วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2563

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows ตกเป็นเป้าหมายของมัลแวร์ 83% ใน Q1

รายงานจาก AV Test ซึ่งเป็นผู้ประเมินด้านความมั่นคงของ Microsoft Windows และ Android พบว่า 83.45% ของมัลแวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ มุ่งจู่โจมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ รายงานบอกว่ามีมัลแสร์ถูกสร้างใหม่ขึ้นมาประมาณ 114 ล้านตัวในปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะมากขึ้นคือ160 ล้านตัว เหตุผลที่มัลแวร์เพิ่มขึ้นเนืองจากการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้แฮกเกอร์ใช้ช่วงเวลาความไม่แน่นอนนี้ในการแพร่มัลแวร์และหลอกลวงแบบ phishing 

เหตุผลที่ Microsoft Windows เป็นเป้าจู่โจมนอกจากความที่มันเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปแล้ว มันยังเป็นระบบปฏิบัติการที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอีกด้วย จากฐานข้อมูล CVE ที่ใช้ในการติดตามเรื่องช่องโหว่ด้านความมั่นคงพบว่า Microsoft นั้นมีช่องโหว่ที่ร้ายแรงกว่า 660 ประการ และ 357 ประการเป็นของ Windows 10 โดย Windows 10 ถูกมองว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความมั่นคงน้อยที่สุด 

ประเภทของมัลแวร์บน Windows จากรายงานของ AV Test ในปี 2019 แสดงได้ดังรูปต่อไปนี้ 



ถ้าพิจารณาแพลตฟอร์มที่มีการแพร่ของมัลแวร์ เว็บเบราว์เซอร์เคยมีสัดส่วนอยู่ที่ 15.84% ในปีที่แล้ว และลดลงเหลือ 11.09% ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ Android เคยมีสัดส่วน 2.75% เมื่อปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นเป็น 3.24% ในปีนี้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง iOS, macOS, และ Linux มีสัดส่วน 2.35% ปีที่แล้ว และลดลงเป็น 1.91% ในตอนต้นปี 2020

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  PC Magazine

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563

Apple และ Google ขยายความสามารถของซอฟต์แวร์เตือนโคโรนาไวรัส

Apple และ Google ประกาศการขยายความสามารถของโปรแกรมเตือนโคโรนาไวรัส เพื่อให้หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ (ในสหรัฐ) นำไปใช้ได้ โดยไม่ต้องปรับปรุงอะไร โปรแกรมนี้จะถูกใส่มากับระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ และ iOS และใช้บลูทูช (bluetooth) เพื่อดูว่าคนสองคนอยู่ใกล้กันในเวลาที่นานอย่างมีนัยสำคัญ (คือนานพอที่จะมีการติดต่อของโรค) หรือไม่ โดยจะเรียกคุณสมบัตินี้ว่า “exposure notifications express” 

Covidwise ที่ Apple และ Google ติดตั้งมาในระบบปฏิบัติการของตัวเอง (Jonathan Baran/The Washington Post)

การติดตั้งระบบแจ้งเตือนแบบนี้มาในระบบปฏิบัติการเลย ทำให้รัฐไม่ต้องไปออกแบบโปรแกรมติดตามของตัวเอง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัฐ (ในสหรัฐ) จะได้รับข้อความแจ้งเตือนว่าจะเข้าร่วมโปรแกรมหรือไม่ ถ้าจะเข้าร่วมก็ทำตามไม่กี่ขั้นตอน ก็จะสามารถแชร์ข้อมูลบลูทูช และได้รับการแจ้งเตือน ถ้าเขาเข้าไปใกล้กับผู้เข้าร่วมโปรแกรมที่มีผลการตรวจเป็นบวก โดยวิธีการที่จะรู้ว่าใครมีผลเป็นบวกก็คือหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐจะเป็นผู้พิมพ์หมายเลขของคนที่มีผลเป็นบวกเข้าไปในระบบ โดยหมายเลขนี้จะไม่ซ้ำกัน ต่อข้อถามที่ว่าทำไม Apple กับ Google ไม่ทำทางเลือก "express" นี้ตั้งแต่แรก ๆ ก็ได้รับคำตอบว่า พวกเขาชอบที่จะเห็นเวอร์ชันสองของซอฟต์แวร์ของเขาดีกว่าเวอร์ชันแรก 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Washington Post

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563

การสรุปความที่น่าจะเก่งมาก ๆ จากวรณคดีไทย

เมื่อหลายวันก่อน ช่วยภรรยาขนของ คุณภรรยาก็ทวนว่าครบเจ็ดชิ้นแล้วใช่ไหม ก็มีอาขยานบทที่เคยท่องมาตั้งแต่เด็กแว่บขึ้นมาในหัว ก็เลยตอบไปว่า "เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรทัย" จำได้ไหมครับว่ามาจากเรื่องอะไร  หรือไม่เคยเรียนกันแล้ว แต่สงสัยเด็กรุ่นหลัง ๆ จะไม่ได้เรียนกันจริง ๆ เพราะลูก ๆ ตอนเรียนอยู่ก็ไม่เคยมาท่องให้ฟัง บทอาขยานนี้มาจากเรื่องสังข์ทองครับ ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 

พอนึกถึงอาขยานนี้ได้ก็เลยทำให้นึกถึงสิ่งที่น่าจะเป็นความสามารถหนึ่งที่นักวิจัยน่าจะมีกันก็คือความสามารถในการสรุปความครับ การเขียนบทคัดย่อในการวิจัย การเขียนบทการทบทวนวรรณกรรมก็ต้องใช้ความสามาถในการสรุปความ หรือการเขียนบทสรุปในงานวิจัยก็เช่นกัน 

สำหรับคนที่ไม่เคยท่องบทอาขยานนี้มาก่อนนะครับ มาดูกันครับ 

ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา

คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์

ชิ้นสองต้องขับเที่ยวเซซัง

อุ้มลูกไปยังพนาลัย

ชิ้นสามเมื่ออยู่ด้วยยายตา

ลูกยาออกช่วยขับไก่

ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร

ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน

ชิ้นห้าบิตรุงค์ทรงศักดิ์

ให้จับตัวลูกรักมาจากบ้าน

ชิ้นหกจองจำทำประจาน

ให้ประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย

ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา

ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล

เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรไท

ใครใครไม่ทันจะสงกา

ซึ่งเหตุการณนี้เป็นตอนที่พระนางจันเทวีแม่ของพระสังข์ ซึ่งทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในวังของท้าวสามล (พ่อตาพระสังข์) สลักชิ้นฟักทำอาหารให้พระสังข์ เพื่อให้รู้ว่าแม่อยู่ที่นี่ 

ซึ่งจะเห็นนะครับว่าเป็นการสรุปความช่วงชีวิตของพระสังข์ได้ชัดเจนและกระชับที่สุด และสำหรับคนอ่านอย่างเรา ๆ ต่อให้ไม่ได้อ่านเรื่องพระสังข์มาตั้งแต่ต้น มาอ่านแค่ตรงนี้ก็แทบจะรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จริงไหมครับ นอกจากนี้ผู้ประพันธ์ยังคงแสดงความประชดประชันของเมียหลวง ที่ต่อว่าพ่อกลาย ๆ ให้ลูกฟังด้วยนะครับ อย่าง 

"ชิ้นห้าบิตรุงค์ทรงศักดิ์ 

ให้จับตัวลูกรักมาจากบ้าน

ชิ้นหกจองจำทำประจาน

ให้ประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย

ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา

ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล" 


ซึ่งถ้าจะพูดภาษาชาวบ้าน ๆ ก็คือ ดูพ่อผู้ยิ่งใหญ่ของลูกสิ และดูเขาทำกับลูกสิ 

ถ้าจะว่าไปพระเอกอย่างพระสังข์นี่เอาจริง ๆ ก็ชอบซุกตัวอยู่ในเปลือกเพื่อหนีปัญหานะครับ ตอนเด็กก็แอบอยู่ในหอยสังข์ ทั้ง ๆ ที่ควรจะออกมาแสดงตัวกับแม่ จนสุดท้ายแม่ต้องมาทุบหอยสังข์ทิ้งไป และสุดท้ายก็ยังมาซุกตัวอยู่ในชุดเจ้าเงาะอีก จนเดือดร้อนไปถึงพระอินทร์ต้องแปลงกายมาทำท่าจะยึดเมืองท้าวสามล ถึงยอมถอดรูปเงาะออกมา 

แต่จะว่าไปก็ยังดีกว่าคนที่แอบย่องเข้าหาผู้หญิงทั้งที่ยังอยู่ในผ้าเหลือง เจ้าชู้ไปทั่ว แล้วยังผ่าท้องเมียเอาลูกมาทำกุมารทองอีก 

อ้าวว่าจะพูดเรื่องความสามารถในการสรุปความ ทำไมกลายเป็นวิจารณ์พระเอกในวรณคดีไทยได้ จบดีกว่า ขอให้มีความสุขในวันหยุดยาวนี้ครับ 

เมื่อนักบิน F16 มาสุ้กับ AI ใครจะชนะ

Photo by Kyaw Tun on Unsplash

กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้จัดการแข่งขันที่เรียกว่า "AlphaDogFight Trials" ขึ้น โดยเป็นการแข่งขันการบินต่อสู้กันระหว่างนักบินจริง ๆ ที่บังคับเครื่องบินผ่านอุปกรณ์ VR กับโปรแกรม AI โดยเครื่องบินจะมีอาวุธคือเครื่องยิงแสงเลเซอร์ ซึ่งสมมติว่าเป็นปืนกล ซึ่งผลการแข่งขันพบว่า AI เอาชนะไปได้อย่างง่ายดายทั้งห้ารอบ โดยใช้เวลาต่ำกว่าสองนาที อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมบอกว่า การชนะนี้ไม่ได้หมายความว่า AI จะสามารถชนะได้ในการต่อสู้กันจริง ๆ เพราะในการแข่งขันนี้มีข้อจำกักและข้อยกเว้นมากมาย โปรแกรมที่ชนะนี้เป็นโปรแกรมของ Heron Systems ซึ่งสามารถเล็งเป้าหมายได้แม่นยำกว่านักบินที่เป็นคน และยังชนะโปรแกรมที่พัฒนาโดยบริษัทอื่น ๆ อย่างเช่น โปรแกรมที่พัฒนาโดย Georgia Institute of Technology และ Lockheed Martin

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Fortune

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563

เงินเดือนของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

จากการสำรวจของ Burtch Works ที่เป็นบริษัทสรรหาผู้บริหารพบว่า COVID-19 ไม่มีผลกระทบกับเงินเดือนหรืองานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในเดือนกรกฎาคม ผู้ตอบแบบสอบถาม 7.6% บอกว่าทีมด้านวิเคราะห์ของตัวเองมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 

โดยมัธยฐานของเงินเดือนของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารจะมีรายได้ในช่วง $95,500 สำหรับพนักงานที่อยู่ในระดับ 1 ไปจนถึง $165,000 ในระดับ 3 

Salaries of data science individual contributors

 
BURTCH WORKS

สำหรับมัธยฐานของเงินเดือนในตำแหน่งบริหารจะอยู่ในช่วง $150,750 สำหรับระดับ 1 ไปจนถึง $250,000 ในระดับ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 มัธยฐานของเงินเดือนจะคงที่หรือเพิ่มขึ้นในแต่ละระดับขึ้นกับความต้องการ

 BURTCH WORKS


อ่านข่าวเต็มได้ที่: Forbes