วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563

AI ระบุดาวเคราะห์ใหม่ 50 ดวง จากข้อมูลเก่าของ NASA

 

ภาพจาก CNN

การเรียนรู้ของเครื่องที่พัฒนาโดยนักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ University of Warwick ของประเทศอังกฤษ พบดาวเคราะห์ใหม่ 50 ดวง จากการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าของ NASA นักวิจัยได้สอนขั้นตอนวิธีโดยใช้ข้อมูลที่ได้มาจากกล้อง Kepler Space Telescope โดยได้สอนให้แยกความแตกต่างระหว่างดาวเคราะห์จริง ๆ กับสิ่งที่เหมือนว่าจะเป็นดาวเคราะห์ จากนั้นจึงนำไปใช้วิเคราะห์ชุดข้อมูลเก่าของสิ่งที่น่าจะเป็นดาวเคราะห์ ซึ่งได้ผลว่ามันค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบที่เราไม่เคยพบมาก่อน โดยนักวิจัยบอกว่า AI จะสามารถยืนยันความถูกต้องของตัวเลือกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ภายในไม่กี่วินาที และเพราะมันเป็นการเรียนรู้ของเครื่อง ดังนั้นมันจึงปรับปรุงขึ้นได้เรื่อย ๆ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีการค้นพบใหม่ ๆ 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNN

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563

Data Science Institute เพิ่มการโฟกัสไปที่จริยธรรมและขั้นตอนวิธี

Photo by Markus Spiske on Unsplash

University of California, Santa Cruz (UCSC) กำลังทำงานร่วมกันกับ universities of Washington, Wisconsin-Madison, และ Chicago เพื่อสร้างสถาบันสหวิทยาการ  Institute for Foundations of Data Science (IFDC) ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก U.S. National Science Foundation จุดประสงค์ของสถาบันคือการพัฒนาวิธีการเชิงจริยธรรมเพื่อวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีความเป็นได้สูงมากที่จะลำเอียง โดยชุดข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการศึกษา สิ่งที่คาดหวังจากการทำงานของสถาบันคือเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการคำนวณมากขึ้น ไม่ผิดพลาด  มีการตอบสนองและดำเนินการได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้ดีกว่าเทคนิคที่มีอยู่ในปัจจุบัน นักวิจัยบอกว่าในขณะที่เรากำลังมองหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดทางด้านศาสตร์ข้อมูล เราจะคำนึงถึงความยุติธรรม ความลำเอียง และความเป็นส่วนตัว 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UC Santa Cruz

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

ภาษาเขียนโปรแกรมตัวไหนที่ให้ค่าจ้างสูงสุด

Photo by Chris Ried on Unsplash

Upwork ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจ้างงานฟรีแลนซ์บอกว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบฟรีแลนซ์ที่ทำงานกับภาษาเขียนโปรแกรมเก่า ๆ หรือไม่เป็นที่นิยมมากนัก สามารถเรียกค่าจ้างได้สูงมาก ทักษะด้าน Objective-C ภาษาเขียนโปรแกรมที่ Apple พยายามจะแทนที่มันด้วย Swift ได้รับค่าจ้างสูงสุด  โดยเฉลี่ยอยู่ที่ $66 ต่อขั่วโมง ภาษาที่มาอันดับสองคือ Golang ของ Google อยู่ที่ $64 ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ภาษาหลายภาษาที่อยู่ในสิบอันดับแรกก็ไม่ดังมากนักอย่าง Windows PowerShell ก็ได้เงินถึง $62 ต่อชั่วโมง หรือ Excel VBA  ก็ได้ $60 ต่อชั่วโมง จริง ๆ แล้วภาษาที่อยู่ใน 15 อันดับแรกมีอัตราค่าจ้างไม่ต่างกันมากนัก แต่ที่น่าสนใจคือมีภาษาอยู่ 3 ภาษา ที่มีอัตราเติบโตในปริมาณการจ้างเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ภาษา SQL มีอัตราเติบโต 152%  ส่วน Java และ Ruby เพิ่มขึ้น 127% 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: ZDNet

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2563

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows ตกเป็นเป้าหมายของมัลแวร์ 83% ใน Q1

รายงานจาก AV Test ซึ่งเป็นผู้ประเมินด้านความมั่นคงของ Microsoft Windows และ Android พบว่า 83.45% ของมัลแวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ มุ่งจู่โจมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ รายงานบอกว่ามีมัลแสร์ถูกสร้างใหม่ขึ้นมาประมาณ 114 ล้านตัวในปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะมากขึ้นคือ160 ล้านตัว เหตุผลที่มัลแวร์เพิ่มขึ้นเนืองจากการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้แฮกเกอร์ใช้ช่วงเวลาความไม่แน่นอนนี้ในการแพร่มัลแวร์และหลอกลวงแบบ phishing 

เหตุผลที่ Microsoft Windows เป็นเป้าจู่โจมนอกจากความที่มันเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปแล้ว มันยังเป็นระบบปฏิบัติการที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอีกด้วย จากฐานข้อมูล CVE ที่ใช้ในการติดตามเรื่องช่องโหว่ด้านความมั่นคงพบว่า Microsoft นั้นมีช่องโหว่ที่ร้ายแรงกว่า 660 ประการ และ 357 ประการเป็นของ Windows 10 โดย Windows 10 ถูกมองว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความมั่นคงน้อยที่สุด 

ประเภทของมัลแวร์บน Windows จากรายงานของ AV Test ในปี 2019 แสดงได้ดังรูปต่อไปนี้ 



ถ้าพิจารณาแพลตฟอร์มที่มีการแพร่ของมัลแวร์ เว็บเบราว์เซอร์เคยมีสัดส่วนอยู่ที่ 15.84% ในปีที่แล้ว และลดลงเหลือ 11.09% ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ Android เคยมีสัดส่วน 2.75% เมื่อปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นเป็น 3.24% ในปีนี้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง iOS, macOS, และ Linux มีสัดส่วน 2.35% ปีที่แล้ว และลดลงเป็น 1.91% ในตอนต้นปี 2020

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  PC Magazine

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563

Apple และ Google ขยายความสามารถของซอฟต์แวร์เตือนโคโรนาไวรัส

Apple และ Google ประกาศการขยายความสามารถของโปรแกรมเตือนโคโรนาไวรัส เพื่อให้หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ (ในสหรัฐ) นำไปใช้ได้ โดยไม่ต้องปรับปรุงอะไร โปรแกรมนี้จะถูกใส่มากับระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ และ iOS และใช้บลูทูช (bluetooth) เพื่อดูว่าคนสองคนอยู่ใกล้กันในเวลาที่นานอย่างมีนัยสำคัญ (คือนานพอที่จะมีการติดต่อของโรค) หรือไม่ โดยจะเรียกคุณสมบัตินี้ว่า “exposure notifications express” 

Covidwise ที่ Apple และ Google ติดตั้งมาในระบบปฏิบัติการของตัวเอง (Jonathan Baran/The Washington Post)

การติดตั้งระบบแจ้งเตือนแบบนี้มาในระบบปฏิบัติการเลย ทำให้รัฐไม่ต้องไปออกแบบโปรแกรมติดตามของตัวเอง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัฐ (ในสหรัฐ) จะได้รับข้อความแจ้งเตือนว่าจะเข้าร่วมโปรแกรมหรือไม่ ถ้าจะเข้าร่วมก็ทำตามไม่กี่ขั้นตอน ก็จะสามารถแชร์ข้อมูลบลูทูช และได้รับการแจ้งเตือน ถ้าเขาเข้าไปใกล้กับผู้เข้าร่วมโปรแกรมที่มีผลการตรวจเป็นบวก โดยวิธีการที่จะรู้ว่าใครมีผลเป็นบวกก็คือหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐจะเป็นผู้พิมพ์หมายเลขของคนที่มีผลเป็นบวกเข้าไปในระบบ โดยหมายเลขนี้จะไม่ซ้ำกัน ต่อข้อถามที่ว่าทำไม Apple กับ Google ไม่ทำทางเลือก "express" นี้ตั้งแต่แรก ๆ ก็ได้รับคำตอบว่า พวกเขาชอบที่จะเห็นเวอร์ชันสองของซอฟต์แวร์ของเขาดีกว่าเวอร์ชันแรก 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Washington Post