แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Internet แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Internet แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

ต้องจ้างเท่าไรให้หยุดใช้อินเทอร์เน็ตหนึ่งปี

เวลาผ่านไปเร็วมากเผลอแป๊บเดียวเดือนที่สามของปีกำลังจะผ่านไปแล้ว ที่ตั้งใจไว้วางแผนไว้ก็ยังไม่ได้ทำตามเป้าหมายสักเท่าไรเลยครับ เรื่องบล็อกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังทำไม่ได้ จริง ๆ ตั้งใจจะเขียนอย่างน้อยสัปดาห์ละเรื่องแต่ตอนนี้ก็เว้นไปจะสามเดือนแล้วครับ เอาน่าคราวนี้ขอตั้งมาตั้งใจใหม่รับปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึงแล้วกันครับ

สำหรับวันนี้้ผมอยากจะตั้งคำถามตามชื่อบทความวันนี้ให้คิดกันครับว่า จะต้องจ้างเราสักเท่าไรดีเพื่อให้เราหยุดใช้อินเทอร์เน็ตหนึ่งปี ซึ่งคำถามนี้ผมได้มาจากการอ่านบทความชื่อ How Much Money Would It Take For You to Give Up The Internet For a Year?   ซึ่งผู้เขียนบทความได้นำผลสำรวจจาก Boston Consulting Group (BCG) ซึ่งได้สอบถามคำถามนี้กับประชาชนในกลุ่มประเทศ G-20 ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นดังนี้ครับ ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ $1,430 หรือประมาณ 44,330 บาท ถ้าแยกเป็นประเทศก็มีตัวอย่างดังนี้ครับ $323 ในตุรกี $1,215 ในแอฟริกาใต้ $1,287 ในบราซิล $4,453 ในฝรั่งเศส $3,450 ในอังกฤษ และ $2,500 ในสหรัฐอเมริกา

เห็นข้อมูลนี้แล้วคิดยังไงกันบ้างครับมากไปหรือน้อยไป สำหรับผมกับเจ้าของบทความคิดตรงกันครับว่ามันค่อนข้างจะน้อยเกินไป และที่น่าประหลาดใจก็คือที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแห่งเทคโนโลยี ค่าเฉลี่ยต่ำมากครับคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 77,500 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งถ้ามาจ้างผมเท่านี้ผมปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลยครับ

คราวนี้มาดูว่าทำไมผมถึงคิดว่ามันต่ำครับ ก่อนอื่นต้องแยกประเด็นก่อนนะครับว่ากรณีนี้ไม่ใช่กรณีที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ แต่เป็นกรณีที่มีให้ใช้ คนอื่นใช้แต่เราไม่ได้ใช้ ถ้าเป็นกรณีที่ไม่มีใช้นี่ผมอยู่ในยุคนั้นมาแล้ว ยุคที่การหาข้อมูลยังต้องพึ่งพาอาศัยห้องสมุดเป็นหลัก ต้องสั่งหนังสือผ่านร้านหนังสือรอกันทีเป็นเดือน ยุคที่ต้องถ่ายเอกสารรูปจากหนังสือมาลงแผ่นใสเพื่อสอน ดังนั้นผมเชื่อว่าผมอยู่ได้ แต่ถ้าเป็นกรณีที่คนอื่นเขาใช้และเราไม่ได้ใช้ผมคิดว่ามันทำให้เราเสียประสิทธิภาพในการทำงานและการดำเนินชีวิตไปเลยนะครับ ในขณะที่คนอื่นเขาสามารถค้นข้อมูลที่ต้องการได้ภายในไม่กี่นาที สามารถสั่งอีบุ๊คมาอ่านได้ทันที สามารถติดต่อสื่อสารได้ตามต้องการ เราต้องขับรถ ขึ้นรถไฟฟ้า ปั่นจักรยานหรือเดินไปห้องสมุด ซึ่งข้อมูลที่ได้จากห้องสมุดก็อาจไม่ทันสมัย เราต้องรอหนังสือที่สั่งไปประมาณอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์  เราต้องติดต่อธุรกิจกับคนอื่นผ่านทางไปรษณีย์แบบด่วนทันใจ (ems) :) ซึ่งคงไม่ทันใจเท่าไรแล้วในยุคนี้ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ :(

ถ้าถามว่าเท่าไรถึงจะจ้างผมได้  ผมยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดครับแต่คิดว่าไม่น่าต่ำกว่าเจ็ดหลัก (มากไปเปล่าเพ่...) และมันขึ้นอยู่กับอีกคำถามหนึ่งซึ่งเจ้าของบทความเขาก็ถามทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "แล้วจะทำได้หรือ?" นั่นสิแล้วผมจะทำได้หรือ ผมจะทนพลาดดราม่าต่าง ๆ บน twitter และ facebook ได้ยังไงกัน!

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ครึ่งคืนกับครึ่งวันกับการล็อกอินเน็ตทรู

สวัสดีครับวันนี้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการที่ต้องใช้บริการฝ่ายสนับสนุนเน็ตทรูมาเล่าให้ฟังกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค. ขณะที่ผมนั่งดูเรยาอยู่อย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งต้องอ่านตัววิ่งคอยย้ำเตือนตัวเองให้รู้ว่าสิ่งที่เห็นในจอภาพคือการแสดงอยู่นั้น (ผมว่าคนชาติอื่นถ้าเขาอ่านภาษาไทยออกคงประหลาดใจนะครับว่าคนไทยไม่รู้หรือไงว่าที่อยู่ในทีวีคือการแสดง ถึงต้องมีตัววิ่งบอก) ลูกชายก็มาบอกให้ช่วยดูหน่อยว่าเน็ตเป็นอะไร ผมก็ขึ้นมาดูปรากฏว่าที่หน้าจอคอมพิวเตอร์มันขึ้นข้อความว่าชื่อล็อกอินผิดพลาด ถึงตรงนี้คงต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมได้ไปทำเรื่องย้ายอินเทอร์เน็ตจากเบอร์หนึ่งมาอีกเบอร์หนึ่ง ผมตัดสินใจไม่เอาเราต์เตอร์ที่ทรูจะให้ เพราะไม่อยากที่จะต้องผูกพันว่าจะต้องใช้ทรูไปอีกปีครึ่ง (จริง ๆ จะเอามาก็ได้ เพราะตอนนี้แถวบ้านผมมันแทบไม่มีตัวเลือกอื่น แต่รู้สึกว่าที่เราเตอร์ที่เรามีอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว) ทรูก็ให้บัตรมาใบหนึ่งซึ่งต้องขูดเพื่อดูรหัส และบอกว่าประมาณ 4 วัน (นับจากวันที่ผมไปขอ) จึงจะใช้ได้ โดยทรูไม่คิดที่จะโทรมาหรือ SMS มาบอกเลยว่าใช้ได้แล้ว เอาเป็นว่าผมก็นับเอาว่า 4 วันแล้วก็ย้ายเราเตอร์มาต่อกับเบอร์ใหม่และก็ต่อเข้าไป ก็พบข้อความว่าให้ลงทะเบียนชื่อล็อกอินและรหัสผ่าน ขูดบัตรมาดูปรากฏว่าเป็นเลขอะไรไม่รู้ชุดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ล็อกอินและรหัสผ่าน ก็เลยโทรไปถามทาง call center ของทรูเบอร์ 1686 ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่ต้องใช้รหัสผ่านอะไรแล้ว ตอนนี้ทรูจะเช็คจากเบอร์โทรศัพท์ ผมก็ถามว่าที่เราเตอร์ผมมีล็อกอินและรหัสผ่านของเบอร์เก่าอยู่ต้องไปลบทิ้งหรือทำอะไรไหม ทางทรูก็บอกว่าไม่ต้อง จากนั้นก็เซ็ตค่าให้ผมใช้อินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งผมก็ใช้ได้มาปกติจนถึงคืนวันที่ 4 พ.ค. อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นนั่นแหละครับ

เมื่อเกิดปัญหาผมก็โทรไปหา call center จากการโทรครั้งนี้ทำให้ผมได้รับทราบว่ามีคนที่มีปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตของทรูมากมาย เพราะมีข้อความบอกประมาณว่า "เนื่องจากมีลูกค้าแจ้งปัญหาการใช้บริการเข้ามาเป็นจำนวนมากดังนั้นท่านอาจต้องคอยนานหน่อย" ซึ่งผมก็คิดว่าสงสัยเน็ตทรูจะล่ม ลูกค้าที่โทรเข้าไปอาจเป็นอาการเดียวกับผม แต่ก็ตัดสินใจรอคุยดูให้รู้แน่ คิดว่ารออยู่สักประมาณเกือบสิบนาทีได้ครับ ก็มีพนักงานมารับสายผมก็แจ้งอาการให้ทราบ พนักงานก็เช็คให้และบอกว่ายังไม่เห็นมีการติดต่อเข้ามาในระบบ (ตอนนั้นผมเปิดเราเตอร์ไว้) อาจเป็นปัญหาที่เราเตอร์ของผม บอกว่าให้ผมเซ็ตค่าเราเตอร์ใหม่ พร้อมทั้งถามว่าผมจำชื่อล็อกอินและรหัสผ่านของทรูได้ไหม อ้าวไหนตอนเปิดใช้ก็บอกว่าไม่ต้องใช้แล้ว ตอนนี้จะมาถามอะไรถึงถามผมก็ไม่มีให้ แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรไปปรากฏว่าสายหลุดครับ ซึ่งผมก็คาดว่าเดี๋ยวเขาคงจะโทรกลับมา ก็เลยไปจัดเตรียมเครื่องและอุปกรณ์เพื่อเตรียมเซ็ตเราเตอร์ เตรียมอุปกรณ์เสร็จ ดูเรยาจบไปอีกตอนก็ไม่มีใครโทรมา ก็เลยโทรกลับไปอีกครั้ง เหมือนเดิมครับรอไปประมาณสิบนาที ก็มีพนักงานน่าจะอีกคนนะครับมารับเรื่องต่อให้ คนนี้ไม่ถามล็อกอินรหัสผ่านครับแต่จัดการเซ็ตให้เลย ให้ผมใส่ค่าไปตามที่เธอบอก ผมก็เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามว่า "ไม่ต้องใช้แล้วไม่ใช่หรือครับ" เธอก็บอกว่าต้องใช้ (โอเคใช้ก็ใช้) เมื่อใส่เสร็จผมก็รีบูตเราเตอร์ปรากฏว่ายังมีอาการเดิมครับคือเข้าเน็ตไม่ได้ พนักงานก็บอกว่าแปลกตอนนี้ก็เห็นข้อมูลต่อเข้ามาแล้วนี่ ผมก็เลยลองเช็คสถานะเราเตอร์ดูก็ปรากฏว่าได้รับหมายเลข IP และ ค่า Gateway กับ DNS มาเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็บอกผมอีกว่าให้ลองเช็คค่า IP ของเครื่องดู (ขอให้ความรู้นิดหนึ่งครับตรงนี้จะเป็นการเช็คครับว่าตัวเราเตอร์จ่าย IP ให้กับเครื่องหรือไม่) ซึ่งผมก็เช็คดูก็ปรากฏว่าตัวเราเตอร์จ่าย IP ปกติดี สักครู่หนึ่งพนักงานก็บอกว่า "เอ๊ะทำไมดูเหมือนว่าล็อกอินจะหลุดไปอีกแล้ว สงสัยเราเตอร์ของคุณจะมีปัญหา" ผมก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น (ตอนนั้นยังไม่รู้ แต่ตอนหลังมานั่งคิดดูสงสัยขาเก้าอี้ที่ผมนั่งมันอาจจะเลื่อนไปชนปลั๊กเราเตอร์ ทำให้ไฟมันดับไปแป๊บหนึ่ง) พนักงานก็ถามว่าผมมีเราเตอร์ตัวอื่นไหม จริง ๆ ตอนนั้นผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับเราเตอร์แต่จะให้ลองดูก็ได้ ผมก็บอกว่างั้นเดี๋ยวผมจะไปเอาเราเตอร์ที่ทรูให้มาตอนสมัครเบอร์เก่ามาลองเซ็ตดูตามค่าที่ให้มา แล้วถ้าไม่ได้ยังไงจะโทรกลับไปอีกทีหนึ่ง

หลังจากเซ็ตเราเตอร์เสร็จลองต่อใหม่ก็อาการเดิมครับ ถึงตอนนี้ผมมั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซนต์ว่าปัญหาอยู่ที่ระบบตรวจสอบผู้ใช้ของทรูนั่นแหละ เพราะทุกอย่างก็ได้รับมาถูกต้อง เราเตอร์ก็ทำงานปกติ ก็เลยตั้งใจว่าโทรไปคราวนี้จะขอให้ลองทำขั้นตอนแอ็กติเวตผู้ใช้ใหม่อีกครั้ง โทรไปรอประมาณสิบนาทีเหมือนเดิม ก็ได้พูดกับพนักงาน(น่าจะ) อีกคนหนึ่ง ก็แจ้งอาการให้ทราบ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร เธอก็บอกประมาณว่าผมโทรมาหลายครั้งแล้วด้วยอาการเดิม สงสัยอาจเป็นปัญหาที่ชุมสายหรือที่บ้านยังไงให้ทิ้งเรื่องไว้แล้วจะให้ช่างไปดูให้ภายใน 24 ชั่วโมง ผมก็เลยชวนคุยเกริ่นนำไปว่าก่อนหน้านั้นไม่นานก็ยังปกติดีอยู่เลยไม่น่าจะเกี่ยวกับชุมสายนะ แต่คำตอบที่ผมได้รับทำให้ผมตัดสินใจที่จะไม่เดินเรื่องต่อในคืนนั้นครับ เพราะเธอพูดประมาณว่าตอนกลางคืนมีความชื้นสูงกว่าตอนกลางวันอาจทำให้มีปัญหาได้ บอกตามตรงผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำชี้แจงแบบนี้ นี่ระบบของทรูอ่อนไหวขนาดนี้เลยหรือครับ อย่างนี้
ถ้าฝนตกก็คงไม่ต้องใช้กันเลยสิ ก็ไม่รู้ว่านี่เป็นคำตอบที่เธอได้รับการอบรมมา เธอเข้าใจอย่างนั้นจริง ๆ หรือเธอคิดว่าผมนี่อาจจะเซ็ตอะไรไม่เป็นก็เลยพูดปัด ๆ ไปผมจะได้รอช่าง เอาเป็นว่าผมก็ตัดสินใจว่าเดี๋ยวตอนเช้าค่อยโทรใหม่ อาจจะได้พูดกับเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่แก้ปัญหาได้เก่งกว่านี้ อีกอย่างหนึ่งตอนนั้น ดูเวลาก็เกือบเที่ยงคืนข้ามคืนนี้ก็เป็นเวลาของปีใหม่ เอ๊ยไม่ใช่ ลูก ๆ ก็หลับหมดแล้ว ส่วนผมถ้าอยากใช้เน็ตจริง ๆ ก็ยังมีช่องทางอื่น แล้วผมก็เข้านอนครับ

แต่สรุปว่าผมไม่ได้โทรหา call center หรอกครับในวันรุ่งขึ้น เพราะทางฝ่ายช่างของทรูต้องขอชมว่าทำงานเร็วมาก เพราะโทรมาปลุกผมตั้งแต่ 8.00 น. ถามว่าใช้เน็ตได้หรือยังผมก็ไปเช็คดูปรากฏว่ายังไม่ได้ เขาก็บอกว่างั้นอีก 15 นาทีถึงบ้านผม เมื่อมาถึงเขาก็มาเช็คเราเตอร์ต่าง ๆ ตามที่ผมเซ็ตไว้เมื่อวาน ก็ปรากฏว่าทุกอย่างถูกต้อง และเขาก็สรุปตรงกับผมว่าปัญหาน่าจะอยูที่ระบบล็อกอินนั่นแหละ และเขาจะโทรไปให้ทางทรูจัดการเรื่องนี้  ผมก็สบายใจแล้วช่างมายืนยันเองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์หรือการตั้งค่าไม่ถูก และผมก็ไม่ต้องโทรเข้า call center เอง เพราะตอนกลางวันนี่ไม่รู้ต้องรอกี่นาที แต่แล้วช่างก็ทำให้ผมประหลาดใจครับ คือเขาใช้โทรศัพท์ของเขาโทรเข้า call center แล้วก็รอสายเหมือนลูกค้าทั่วไป ผมก็ถามว่านี่ทรูไม่มีเบอร์พิเศษสำหรับช่างหรือเขาบอกว่าไม่มี ต้องบอกว่าตอนกลางวันรอนานกว่ากลางคืนมากครับ และปัญหาคือเมื่อรอไปพักหนึ่ง ประมาณเกือบ 20 นาทีได้สายก็หลุดครับ หลุดก็โทรใหม่เป็นอย่างนี้ไปสองสามครั้งก็ล่อไปเกือบชั่วโมงแล้วครับ หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดช่างก็โทรไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าของเขาเพื่อขอเบอร์ตรงของวิศวกรที่ดูแลเรื่องนี้ และก็ขอให้จัดการเรื่องรหัสผ่านให้ใหม่ ซึ่งก็ได้ผลครับเรียบร้อยผมใช้เน็ตได้เหมือนเดิมหลังจากผ่านไปเกือบครึ่งวัน

นี่แหละครับประสบการณ์ที่ได้รับ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นครั้งแรก (และขอให้เป็นครั้งสุดท้าย) ครับที่มีปัญหาอินเทอร์เน็ตหลังจากใช้งานทรูมาได้หลายปีแล้ว ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ และก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมคนเขาถึงได้ต่อว่าต่อขานเรื่องบริการหลังการขายของทรูกันนัก หวังว่าผมคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกนะครับ หมดไปครึ่งวันกับครึ่งคืนแค่ไอ้เรื่องล็อกอิน ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังงอยู่นะครับว่าตอนแรกก็ไม่ต้องใช้แล้วทำไมตอนหลังถึงกลับมาต้องใช้อีกจะเอายังไงกันแน่ ปวดหัวยิ่งกว่าดูเรยาหันมาไล่จับคุณเล็กอีก

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

การระบุตำแหน่งผ่านอินเทอร์เน็ตอาจทำได้เที่ยงตรงถึง 690 เมตร

คณะนักวิจัยจาก University of Electronic Science and Technology ของจีน และ Northwestern University ได้พัฒนาวิธีการระบุตำแหน่งของผู้ใช้งานผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยวิธีการที่ใช้ก็คือใช้ Google Map เพื่อหาที่อยู่จริง ๆ และที่อยู่บนเว็บของมหาวิทยาลัยและองค์กรธุรกิจเพื่อนำมาสร้างเป็นแผนที่ IP address ซึ่งจากงานวิจัยนี้ก็จะได้ประมาณ 76,000 ตำแหน่ง ส่วนวิธีการคำนวณตำแหน่งของผู้ใช้ก็คือคำนวณเวลาส่งข้อมูลจากตำแหน่งที่มีอยู่ไปยังเครืองของผู้ใช้ จากนั้นก็แปลงจากเวลาเป็นระยะทาง ซึ่งก็จะสามารถให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงได้ในระยะทาง 690 เมตร หรืออาจจะได้ถึง 100 เมตร วิธีนี้มีคนบอกว่าถ้าเราใช้ proxy server เราก็สามารถให้ตำแหน่งที่อยู่หลอก ๆ ได้ แต่นักวิจัยบอกว่าเขาสามารถตรวจจับได้ว่าเป็น proxy server และถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะส่งค่า null กลับมาให้แทนที่จะเป็นตำแหน่งหลอก

ถึงแม้การระบุตำแหน่งผู้ใช้จะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่บางทีมันก็ละเมิดความเป็นส่วนตัวเหมือนกันนะครับ ยิ่งวิธีนี้การระบุตำแหน่งสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ใช้

ที่มา: News Scientist

ปริมาณข้อมูลสารสนเทศทางธุรกิจต่อปีอาจสูงถึง 9.7 เซตตาไบต์ต่อปี

คณะนักวิจัยจาก University of California, San Diego (UCSD) ได้ประมาณปริมาณการประมวลผลสารสนเทศทางธุรกิจต่อปีไว้ว่าอาจสูงถึง 9.7 เซตตาไบต์ (9,570,000,000,000,000,000,000 ไบต์) ต่อปีครับ โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลชั่วคราวที่เกิดขึ้น ใช้งานและหายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยที่เราไม่รับรู้เลยด้วยซ้ำ

ข้อมูลนี้ก็จะเป็นประโยชน์ที่จะทำให้เราได้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับว่าต้องทำงานหนักแค่ไหน

ที่มา : UCSD News

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อินเทอร์เน็ตโพรโตคอลสำหรับใช้ในอวกาศ

มหาวิทยาลัย Colorado at Boulder (CU-Boulder) ร่วมมือกับ NASA เพื่อพัฒนาอินเทอร์เน็ตที่ใช้เชื่อมระหว่างดาวต่าง ๆ จุดประสงค์ก็เพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่าง NASA และองการอวกาศอื่น ๆ กับยานอวกาศจากชาติต่างๆ ที่กำลังสำรวจดวงจันทร์ หรือดาวอังคารทำได้โดยสะดวก เทคโนโลยีใหม่นี้มีชื่อว่า Disruption Tolerant Networking (DTN) สาเหตุที่ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเหมือนที่ใช้อยู่บนโลกได้ก็เพราะว่า อินเทอร์เน็ตที่อยู่บนโลกกำหนดให้ต้องมีการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่กำลังรับส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ในอวกาศโอกาสที่สัญญาณเชื่อมต่อจะขาด ๆ หาย ๆ เป็นเรื่องปกติ เช่นในขณะที่ยานอวกาศกำลังเคลื่อนตัวไปด้านหลังดาวเคราะห์ หรือในขณะที่เกิดพายุสุริยะ ซึ่งระบบใหม่นี้จะเก็บข้อมูลเอาไว้ให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และส่งข้อมูลออกไปเมื่อเหตุการณ์เป็นปกติแล้ว นอกจากจะใช้ระบบใหม่นี้ในอวกาศได้แล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้บนโลกได้ด้วยเช่นใช้ในการติดตามฝูงสัตว์ ในบริเวณที่เป็นป่าเขาในประเทศโลกที่สาม หรือใช้ในทางการทหาร

ที่มา
University of Colorado at Boulder (CU-Boulder)