วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ถอดรหัสความซับซ้อนของโรคอัลไซเมอร์

brain
ภาพจาก MIT News

ทีมนักวิจัยจากหลายสถาบันที่นำโดย Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเซลล์ทุกประเภทในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ โดยหวังว่าจะพบเป้าหมายการรักษาใหม่

Manolis Kellis จาก MIT กล่าวว่า "สิ่งที่เราตั้งใจจะทำคือการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการคำนวณและชีววิทยาของเราเข้าด้วยกัน และพิจารณาโรคอัลไซเมอร์อย่างไม่มีอคติในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยใช้ผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน"

ทีมวิจัยทีมหนึ่งให้คำจำกัดความการหยุดชะงักของการแสดงออกของยีนเมื่อโรควิวัฒนาการผ่านการจัดลำดับ RNA เซลล์เดียว โดยใช้เซลล์ 54 ชนิดที่ระบุในตัวอย่างสมองหลังการชันสูตรศพจำนวน 427 ตัวอย่าง

อีกทีมหนึ่งใช้วิธีการ ATAC-Seq บวกกับการจัดลำดับ RNA เซลล์เดียวเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงอีพิจีโนมิก (epigenomic) ของเซลล์ในกลุ่มควบคุม 48 กลุ่มและ 44 คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นหรือระยะสุดท้าย

การตรวจสอบอื่น ๆ มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของ microglia และความเสียหายของ DNA ต่อโรคอัลไซเมอร์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

X Scraps เครื่องมือรายงานช่าวปลอมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

X-logo
Photo by BoliviaInteligente on Unsplash

นักวิจัยจากโครงการริเริ่มความซื่อสัตย์ของสื่อออนไลน์ Reset.Tech Australia กล่าวว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ได้ปิดการใช้งานเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรายงานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้

นักวิจัยได้วิเคราะห์โพสต์บนโซเชียลมีเดียมากกว่า 6,000 โพสต์บน Facebook, Instagram, LinkedIn, TikTok, X และ YouTube โดยพบว่า X มี "อัตราส่วนของการค้นพบได้" ข้อมูลที่บิดเบือนมากที่สุด

Reset.Tech Australia กล่าวว่าฟีเจอร์นี้ยังคงใช้ได้อยู่เฉพาะในสหภาพยุโรปเท่านั้น เพราะอนุญาตให้ผู้ใช้รายงาน "ผลกระทบด้านลบต่อการเคลื่อนไหวผิดปกติของพลเมือง หรือการเลือกตั้ง" 

Reset.Tech Australia เรียกการนำเครื่องมือนี้ออกไปว่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" เนื่องจากออสเตรเลียจะจัดการลงประชามติเกี่ยวกับสิทธิของชนพื้นเมืองในเดือนตุลาคม

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BBC News

วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นักวิทยาศาสตร์สรรเสริญซอฟต์แวร์บุกเบิกในการตามล่าหาเอเลียน

mars
ภาพจาก The Guardian (U.K.)

นักวิทยาศาสตร์ที่ Carnegie Institution for Science (CIS), Purdue University, และ Johns Hopkins University ได้ฝึกอบรมซอฟต์แวร์เพื่อแยกแยะความแตกต่างของส่วนผสมทางเคมีที่ผลิตโดยสิ่งมีชีวิตจากส่วนผสมที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือเหตุการณ์อื่น ๆ

นักวิจัยได้นำตัวอย่าง 134 รายการจากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตเข้าสู่กระบวนการ pyrolysis -GC-MS ซึ่งแตกโมเลกุลอินทรีย์ของแต่ละตัวอย่าง จากนั้นพวกเขาใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และการสร้างตัวแบบทางคณิตศาสตร์เพื่อฝึกซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถระบุตัวอย่างที่มีต้นกำเนิดที่ไม่ใช่ทางชีวภาพ สิ่งมีชีวิต และฟอสซิลได้

การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมสามารถแยกแยะระหว่างตัวอย่างทางชีวภาพและไม่ใช่ทางชีวภาพได้ด้วยความแม่นยำ 90%  Robert Hazen จาก CIS แนะนำว่าเครื่องตรวจจับสัญญาณแห่งชีวิตสามารถเปลี่ยนให้มาเป็นการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้ พร้อมทั้งสามารถเจาะลึกมากขึ้นถึงต้นกำเนิดและกระบวนการทางเคมีของสิ่งมีชีวิตบนโลก

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Guardian (U.K.)


วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เซ็นเซอร์ยืดหยุ่นแบบพิมพ์สกรีนทำให้เอียร์บัดบันทึกกิจกรรมทางสมองและระดับการออกกำลังกาย

flexible-printed-screen-sensor
ภาพจาก UC San Diego Today

เซ็นเซอร์พิมพ์สกรีนที่ยืดหยุ่นซึ่งออกแบบโดยวิศวกรของ University of California, San Diego สามารถทำให้หูฟังเอียร์บัดบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมองมนุษย์และความเข้มข้นของแลคเตทระหว่างการออกกำลังกาย

เซ็นเซอร์จะรักษาการสัมผัสและปรับในขณะที่เอียร์บัดเคลื่อนไหว ในขณะที่ฟิล์มไฮโดรเจลโปร่งใสช่วยเพิ่มการสะสมเหงื่อ 

เมื่อสื่อสารกับเซ็นเซอร์แล้ว เอียร์บัดสามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายเพื่อแสดงภาพและการวิเคราะห์เพิ่มเติมบนสมาร์ตโฟนหรือแล็ปท็อปได้ 

นักวิจัยพบว่าเซ็นเซอร์มีประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลพอ ๆ กับการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมองที่ใช้กันในเชิงพาณิชย์และตัวอย่างเลือดที่มีแลคเตท

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UC San Diego Today

วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566

หน่วยความจำคอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้ที่อุณหภูมิสูกว่า 500 องศาเซลเซียส

memory-chip
ภาพจาก New Scientist

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (เพนน์) และห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศสหรัฐได้ผลิตอุปกรณ์หน่วยความจำคอมพิวเตอร์จากสแกนเดียมอะลูมิเนียมไนไตรด์ที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่เกิน 500 องศาเซลเซียส (932 องศาฟาเรนไฮต์)

นักวิจัยได้ประกบเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างชั้นแพลตตินัมและนิกเกิล และพบว่าอุปกรณ์ที่ได้สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงในอุณหภูมิที่สูงถึง 500 องศาเซลเซียส 

Jariwala ของเพนน์กล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าวตามทฤษฎีแล้วสามารถทำงานได้นานขึ้นในอุณหภูมิที่สูงขึ้น นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าอุปกรณ์รุ่นที่บางมากสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากถึงสองหรือสามกิโลไบต์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist