วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ไม้เทนนิสแบบเสมือนใช้แรงอัดอากาศในการสร้างความรู้สึกเหมือนตีลูกจริง


วีดีโอแสดงการทำงานของ AirRacket

นักวิจัยจาก National Taiwan University, University of Waterloo ของแคนาดา และ University of Maryland ได้ร่วมกันพัฒนา AirRacket ซึ่งเป็นตัวควบคุมเสมือนจริงที่ปล่อยอากาศอัดออกมาเพื่อจำลองแรงของลูกเมื่อกระทบกับแร็กเกต

นักวิจัยได้ออกแบบ AirRacket ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์สามมิติ โดยมีกรวยเก็บอาการอากาศที่อัดเอาไว้ แล้วใช้สร้างความรู้สึกว่าลูกกระทบกับแร็กเก็ตด้วยความแรงกว่าที่เป็นจริงถึงสี่เท่า David Swapp จาก University College London แห่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า เสียงและพลังของแร็กเกตช่วยเพิ่มความเหมือนจริงในการเล่นเทนนิส

ผู้เข้าร่วมการทดสอบกล่าวว่าตัวควบคุมทำให้เกมรู้สึกสมจริงมากขึ้น ในขณะที่ความรู้สึกที่ลูกกระทบแร็กเก็ตช่วยให้พวกเขาตีลูกไปยังเป้าหมายได้ดีขึ้น และทำให้เขารู้สึกได้ว่าพวกเขาตีลูกบอลได้ดีเพียงใด 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist


วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

คอนแทคเลนส์อัจฉริยะสำหรับโรคต้อหินสามารถปล่อยยาได้เมื่อจำเป็น

smart-contact-lens
ภาพจาก New Scientist

คอนแทคเลนส์ไร้สายต้นแบบที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น Sun Yat-Sen และ Jinan ของจีนสามารถช่วยรักษาโรคต้อหินได้ด้วยการจ่ายยาโดยอัตโนมัติเมื่อความดันภายในดวงตามากเกินไป 

ชั้นนอกของเลนส์มีวงแหวนของแผ่นทองแดงเล็กๆ ล้อมรอบรูม่านตา ซึ่งจะตรวจจับการเสียรูปของดวงตาที่เกิดจากแรงกดที่เพิ่มขึ้น เสาอากาศที่อยู่ใกล้กับดวงตาส่งข้อมูลนี้ไปยังคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ชั้นในของเลนส์มียา brimonidine ที่ลดความดันไว้ ซึ่งสามารถถูกปล่อยออกมาได้เมื่อได้รับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์

ในการทดสอบกับกระต่าย นักวิจัยพบว่าความดันตาของสัตว์ลดลงประมาณหนึ่งในสามหลังจากสวมเลนส์เป็นเวลา 30 นาที และโดยเฉลี่ยมากกว่า 40% หลังจากสวมใส่เป็นเวลาสองชั่วโมง

อ่านข่าวเต็มได้ที่: New Scientist


วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มัลแวร์บน iPhone ยังทำงานได้แม้จะปิดเครื่อง

iphone-low-batt
ภาพจาก  Ars Technica

นักวิชาการจาก Technical University of Darmstadt (TU Darmstadt) ของเยอรมนี  ได้สร้างมัลแวร์ที่ใช้ประโยชน์จากการทำงานอย่างต่อเนื่องของชิปบลูทูธของ iPhone แม้ว่าอุปกรณ์จะปิดอยู่ มัลแวร์ที่กำหนดเป้าหมายโหมดพลังงานต่ำ ( low-power mode-targeting) หรือ LPM ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์ หรือเรียกใช้คุณสมบัติใหม่ ๆ เมื่อปิดโทรศัพท์

"เนื่องจากการรองรับ LPM ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ของ iPhone จึงไม่สามารถลบออกได้ด้วยการอัปเดตระบบ" นักวิจัยอธิบาย "ดังนั้นจึงมีผลระยะยาวต่อรูปแบบการรักษาความปลอดภัยของ iOS โดยรวม" นักวิจัยกล่าวว่าการใช้ประโยชน์จากการค้นพบนี้ในทางปฏิบัติยังจำกัดอยู่ เนื่องจากการถ้าจะทำให้เครื่องติดมัลแวร์นี้จะต้องใช้ iPhone ที่เจลเบรคแล้ว นักวิจัยกล่าว และเสริมว่า มัลแวร์อื่น ๆ น่าจะมุ่งเป้าไปที่ฟีเจอร์ที่เปิดตลอดเวลาของ iOS มากกว่า

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ars Technica

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เทคโนโลยีอัจฉริยะช่วยรักษาแพนดายักษ์ของจีน

panda
ภาพจาก CNN

Sichuan Forest and Grassland Administration ของจีน และบริษัทเทคโนโลยี Huawei  ได้ร่วมกันพัฒนาระบบ Digital Panda เพื่อปกป้องถิ่นที่อยู่ของแพนด้ายักษ์ด้วยการตรวจจับไฟป่าในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ซึ่งพวกมันอาศัยอยู่ และแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและหน่วยดับเพลิงเพื่อให้พวกเขาสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

ระบบที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะรวบรวมข้อมูลจากกล้อง 596 ตัว กล้องอินฟราเรด 45 ตัว โดรน และดาวเทียม และจัดเก็บข้อมูลไว้ในคลาวด์ ระบบยังรวมระบบจดจำใบหน้าสำหรับแพนด้าไว้ด้วย โดยใช้อัลกอริธึมที่ทดสอบและปรับแต่งโดยใช้ฐานข้อมูลกว่า 6,400 ภาพที่ถ่ายจากแพนดา 218 ตัวที่อยู่ในความดูแล

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNN

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ชายผู้ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด

human-neurons
ภาพจาก The New York Times Magazine

Dennis DeGray  เป็นอัมพาตมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 สามารถควบคุมร่างกายได้เหมือนเดิมผ่านอินเทอร์เฟซระหว่างคอมพิวเตอร์กับสมอง (brain-computer interface) หรือ BCI ที่พัฒนาโดยนักวิจัยของ Stanford University 

BCI ที่ปลูกฝังในตัวเขาในปีพ.ศ.  2559 ช่วยให้ DeGray เลื่อนเคอร์เซอร์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด โดยใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ด้วยเครื่องที่เชื่อมโยงรูปแบบกิจกรรมประสาทที่แตกต่างกันกับการสั่งให้เคลื่อนไหวมือในลักษณะต่าง ๆ  DeGray ได้เรียนรู้ที่จะควบคุมเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยความคิดของเขา รวมถึงวิดีโอเกม แขนขาหุ่นยนต์ และโดรนจำลอง

ความก้าวหน้าของ BCI จนถึงปัจจุบันได้อาศัยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่รุกราน (invasive) และไม่รุกราน (noninvasive) Thomas Oxley จาก Synchron หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนา BCI เชื่อว่าตัวแบบในอนาคตจะช่วยให้ผู้พิการทางร่างกายกลับมามีส่วนร่วมกับสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพและดิจิทัลอีกครั้ง

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  The New York Times Magazine