วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

Digital Athlete ของ NFL ใช้ AI ช่วยลดการกระทบกระเทือนและการบาดเจ็บได้อย่างไร

NFL
ภาพจาก Photo by Adrian Curiel on Unsplash

National Football League (NFL) และ Amazon Web Services ได้สร้าง Digital Athlete ซึ่งเป็นเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ภาพโทรทัศน์และเซ็นเซอร์ในชุดฟุตบอลเพื่อช่วยลดการบาดเจ็บในเกมอเมริกันฟุตบอล  ระบบสร้างตัวตนดิจิทัลของนักกีฬาในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง และใช้การเรียนรู้ของเครื่องและคอมพิวเตอร์วิชัน (computer vision) เพื่อระบุผลกระทบและการบาดเจ็บต่อร่างกายเสมือนของเขา/เธอ

Priya Ponnapalli ที่ Amazon Machine Learning Solutions Lab กล่าวว่าการตั้งค่าเสมือนช่วยให้สามารถสัมผัสสถานการณ์ของเกมและสภาพแวดล้อมได้โดยไม่จำกัด "ทำให้สามารถทดสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่ ทดสอบเมื่อกติกาเปลี่ยนไป และคาดการณ์เหตุการณ์การบาดเจ็บของผู้เล่นและแนวท้างการฟื้นฟูในท้ายที่สุด"

Jeff Miller จาก NFL กล่าวว่า "การทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจว่าผู้เล่นโดนหมวกกันน็อคกี่ครั้งในระหว่างเกม จะช่วยหาวิธีที่จะลดปริมาณการสัมผัสหมวกกันน็อค"

อ่านข่างเต็มได้ที่: New Scientist

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

เฮลิคอปเตอร์ Black Hawk บินโดยไม่มีนักบินอยู่ในเครื่อง

black-hawk
ภาพจาก CNN

สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านการป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือ DARPA ประกาศว่าเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk ทำการบินอัตโนมัติครั้งแรกที่ Fort Campbell ในรัฐเคนตักกี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ 

เฮลิคอปเตอร์บินเป็นเวลา 30 นาทีโดยไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Aircrew Labor In-Cockpit Automation System (ALIAS) ของ DARPA

เครื่องบิน UH-60A รุ่น Black Hawk ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีอัตโนมัติ Sikorsky MATRIX จาก Lockheed Martin เพื่อให้สามารถบินได้โดยไม่ต้องใช้นักบิน

Stuart Young จาก DARPA กล่าวว่า "ด้วย ALIAS กองทัพจะมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความสามารถในการควบคุมเครื่องบินตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งที่มีและไม่มีนักบิน และในสภาวะที่ยากลำบากต่างๆ เช่น การต่อสู้ สภาวะที่มีความแออัด และสภาพวิสัยทัศน์ที่ไม่ดี 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNN

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ระบบคอมพิวเตอร์วิชันถูกออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์เซลล์ในวีดีโอจากกล้องจุลทรรศน์

neutrophil-segmentation
ภาพจาก Universidad Carlos III de Madrid (Spain)

ทีมนักวิจัยนานาชาติได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์วิขชันที่สามารถวิเคราะห์เซลล์ในวิดีโอชีวการแพทย์ที่ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์ได้โดยอัตโนมัติ ระบบนี้รวมโครงข่ายประสาทเชิงลึก (deep neural network) เทคนิคทางสถิติ และตัวแบบทางเรขาคณิต

Ivan González Díaz ที่มหาวิทยาลัย Universidad Carlos III de Madrid ของสเปน กล่าวว่าระบบนี้ให้ความแม่นยำและความเร็วที่ดีขึ้น "มันไม่เหมาะในทางปฏิบัติที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาแบ่งกลุ่มและติดตามเซลล์ในวิดีโอเป็นเวลาหลายเดือน" เขากล่าว "ในทางกลับกัน เพื่อให้ได้แนวคิดโดยประมาณ (เพราะขึ้นอยู่กับจำนวนเซลล์และความลึกของปริมาตร 3 มิติ [สามมิติ]) ระบบของเราใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการวิเคราะห์วิดีโอความยาว 5 นาที"

นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้วิธีนี้ได้ค้นพบว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันนิวโทรฟิลมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันในเลือดระหว่างการอักเสบ และหนึ่งในความหลากหลายนั้นดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับการพัฒนาของโรคหัวใจและหลอดเลือด

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Universidad Carlos III de Madrid (Spain)

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

เมื่อผมหลงเข้าไปใช้ M-Flow โดยบังเอิญ

สวัสดีครับ หลังจากไม่ได้เขียน #ศรัณย์วันศุกร์ มาซะนาน วันนี้พอจะมีเวลาบ้างและบังเอิญได้รับประสบการณ์การใช้งาน M-Flow เป็นครั้งแรก และเป็นแบบบังเอิญซะด้วย และก็เพิ่งอ่านข่าวว่ารู้สึกจะเมื่อวานหรือเมื่อวานซืนที่รถติดหน้าด่านมาก ๆ อาจมีสาเหตุมาจาก M-Flow ก็เลยจะมาเล่าให้ฟังกัน และมีข้อเสนอแนะบางอย่างเผื่อถ้าคนที่เกี่ยวข้องได้อ่านจะได้พิจารณาดูว่าจะไปปรับใช้ได้ไหมนะครับ

ก่อนอื่นมารู้จัก M-Flow กันก่อนครับ M-Flow เอาง่าย ๆ คือวิธีเก็บค่าผ่านทางพิเศษแบบใหม่ ซึ่งจะไม่มีไม้กันให้เราต้องจอดจ่ายเงิน หรือต้องชะลอรถเพื่อให้มีการอ่านบัตร Easy Pass หรือ M-Pass เพื่อหักเงินเราก่อนจะเปิดไม้กั้นให้เราผ่านไป ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการของกระทรวงคมนาคม ซึ่งตั้งใจจะนำมาใช้กับมอเตอร์เวย์ และทางด่วน ซึ่งเปิดตัวให้ใช้อย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ด่านทับช้าง 1 ทับช้าง 2 ธัญบุรี 1 และธัญบุรี 2 

โดยวิธีการของระบบนี้คือเขาจะมีกล้องจับทะเบียนรถเรา แล้วก็ไปเก็บเงินเราตามวิธีการที่เราระบุไว้ตอนเราลงทะเบียนใช้งานระบบ หรือในตอนนี้เราไม่ลงทะเบียนก็ใช้ได้วิ่งผ่านไปก่อน แล้วเขาจะมีเว็บไซต์ให้เราไปจ่ายเงินทีหลังโดยป้อนทะเบียนรถเราเข้าไป ซึ่งกรณีของผมเป็นแบบหลังนี้ครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับ M-Flow สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ M-Flow ครับ 

จริง ๆ ผมได้รับอีเมลให้ลงทะเบียนสมัครใช้ M-Flow มาก่อนหน้านี้เป็นเดือนแล้วครับ แต่ไม่ได้สนใจจะสมัคร เพราะเหตุผลสองอย่าง อย่างแรกคือยังไม่ไว้ใจระบบอ่านเลขทะเบียนนี่สักเท่าไหร่ เพราะแค่ Easy Pass ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ แค่แสดงจำนวนเงินในบัตรตอนขับผ่านยังแสดงไม่ตรงเลย คือมันมักจะดีเลย์ไปแสดงของรถคันหน้าเรา อีกอย่างหนึ่งก็คือผมมองว่าวิธีนี้มันผูกติดกับตัวรถ คือถ้าผมเปลี่ยนรถ หรือมีวันหนึ่งสมมติต้องยืมรถภรรยามาขับ ถ้าเป็น Easy Pass ผมก็แค่เอามันไปใช้กับรถที่ผมจะใช้วันนั้น แต่ถ้าเป็นระบบนี้ผมก็ต้องลงทะเบียนรถทุกคัน ซึ่งขั้นตอนการลงทะเบียนถึงแม้จะดูไม่ยาก แต่ก็ดูยุ่ง ๆ และถ้าต้องลงทะเบียนรถหลายคัน ก็น่าจะยุ่งขึ้นไปอีก ก็เลยยังไม่สมัคร และคิดว่าจะใช้  Easy Pass ไปก่อน จนระบบมันลงตัว หรือเขายกเลิก Easy Pass ไปแล้ว หรือตัวเองพร้อมที่จะลงทะเบียน

บังเอิญวันนี้ผมมีธุระต้องไปแถวคลองหลวงตั้งแต่เช้า ก็ขับรถขึ้นมอเตอร์เวย์ไป โดยลืมสนิทเลยว่า M-Flow มันเปิดใช้แล้ว และตามทางที่วิ่งไปก็จะเจอข้อความบนบอร์ดประชาสัมพันธ์ของมอเตอร์เวย์พูดถึง M-Flow ว่ารถที่ไม่ลงทะเบียนห้ามวิงผ่าน M-Flow จะมีโทษนู่นนี่นั่น แอบวิ่งไม่จ่ายเงินเจอค่าปรับ 10 เท่า เห็นป้ายแบบนี้แล้วก็ยังไม่ได้คิดครับว่ามันเปิดใช้แล้ว กับด่านที่ผมจะต้องผ่านนี่แหละคือธัญบุรี น่าจะ 2 นะครับ ขาออกมุ่งหน้าบางปะอิน 

ถ้าใครเคยผ่านด่านธัญบุรีอันนี้คงจะรู้นะครับว่ามันจะมีช่อง Easy Pass อยู่ขวาสุดสองช่อง ผมซึ่งคุ้นเคยกับด่านนี้ดีก็ขับไปตามความเคยชินครับไม่ได้มองป้าย M-Flow อะไร พอขับเข้าไปก็เป็นงงครับเพราะมันว่างมากแทบไม่มีรถวิ่งเข้ามาด้านนี้เลย หนักกว่านั้นมีกรวยมาวางกั้นไม่ให้เข้าไปที่ตู้ Easy Pass คราวนี้ก็เริ่มระลึกได้ครับว่า เฮ้ย หรือนี่มันจะเป็น M-Flow แต่ตอนนั้นก็ตั้งคำถามกับตัวเองนะครับว่าต่อให้เป็น M-Flow แล้วทำไมถึงปิดตู้ Easy Pass แต่คิดอีกทีสุดท้ายเขาคงอยากให้เป็น M-Flow ทั้งหมดรถจะได้ไม่ต้องชะลอ แต่ผมว่าถ้ามีตู้อยู่มันก็ต้องชะลอกันอยู่ดีนะ แต่เอาเถอะครับในตอนนั้นปัญหาเฉพาะหน้าก็คือทำยังไงดี เพราะอ่านป้ายคำขู่ตามทางที่ผ่านมาว่ารถไม่ลงทะเบียนห้ามวิ่งผ่าน M-Flow 

แต่จะให้ถอยกลับก็คงไม่ใช่ ถ้าทำอย่างนั้นสงสัยจะถูกชนแบนอยู่บนมอเตอร์เวย์ ก็เลยชะลอรถเลือกผ่านเข้าไปที่ตู้หนึ่ง ก็เห็นป้ายเล็ก ๆ เขียนไว้ประมาณว่า รถที่ไม่ได้ลงทะเบียนให้ไปจ่ายเงินย้อนหลังได้ที่เว็บไซต์ของ M-Flow เห็นแล้วก็เลยโล่งใจขึ้น แล้วก็นึกในใจว่า ทำไมมันถึงไปโปรโมทแต่เรื่องจะลงโทษรถที่ไม่ลงทะเบียนแล้วใช้ M-Flow ในเมื่อมันก็มีระบบให้จ่ายทีหลังด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว 

จริง ๆ ควรจะโปรโมทระบบจ่ายทีหลังนี้มากกว่า เพราะอาจไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่านมาใช้เป็นประจำ เขาอาจจะผ่านมาเป็นครั้งคราว พอผ่านเสร็จก็ไปจ่ายเงินย้อนหลัง ไม่จำเป็นต้องไปวุ่นวายลงทะเบียนอะไร และการโปรโมทแบบนี้ก็อาจเป็นการเชิญชวนให้คนที่ใช้ประจำแต่ไม่ได้ลงทะเบียนมาทดลองใช้ดูว่าระบบการอ่านเลขทะเบียนมันโอเคไหม ให้เขาลองใช้ดูแล้วก็ค่อยโปรโมทต่อว่าถ้าคุณลงทะเบียนคุณจะได้สิทธิพิเศษอะไรบ้าง นี่เล่นขู่กันอย่างเดียวเลย และนี่อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถติดหนักหน้าด่านเมื่อวานหรือเมื่อวานซืน เพราะคุณลดด่านที่ต้องจ่ายเงิน กับด่าน Easy Pass กับ M-Pass ลง ทำให้รถซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลงทะเบียนต้องไปแออัดกันหน้าด่าน ทำให้ท้ายแถวติดยาวเหยียดจนคนที่ลงทะเบียน M-Flow ก็เข้าช่อง M-Flow ไม่ได้ ไม่ต่างกับคนที่ใช้ Easy Pass หรือ M-Pass ที่ต้องมาติดท้ายแถวจากคนที่จ่ายเงินสด อันนี้ก็เป็นคำแนะนำนะครับ ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะผมไม่ได้ไปติดอยู่กับเขา แต่คนที่ติดอยู่วันนั้นคงสรรเสริญคนที่คิดแต่เรื่องขู่แบบนี้ไปพอสมควรนะครับ :)

คราวนี้มาถึงเรื่องของผมต่อครับ หลังจากผมผ่านด่านมาแล้ว มาลงที่คลองหลวง ใช้เวลาผ่านจากด่านมาน่าจะประมาณ 20 นาที ผมก็ลองเข้าเว็บไซต์เพื่อเช็คดูว่าผมจะต้องจ่ายเงินยังไง เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์  ก็จะเจอเมนูตามรูปที่ 1 ครับ 

Mflow-pay-menu
รูปที่ 1 เมนูจ่ายเงิน M-Flow

ผมก็เลือกอันล่างสุดนะครับ "วิ่งช่องผ่านทาง M-Flow แต่ไม่ใช่สมาชิก" รู้สึกว่าคำพูดมันประหลาด ๆ ไหมครับ จริง ๆ มันน่าจะเป็น "วิ่งผ่านช่องทาง M-Flow แต่ไม่ใช่สมาชิก" ว่าไหมครับ หลังจากเลือกอันนี้มันจะพาเราไปที่หน้าจอดังรูปที่ 2 ครับ

find-car-by-id-mflow
รูปที่ 2 ค้นหารถยนต์เพื่อชำระเงิน

 
เราก็ป้อนเลขทะเบียนรถเราซึ่งต้องแบ่งเป็นสามส่วนนะครับ คือช่องแรกให้ใส่สามหลักแรก ช่องที่สองก็ให้ใส่เลขสี่หลัก (รถผมมีสี่หลัก แต่ถ้าใครมีกี่หลักก็น่าจะใส่ตามนั้นนะครับ) และช่องสุดท้ายก็คือจังหวัด จากนั้นกดปุ่มค้นหา 

ซึ่งในตอนแรกที่ผมป้อน มันหาไม่เจอนะครับ มันบอกไม่มียอดค้างชำระ ตอนแรกผมก็คิดว่าระบบอ่านเลขทะเบียนมันแย่หรือเปล่านี่ แล้วตอนนี้มันไปอ่านเป็นรถใครแทนหรือเปล่า แต่คิดอีกทีสงสัยมันต้องใช้เวลาบันทึกข้อมูลลงระบบ ก็เลยทำธุระไปก่อน ช่วงบ่ายลองค้นอีกทีคราวนี้มันเจอครับ ก็ขึ้นว่าต้องจ่าย 30 บาท ซึ่งเราสามารถจ่ายผ่านระบบพรอมท์เพย์ (prompt pay) ได้นะครับ มันจะสร้าง QR Code ขึ้นมา เราก็เอาไปสแกนจ่ายผ่านแอปธนาคารได้เลย หลังจากจ่ายไปแล้ว ผมลองทิ้งเวลาไปสักหนึ่งชั่วโมง ลองค้นดูอีกทีก็ปรากฏว่าไม่มีค้างชำระแล้ว 

สรุปก็คือระบบอ่านเลขทะเบียนใช้ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าตอนผมผ่านด่านผมชะลอรถช้า ๆ เพราะเข้ามาแบบงง  ๆ หวังว่าจะเจอเจ้าหน้าที่บ้างแต่ก็ไม่มี เจอแต่ป้ายบอกจ่ายทีหลังได้ ดังนั้นที่เขาตั้งใจว่าให้วิ่งผ่านได้ด้วยความเร็ว 120 ไม่ต้องชะลอรถมันจะโอเคไหม ระบบจ่ายเงินก็ใช้ได้ แต่ไม่รู้ว่าถ้ามีคนใช้เยอะกว่านี้จะเป็นยังไง 

ก็หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านนะครับ ถ้าใครผ่านทับช้าง 1 ทับช้าง 2 ธัญบุรี 1 และธัญบุรี 2 และไม่ได้ลงทะเบียน M-Flow ไว้ก็ใช้ได้นะครับ ไม่ต้องไปติดอยู่ที่ด่านจ่ายเงิน ส่วนคำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ก็คือน่าจะโปรโมทระบบจ่ายทีหลังนี้นะครับ แทนที่จะขู่ว่าไม่ลงทะเบียนห้ามผ่าน การโปรโมทแบบนี้ผมว่าจะทำให้คนอยากลองใช้มากขึ้น จะช่วยลดรถติดหน้าด่าน ซึ่งน่าจะเป็นจุดประสงค์หลักของการใช้ระบบนี้ แล้วพอเขาเห็นว่าถ้าสมัครสมาชิกมันทำให้สะดวกสบายกว่าอย่างเช่นมันสามารถหักค่าผ่านทางโดยใช้เงินที่มีใน Easy Pass และ M-Pass ได้ด้วย หักจากบัตรเครดิตได้ หรือจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้ เขาก็จะสมัครกันเอง แต่ถ้าไม่โปรโมทระบบจ่ายทีหลังนี้เพราะกลัวระบบจ่ายเงินล่มถ้าคนมาใช้เยอะอันนี้ก็คงไม่มีคำพูดอะไรต่อครับ ส่วนถ้ากลัวคนมาใช้แล้วไม่ยอมจ่ายเพราะไม่ลงทะเบียน จริง ๆ อันนี้น่าจะคิดไว้ก่อนแล้วนะครับ ถ้ายังไม่ได้ทำก็เสนอทำพร้อมกับระบบใบสั่งไปเลย คือให้ขนส่งดูให้ว่าถ้ามีใบสั่งที่ยังไม่จ่าย หรือไม่จ่ายค่าผ่านทางก็ไม่ต่อทะเบียนให้ แก้กฎหมายตรงนี้กันไปเลย  

NFT เสนอวิธีที่จะควบคุมข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล

 

NFT
ภาพจาก  Baylor College of Medicine

โทเคนที่ทดแทนกันไม่ได้ (nonfungible token) หรือ NFT อาจถูกปรับแต่งเพื่อช่วยให้คนไข้ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตัวเอง ตามคำกล่าวของทีมนักวิจัยนานาชาติที่นำโดยนักจริยธรรมทางชีววิทยา (bioethicist)  ของ Baylor College of Medicine

นักวิจัยเสนอให้ใช้สัญญาดิจิทัล NFT เพื่อให้ผู้ป่วยระบุได้ว่าใครบ้างที่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคลของพวกเขา และอนุญาตให้พวกเขาติดตามได้ว่าข้อมูลของพวกเขาถูกแบ่งปันไปอย่างไรบ้าง 

"NFT สามารถใช้เพื่อทำให้ข้อมูลด้านสุขภาพเป็นประชาธิปไตย (democratize) และช่วยให้บุคคลต่างๆ สามารถควบคุมและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้นว่าใครสามารถดูและใช้ข้อมูลด้านสุขภาพของพวกเขาได้บ้าง" Kristin Kostick-Quenet จาก Baylor กล่าว 

นักวิจัยยอมรับความซับซ้อนและความอ่อนไหวของ NFT ต่อข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นความเป็นส่วนตัว และความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Baylor College of Medicine