จากข่าว รถไฟใต้ดินชนกันใน (Washington D.C) ตอนนี้ก็มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นคือ สาเหตุของการชนกันของรถไฟสองขบวนน่าจะมาจากการทำงานที่ผิดพลาดของวงจรบนรางรถไฟ กล่าวคือถ้าวงจรทำงานถูกต้องจะต้องตรวจสอบได้ว่าเมื่อมีรถไฟอีกขบวนหนึ่งเข้ามาใกล้จนเกินไป จะต้องส่งสัญาณไปให้รถไฟคันดังกล่าวหยุด ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุห้าวัน มีการปรับปรุงซ่อมแซมวงจรบนรางรถไฟ ซึ่งหลังจากการซ่อมแซมแล้ว ก็มีอาการแสดงถึงความผิดปกติของระบบออกมาโดยเดี๋ยวก็รายงานว่ามีรถไฟเข้ามา แล้วสักครู่ก็ไม่พบว่ามีรถไฟเป็นต้น ซึ่งปัญหารถไฟชนกันนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ระบบไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถไฟที่จอดอยู่ ดังนั้นเมื่อมีรถไฟอีกขบวนวิ่งเข้ามาจึงไม่มีการส่งสัญญาณไปหยุดขบวนรถดังกล่าว และจากการสืบสวนยังพบว่าในระบบดังกล่าวไม่มีระบบสำรอง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยอัตโนมัติว่ามีรถไฟบางขบวนที่ไม่สามารถตรวจสอบหาตำแหน่งได้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือระบบรถไฟใต้ดินที่ Sanfransisco (มีชื่อเรียกว่า BART) ได้ติดตั้งระบบสำรองนี้ไว้มานานหลายปีแล้ว ทั้ง ๆ ที่เริ่มสร้างมาเกือบจะพร้อม ๆ กับ รถไฟใต้ดินของ Washington D.C (มีชื่อเรียกว่า Metro) โดยได้ติดตั้งระบบสำรองนี้หลังจากที่มีการตรวจพบว่ามีกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถไฟบางขบวนได้ ทางผู้ดูแลระบบรถไฟใต้ดินของ Washington D.C กล่าวว่าระบบของ BART ไม่สามารถใช้กับของ Metro ได้ และในตอนนี้ก็ยังไม่มีระบบใดที่มีอยู่ในตอนนี้จะสามารถทำได้ ซึ่งทางเดียวก็คือจะต้องพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่
ที่มา
The Washington Post