วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566

ผู้ผลิตรถยนต์ไม่ผ่านการทดสอบความเป็นส่วนตัว ทำให้เจ้าของสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้น้อยมาก

cars-on-street
ภาพจาก Associated Press

การสำรวจโดยมูลนิธิ Mozilla Foundation ที่ไม่แสวงหากำไร พบว่าผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าอาจขายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของรถ 

Albert Fox Cahn จาก Carr Center for Human Rights Policy ของ Harvard เตือนว่า "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ขับขี่จ่ายเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อติดตั้ง กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาและผู้โดยสารมากขึ้นเรื่อย ๆ"

Mozilla กำหนดให้รถยนต์ได้รับคะแนนความเป็นส่วนตัวที่แย่ที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์มากกว่าสิบประเภทที่องค์กรได้ตรวจสอบมาตั้งแต่ปี 2017 ไม่มีแบรนด์รถยนต์ใดใน 25 ยี่ห้อที่มีประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่ Mozilla ตรวจสอบในปีนี้ ที่ตรงตามมาตรฐานความเป็นส่วนตัวขั้นต่ำขององค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับ 37% ของแอปพลิเคชันด้านสุขภาพจิตที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

แบรนด์รถยนต์ 19 แบรนด์กล่าวว่าพวกเขาสามารถขายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของได้ โดยครึ่งหนึ่งยินดีแบ่งปันกับรัฐบาลหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ต้องมีคำสั่งศาล

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566

ซอฟต์แวร์ช่วยให้นักวิจัยชีวการแพทย์ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

iCLOTS
ภาพจาก Georgia Tech College of Engineering

นักวิทยาศาสตร์ที่ Georgia Institute of Technology และ Emory University ได้สร้างซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้นักวิจัยที่มีข้อมูลภาพสามารถทำการวิเคราะห์ภาพทางชีวการแพทย์ที่ซับซ้อนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ด

โปรแกรม Cellular assay Labeled Observation and Tracking Software (iCLOTS) แบบโต้ตอบจะปรับอัลกอริทึมการถ่ายภาพในปัจจุบันที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว โดยนักออกแบบมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มไมโครฟลูอิดิกส์ (microfluidics) เป็นหลัก

ทีมงานได้ทดสอบความสามารถในการทำซ้ำและความไวของ iCLOTS โดยนำไปใช้กับชุดข้อมูลที่เผยแพร่หลากหลายชุด และเปรียบเทียบการวิเคราะห์กับผลการศึกษา และกับผลลัพธ์ที่รวบรวมโดยมนุษย์ในการตรวจสอบรูปภาพหรือวิดีโอ

ซอฟต์แวร์เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากโครงการที่อาจถูกมองข้ามในระหว่างการทดสอบการตรวจสอบความถูกต้อง

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Georgia Tech College of Engineering

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2566

เราคุยกับวาฬได้ไหม?

whale
ภาพจาก The New Yorker

นักวิจัยจาก Cetacean Translation Initiative (CETI) กำลังใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อช่วยถอดรหัส (coda) ที่วาฬใช้พูดคุยกัน และอาจทำให้ให้มนุษย์พูดคุยกับพวกมันได้เช่นกัน

นักวิจัยวางแผนที่จะติดอุปกรณ์บันทึกเสียงกับวาฬหัวทุย (sperm whale) ใกล้โดมินิกา เพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อฝึกอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง

พวกเขายังวางแผนที่จะบันทึกรหัสโคดาโดยใช้ "สถานีดักฟัง" สามแห่งที่ผูกไว้บนพื้นทะเลแคริบเบียน จากรหัสโคดา 25 รหัสที่บันทึกได้ของวาฬหัวทุยรอบๆ โดมินิกา ที่มีจำนวนและจังหวะการคลิกต่างกัน

Shane Gero จาก Carleton University ในแคนาดาได้รวบรวมรหัสโคดาของวาฬหัวทุยที่มีการคลิกประมาณ 100,000 ครั้ง แต่นักวิจัยของ CETI ประเมินว่าท้ายที่สุดแล้วจะต้องใช้จำนวนคลิกประมาณ 4 พันล้านคลิก

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The New Yorker

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566

การทดสอบคอมพิวเตอร์ควอนตัม

circuit
Photo by Manuel on Unsplash

ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คิดค้นวิธีการประเมินคุณภาพของคอมพิวเตอร์ควอนตัมโดยใช้เทคนิคทางฟิสิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และคณิตศาสตร์

Jens Eisert จาก Freie Universität Berlin ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า "มีการติดตั้งวงจรสุ่ม (Random circuit) จากนั้นผลการวัดจะถูกส่งออกเป็น 'ควอนตัมบิต' หรือ 'คิวบิต (qubit)'"

ข้อมูลประกอบด้วยข้อมูลการวินิจฉัยที่ครบครัน ซึ่งสามารถใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพและการทำงานของระบบควอนตัมในด้านต่าง ๆ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Freie University Berlin (Germany)

วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566

เซ็นเซอร์ตรวจจับแผ่นดินไหวติดตามการโจมตีด้วยระเบิดในยูเครน

destroy-building
ภาพจาก New Scientist

นักวิทยาศาสตร์จากมูลนิธิวิจัยแผ่นดินไหว NORSAR ของนอร์เวย์ และ State Space Agency แห่งรัฐยูเครน กำลังใช้เครื่องวัดแผ่นดินไหวที่ปกติใช้ในการตรวจจับแผ่นดินไหว เพื่อติดตามการโจมตีด้วยระเบิดในจังหวัดต่าง ๆ ใกล้กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน

Ben Dando และเพื่อนร่วมงานจาก NORSAR ใช้ซอฟต์แวร์และวิธีการที่มีอยู่เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมการตรวจจับที่สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้โดยอัตโนมัติภายใน 10 ถึง 15 นาทีหลังจากเกิดการระเบิด โดยคำนวณตำแหน่งและจังหวะเวลาของการระเบิดแต่ละครั้ง โดยขึ้นอยู่กับว่าเซ็นเซอร์แผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงตรวจพบคลื่นแผ่นดินไหวที่แตกต่างกันเมื่อใด

เทคนิคดังกล่าวพบว่ามีประสิทธิภาพเป็นพิเศษภายในรัศมี 200 กิโลเมตรจากสถานีแผ่นดินไหว Malin ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์แผ่นดินไหว 24 ตัวและเซ็นเซอร์อินฟาเรด ที่สามารถระบุคลื่นเสียงซึ่งโดยทั่วไปอยู่นอกขอบเขตการได้ยินของมนุษย์

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist