สหรัฐฯ ถอดรหัสการโจรกรรมคริปโทมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ จากการไม่เปิดเผยตัวตนของบิตคอยน์

ภาพจาก The Wall Street Journal

ทางการสหรัฐฯ ถอดรหัสการไม่เปิดเผยตัวตนของบิตคอยน์ (bitcoin)  และเปิดเผยการปล้นสกุลเงินคริปโท (cryptocurrency) มูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์โดยใช้หลักฐานทางธุรกรรมที่บันทึกไว้ถาวรในบัญชีแยกประเภทออนไลน์ของบล็อกเชน (blockchain)

เจ้าหน้าที่ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเปิดโปงการโจรกรรมคริปโท ของ James Zhong ซึ่งถูกขโมยผ่านข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ที่เปิดให้เกิดการถอนบิตคอยน์แบบฉ้อฉลในตลาดออนไลน์ Silk Road

ตั้งแต่นั้นมา เจ้าหน้าที่ของรัฐและบริษัทเอกชนได้รวบรวมสมุดที่อยู่บล็อกเชนจากการสืบสวนก่อนหน้านี้ เพื่อช่วยหน่วยงานรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่นในการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์

บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainalysis กล่าวว่าได้ทำการสำรวจที่อยู่กระเป๋าเงินมากกว่า 1 พันล้านที่อยู่ กรองสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมายและน่าสงสัยออก และระบุการแลกเปลี่ยนคริปโท การวิเคราะห์บล็อกเชน ทำโดยจัดทำแผนภูมิการไหลของสกุลเงินคริปโทที่เป็นของบุคคลและกลุ่มบุคคล

Internal Revenue Service กล่าวว่าสหรัฐฯ สามารถกู้คืนสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกขโมยไปได้มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ผ่านการฟ้องร้องในช่วงสองปีที่ผ่านมา

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Wall Street Journal

ผู้หญิงที่ออกจากงานเดิมมาเขียนโค้ด

ภาพจาก BBC News

ผู้หญิงในสหราชอาณาจักรบางคนกำลังท้าทายแนวโน้มของการเป็นตัวแทนของผู้หญิงในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ STEM ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชายด้วยการมาเป็นนักเขียนโปรแกรม

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรประเมินว่าในปี 2022 มีผู้หญิงทำงานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น 15,000 คน เมื่อเทียบกับปี 2021 ขณะที่ตำแหน่งนักออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นเกือบ 10,000 คน

องค์กรเพื่อสังคม Code First Girls ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงเสนอหลักสูตรการเขียนโค้ดฟรีสำหรับผู้หญิง และเชื่อมโยงบริษัทต่าง ๆ กับนักพัฒนาหญิงที่เพิ่งได้รับการฝึกอบรม 

Anna Brailford จาก Code First Girls กล่าวว่า ผู้หญิงควรได้รับโอกาสในการขจัดความคิดเหมารวมเกี่ยวกับอาชีพด้าน STEM และผู้หญิงเหล่านี้แต่ละคน "มาพร้อมกับประสบการณ์มากมายในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ดีขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BBC News

วิธีที่ง่ายกว่าที่จะกำจัดบั๊กออกจากภาษาเขียนโปรแกรม

ภาพจาก MIT News

เมื่อเดือนที่แล้ว Ajay Brahmakshatriya และ Saman Amarasinghe แห่ง Massachusetts Institute of Technology ได้เปิดตัวเครื่องมือสำหรับเพิ่มฟังก์ชันการหาจุดบกพร่อง (debugging) ให้กับภาษาเฉพาะโดเมน (domain-specific language) หรือ DSL

เครื่องมือ D2X ทำงานได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชุดซอฟต์แวร์ BuildIt ของนักวิจัย ซึ่งช่วยให้กระบวนการจับคู่ภาษาเขียนโปรแกรมอเนกประสงค์ (all-purpose programming languages) ลงใน DSL ได้

D2X เป็นไลบรารีที่เข้ากันได้กับดีบักเกอร์ที่มีอยู่ เช่น GDB หรือ LLDB ดังนั้นจึงสามารถทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซได้  Brahmakshatriya บอกว่า "คุณสามารถหาจุดบกพร่องในโปรแกรมของคุณโดยใช้โปรแกรมหาจุดบกพร่องยอดนิยมโดยไม่ต้องแก้ไขใด ๆ " ซึ่งหมายความว่าการเขียน DSL ด้วย BuildIt ทำให้โปรแกรมแก้ไขข้อผิดพลาดสามารถปรับใช้โดยไม่ต้องมีการเขียนโค้ดเพิ่มเติม

Amarasinghe กล่าวว่าสิ่งนี้และฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามา จะทำให้การสร้าง DSL น่าสนใจยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News

 

นักวิจัยสร้างการจำแนกประเภทสำหรับการเปิดเกมหมากรุก

Photo by Rafael Rex Felisilda on Unsplash

นักวิจัยจาก Complexity Science Hub Vienna ของออสเตรียได้พัฒนาวิธีการจำแนกประเภทแบบใหม่สำหรับการเปิดเกมหมากรุก

นักวิจัยวิเคราะห์เกมหมากรุก 3,746,135 เกม ผู้เล่น 18,253 คนที่มีคะแนนสูงกว่า 2,000 และการเปิดที่แตกต่างกัน 988 วิธีจากแพลตฟอร์มหมากรุกออนไลน์ Lichess เพื่อประเมินความคล้ายคลึงกันของการเปิดเกมหมากรุก

พวกเขาระบุได้ 10 กลุ่มที่แต่ละกลุ่มแสดงถึงรูปแบบการเล่นเฉพาะ Servedio ของ Complexity Science Hub Vienna  กล่าวว่า  "การจัดกลุ่มของเราแสดงถึงลำดับใหม่ที่ใกล้เคียงกับลำดับที่ใช้อยู่ และสามารถเพิ่มเข้าไปโดยแสดงให้ผู้เล่นเห็นว่าวิธีการเปิดนั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างไร"

วิธีการจำแนกประเภทแบบใหม่นี้ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับเกมที่คล้ายกัน เช่น Go หรือ Stratego ช่วยให้นักวิจัยสามารถวัดความสามารถของผู้เล่น (ความฟิต) และความยากของการเปิดเกม (ความซับซ้อน)

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Complexity Science Hub Vienna (Austria)

สวัสดี AInstein! หุ่นยนต์ที่ใช้ ChatGPT เขย่าห้องเรียนในไซปรัส

ภาพจาก Reuters

หุ่นยนต์ต้นแบบชื่อ AInstein สร้างขึ้นโดยนักเรียนมัธยมปลายและครูในไซปรัส ปรับปรุงการเรียนการสอนในชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ  AI คือ ChatGPT  ของ OpenAI

AInstein สามารถเล่าเรื่องตลก พยายามพูดภาษากรีก และให้คำแนะนำในการสอนทฤษฎีสัมพัทธภาพของ Einstein โดยมีหน้าจอเลียนแบบใบหน้าที่มีการกระพริบตาและขมวดคิ้ว

Elpidoforos Anastasiou หัวหน้าโครงการกล่าวว่า "นักเรียนสามารถถามคำถามเขา เขาสามารถตอบกลับ และเขายังช่วยอำนวยความสะดวกให้ครูสามารถถ่ายทอดบทเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"

ครูกล่าวว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้ในการศึกษาเป็นเป้าหมายของโครงการ ในขณะที่สมาชิกโครงการกล่าวว่าประสบการณ์กับ AInstein แสดงให้เห็นว่าไม่ควรกลัว AI

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters