วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

เราลืมสอนเรื่องการใช้ชีวิตให้นักศึกษากันหรือเปล่า

วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องราวที่อาจไม่เกี่ยวกับไอทีสักวันนะครับ และอาจจะดูเป็นการบ่น ๆ หรือระบายบ้าง คือในภาคการศึกษานี้ในมีเรื่องที่ผมอยากจะมาเล่าสู่กันฟังสองเรื่อง เรื่องแรกเกิดในระหว่างที่ผมกำลังตัดเกรด และเรื่องที่สองเกิดขึ้นหลังจากผมตัดเกรดและทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศเกรดไปแล้ว

เริ่มจากเรื่องแรกครับต้องขอเกริ่นก่อนว่าในวิชาที่ผมสอนส่วนใหญ่แล้วผมจะให้โครงงานประจำวิชาด้วย ซึ่งโครงงานนี้จะให้ทำเป็นกลุ่มและนักศึกษาจะต้องมานำเสนอรายงานด้วย ซึ่งหลังจากที่นักศึกษาทุกกลุ่มนำเสนอรายงานเสร็จแล้วผมก็นำเอาคะแนนโครงการมารวมกับคะแนนสอบเพื่อที่จะตัดเกรด ขณะที่ผมไล่รายชื่อไปก็พบว่ามีนักศึกษาคนหนึ่งที่ไม่มีรายชื่ออยู่กับกลุ่มใดเลย และคะแนนสอบของนักศึกษาคนนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลางคือพอผ่าน แต่ถ้ารวมคะแนนโครงการเข้าไปเขาจะได้เกรดที่ดีขึ้น ผมจึงได้ประกาศให้นักศึกษาติดต่อผมผ่านทางอีเมล และเขาก็ติดต่อมาซึ่งผมก็ได้แจ้งไป และให้โอกาสเขาโดยบอกให้เขารีบทำงานมาส่งโดยผมจะให้ติด I ไว้ก่อน แต่คำตอบที่ผมได้รับคือเขาจะไม่ทำเพราะเขาไม่ได้ชอบสาขาที่เรียนอยู่ตอนนี้แต่พ่อแม่บังคับให้เรียน ขอแค่สอบผ่านก็พอใจแล้ว จากเรื่องนี้มีสองจุดที่ผมอยากจะพูดถึงครับ จุดแรกเรื่องพ่อแม่บังคับให้ลูกเรียนในสาขาที่เขาไม่ชอบ คือพ่อแม่ก็หวังดีเห็นว่าสาขาทางคอมพิวเตอร์นี้จบออกไปแล้วมีงานทำแน่นอนมีเงินเดือนดี แต่ในความเป็นจริงคนที่เรียนคือลูกนะครับไม่ใช่พ่อแม่ ซึ่งจากประสบการณ์ของผมพบว่ามีนักศึกษาหลายคนที่เป็นแบบนี้ครับ และส่วนใหญ่ที่จบไปก็เกรดไม่ค่อยดีนัก และบางคนก็ไม่ได้ทำงานในสาขานี้หรือไปเรียนต่อในสาขาอื่น ดังนั้นอยากฝากพ่อแม่ครับว่าอย่าบังคับลูกเลย ถ้าเขาได้เรียนในสิ่งที่เขาชอบและเขามีความถนัดจริงผมเชื่อว่าเขาก็จะมีทางไปของเขาได้ จุดที่สองในส่วนของนักศึกษาเอง ผมอยากจะบอกว่าเมื่อเราได้ทำอะไรแล้วไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบเราก็น่าจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด อยากให้นักศึกษามองไปไกล ๆ หน่อยครับอย่ามองแค่ใกล้ ๆ สมมติว่าถ้าต้องอดทนเรียนไปจริง ๆ ทำไมถึงไม่พยายามทำให้ดีที่สุด เพราะเกรดที่เราได้ในวันนี้แน่นอนครับว่าจะมีผลต่อการเรียนต่อในสิ่งที่เราสนใจในอนาคตอย่างแน่นอน และไม่แน่ครับถ้าเราได้ตั้งใจทำให้ดีที่สุดแล้วเราอาจจะค้นพบก็ได้ว่า๊จริง ๆ เราก็ชอบสิ่งที่เรากำลังเรียนอยู่เหมือนกัน สรุปสิ่งที่อยากฝากไว้สำหรับเรื่องนี้ก็คือสู้ครับทำทุกอย่างให้เต็มกำลัง

เรื่องที่สองหลังจากที่มีการประกาศเกรดแล้ว ผมก็ได้รับข้อความถามจากนักศึกษาว่าทำไมเขาจึงได้เกรดน้อย ทั้ง ๆ ที่ตอนกลางภาคเขาก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี ซึ่งตรงนี้ผมโอเคนะครับ คือผมยินดีที่จะให้นักศึกษาเข้ามาดูและมาสอบถามได้เสมอ เพราะผมก็อาจพลาดได้ แม้ว่าผมจะตรวจทานการป้อนคะแนนและการตัดเกรดถึง 3 ครั้ง ก่อนที่ผมจะส่งเกรดไป แต่สิ่งที่ผมทำใจยอมรับได้ยากสักหน่อยและตั้งคำถามกับตัวเองว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เพราะนักศึกษาคนนี้ให้เบอร์โทรให้ผมโทรกลับ และบอกว่าถ้าอาจารย์ไม่ติดต่อกลับเขาจะเข้ามาหาในวันเสาร์ (จากนั้นมาขอแก้ไขบอกว่าจะเข้ามาวันอาทิตย์) ตกลงนักศึกษาคนนี้เขาเป็นเจ้านายผมหรือครับ เขาจะมาหาผมวันไหนที่เขาอยากมาก็ได้ (แม้แต่วันหยุด) และผมจะต้องมาพบเขาตามวันที่เขาระบุใช่ไหม นักศึกษาคนนี้ไม่ได้รับการสั่งสอนจากที่ใดมาเลยหรือครับว่าเวลาที่จะนัดหมายกับผู้ใหญ่จะต้องทำอย่างไร

นี่คือสองเรื่องที่เกิดขึ้นและผมก็เลยเกิดคำถามขึ้นว่าในการเรียนการสอนในปัจจุบันของเรานั้น เราเน้นกันที่จะให้แต่ความรู้วิชาการและแข่งขันกันด้วยเกรดอย่างเดียว จนลืมที่จะอบรมให้เด็กให้เป็นคนที่มีความรอบรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม และสู้ชีวิตหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเอามาแบ่งปันกันในวันนี้โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ เพราะผมคิดว่าจะใช้กรณีตัวอย่างนี้ในการสอนลูกผมเช่นเดียวกัน