วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เว็บเบราว์เซอร์ Safari ของ Apple ยังเสี่ยงต่อการจู่โจม Spectre

mobile-web-browser
ภาพจาก  Ruhr-Universität Bochum (Germany)

นักวิจัยจาก Ruhr University ในเยอรมนี Georgia Institute of Technology และ University of Michigan พบว่าระบบ Mac และ iOS ของ Apple ยังคงเสี่ยงต่อการถูกโจมตีที่เหมือนกับ Spectre ในปี 2018 ซึ่งใช้ช่องโหว่ของฮาร์ดแวร์ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความสำคัญได้

นักวิจัยแสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถใช้เข้าถึงรหัสผ่านอีเมล และข้อมูลตำแหน่งผ่านทางเบราว์เซอร์ Safari ของ Apple

ในการโจมตี "iLeakage" ใหม่ ผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี ซึ่งอนุญาตให้ผู้โจมตีเปิดแอปอีเมลของผู้ใช้และอ่านเนื้อหาในกล่องจดหมายของพวกเขา หรือเปิดเว็บไซต์อื่นและใช้ข้อมูลการเข้าสู่ระบบที่จัดเก็บไว้ใน ตัวจัดการรหัสผ่าน LastPass ถ้าเปิดใช้งานการป้อนอัตโนมัติไว้

ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลหน่วยความจำที่ละเอียดอ่อนจาก โพรเซสที่หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ทำงานเสร็จสิ้นไปแล้ว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ruhr-Universität Bochum (Germany)


วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ความคุกคามด้านความมั่นคงโดย AI ถูกเปิดเผยโดยนักวิจัย

using-laptop
ภาพจาก University of Sheffield (U.K.)

นักวิทยาศาสตร์จาก University of Sheffield ในสหราชอาณาจักร North China University of Technology และอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง  Amazon พบว่าแฮกเกอร์สามารถหลอกเครื่องมือประมวลผลภาษาธรรมชาติ เช่น ChatGPT ของ OpenAI ให้สร้างโค้ดที่เป็นอันตรายเพื่อนำไปใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ได้

นักวิจัยค้นพบและใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยในเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) เชิงพาณิชย์ 6 รายการ ได้แก่ ChatGPT, แพลตฟอร์มการสนทนาอัจฉริยะของจีน Baidu-UNIT, ตัวสร้างภาษา SQL คือ AI2SQL, AIHelperBot และ Text2SQL และเครื่องมือออนไลน์ ToolSKE

พวกเขาพบว่าการถามคำถามเฉพาะบางอย่างให้ AI ทำให้พวกเขาสร้างโค้ดที่เป็นอันตรายซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่เป็นความลับในฐานข้อมูลรั่วไหล หรือขัดขวางหรือแม้แต่ทำลายการทำงานของฐานข้อมูล

ทีมงานยังพบว่าตัวแบบภาษา AI นั้นสามารถถูกจู่โจมได้จากโปรแกรมประตูลับแบบง่าย ๆ Xutan Peng จาก Sheffield กล่าวว่าช่องโหว่มีรากฐานมาจากความจริงที่ว่า "ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้ [AI เช่น ChatGPT] เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แทนที่จะเป็นบอทสนทนา"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Sheffield (U.K.)

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

มหาวิทยาลัยในอเมริกาที่ผลิตบัณฑิตด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับเงินเดือนสูงสุด

grad-hat-and-keyboard
ภาพจาก  Interesting Engineering

สถาบัน Burning Glass ที่ไม่แสวงหากำไรได้รวบรวมรายชื่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ที่ผลิตวิศวกรซอฟต์แวร์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มีรายได้สูงสุด โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากบริษัทข้อมูลตลาดแรงงาน Lightcast และเว็บไซต์วิจารณ์บริษัท Glassdoor

Stanford University เป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยเอกชน โดยผู้สำเร็จการศึกษามีรายได้เฉลี่ย $146,911 ต่อปีในช่วงกว่าทศวรรษ เทียบกับเงินเดือนเฉลี่ย $103,354 

ผู้สำเร็จการศึกษาจาก Princeton ตามมาติด ๆ ด้วยเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีที่ 145,281 ดอลลาร์ ตามมาด้วย Harvard ที่ 144,183 ดอลลาร์ California Institute of Technology 141,486 ดอลลาร์ และBrown University ที่ 141,195 ดอลลาร์

University of California, Berkeley อยู่ในอันดับต้น ๆ ของมหาวิทยาลัยรัฐด้วยเงินเดือนเฉลี่ยต่อปี 138,971 ดอลลาร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยรัฐบาลในแคลิฟอร์เนียอีก 6 แห่งที่ติด 10 อันดับแรก 

University of Illinois Urbana-Champaign อยู่ในอันดับที่ 6 และ University of Michigan-Ann Arbor อยู่ในอันดับที่ 7 ของมหาวิทยาลัยรัฐ โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับเงินเดือนต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 120,113 ดอลลาร์ และ 119,458 ดอลลาร์ตามลำดับ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Interesting Engineering

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์เพื่อตรวจจับมะเร็งผิวหนังตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

body-scan
ภาพจาก Johns Hopkins Whiting School of Engineering

เฟรมเวอร์กที่พัฒนาโดยนักวิจัยที่ Johns Hopkins University, Johns Hopkins Hospital, Lumo Imaging และ Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ในการตรวจหามะเร็งผิวหนังในระยะเริ่มต้น

นักวิจัยใช้ตาข่ายพื้นผิวสามมิติและการวิเคราะห์เรขาคณิตและพื้นผิวเพื่อติดตามความผิดปกติของผิวหนัง เฟรมเวอร์กสามารถประมาณตำแหน่งของรอยโรคผิวหนังที่ตรวจพบในการสแกนก่อนหน้านี้ และใช้ขนาด รูปร่าง พื้นผิว และรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำในการสแกนใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงท่าทางของร่างกายและมุมกล้อง

เฟรมเวอร์กนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าวิธีการทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากการทดสอบโดยใช้ฐานข้อมูลทั้งที่เป็นส่วนตัวและสาธารณะ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Johns Hopkins Whiting School of Engineering

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

บริษัท AI จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ก่อขึ้น "เจ้าพ่อ" พูด

bias-scale
ภาพจาก The Guardian (U.K.)

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ รวมถึง "เจ้าพ่อ (godfather)" แห่งปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI คือ Geoffrey Hinton   และ Yoshua Bengio ซึ่งทั้งสองได้รับรางวัล ACM Turing Award กล่าวว่าบริษัท AI จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ของตน ก่อนการประชุมสุดยอดด้านความปลอดภัยของ AI ในลอนดอน

Stuart Russell แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ 23 คนที่จัดทำข้อเสนอนโยบาย AI ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร เรียกการพัฒนาระบบ AI ที่ทรงพลังมากขึ้น ก่อนที่จะทำความเข้าใจวิธีทำให้ระบบปลอดภัยว่า "ประมาทเลินเล่ออย่างยิ่ง"

นโยบายที่นำเสนอ ได้แก่ การให้รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ทุ่ม 33% ของทรัพยากรการวิจัยและพัฒนา AI ไปในการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม บริษัทที่ค้นพบความสามารถที่เป็นอันตรายในตัวแบบ AI ของตนจะต้องนำมาตรการป้องกันเฉพาะมาใช้ด้วย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Guardian (U.K.)