วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565

ยูเครนขอบริจาคเป็นเงินคริปโต ก้าวข้ามขีดจำกัดของการบริจาคปกติ

ิbitcoin-exchange
ภาพจาก The Washington Post

Elliptic บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนของสหราชอาณาจักรกล่าวว่ารัฐบาลของยูเครนสามารถระดมทุนได้กว่า 42 ล้านดอลลาร์ในสกุลเงินดิจิทัลในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ผ่านการระดมทุนจากคนทั่วไป  (crowd funding) 

Kuna.io บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตใน Kyiv กล่าวว่า การบริจาคบางส่วนได้ถูกแปลงเป็นสกุลเงินปกติแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นเงินยูโร และใช้เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น โดรนและเสื้อเกราะกันกระสุน ผู้สนับสนุนเงินคริปโตของตะวันตกมองว่านี่เป็นโอกาสในการทดสอบข้อถกเถียงที่ว่าบล็อคเชนสามารถทำให้สังคมแบบเปิดก้าวไปข้างหน้าได้หรือไม่ พวกเขาอ้างว่าเงินคริปโตทำให้ยูเครนหาเงินได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของรัฐบาล หรือข้อจำกัดของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มาจาก Silicon Valley ในขณะเดียวกันก็ให้ความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้จ่าย

ยังมีผู้กังวลว่าความคิดริเริ่มดังกล่าวอาจสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย หรืออาจกระตุ้นผู้นำเผด็จการให้พยายามดำเนินการในลักษณะเดียวกัน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Washington Post

 

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2565

Amazon กำลังจะปิดร้านหนังสือแบบจริง ๆ ทั้งหมดและร้าน 4-star ด้วย

Amazon-bookstore
ภาพจาก engadget

Amazon ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของโลก (ไม่ใช่ร้านกาแฟบ้านเรานะครับ) บอกกับ Reuter ว่ากำลังจะปิดร้านหนังสือจริง ๆ ทั้งหมด 68 สาขา และร้าน  4-star ในอเมริกาและสหราชอาณาจักร 

อย่างไรก็ตามทางบริษัทบอกกับ New York Times ว่าการซื้อขายในแบบคนต่อคนยังมีความสำคัญ โดยบริษัทจะโฟกัสไปที่ร้านแบบที่ไม่มีพนักงานเก็บเงินที่ใช้เทคโนโลยี Just Walk Out และร้านที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างร้านเสื้อผ้าใน Los Angeles วันปิดร้านจะแตกต่างกันไปในแต่ละสาขา พนักงานในร้านที่ปิดจะถูกย้ายไปทำที่ Amazon shop ที่อยู่ใกล้เคียง 

บริษัทเริ่มเปิดร้านหนังสือจริง ๆ สาขาแรกในเดือนพฤศจิกายน 2015 และร้าน 4-star ในเดือนกันยายน 2018 ซึ่งยังไม่แน่ใจนักว่ามันได้ผลดีแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ คือมันไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงเท่ากับร้านหนังสือบนอินเทอร์เน็ต 

Amazon ไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก บริษัทยังคงเปิดร้านแบบไม่มีพนักงานเก็บเงินมากขึ้น และยังมีร้านที่กำลังทดสอบระบบ Just Walk Out อย่าง Starbuck และ Sainsbury's  นอกจากนี้ยังเปิดร้านอาหารสดร้านแรกในปี 2020 อีกด้วย การปิดครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์ไปข้างหน้ามากกว่าถอยหลัง 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: engadget

 


วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565

เงินเดือนด้านเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้น 22% ในสิงคโปร์เนื่องจากการไล่ล่าหานักเขียนโปรแกรมที่มีทักษะ

Singapore
Photo by Jisun Han on Unsplash

รายงานโดย NodeFlair เว็บไซต์อาชีพด้านเทคโนโลยีของสิงคโปร์และ Quest Ventures บริษัทร่วมทุนในเอเชีย พบว่าเงินเดือนสำหรับวิศวกรซอฟต์แวร์ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 22% ในปีที่แล้ว รายงานระบุว่า บทบาทผู้เชี่ยวชาญ เช่นนักเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ระดับผู้นำทีม มีการขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ยสูงถึง 32% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแปรปรวนในวงกว้างของเงินเดือน

สาเหตุที่ทำให้เงินเดือนพุ่งสูงขึ้นทำให้ค่าครองชีพในสิงคโปร์สูงขึ้น ในขณะที่วีซ่าคนงานที่เข้มงวดกว่านั้นทำให้การค้นหาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มีอายุน้อยกว่านั้นซับซ้อนขึ้น Yu Liuqing จาก Economist Intelligence Unit กล่าวว่าความเข้มงวดนี้น่าจะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนพนักงาน โดยเสริมว่าบริษัทขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในท้องถิ่นอาจไม่สามารถรักษาระดับเงินเดือนที่สูงขึ้นสำหรับตำแหน่งจูเนียร์ได้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Bloomberg

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565

ก้าวข้ามขนมซอง ตู้หยอดเหรียญใน New York ขายงานศิลปะ NFT

์NFT-ATM
ภาพจาก Reuters

ตู้จำหน่ายสินค้าสำหรับโทเค็นที่ทดแทนกันไม่ได้ (Non-fungible Token) หรือ NFT เครื่องแรกได้ติดตั้งในNew York City โดย Neon แพลตฟอร์มรวบรวมงานศิลปะดิจิทัล "ตู้เอทีเอ็ม NFT" ที่หน้าร้านเล็กๆ ในย่านการเงินใน Lower Manhattan ขายรหัส QR ที่เชื่อมต่อกับงานศิลปะออนไลน์ในราคาตั้งแต่ 5.99 ถึง 420.49 ดอลลาร์ 

ลูกค้าจะไม่รู้ว่าพวกเขาซื้องานศิลปะดิจิทัลชิ้นใดจนกว่าจะสแกนรหัส QR ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถแสดงผลงานศิลปะบนสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ตเครื่องใดก็ได้ Kyle Zappitell แห่ง Neon กล่าวว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ "คนที่พยายามซื้อสกุลเงินดิจิทัล หรือสนใจที่จะซื้อ NFT แต่เจออุปสรรคมากเกินไป" Zappitell ยังบอกด้วยว่า "ในฐานะของผู้รวบรวมงาน NFT สิ่งที่คุณรักก็คือการสุ่มเอาว่าคุณจะได้อะไร ซึ่งนี่เป็นแง่มุมที่น่าตื่นเต้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565

คนแยกแยะโปรไฟล์ LinkedIn ปลอมที่สร้างจาก AI ได้แย่มาก

a-man-browsing-linkedin
ภาพจาก  New Scientist

นักวิทยาศาสตร์จาก University of Illinois at Urbana-Champaign (UIUC) และ Santa Clara University พบว่าโปรไฟล์ปลอมที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านธุรกิจ LinkedIn สามารถหลอกลวงผู้คนได้อย่างง่ายดาย

ผู้เข้าร่วมการศึกษาเกือบ 300 คนจะต้องตรวจสอบโปรไฟล์ 3 โปรไฟล์ โดย 2 โปรไฟล์มีรูปภาพโปรไฟล์ Deepfake หรือข้อความที่สร้างโดย AI ผู้เข้าร่วมยอมรับคำขอเป็นเพื่อนจาก 90% ของโปรไฟล์ Deepfake ที่สอดคล้องกัน และระหว่าง 79% ถึง 85% ของโปรไฟล์ที่มีข้อผิดพลาดให้เห็นอย่างชัดเจน

Jaron Mink แห่ง UIUC กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างของอายุ และสงสัยเกี่ยวกับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์น้อยกว่าภาพที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อได้รับแจ้งว่ามีการใช้โปรไฟล์ Deepfake เพื่อหลอกลวงผู้คน ระดับการยอมรับในส่วนของโปรไฟล์ที่ไม่สอดคล้องกันลดลงถึง 43%

Gang Wang ของ UIUC ตั้งข้อสังเกตว่าแม้ว่าผู้ใช้ที่ได้รับการฝึกฝนแล้วจะสามารถระบุโปรไฟล์ปลอมได้ดีกว่า "สถิติโดยรวมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาก็ยังไม่ค่อยเก่งในเรื่องนี้"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist