วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เซ็นเซอร์ช่วยให้ไม่ต้องเดาค่าต่าง ๆ ในการกำจัดสารปนเปื้อนออกจากหน้ากาก N95

ภาพจาก ACM

นักวิจัยจาก  University of Michigan, Northwestern University, และ University of Florida ได้สร้างแพลตฟอร์มเซ็นเซอร์ไร้สายที่ตรวจสอบอุณหภูมิ ความชื้น และเวลา เพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฆ่าเชื้อหน้ากาก N95 โดยใช้กำจัดด้วยละอองความร้อน (moist-heat decontamination) จากการทดลองใช้ทั้งในห้องปฏิบัติการ และการทดสอบทางคลีนิก แพลตฟอร์มจากงานวิจัยนี้ที่ชื่อว่า VeriMask ช่วยในการขจัดสิ่งปนเปื้อนอย่างเหมาะสมกับหน้ากากหลายร้อยชิ้นพร้อมกัน ผ่านเซ็นเซอร์ไร้สายที่รองรับบลูทูชพลังานต่ำ ( Bluetooth Low Energy) ซึ่งรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิและความชื้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้แอพสมาร์ทโฟนเพื่อติดตามกระบวนการนี้ในแบบเรียลไทม์ Josiah Hester จาก Northwestern กล่าวว่า "เราต้องการสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ที่สามารถตรวจสอบการปนเปื้อนที่เหมาะสมได้" การออกแบบและผังของ VeriMask ได้ถูกแบ่งปันให้สมาคม N95DECON งานวิจัยนี้ยังได้รางวัลที่สองการนำเสนอในรูปแบบโปสเตอร์ใน Conference on Embedded Networked Sensor Systems ซึ่งเป็นการประชุมวิชาการของ ACM 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Michigan


วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ในทะเลทราย Nevada บริษัทเทคโนโลยีจะทำหน้าที่เป็นรัฐบาล

 

ภาพจาก Associated Press

Jeffrey Berns จาก Blockchains LLC มีเป้าหมายที่จะสร้าง "เมืองอัจฉริยะ" แห่งอนาคตใน Storey County  Nevada ที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยซื้อสินค้าและบริการด้วยสกุลเงินดิจิทัล และบันทึกงบการเงิน ประวัติทางการแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลอื่น ๆ บนบล็อกเชน (blockchain) บริษัทกำลังขออนุญาตเริ่มงานในปีหน้า เพื่อสร้างบ้าน 15,000 หลัง และพื้นที่เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม 33 ล้านตารางฟุตภายใน 75 ปี แนวคิดของ Berns มาจากฐานของร่างกฎหมายที่อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีที่มีพื้นที่ 50,000 เอเคอร์ ซึ่งสัญญาว่าจะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้าง "เขตนวัตกรรม (innovation zones)" ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคนสามคนทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการเขต (county commissioner) โดยสองคนแรกมาจากบล็อกเชน  Berns บอกว่า "เพื่อให้เรากล้าที่จะเสี่ยง มีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้อย่างว่องไว และคิดหาทางออกได้เหมือนกับตอนที่เราทำเมื่อเราออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำไมเราถึงจะไม่สร้างรัฐบาลที่จะยอมให้เราทำสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาล่ะ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press

 

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีใหม่ในการพิมพ์เนื้้อเยื่อมนุษย์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่ใกล้เคียงกับของจริงมากขึ้น

ภาพจาก UPI

นักวิจัยของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการพิมพ์สามมิติทางชีววิทยา ที่แก้ไขปัญหาที่เกิดจากน้ำหนักของไบโอลิงค์ (bioink) วิธีนี้เรียกว่า Freefrom Reversible Embedding of Suspended Hydrogels ซึ่งทำงานโดยการพิมพ์ 3 มิติใน "อ่างรองรับ (support bath)" ซึ่งจะเก็บไบโอลิงค์ไว้จนกว่าจะจัดสภาพแวดล้อมที่รักษาความมีชีวิตของเซลล์เอาไว้ได้มากที่สุด การใช้อ่างรองรับจะเอาชนะความท้าทายของการพิมพ์ 3 มิติของวัสดุที่อ่อนนุ่มในอากาศ เนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะทำให้ไบโอลิงค์ที่อ่อนนุ่มและเหลวที่ถูกส่งเข้ามาพิมพ์ทีละชั้น มีรูปร่างที่บิดเบี้ยวไป  แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้ในการพิมพ์ลิ้นหัวใจที่ใช้งานได้แต่ Daniel J. Shiwarski จาก Carnegie Mellon กล่าวว่าการใช้เนื้อเยื่อที่พิมพ์ขึ้นนี้ในทางคลินิกยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UPI

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

การศึกษาพบว่า Apple Watch สามารถทำนายผลการวินิจฉัยโรค COVID-19 ได้ล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ก่อนการทดสอบจริง

Image Credits: Brian Heater

นักวิจัยจาก Mount Sinai Health System พบว่าการวินิจฉัยว่าผลการทดสอบ COVID-19 เป็นบวก (ติดเชื้อ) หรือไม่ โดยใช้แอพ Apple Watch และ iPhone โดยทำนายได้ล่วงหน้าถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการทดสอบด้วยการทำสว็อบเทสต์ (swab test)  ผู้เข้าร่วมทดสอบซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพหลายร้อยคนที่ Mount Sinai ใช้แอพนี้สำหรับการติดตามและรวบรวมข้อมูลสุขภาพ และกรอกแบบสำรวจรายวันเกี่ยวกับอาการสำคัญของ COVID-19 ที่อาจเกิดขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ เช่นความเครียด สิ่งที่นักวิจัยให้ความสนใจเป็นพิเศษคือความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของความเครียดในระบบประสาทร่วมกับข้อมูลรายงานอาการที่เกิดขึ้น  เพื่อทำนายการติดเชื้อ COVID ล่วงหน้า นักวิจัยพบรูปแบบ HRV ของผู้เข้าร่วมในระยะหนึ่งถึงสองสัปดาห์หลังจากการทดสอบแล้วว่าติดเชื้อ นักวิจัยเชื่อว่าการค้นพบนี้อาจเป็นประโยชน์ในการแยกบุคคลออกจากผู้อื่นที่มีความเสี่ยง โดยไม่ต้องตรวจร่างกายหรือทำสว็อบเทสต์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechCrunch

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

นักวิจัยแฮกบริษัทเทคโนโลยีกว่า 35 บริษัทโดยใช้วิธีใหม่ที่เรียกว่าการจู่โจมห่วงโซ่อุปทาน

 

ภาพจาก BleepingComputer

Alex Birsan นักวิจัยด้านความปลอดภัยเปิดตัวการจู่โจมใหม่ที่เรียกว่าการโจมตีห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ ที่สามารถเจาะเข้าสู่ระบบภายในของบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 35 แห่งรวมถึง Microsoft, Apple, PayPal, Shopify, Netflix, Yelp, Tesla และ Uber การโจมตีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการอัปโหลดมัลแวร์ไปยังที่เก็บ (repository) แบบโอเพนซอร์สเช่น PyPI, npm และ RubyGems จากนั้นจะกระจายต่อไปยังแอปพลิเคชันภายในของ บริษัทโดยอัตโนมัติ การโจมตีนี้ผู้ที่เป็นเหยื่อนั้นไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพราะวิธีนี้ใช้ประโยชน์จากความสับสนของการขึ้นแก่กัน (dependency confusion) ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของระบบนิเวศแบบโอเพนซอร์ส Birsan อธิบายว่า "ช่องโหว่หรือข้อบกพร่องในการออกแบบ ในเครื่องมือสร้างหรือติดตั้งอัตโนมัติ อาจทำให้มีการใช้แพ็กเกจแบบสาธารณะแทนแพ็กเกจที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ภายในบริษัท ที่ใช้ชื่อเดียวกัน" Birsan ได้รับเงินกว่า $ 130,000 เป็นรางวัลจากจากโปรแกรมล่าบั๊ก (bug bounty program) จากงานวิจัยนี้ของเขา

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BleepingComputer