AI ปลอมเป็นเหยื่อทำลายธุรกิจของอาชญากร

ภาพจาก The Lighthouse (Macquarie University, Australia)

แชทบอทหลายภาษา Apate ที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ Macquarie University ของออสเตรเลียสามารถปลอมตัวเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะบ่อนทำลายธุรกิจของแกํงเหล่านี้

Apate ใช้การจำลองเสียงที่เหมือนจริงในการโต้ตอบและ "หลอกลวงพวกหลอกลวง" นักวิจัยวิเคราะห์การโทรหลอกลวงเพื่อแยกวิธีการวิศวกรรมสังคมของนักต้มตุ๋น ระบุ "สคริปต์" ของกลโกงผ่านการเรียนรู้ของเครื่องและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ก่อนที่จะฝึก Apate ให้เขียนบทสนทนาด้วยตัวเอง

Dali Kaafar จาก Macquarie กล่าวว่าระบบเหล่านี้ "สามารถหลอกนักต้มตุ๋นให้คิดว่าพวกเขากำลังพูดคุยกับเหยื่อ ดังนั้นพวกเขาจึงเสียเวลาไปกับการพยายามหลอกลวงบอท"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Lighthouse (Macquarie University, Australia)

Apple ร่วมค้านการสแกนข้อความที่เข้ารหัสในอแปพลิเคชัน

 BBC News

Apple ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้เปิดประเด็นกับหน่วยงานกำกับควบคุมคือ Ofcom ที่ใช้ Online Safety Bill ในการสแกนข้อความที่ส่งถึงกันแบบเข้ารหัสเพื่อสแกนหาเนื้อหาการล่วงละเมิดเด็ก

บริษัท ซึ่งกล่าวว่าควรแก้ไขมาตรการนี้เพื่อรักษาไว้ซึ่งการเข้ารหัส ได้เข้าร่วมกับองค์กรอื่น ๆ อีก 80 แห่งและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยี Chloe Smith พิจารณาอำนาจของร่างกฎหมายใหม่

รัฐบาล ตำรวจ และองค์กรการกุศลเพื่อการคุ้มครองเด็กบางแห่งของสหราชอาณาจักรอ้างว่าการเข้ารหัสแบบ end-to-encryption ป้องกันไม่ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและบริษัทเทคโนโลยีตรวจพบการแลกเปลี่ยนเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

Apple โต้แย้งว่าเทคโนโลยีดังกล่าวปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักข่าวและคนอื่น ๆ และ "ยังช่วยพลเมืองในชีวิตประจำวันปกป้องตนเองจากการสอดแนม การโจรกรรมข้อมูลประจำตัว การฉ้อฉล และการละเมิดข้อมูล"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BBC News

สะพานเชื่อมระหว่างสกุลเงินคริปโทที่ต่างกัน

Photo by Kanchanara on Unsplash

โปรโตคอลการกระจายอำนาจ (decentralized) ที่พัฒนาโดยนักวิจัยที่ Vienna University of Technology (TU Wien) ของออสเตรีย และระบบโทเค็นหลายบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ Pantos สามารถช่วยให้การแลกเปลี่ยนเงินคริปโทสกุลหนึ่งกับอีกสกุลหนึ่งมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

โปรโตคอลใหม่ Glimpse สามารถรวมเข้ากับซอฟต์แวร์คริปโทที่มีอยู่เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามสกุลเงิน 

Zeta Avarikioti จาก TU Wien กล่าวว่าโปรโตคอล "ต้องพิสูจน์ว่าเงินจำนวนนั้นถูกถ่ายโอนจริงโดยใช้ข้อมูลจำนวนค่อนข้างน้อยเท่านั้น หากจำเป็นต้องใช้บล็อกเชนขนาดใหญ่สำหรับสิ่งนี้ ด้วยข้อมูลหลายร้อยกิกะไบต์ มันจะใช้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง"

นอกจากนี้ Lukas Aumayr จาก TU Wien กล่าวว่า "Glimpse สามารถใช้เพื่อแสดงสินเชื่อคริปโทภายในสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) เช่นเดียวกับเครื่องมือทางการเงินแบบกระจายอำนาจที่น่าตื่นเต้นอื่น ๆ เช่น การย้ายสินทรัพย์ และการห่อ (wrap) และแกะ (unwrap) โทเค็น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TU Wein (Austria)

ระบบยืนยันตัวตนด้วยเสียงปลอดภัยแค่ไหน?

ภาพจาก University of Waterloo (Canada)

นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก University of Waterloo ของแคนาดาได้พัฒนาการโจมตีที่สามารถข้ามระบบรักษามั่นคงที่ใช้การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยเสียงหลังจากพยายามหกครั้ง

พวกเขาสร้างโปรแกรมที่สามารถลบเครื่องหมายในเสียงที่เป็นตัวระบุว่าสร้างจาก Deepfake ดังนั้นระบบจึงระบุไม่ได้ว่าไม่ใช่เสียงจริง 

แม้ว่าอัตราความสำเร็จเมื่อใช้กับระบบยืนยันตัวตนด้วยเสียงของ Amazon Connect จะอยู่ในช่วงเพียง 10% ในการโจมตีสี่วินาที ไปจนถึงมากกว่า 40% ในการโจมตีน้อยกว่า 30 วินาที แต่อัตราความสำเร็จของพวกเขาคือ 99% หลังจากพยายามหกครั้งกับระบบที่ไม่ซับซ้อน

Urs Hengartner จาก University of Waterloo กล่าวว่า "การสาธิตนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยของการยืนยันตัวตนด้วยเสียง เราหวังว่าบริษัทต่างๆ ที่อาศัยการยืนยันตัวตนด้วยเสียงเพียงอย่างเดียวในการยืนยันตัวตน จะพิจารณาปรับใช้มาตรการตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมหรือที่รัดกุมยิ่งขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: University of Waterloo (Canada)

แผนที่หลอดเลือดสมองมนุษย์เน้นการเปลี่ยนแปลงของโรคอัลไซเมอร์

ภาพจาก MIT News

นักวิทยาศาสตร์จาก Massachusetts Institute of Technology (MIT),  Harvard University และ Rush Alzheimer's Disease Center ในชิคาโก ได้สร้างแผนที่โมเลกุลของหลอดเลือดสมองมนุษย์เพื่อเน้นการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ หรือ AD ในหกบริเวณ

แผนที่มาจากด้วยผู้บริจาค 428 ราย โดย 220 รายที่ได้รับการวินิจฉัยโรค AD และกลุ่มควบคุม 208 ราย นักวิจัยได้กำหนดเซลล์หลอดเลือดมากกว่า 22,514 เซลล์จากบริเวณหกส่วนของสมอง โดยวัดการแสดงออกของยีนนับพันสำหรับแต่ละเซลล์

ชุดข้อมูลที่ได้เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนในส่วนต่างๆ ซึ่งทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างบุคคลที่มีและไม่มี AD 

Manolis Kellis จาก Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory ของ MIT กล่าวว่างานนี้จัดเตรียม "แผนที่เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบทางชีววิทยาและการรักษาตั้งแต่เบื้องต้นจากการลุกลามของโรค"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News