วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565

COBOL อยากรู้ว่ามันยังได้รับความนิยมอยู่ไหม

Photo by Becomes Co on Unsplash

การวิจัยโดยคณะทำงาน COBOL (Common Business-Oriented Language) พบว่าปัจจุบันภาษาการเขียนโปรแกรมที่มีอายุ 63 ปีนี้ มีจำนวนโค้ดมากถึง 850 พันล้านบรรทัด ซึ่งมากกว่าการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ ประมาณไว้ระหว่าง 200 พันล้านถึง 300 พันล้านบรรทัด

ประมาณครึ่งหนึ่งขององค์กรที่ทำแบบสำรวจระบุว่าพวกเขาคาดว่าแอปพลิเคชันภาษาโคบอลจะคงอยู่ต่อไปอย่างน้อยในทศวรรษหน้า โดยปริมาณการใช้ภาษาโคบอลจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า

ในขณะเดียวกันคณะทำงาน COBOL กำลังร่วมมือกับ Linux Foundation Research และ  Linux Foundation Training and Certification เพื่อทำความเข้าใจการใช้งานสมัยใหม่และการลงทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับ COBOL 

Ed Airey จากคณะทำงานกล่าวว่า "โค้ดแอปพลิเคชันภาษาโคบอลจำนวนมากในตลาดนี้แสดงถึงคุณค่าที่น่าทึ่งสำหรับองค์กรต่าง ๆ และจำเป็นต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้น"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechRadar

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

Microsoft ยกระดับช่องโหว่ร้ายแรงของ Windows

microsoft-app-icons
Photo by Ed Hardie on Unsplash

Microsoft ได้ยกระดับช่องโหว่ของการเรียกใช้งานโค้ดของ Windows ที่เพิ่งค้นพบจากระดับสำคัญไปสู่ระดับวิกฤต 

บั๊ก CVE-2022-37958 คล้ายกับข้อบกพร่อง EternalBlue ที่ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ (ransomeware) WannaCry ใช้ 

มันยอมให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้มัลแวร์โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ ขณะที่การเจาะช่องโหว่เพียงครั้งเดียวสามารถกระตุ้นปฏิกิริยาลูกโซ่เพื่อการจำลองตัวเองไปยังเครื่องอื่น  ๆ โดยใช้ช่องโหว่ของเครื่องได้ 

จุดบกพร่องนี้ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถสั่งให้มัลแวร์ทำงานจากระยะไกล CVE-2022-37958 มีอยู่ในโปรโตคอลเครือข่ายที่หลากหลาย ทำให้แฮ็กเกอร์มีความยืดหยุ่นมากกว่าตอนที่ใช้ EternalBlue

Microsoft แก้ไขข้อบกพร่องในเดือนกันยายน แต่ยกระดับสถานะภัยคุกคามเมื่อ Valentina Palmiotti ของ IBM พบความสามารถในการรันโค้ดจากระยะไกล

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ars Technica

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565

Wi-Fi อาจช่วยระบุได้ว่าคุณหายใจไม่ออก

medical-training-manikin
ภาพจาก U.S. National Institute of Standards and Technology

นักวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Institute of Standards and Technology) หรือ NIST ของสหรัฐฯ ได้พัฒนาอัลกอริธึม BreatheSmart เพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของบุคคลและระบุว่าพวกเขามีปัญหาในการหายใจหรือไม่ผ่านเราเตอร์และอุปกรณ์ Wi-Fi 

นักวิจัยได้ปรับแต่งเฟิร์มแวร์บนเราเตอร์ Wi-Fi เพื่อขอข้อมูลสถานะช่องสัญญาณ (channel state information) หรือ CSI สูงสุด 10 ครั้งต่อวินาที เพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลดังกล่าว

นักวิจัยมีหุ่นจำลองทางการแพทย์ที่เลียนแบบสภาวะการหายใจต่างๆ การเคลื่อนไหวของหน้าอกเปลี่ยนเส้นทางที่สัญญาณ Wi-Fi เดินทาง

อัลกอริธึม BreatheSmart ใช้การเรียนรู้เชิงลึกเพื่อประมวลผลข้อมูลนี้ และจำแนกรูปแบบการหายใจที่จำลองโดยหุ่นจำลองด้วยความแม่นยำ 99.54%

อ่านข่าวเต็มได้ที่: U.S. National Institute of Standards and Technology


วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565

พนักงานไอทีที่มีทักษะยังมีความต้องการแม้สถานการณ์จะเป็นขาลง

 

working-environment
Photo by Austin Distel on Unsplash

Layoffs.fyi รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีกว่า 900 แห่งเลิกจ้างพนักงาน 143,500 คนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม พนักงานด้านเทคโนโลยีที่มีทักษะและประสบการณ์ด้านปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลยังคงเป็นที่ต้องการสูงในซิลิคอนวัลเลย์ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ขององค์กร และเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้า

Craig Freedberg จากบริษัทจัดหางาน Robert Half กล่าวว่า บริษัทที่ต้องการพนักงานด้านเทคโนโลยีและนักพัฒนาซอฟต์แวร์มีแนวโน้มที่จะจ้างพนักงานชั่วคราวแทนการเพิ่มจำนวนพนักงาน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: BBC News

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ผลการศึกษาการทำร้ายตัวเองเนื่องจาก TikTok "ฝันร้ายของผู้ปกครองทุกคน"

tiktok-icon
ภาพจาก The Guardian

การศึกษาโดยองค์กรไม่แสวงกำไร Centre for Countering Digital Hate ของสหราชอาณาจักร พบว่า อัลกอริทึมคำแนะนำของ TikTok แสดงเนื้อหาที่ส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง และนิสัยการกินที่ผิดปกติแก่วัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี 

นักวิจัยสร้างบัญชีที่เป็นบัญชี "มาตรฐาน" และ บัญชีที่มีความ "เสี่ยง" (ชื่อผู้ใช้มีคำเช่น ลดน้ำหนัก (loseweight)) โดยใช้อายุน้อยสุดคือ 13 ปี จากนั้นใช้บัญชีเหล่านั้นเพื่อ "ชอบ (like) " วิดีโอเกี่ยวกับภาพลักษณ์ร่างกาย การกินผิดปกติ และสุขภาพจิต 

พวกเขาพบว่าอัลกอริทึมคำแนะนำของ TikTok ตอบสนอง โดยเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายภายในสามนาที และเนื้อหาเกี่ยวกับนิสัยการกินผิดปกติภายในแปดนาทีในบัญชีมาตรฐาน 

จากผลการเปรียบเทียบ นักวิจัยพบว่าบัญชีที่มีความเสี่ยงได้รับวิดีโอดังกล่าวบ่อยขึ้น 3 เท่า และได้รับคำแนะนำมากกว่า 12 เท่า สำหรับวิดีโอเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเองและการฆ่าตัวตาย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: The Guardian