วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ซอฟต์แวร์ยอมให้นักวิทยาศาสตร์ "เดินเข้าไป" ในตัวอย่าง

ภาพจาก Australian National University

ซอฟต์แวร์ Drishti ใหม่ที่พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Australian National University (ANU) ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เห็นภาพข้อมูลในแบบสามมิติแ ละสร้างตัวแบบที่เหมือนจริงของวัตถุเช่น ตัวอย่างฟอสซิลเพื่อให้สามารถ "ซูมเข้า" ไปเห็นรายละเอียดที่เล็ก ๆ ได้โดยไม่ทำให้ตัวอย่างต้นฉบับเสียหาย Yuzhi Hu จาก ANU กล่าวว่า "หลังจากที่เราสแกนตัวอย่าง เราจะมีชุดข้อมูล 3 มิติซึ่งสามารถนำมาจำแนกข้อมูลแบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เครื่องมือใหม่ของเรา" ทีมงาน ANU กล่าวว่าซอฟต์แวร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์และการศึกษา Ajay Limaye จาก ANU กล่าวว่าแอปพลิเคชันปัจจุบันของ Drishti นั้นรวมถึงการทำสำเนาตัวอย่างมัมมี่แบบดิจิทัล โปรแกรม Drishti นั้นฟรี และให้เข้าใช้ได้ผ่านทางออนไลน์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Australian National University

เพิ่มเติมเสริมข่าว: 

สามารถหาช้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Drishti ได้ที่นี่ครับ

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Amazon วางแผนจะใช้กล้องที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในรถส่งของเพื่อความปลอดภัยของคนขับ

ภาพจาก Reuters

Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านการค้าปลีกออนไลน์กำลังติดตั้งกล้องวิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI สำหรับกองทัพขนส่งของตัวเอง เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และชุมชน กล้องจากบริษัทเทคโนโลยีการขนส่ง Netradyne ใช้ AI เพื่อแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ให้กับผู้ขับขี่เกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ เช่นความเร็วสูงไป และไม่มีสมาธิในการขับขี่ ในวิดีโอการเรียนการสอน Karolina Haraldsdottir ของ Amazon กล่าวว่ากล้องวีดีโอแสดงให้เห็นว่าสามารถลดการชนกัน และปรับปรุงพฤติกรรมของคนขับได้ กล้องจะอัดวีดีโอไปเรื่อย ๆ แต่จะอัพโหลดวีดีโอเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างการเบรคอย่างรุนแรง หรือคนขับแสดงอาการง่วงอย่างหนัก Haraldsdottir กล่าวว่า“ ความตั้งใจของเราในการใช้เทคโนโลยีนี้คือการสร้างผู้ขับขี่ให้ประสบความสำเร็จ และให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน และการจัดการเหตุการณ์ต่าง ๆ ถ้าและเมื่อมันเกิดขึ้น

อ่านข่่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Denmark พัฒนาพาสปอร์ตแบบดิจิทัลเพื่อแสดงว่าฉีดวัคซีนแล้ว

ภาพจาก ACM

รัฐบาลของเดนมาร์กกำลังร่วมมือกับภาคธุรกิจ เพื่อสร้างหนังสือเดินทางดิจิทัลที่จะระบุว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนโคโรนาแล้วหรือไม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และบรรเทาข้อจำกัดเกี่ยวกับการแพร่ระบาด Morten Boedskov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคาดว่าหนังสือเดินทางโคโรนาดิจิทัลจะพร้อมใช้งานในสามถึงสี่เดือน Boedskov กล่าวว่า "มันจะเป็นหนังสือเดินทางพิเศษที่คุณสามารถใส่ไว้ในโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยมีเอกสารว่าคุณได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เราเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของโลกที่มีเอกสารนี้ และนำไปแสดงให้คนในโลกได้เห็น ตอนนี้ก็มีหนังสือเดินทางดิจิทัลอย่างน้อยหนึ่งรายการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อทำให้ผู้เดินทางสามารถแสดงว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของการทดสอบ Covid-19 และยังสามารถติดตามการฉีดวัคซีนได้อีกด้วย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press




วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

บั๊กในซอฟต์แวร์ของเครื่อง F35 ทำให้เพนตากอนต้องขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย

An F-35 Lightning II fighter jet. Source: U.S. Air Force

เพนตากอนกำลังปรึกษากับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาเพื่อประเมินซอฟต์แวร์ของเครื่องบินขับไล่ F-35 ของ บริษัทการบินและอวกาศ Lockheed Martin โดยหวังว่าจะช่วยแก้ไขระบบที่มีบั๊กได้ Laura Seal จากโปรแกรม F-35 กล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์จาก  Applied Physics Laboratory ของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ร่วมด้วย Software  Engineering Institute ของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Georgia Institute of Technology Research Institute กำลังทำการประเมินทางเทคนิคอย่างอิสระต่อกัน โปรแกรม F-35 มูลค่า 398 พันล้านดอลลาร์เกี่ยวข้องกับเครื่องบินขับไล่ของ Lockheed ที่มีโค้ดโปรแกมกว่า 8 ล้านบรรทัด Seal กล่าวว่าทางโครงการจะวิเคราะห์การประเมินเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ "ข้อมูลที่หลากหลาย" จากนั้นจะประกาศวันที่สำหรับหมุดหมายสำคัญของโปรแกรม รวมถึงการทดสอบการรบจำลองเพื่อประเมินประสิทธิภาพของ F-35 เทียบกับเครื่องบินและอากาศยานรุ่นล่าสุดของรัสเซียและจีน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Bloomberg

เพิ่มเติมเสริมข่าว: 

เอาข่าวนี้มาเล่าเพื่อให้เห็นว่าทางต่างประเทศเขาขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยทางด้านซอฟต์แวร์อย่างไรบ้าง มหาวิทยาลัยบ้านเราน่าจะจัดบริการทางด้านทดสอบระบบแบบนี้ เพราะตอนนี้โปรแกรมมีความซับซ้อนและเกี่ยวพันกับชีวิตของเรามากขึ้น 

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

AI ระบุผู้ติด COVID-19 ที่ไม่แสดงอาการ

Photo: Gao Han/VCG/Getty Images

นักวิจัยจาก บริษัท เทคโนโลยี Synergies Intelligent Systems และ Universität Hamburg ของเยอรมนีได้พัฒนาอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถระบุได้ว่าใครบ้างในฝูงชนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นพาหะของ Covid-19 แบบไม่แสดงอาการ อัลกอริธึมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการอนุมานของความน่าจะเป็นของแต่ละบุคคล (continuous learning and inference of individual probability) หรือ CLIIP ซึ่งใช้การเคลื่อนที่ของผู้คนในเมืองจากการใช้การติดตามตำแหน่งบนโลก (global positioning system) หรือ GPS และข้อมูลของผู้ป่วยที่ทราบว่าติดเชื้อเป็นฐานในการระบุ ความแม่นยำของ CLIIP ขึ้นอยู่กับการที่คนต้องใช้แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนที่ใช้ GPS ซึ่งเปิดการติดตามตำแหน่งของพวกเขาให้อยู่ในระยะไม่เกินหนึ่งเมตร (3.2 ฟุต) และบันทึกผลการทดสอบไวรัสที่เป็นบวก (คือติดไวรัส) Michael Chang ของ Synergies กล่าวว่า "ด้วยเทคโนโลยีประเภทนี้เราสามารถกักกันคนจำนวนน้อยมาก - เพียง 3% ถึง 5% และลดผลกระทบของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum