วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

การสื่อสารที่ดักฟังไม่ได้เกิดขึ้นจริงได้จากระบบ MDI-QKD ในควอนตัมอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต

MDI-QKD
ภาพจาก TU Delft (Netherlands)

วิศวกรของสถาบัน QuTech ที่ตั้งขึ้นโดย Delft University of Technology (TU Delft) และ Netherlands Organization for Applied Scientific Research ได้คิดค้นระบบที่สามารถปรับต้นทุนได้สำหรับการสื่อสารที่ดักฟังไม่ได้ Joshua Slater แห่ง TU Delft กล่าวว่าอุปกรณ์วัดการกระจายคีย์ควอนตัมอิสระ (measurement-device independent quantum key distribution) หรือ MDI-QKD ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อผู้ใช้หลายคนผ่านโหนดกลางที่ทำหน้าที่เหมือนผู้จัดการสวิตช์บอร์ด Slater กล่าวว่า "ระบบทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การโจมตีโหนดกลางไม่สามารถทำลายความมั่นคงของโปรโตคอลได้" นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่านักวิจัยของ QuTech ได้ช่วยสาธิตการพิสูจน์หลักการของ MDI-QKD รวมถึงการสาธิตความสามารถของมันกับเส้นใยแก้วนำแสงที่ติดตั้งใช้งาน และกับฮาร์ดแวร์ที่มีจำหน่ายทั่วไป

อ่านข่าวเต็มได้ที่: TU Delft (Netherlands)

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เครื่องคิดเลขออนไลน์ฟรีสำหรับประเมินความเสี่ยงจากภาวะสมองเสื่อม

screenshot-BigLifeVimeo
ScreenshotProject Big Life/Vimeo

นักวิทยาศาสตร์จาก University of Ottawa ของแคนาดา (U of O) ได้พัฒนาเครื่องคิดเลขที่สามารถประเมินความเสี่ยงโดยทั่วไปของภาวะสมองเสื่อมในผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ซึ่งเปิดให้ใช้งานออนไลน์ได้ฟรี นักวิจัยสร้างอัลกอริธึมการทำนายของเครื่องคิดเลข โดยใช้การตอบคำถามของคนใน Ontario 50,000 คนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปต่อคำถามด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ และการติดตามผลเวชระเบียนของพวกเขาในช่วงห้าปี ทีม U of O เปรียบเทียบข้อมูลของกับบุคคลที่มีภาวะสมองเสื่อมกับข้อมูลของคนที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม เพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่คาดการณ์ได้มากที่สุด ซึ่งจะถูกนำมาใส่ในอัลกอริทึม นักวิจัยบอกว่าเครื่องคิดเลขนี้ไม่ได้นำเรื่องพันธุกรรมเข้ามาคิดด้วย ซึ่งหมายความว่ามันจะใช้ประมาณความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมแบบทั่วไปได้ดีที่สุด

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Gizmodo

เพิ่มเติมเสริมข่าว: ใครอยากลองใช้เคื่องคิดเลขลองได้จากลิงก์นี้ครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

AI ทำลายอุปสรรคในการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด

baby
Image: Dragos Gontariu

โครงข่ายประสาทเทียม (neural network) สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงการเสียชีวิตของทารกที่คลอดก่อนกำหนดได้อย่างแม่นยำ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลของทารกได้ดีขึ้น ต้องขอบคุณนักวิทยาศาสตร์จาก James Cook University (JCU) ของออสเตรเลีย Stephanie Baker แห่ง JCU กล่าวว่าเครือข่าย Neonatal Artificial Intelligence Mortality Score (NAIMS) ประเมินความเสี่ยงในการเสียชีวิตของทารกที่คลอดก่อนกำหนดโดยพิจารณาจากข้อมูลประชากรทั่วไป และแนวโน้มของอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ  Baker กล่าวว่า NAIMS สามารถทำนายความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของทารกได้ภายใน 3, 7 หรือ 14 วัน จากข้อมูลที่สร้างขึ้นในช่วง 12 ชั่วโมง โดยไม่ต้องอาศัยการตรวจร่างกาย หรือข้อมูลประวัติทางการแพทย์ Baker ยังกล่าวว่า "ด้วยความเรียบง่ายและประสิทธิภาพสูงของโครงการที่เราเสนอ NAIMS สามารถคำนวณใหม่อย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถวิเคราะห์การตอบสนองของทารกต่อการรักษา และแนวโน้มด้านสุขภาพอื่นๆ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: James Cook University (Australia)

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แฮกเกอร์ทำให้เครื่อง PC ของนักเล่นเกมติดเชื้อเพื่อทำเงินล้านจากคริปโต

pc-gamers
Kevin Breuninger | CNBC

บริษัทรักษาความมั่นคง (security)  Avast พบว่าแฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากนักเล่นเกมด้วยมัลแวร์ "Crackonosh" เพื่อทำเงินเงินนับล้านโดยการขุดเงินเข้ารหัส (cryptocurrency)  โดยใช้คอมพิวเตอร์ของนักเล่นเกม นักวิจัยของ Avast กล่าวว่าอาชญากรซ่อน Crackonosh ไว้ในเกมเวอร์ชันดาวน์โหลดฟรี เช่น NBA 2K19, Grand Theft Auto V และ Far Cry 5 ที่มีอยู่ในไซต์ torrent  หลังจากติดตั้ง Crackonosh จะเริ่มทำการขุดบนพีซีของนักเล่นเกม  นักวิจัยประเมินว่า Crackonosh ถูกใช้เพื่อขุดเงินเข้ารหัส Monero มูลค่า 2 ล้านเหรียญตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018 Daniel Benes แห่ง Avast กล่าวว่ามีผู้ใช้ประมาณ 220,000 รายที่ติดเชื้อทั่วโลก โดยมีอุปกรณ์ติดเชื้อเพิ่มอีก 800 เครื่องต่อวัน Benes กล่าวว่าสิ่งบ่งชี้ว่าเครื่องติดมัลแวร์คือประสิทธิภาพของพีซีที่ช้าลงและค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติ

อ่านข่าวเต็มได้ที่: CNBC

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แพทช์ฉุกเฉินของ Microsoft ไม่สามารถแก้ช่องโหว่วิกฤต "PrintNightmare" ได้

skull
ภาพจาก Ars Technica

นักวิจัยเตือนว่าซอฟต์แวร์แพตช์ที่ Microsoft ออกในสัปดาห์ที่แล้วแก้ไขข้อบกพร่องอย่างไม่ได้โดยสมบูรณ์ในระบบปฏิบัติการ Windows ทุกรุ่นที่รองรับ ซึ่งทำให้แฮ็กเกอร์ยังคงควบคุมเครือข่ายที่ติดเชื้อได้  ช่องโหว่ PrintNightmare มีรากมาจากจุดบกพร่องในตัวจัดคิวงานพิมพ์ของ Windows ซึ่งรองรับฟังก์ชันการพิมพ์ในเครือข่ายเฉพาะที่ (local network) และผู้โจมตีสามารถใช้ความสามารถนี้จากระยะไกลเมื่อมีการเปิดใช้ออนไลน์ แฮกเกอร์ยังสามารถใช้ข้อบกพร่องเพื่อยกระดับสิทธิ์การใช้งานระบบ เมื่อพวกเขาแทรกซึมเครือข่ายที่มีช่องโหว่ผ่านจุดบกพร่องตัวอื่น โดยเข้าควบคุมตัวควบคุมโดเมน Benjamin Delpy ผู้พัฒนาโปรแกรมแฮ็กและยูทิลิตี้เครือข่าย Mimikatz ทวีตว่า Microsoft ล้มเหลวในการแก้ไขช่องโหว่นี้

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ars Technica