วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

การโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซียล่าสุดมุ่งเป้าไปที่เครือข่ายในสหรัฐหลายร้อยเครือข่าย

Microsoft
Photo by Mohammad Rezaie on Unsplash

Microsoft เตือนว่าหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในรัสเซีย Nobelium ได้มุ่งเป้าหมายไปที่บริษัทและองค์กรในสหรัฐฯ หลายร้อยแห่ง โดยเฉพาะ "ผู้ค้าปลีกและผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายอื่น" ของบริการคลาวด์ ในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุด ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์รายนี้ ซึ่งแจ้งเตือนลูกค้า 609 รายระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคมถึง 19 ต.ค. ว่าพวกเขาตกเป็นเป้าหมาย และแจ้งกับ New York Times ว่ามีเพียงส่วนน้อยของการโจมตีล่าสุดที่ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าการดำเนินการกำลังทำอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่นิรนามคนหนึ่งเรียกมันว่า "ไม่ซับซ้อน และธรรมดามาก ซึ่งสามารถป้องกันได้หากผู้ให้บริการระบบคลาวด์ได้ใช้แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์พื้นฐาน" Microsoft เขียนบล็อกบอกว่าการโจมตีครั้งล่าสุด เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงความทะเยอทะยานของรัสเซีย " เพื่อเข้าถึงจุดต่าง ๆ ในเทคโนโลยีห่วงโซ่อุปทานในระยะยาวและอย่างเป็นระบบ และสร้างกลไกสำหรับการสอดส่อง—ตอนนี้หรือในอนาคต—ซึ่งเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับรัฐบาลรัสเซีย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564

นักวิจัยแสดงให้เห็นว่าโฆษณาของ Facebook เจาะจงไปที่คนใดคนหนึ่งเลย

Facebook
ภาพจาก TechCrunch

นักวิจัยชาวสเปนและออสเตรียได้แสดงให้เห็นว่า Facebook สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังคนที่เจาะจังไปที่บุคคลเพียงคนเดียวได้ เนื่องจากมีข้อมูลมากพอเกี่ยวกับความสนใจที่เฉพาะเจาะจงของบุคคลนั้น นักวิจัยได้อธิบายตัวแบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งกำหนดลักษณะตัวชี้วัดที่บ่งชี้ความเป็นไปได้ที่ผู้ใช้ Facebook สามารถถูกระบุได้ตามความสนใจที่แพลตฟอร์มโฆษณาของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่แนบมากับข้อมูลของพวกเขา นักวิจัยเขียนว่าตัวแบบนี้พบว่า “ความสนใจที่หายากที่สุดสี่ประการหรือความสนใจแบบสุ่ม 22 รายการจากชุดความสนใจที่ Facebook กำหนดให้กับผู้ใช้ ทำให้พวกมันมีเอกลักษณ์เฉพาะบน Facebook โดยมีความน่าจะเป็นอยู่ที่ 90%”  การค้นพบนี้ทำให้เกิดประเด็นความอันตรายจากการใช้เครื่องมือกำหนดเป้าหมายโฆษณาของ Facebook  และด้านความถูกต้องตามกฎหมายของระบบประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของแพลตฟอร์ม

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TechCrunch


วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564

การเรียนรู้เชิงลึกช่วยทำนายอุบัติเหตุก่อนมันเกิดขึ้น

crash-map
ภาพจาก MIT News

ตัวแบบการเรียนรู้เชิงลึกที่ถูกฝึกฝนบนข้อมูลของการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ในอดีต ภาพถ่ายดาวเทียม และแบบรูปของการเคลื่อนที่ของระบบระบุตำแหน่งบนโลก  (global positioning system) หรือ GPS สามารถสร้างแผนที่ความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุรถชนที่มีความละเอียดสูงได้   นักวิทยาศาสตร์จาก Massachusetts Institute of Technology และ Qatar Computing Research Institute (QCRI) ได้พัฒนาตัวแบบนี้ ซึ่งให้ผลลัพธ์แผนที่ความเสี่ยงที่สามารถระบุจำนวนที่คาดว่าจะเกิดการชนกันในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต ระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและทำนายการชนกันในอนาคต  แผนที่ประกอบด้วยกริดเซลล์ขนาด 5x5 เมตร ระบุว่าตัวอย่างเช่นถนนที่เป็นทางหลวงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการจราจรมากกว่าถนนที่อยู่ใกล้เคียงที่ผู้คนในบริเวณนั้นใช้สัญจร ในขณะที่ทางลาดเชื่อมบนทางหลวงมีความเสี่ยงสูงกว่าถนนอื่น  ๆ Amin Sadeghi จาก QCRI กล่าวว่า "ตัวแบบของเราสามารถนำไปปรับใช้ได้จากเมืองหนึ่งไปสู่อีกเมืองหนึ่งได้โดย การรวมเบาะแสหลาย ๆ อย่างจากแหล่งข้อมูลที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT News


วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เทคโนโลยีที่เหล่าเจ้าของห้องเช่าหน้าเลือดเกลียด

woman-scan-barcode
ภาพจาก Bloomberg CityLab

นักเคลื่อนไหวด้านที่อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ของเมือง และนักวิทยาศาสตร์กำลังใช้เครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มอำนาจให้ผู้เช่า ลงโทษเจ้าของบ้านที่ไร้ความใส่ใจ และลดการขับไล่ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่น บัลติมอร์กำลังปรับใช้  QR Code  กับอาคารที่มีประกาศห้องว่าง ซึ่งผู้คนสามารถสแกนด้วยกล้องสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ โครงการดังกล่าวส่งเสริมความโปร่งใสและช่วยเหลือประชาชนในการควบคุมเจ้าของทรัพย์สินและเจ้าของบ้าน ในขณะที่โครงการอื่นๆ ตั้งเป้าที่จะเปิดเผยผู้ขับไล่ผู้เช่าแบบต่อเนื่อง ป้องกันการถูกบังคับให้ไร้ที่อยู่ และช่วยให้ผู้เช่าสามารถอยู่ได้ในช่วงที่ค่าเช่าพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ โครงการทำแผนที่ Motor City Mapping ของบริษัทซอฟต์แวร์ในดีทรอยต์ Regrid กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่ช่วยครอบครัวเผชิญการขับไล่ผ่านการยึดทรัพย์จากภาษีทรัพย์สิน เมื่อไม่นานมานี้ โครงการ Anti-Eviction Mapping ได้พัฒนาแผนที่ออนไลน์ของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และผู้ขับไล่แบบต่อเนื่องในซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส และนิวยอร์กซิตี้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Bloomberg CityLab

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เทคโนโลยีบล็อกเชนอาจช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับการสื่อสารระหว่างทีมหุ่นยนต์

robot-team
ภาพจาก MIT Media Lab

นักวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Polytechnic University of Madrid ของสเปน แนะนำว่าเทคโนโลยีบล็อคเชนอาจสามารถรับประกันการสื่อสารที่ปลอดภัยสำหรับทีมหุ่นยนต์ บล็อกเชนช่วยบันทึกข้อความที่แก้ไม่ได้ที่ส่งมาโดยหัวหน้าทีมหุ่นยนต์ ดังนั้นหุ่นยนต์ที่เป็นผู้ติดตามจึงสามารถสังเกตความไม่สอดคล้องกันในเส้นทางข้อมูลได้ ในการจำลองข้อมูลในแต่ละบล็อกเป็นเซ็ตของทิศทางจากหุ่นยนต์ผู้นำไปยังผู้ติดตาม หุ่นยนต์ประสงค์ร้ายที่พยายามแก้ไขเนื้อหาของบล็อกจะทำให้แฮชของบล็อกเปลี่ยน ดังนั้นบล็อกที่ถูกแก้ไขจะไม่เชื่อมต่อกับสายโซ่อีกต่อไป และผู้ติดตามสามารถไม่สนใจทิศทางที่ผิดพลาดได้อย่างง่ายดาย Eduardo Castello จาก MIT กล่าวว่า "เทคนิคเหล่านี้มีประโยชน์ในการทวนสอบ ตรวจสอบ และเข้าใจว่าระบบจะไม่ถูกโกง"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT Media Lab