วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

หุ่นยนต์ใต้น้ำช่วยติดตามปลาในกระชัง

ภาพจาก SINTEF

นักวิจัยจากสถาบัน SINTEF ประเทศนอร์เวย์ ได้พัฒนาหุ่นยนต์ใต้น้ำที่จะติดตามปลาในกระชังโดยอัตโนมัติ หุ่นยนต์นี้ชื่อ CageReporter ซึ่งใช้ระบบระบุตำแหน่งใต้น้ำและระบบคอมพิวเตอร์วิชันแบบสามมิติ ในการระบุสภาพของตาข่ายและปลาในกระชัง ระบบนี้ยังใช้ขั้นตอนวิธีด้านปัญญาประดิษฐ์ในการติดตามพฤติกรรมของฝูงปลา ปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของมันโดยไม่รบกวนมัน CageReporter ยังใช้เซ็นเซอร์ที่อยู่บนตัวมันในการวัดอุณหภูมิของน้ำ และระดับของแสงและอ็อกซีเจน ถ้าหุ่นยนต์ตรวจพบความผิดปกติมันจะรายงานตำแหน่งของมันกับกับสถานีฐานโดยใช้สัญญาณอัลตราซาวด์ 

นักวิจัยบอกว่าเทคโนโลยีนี้ให้ข้อมูลที่สำคัญและแม่นยำอย่างมาก อย่างเช่นสุขภาพของปลาและสภาพของน้ำ ในอนาคตเราอาจสามารถทำอุตสาหกรรมสัตว์น้ำโดยไม่ต้องใช้คนเลยก็ได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Atlas


วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563

AI ช่วยปรับปรุงเสียงให้ชัดขึ้น

Photo by Craig Pattenaude on Unsplash

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันพัฒนาแนวทางใหม่ที่สามารถปรับปรุงคุณภาพเสียงในช่วงเวลาที่มีคนใช้โทรศัพท์หรือวิดีโอแชทมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด ระบบนี้มีชื่อว่า HiFi-GAN ซึ่งใช้เครือข่ายประสาทเทียมที่ทำให้เสียงคนที่บันทึกในคุณภาพต่ำกลายเป็นเสียงที่ทีคุณภาพเหมือนที่อัดในสตูดิโอ นักวิจัยพบว่า HiFi-GAN  ทำคะแนนได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ อีก 5 วิธี ในการปรับปรุงคุณภาพวีดีโอ โดยวัดจากการให้คะแนนของผู้ฟัง 28,000 คน จากวีดีโอที่บันทึกอยู่ใน Amazon Mechanical Turk

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Princeton University

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เครื่องมือซอฟต์แวร์ของ NIST ช่วยปรับปรุงคำแนะนำการฉีดวัคซีนของหมอ

Credit: B. Hayes/NIST

Forecasting for Immunization Test Suite (FITS) ของ National Institute of Standards and Technology (NIST) สหรัฐอเมริกา ช่วยทำให้แน่ใจว่าหมอแนะนำได้อย่างถูกต้องว่าคนไข้ควรได้รับวัคซีนแบบใด และเมื่อใด เครื่องมือซอฟต์แวร์นี้ทำให้ระบบดูแลสุขภาพของรัฐได้ทดสอบว่าระบบ Immunization Information Systems (IIS) แก้ปัญหาให้กับคนไข้อย่างถูกต้องหรือไม่ FITS ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยร่วมมือกับ Centers for Disease Control and Prevention เพื่อให้เห็นปริมาณความสอดคล้องระหว่างคำแนะนำกับมาตรฐานของชุมชนด้านการแพทย์ การทดสอบนี้ทำโดยอัตโนมัติ โดยอนุญาตให้มีการพัฒนา บำรุงรักษา และแบ่งปันกรณีทดสอบทั่วประเทศ ไปพร้อม ๆ กันด้วย นักวิจัยบอกว่าการทดสอบด้วย FITSทำให้พบว่าการทำนายของ IIS มีข้อผิดพลาดมากมาย การค้นพบนี้นำไปสู่การแก้ไขและปรับปรุงระบบ IIS ของรัฐในการให้บริการด้านวัคซีน

 อ่านข่าวเต็มได้ที่: National Institute of Standards and Technology

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

บั๊กด้านความมั่นคงของภาษาเขียนโปรแกรม

Image: Veracode

Veracode บริษัทวิเคราะห์โค้ดโปรแกรมในด้านความมั่นคง (security)ได้สแกนแอป 130,000 ตัวในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคง และได้พบช่องโหว่ที่สำคัญที่นักพัฒนาโปรแกรมจะต้องให้ความใส่ใจ บริษัทพบว่า 31.5% ของแอปที่เขียนโดยใช้ JavaScript และ 74.5% ที่เขียนโดยใช้ PHP จะมีช่องโหว่ด้าน cross-site script อย่างน้อยหนึ่งจุด นอกจากนี้ 71% ของแอป PHP ยังมีปัญหาด้านการเข้ารหัส 

ปัญหาข้อมูลรั่วไหลเป็นปัญหาหลักของแอปที่เขียนบน .Net (62.8% ของแอปที่ถูกสแกน) 66.5% ของแอปที่เขียนด้วย C++ มีปัญหาด้านการจัดการข้อผิดพลาด (error handling) 

ปัญหา line feed injection ถูกพบใน 64.5% ของแอปที่เขียนด้วยภาษา Java และ 35% ของแอปที่เขียนด้วย Python มีปัญหาด้านการเข้ารหัส  

ปัญหาที่มีความร้ายแรงมากพบในแอปที่เขียนด้วย C++ ถึง 59% และใน PHP 52% แต่พบเพียง  24% ใน Java และ 9.6% ใน JavaScript 

นักวิจัยบอกว่าจากตัวเลขในภาพรวมที่แสดงให้เห็นนี้แสดงว่า ไม่ได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องในด้านนี้อย่างจริงจังเลยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet



วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ปีที่ไม่น่าจดจำกำลังจะผ่านไป

หลังจากไม่ได้เขียนศรัณย์วันศุกร์มาพักหนึ่ง วันศุกร์นี้ก็ขอเขียนซะหน่อยแล้วกันนะครับ เพราะมันเป็นศุกร์สุดท้ายของปีที่ไม่น่าจดจำปีหนึ่งทีเดียว ทั้ง ๆ ที่เลขของปีสวยงามมากคือ 2020 นิตยสาร Times ถึงกับใช้รูปนี้เป็นหน้าปก และบอกว่ามันเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เคยมีมา 


จริง ๆ ศุกร์สุดท้ายของปีนี้คือวันคริสมาสต์พอดี ซึ่งควรเป็นช่วงของการเฉลิมฉลองแต่เนื่องจากสถานการณ์ของโลกในปีนี้ นั่บตั้งแต่ไฟป่าตามที่ต่าง ๆ และการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น และเมื่อถึงเดือนสุดท้ายของปี กลับดูหมือนจะแย่ลงไปอีก และผลกระทบของ COVID ไม่เป็นเพียงแต่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบไปถึงปัญหาเศรษฐกิจอีกด้วย 

ในส่วนประเทศของเรานั้น รัฐบาลเลือกที่จะไม่ให้มีการแพร่ระบาดในประเทศ โดยในตอนต้นนั้นเน้นด้านเดียว โดยแทบจะทิ้งมิติด้านเศรษฐกิจไปเลย พอสถานการณ์ดีแล้วจึงกลับมามองด้านเศรษฐกิจ ซึ่งก็ไม่รู้จะทันไหม แต่ขณะที่กลไกเศรษฐกิจกำลังจะเดินไป ก็เกิดมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นมาในเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งในบล็อกนี้ผมจะไม่โทษใครแล้วกันนะครับ เอาเป็นว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และก็หวังว่ารัฐบาลจะมองเห็นจุดบกพร่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จากการแก้ปัญหาในรอบแรก และไม่ให้มันเกิดซ้ำอีกในรอบนี้ (แต่ดู ๆ แล้ว อาจหวังไม่ได้ เพราะเอาง่าย ๆ ตอนนี้หน้ากากอนามัยก็เริ่มแพง และอาจจะขาดตลาดอีกแล้ว) 

ส่วนตัวถ้าถามว่าปีนี้มีผลกระทบอะไรไหม ก็มีญาติคนหนึ่งต้องเสียชีวิตไปในปีนี้ (ไม่ใช่จาก COVID) แต่นอกจากนั้นแล้วต้องบอกว่า โดยส่วนตัวก่อนเดือนสุดท้ายของปีก็ถือว่าไม่มีอะไรนะครับ สุขภาพก็ยังใช้ได้ การงานอาจหนักขึ้นหน่อย เนื่องจากต้องมาเปลี่ยนการเรียนการสอนออนไลน์อย่างกระทันหัน แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ทำให้ได้ทักษะด้านการจัดทำสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น ในปีนี้ผมได้สร้างนิสัยในการโพสต์ข่าวด้านวิทยาการทุกวันเป็นเวลาจะครบปีแล้ว ทีมฟุตบอลที่เชียร์คือลิเวอร์พูลก็ได้แชมป์ (แต่เอาจริง ๆ ผลงานลิเวอร์พูลนั้นดีมาก ๆ ในปี 2019 นะครับ พอเข้ามา 2020 ก็ดรอปลงไป แต่อาศัยว่าทำดีมาก่อนหน้าแล้วก็เลยได้แชมป์ไปอย่างสบาย) คนรอบตัวก็ไม่มีใครติด COVID 

แต่พอเข้าเดือนสุดท้ายของปี ก็เริ่มโดนกับเขาบ้าง เริ่มจากอุบัติเหตุรถยนต์เล็ก ๆ น้อย ซึ่งต้องบอกว่าผมไม่ได้ขับรถที่เกิดอุบัติเหตุโดยมีสาเหตุมาจากตัวเองมาเป็นสิบปีแล้วนะครับ พอวันที่ 2 ของเดือนสุดท้ายก็โดนเลย แต่มันก็เป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก 

แต่เหตุการณ์ที่แย่กว่านั้นมากก็คือ แม่ผมหกล้มครับ และเป็นการหกล้มในบ้าน ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะแม่ก็เดินจากห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพระ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันไม่เกิน 3 เมตร มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว พื้นก็ไม่ลื่น ไม่มีอะไรขวางให้สะดุดได้ แต่วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม น่าจะประมาณเที่ยง แม่ก็ล้มลงแถว  ๆ ห้องพระ ปกติแม่จะถือของมือหนึ่ง อีกมือจะถือไม้เท้า หรือไม่ก็เอาไว้คอยจับ แต่วันนั้นแม่บอกว่าไม่รู้นึกอะไร จึงถือของเต็มทั้งสองมือ และแม่ก็ล้มครับ ซึ่งในตอนแรกก็นึกว่าน่าจะแค่ช้ำ เพราะเป็นการล้มในบ้าน พืนก็เป็นพื้นไม้ แต่แม่ปวดมากขยับไม่ได้ เลยเรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาล ปรากฏว่ากระดูกสะโพกหักสามท่อน หมอถามหลายรอบมากว่าไม่ใช่ล้มนอกบ้านนะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัดครับ และนอนโรงพยาบาลสิบกว่าวัน จึงออกมาพักฟื้นที่บ้านได้ ดูเอาเถอะครับ เรื่องไม่น่าเกิดก็เกิด และไม่น่าหนักก็หนัก แต่คิดในแง่ดีคือการผ่าตัดออกมาปลอดภัย เพราะการผ่าตัดแบบนี้ในคนสูงอายุ มีความเสี่ยงมากมาย แต่สุขภาพโดยรวมของแม่ค่อนข้างดี ไม่เป็นเบาหวานอะไรพวกนี้ ก็เลยไม่เป็นอะไรมากนอกจากเจ็บแผลผ่าตัด 

ก็หวังว่าจากนี้ไปจะไม่มีอะไรแล้วนะครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายเรื่องก็เกิดจากปัจจัยภายนอกตัวที่ตัวเราเองคุมไม่ได้ อย่างการระบาดของ COVID แต่หลายเรื่องก็เกิดจากตัวเราเอง อย่างการเกิดอุบัติเหตุของรถผม หรือการล้มของแม่ ถ้าเราตั้งสติดี ๆ เหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิด 

สรุปปีนี้สิ่งที่เหมือนเดิมอย่างหนึ่งก็คือเวลายังคงผ่านไปเร็วมาก ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายใด ๆ เวลาก็เดินหน้าของมันต่อไป และผมก็ยังมีหลายอย่างที่ตั้งใจว่าจะทำก็ยังทำไม่เสร็จ บางอันยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำเหมือนเดิม :( แต่เราก็คงต้องมองต่อไปข้างหน้าครับ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว เราก็ดูก็จำเก็บไว้เป็นบทเรียนเหมือนที่ผ่าน ๆ มา และก็ตั้งเป้าหมายของเราต่อไป และก็หวังว่าปีหน้าเหตุการณ์โดยรวมของโลก และของประเทศจะดีขึ้น หวังว่าเราจะมีวัคซีนป้องกัน COVID ที่ได้ผล และมีปริมาณเพียงพอให้ทุกคนได้ฉีดกัน หวังว่าปีหน้าประเทศของเราจะมีรัฐบาลที่ดีกว่านี้ หรือต่อให้เป็นชุดนี้ ก็ขอให้เขามีปัญญาที่จะนำพาประเทศผ่านวิกฤติต่าง ๆ ไปได้โดยไม่ตกต่ำจนคนที่จะเข้ามากอบกู้ต้องใช้เวลานานเป็นหลายปี เหมือนลิเวอร์พูลที่ต้องรอถึง 30 ปี ก่อนจะกลับมาถึงจุดที่ตัวเองเคยเป็นได้ 

สุดท้าย สุขสันต์วันคริสมาต์และสวัสดีปีใหม่ 2564, 2021 ขอให้เป็นปีที่ดีครับ