เดียวพอรักษานิ่วหายมันก็หายไปเอง แล้วก็ให้ยาตัวเดิมที่ผมเคยได้จากคุณหมอรักษานิ่วมานั่นแหละครับ แล้วให้มา 30 เม็ด ซึ่งผมก็ประหลาดใจมาก คือเขาไม่คิดว่าผมจะติดยาเลยหรือ แล้วไม่นัดดูอาการต่อด้วยนะครับ 

เมื่อเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องใช้วิธีเดิมครับ คือพยายามไม่กินทุกวัน แต่คนเรายังไงมันก็ต้องทำงานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วันนะครับ ถ้าไม่กินเลยแล้วไม่ได้นอนมันทำงานไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราเป็นโรคอยู่ แล้วร่างกายไม่ได้พักผ่อนมันก็ไม่หาย 

ดังนั้นสัปดาห์หนึ่งก็ต้องกินประมาณสามวันถึงสี่วัน แต่สิ่งที่ผมสังเกตดู บางคืนมันเริ่มไม่ได้ผลเหมือนเดิมนะครับ แต่ผมก็ไม่ปรับยาเองนะครับ คือถ้าค้นในเว็บเขาบอกว่าเราเพิ่มโดสได้ถ้าต้องการให้นอนหลับเขาจะใช้โดสนี้กัน แต่ผมไม่เพิ่มครับ หลับก็หลับ ไม่หลับก็ทนเอา 

แต่เมื่อร่างกายได้พักผ่อน และยารักษาโรคได้ผลอาการไอมันก็เริ่มหาย อาการปวดแน่นท้องมันก็ดีขึ้นด้วย แต่ก่อนที่ต้องกินยาแก้จุกเสียดแน่นสามเวลาก่อนอาหาร ก็เหลือมื้อเดียวก่อนอาหารเย็น ดังนั้นถ้าคืนไหนอดนอน ตื่นมาความทรมานมันก็เริ่มน้อยลง ดังนั้นถ้าคืนไหนไม่หลับ มันก็ไม่ทรมานเหมือนเดิมแล้วครับ ก็แค่ง่วง ๆ 

เมื่อครบสองเดือนของการรักษาปอด อาการไอไม่มีแล้ว อาการแน่นท้องไม่มีแล้วแล้ว ผมก็ลดลงอีก เหลือสัปดาห์ละสองวัน หรือหนึ่งวัน ซึ่งถ้าไม่กินการนอนมันก็ยังไม่ปกตินะครับ คือมันอาจจะหลับได้ แต่ตื่นมากลางดึก แล้วหลับต่อยาก หรือบางทีก็หลับยาวแต่ไปไม่สุดทาง คืออาจจะตื่นมาสักตีห้า แทนที่จะเป็นหกโมงอย่างที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ (ที่แย่ ๆ คือบางคืนตีสาม แล้วหลับต่อไม่ได้) แต่ผมว่ามันก็เริ่มดีขึ้น  และต่อให้อดนอนบ้าง แต่ถ้าร่างกายเราแข็งแรงมันก็ยังทำงานได้ แล้วคืนถัดไปมันก็เหมือนนอนชดเชยกัน

สุดท้ายก็ได้เจอหมอจิตเวชที่รอมานานสามเดือนซะที ก็เล่าอาการต่าง ๆ ให้ฟัง ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าผมปฏิบัติตัวถูกแล้ว แต่กว่าที่จะได้เจอคุณหมอนี่ผมก็กินยามาสามสิบกว่าเม็ดแล้ว ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันอาจติดแล้วก็ได้ เพราะถ้าไม่กินมันก็ยังนอนไม่ดีอยู่ คุณหมอก็เลยสั่งยากลุ่มที่ไม่ติดให้ และให้กินคู่กับตัวเดิมไป แต่ลดปริมาณลง โดยอาจจะกินตัวเดิมวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน (ซึ่งจริง ๆ ผมก็ไม่ได้กินทุกวันอยู่แล้ว) โดยคุณหมอคิดว่าสาเหตุหนึ่งที่นอนหลับไม่ดีมันอาจมาจากความเจ็บป่วย (นิ่ว) ด้วย ถ้าจัดการตรงนี้ได้อาจดีขึ้น 

ซึ่งเมื่อผมลองมากินดูตามที่หมอบอก ก็ดีขึ้นบ้างนะครับ แต่มันก็ยังตื่นกลางดึก แต่ก็โอเคหลับต่อได้ดีกว่าตอนไม่กินยา (ในบางคืน) บางคืนก็หลับต่อได้แต่ใช้เวลาหน่อย แต่ก็มีบางคืนมันก็ไม่หลับนะครับ ต่อให้กินยา และก็ยังนอนไม่ได้สุดทางอย่างที่ตั้งใจไว้อยู่ดี  

ผ่านไปหนึ่งเดือนไปเจอคุณหมออีกรอบ คราวนี้คุณหมอให้ยากลุ่มเมลาโทนินมาปรับวงจรการนอน ให้วิตามิน B1 มาบำรุงสมอง และให้กินเฉพาะยาตัวที่ไม่ติดในกรณีที่ถ้าคืนก่อนหน้านอนไม่หลับ หรือนอนไม่ดี ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ ไม่กินยานอนหลับเลย กินแต่เจ้าตัวเมลาโทนิน ก็หลับได้ดีขึ้น มีตื่นกลางดึกบ้าง นอนได้ยาวขึ้น แต่บางคืนก็ไม่หลับบ้าง หรือหลับแต่ก็ยังไม่สุดทาง เอาเป็นว่ายังไม่ปกติ  แต่ก็ดีขึ้นมาก ตอนนี้บางคืนก็ไม่กินเจ้าเมลาโทนินนี่เลยก็อาการเดียวกัน คือตอนนี้กินกับไม่กิน ก็เหมือนกันแล้ว เอาไว้เจอคุณหมออีกรอบในอีกสามเดือนก็คงต้องถามดู

สิ่งหนึ่งที่ผิดแผนคือ ผมควรจะได้ผ่านิ่วไปแล้วในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่า การกังวลเรื่องนิ่วมีส่วนทำให้ผมนอนไม่หลับไหม แต่ปรากฏว่าคุณหมอขอเลื่อนผ่าไปเป็นเดือนสิงหาคม หลังจากกำหนดที่ต้องพบกับคุณหมอจิตเวชอีก ก็เลยไม่รู้ว่ามันยังไงกันแน่ ไอ้การที่เรากังวลเรื่องนิ่วของเรามันมีผลไหม 

อ่านมาตั้งนาน ผมอยากสรุปอย่างนี้นะครับ สำหรับคนที่ต้องใช้ยานอนหลับอยู่ อย่างแรกให้เราตระหนักว่ายาที่ใช้มันมีผลข้างเคียง และเราอาจติดยาได้ ดังนั้นให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ให้หาสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้เรานอนไม่หลับ ปรับพฤติกรรมการนอน และถ้าจำเป็นต้องใช้ยาจริง ๆ เพื่อทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปได้ หรือเพื่อการรักษาโรคของเรา ก็ใช้ไปก่อนครับ อย่าไปเครียดมาก เรื่องการติดนี่มันรักษาทีหลังได้ ถ้าเราตั้งใจจะเลิกใช้มันจริง ๆ 

ถ้าไม่จำเป็นอย่าได้พึ่งยานอนหลับเป็นดีที่สุดครับ ถ้าไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร แค่มีพฤติกรรมการนอนไม่ดี ก็ปรับพฤติกรรมการนอนครับ เข้านอน และตื่นให้ตรงเวลา หาเวลาออกกำลังกายบ้าง และที่สำคัญอย่าทำให้การนอนเครียดครับ คือพอไปดูอะไรมาเยอะอ่านอะไรมาเยอะ แล้วก็มาเครียดว่าต้องทำนู่นนี่ 

สิ่งที่ผมทำคือพยายามเข้านอนให้ตรงเวลา ไม่ต้องสี่ท่ม อย่างที่หลายคนบอก แต่ให้มีเวลาที่จะนอนต่อเนื่องได้สักเจ็ดชั่วโมง อย่างผมนี่ผมตั้งเอาไว้เที่ยงคืน พยายามให้มันง่วงอยากนอนในเวลาใกล้ ๆ เดิมทุกวัน คือสักครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาที่จะนอน ก็ควรพร้อมที่จะนอน พอง่วงปุ๊ปก็เข้านอนเลย ถ้านอนสักครึ่งชั่วโมงแล้วไม่หลับก็ลุกขึ้นมาเดินรอบ ๆ ห้อง หรือเปิดไฟที่มีสีเหลืองอ่านหนังสือที่มันหนัก ๆ หัวครับ ใครไม่มีหาไว้สักเล่มครับ เทคนิคการอ่านกราฟหุ้นก็ได้ครับผมว่าหนักหัวดี มันมีสารพัดรูปแบบ :)  แล้วก็พยายามตื่นให้ตรงเวลา ตื่นแล้วก็ออกไปเดินรับแสดงแดดตอนเช้า หาเวลาออกกำลังกาย  แต่อย่าออกตอนก่อนนอนนะครับ ประมาณสองชั่วโมงก่อนนอนนี่ไม่ควรออกกำลังกายแล้ว 

อีกจุดหนึ่งก็คือ ช่วงที่ผมหาข้อมูลยานอนหลับ ผมเห็นกระทู้ในพันทิพย์หลายกระทู้ ที่มีความพยายามจะหาซื้อยานอนหลับมากินเอง ซึ่งผมแนะนำว่า อย่าทำเลยครับ ให้หมอดูแลดีที่สุด และเพราะความต้องการนี้แหละครับ ที่อาจทำให้หมอที่เป็นข่าวหรืออาจมีหมออีกหลายคนหากินกับตรงนี้ จากที่ผมได้รับยามา ยานอนหลับในกลุ่มที่ติดนี้ เม็ดหนึ่งถ้าสั่งจ่ายจากรพ.ตามปกติถูกมากนะครับ เม็ดละประมาณห้าสิบสตางค์เท่านัั้น แต่พอเอามาขายแบบผิดกฎหมาย ผมก็ไม่รู้ว่าเขาขายกันเม็ดละเท่าไร  อย่าไปเสียเงินแพง ๆ แล้วเสี่ยงชีวิตกันอีกเลยครับ 

อ้อมีอีกเรื่องหนึงครับ อยากฝากไปทางโรงพยาบาลหน่อยว่า เวลาโทรเข้าไปขอนัดคุณหมอจะปรึกษาเรื่องนอนไม่หลับนี่ ผมว่าอย่าเพิ่งโยนไปให้พบจิตแพทย์อย่างเดียวนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะคิวยาวมาก ลองซักประวัติดูดี ๆ ว่าเขาเป็นมานานหรือยัง ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นหลับไม่ได้มาแค่ไม่กีวัน ลองส่งปรึกษาคุณหมอทางอายุรกรรมประสาทก่อนอาจช่วยให้คนไข้ไม่ต้องรอนาน แล้วก็พยายามไปหายามาทานเอง เพราะมันทรมานถ้าไม่ได้นอนหลับ ส่วนพวกเราถ้าเขาจะโยนไปหาจิตแพทย์อย่างเดียว ก็ลองขอนัดคุณหมออายุรกรรมประสาทเองก่อนเลยก็ได้นะครับ เพราะน่าจะคิวไม่ยาวเท่า และการนอนไม่หลับมันไม่ได้มีสาเหตุมาจากด้านจิตใจอย่างเดียว มันอาจมีสาเหตุมาจากสารเคมีในสมองไม่สมดุลย์ หรืออาจจะเป็นเรื่องฮอร์โมน เรื่องขาดวิตามินบางตัวด้วยก็ได้ ซึ่งถ้าได้เจอคุณหมอด้านอายุรกรรมซะก่อน แล้วคุณหมออาจประเมินและส่งต่อไปด้านอื่นได้  

ซึ่งถึงตรงนี้ เอาจริง ๆ ผมยังหาสาเหตุที่ตัวเองนอนหลับไม่ได้เหมือนเดิมไม่ได้นะครับ ผมก็ยังไม่ได้กลับมาปกติ 100% นะครับ เพียงแต่มันดีขึ้นจากอาการหนัก ๆ ที่เป็นเมื่อต้นปีมาก คือตอนนั้นจะเริ่มนอนยังนอนไม่ได้เลย แต่ตอนนี้กลับมาหลับง่ายเหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ว่าจะต้องหาสาเหตุให้ได้ต่อไปว่าทำไมมันยังหลับได้ไม่ดี คือยังตื่นกลางดึก ยังหลับไม่สุดทาง หลังผ่าตัดแล้ว ถ้ายังไม่หาย ก็ว่าจะลองไปเช็คทางฮอร์โมน หรือพวกวิตามินดูบ้างครับ ว่าเราขาดอะไรไหม หรืออาจไปทำ sleep test ดู  

ขอให้ทุกคนที่หลับดีอยู่แล้วก็หลับดีกันต่อไป ส่วนใครนอนไม่หลับก็ขอให้ดีขึ้นนะครับ ...

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568

สหรัฐฯ ถอดคำว่า ‘Safety’ ออกจาก AI Safety Institute

Catch-Virginia
ภาพจาก The Verge โดย Adi Robertson

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนชื่อ สถาบันความปลอดภัย AI (AI Safety Institute) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2023 ภายใต้รัฐบาลชุดก่อนหน้า เป็น ศูนย์มาตรฐานและนวัตกรรม AI (Center for AI Standards and Innovation - CAISI) 

การเปลี่ยนชื่อนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจุดเน้น จากความปลอดภัยโดยรวมไปสู่การต่อสู้กับความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ และการป้องกัน "กฎระเบียบที่สร้างภาระและไม่จำเป็น" ในต่างประเทศ

Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรียกว่าการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานครั้งนี้เป็นวิธีการ "ประเมินและเสริมสร้างนวัตกรรมของสหรัฐฯ" และ "สร้างความมั่นใจในการครองความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในมาตรฐาน AI ระหว่างประเทศ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Verge โดย Adi Robertson

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

สหราชอาณาจักรทุ่ม 1 พันล้านปอนด์เพื่อการป้องกันทางไซเบอร์และดิจิทัล

UK-Ministry-of-Defense
ภาพจาก Computing (U.K.) โดย Dev Kundaliya

สหราชอาณาจักรได้เปิดเผยแผนการลงทุนมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ (มากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์) ในด้านความสามารถทางไซเบอร์และดิจิทัลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยได้ประกาศแผนดังกล่าวพร้อมกับการเผยแพร่ Strategic Defense Review 

จุดสำคัญของโครงการริเริ่มด้านไซเบอร์คือการจัดตั้ง Cyber and Electromagnetic Command  ซึ่งจะมีหน้าที่ในการปกป้องเครือข่ายของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เป็น "sub-threshold"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Computing (U.K.) โดย Dev Kundaliya

เพิ่มเติมเสริมข่าว: "sub-threshold" หมายถึง การโจมตีทางไซเบอร์ที่อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะถือเป็นการโจมตีเต็มรูปแบบหรือการประกาศสงครามทางไซเบอร์ ตัวอย่างเช่นการโจมตีน้อยแต่ต่อเนื่องเช่น การพยายามสอดแนม, การรวบรวมข้อมูล, การทดสอบช่องโหว่, หรือการพยายามแทรกซึมระบบ

การโจมตีแบบ "sub-threshold" มีความสำคัญเพราะ:

  1. ยากต่อการตรวจจับ: มักจะถูกออกแบบมาให้ไม่โดดเด่น ทำให้ระบบป้องกันทั่วไปตรวจจับได้ยาก 
  2. สะสมความเสียหาย: แม้จะไม่รุนแรงในแต่ละครั้ง แต่การโจมตีอย่างต่อเนื่องสามารถสร้างความเสียหายสะสม หรือเป็นช่องทางในการโจมตีที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต 
  3. เลี่ยงการตอบโต้: เนื่องจากไม่ได้เป็นการโจมตีเต็มรูปแบบ ทำให้ประเทศที่ถูกโจมตียากที่จะตอบโต้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจนำไปสู่การยกระดับความขัดแย้ง 
  4. เป็นการสอดแนมและเตรียมการ: บ่อยครั้งเป็นการพยายามรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง หรือเตรียมการสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่ในอนาคต

 

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Meta หันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อ AI

Power-Plant
ภาพจาก Associated Press โดย Matt Ott

Meta ประกาศเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2025 ว่าได้บรรลุข้อตกลงระยะยาว 20 ปีกับ Constellation Energy ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าในนิวยอร์ก เพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อตอบสนองความต้องการด้าน AI และการประมวลผลอื่นๆ ของ Meta ข้อตกลงนี้จะช่วยฟื้นฟู Clinton Clean Energy Center ของ Constellation ในรัฐอิลลินอยส์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว 

Constellation กล่าวว่ามีแผนที่จะเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island ในรัฐเพนซิลเวเนียอีกครั้ง เพื่อจัดหาพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูลของ Microsoft

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press โดย Matt Ott