วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

การจัดกิจกรรมเพื่อให้แฮกเกอร์ทดสอบขีดจำกัดของ AI

deep-mind
Photo by Google DeepMind on Unsplash

ผู้ให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI รายใหญ่กำลังทำงานร่วมกับทำเนียบขาวเพื่อให้แฮ็กเกอร์หลายพันคนมีโอกาสที่จะ "แหกคุก (jailbreak)" โมเดลภาษา AI ของพวกเขาเพื่อเปิดเผยช่องโหว่

Rumman Chowdhury ผู้ประสานงานกิจกรรมการแฮ็กที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในการประชุม DEF CON แฮ็กเกอร์ในช่วงฤดูร้อนนี้ อธิบายว่า "เราต้องการคนจำนวนมากที่มีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และภูมิหลังที่ต่างกันในการแฮ็กตัวแบบ (model) เหล่านี้ และพยายามค้นหาปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้เพื่อที่จะมุ่งไปสู่การแก้ไข

Chowdhury อธิบายว่างานแฮกกาทอน (hackathon) อย่างที่ทำเนียบขาวกำลังทำอยู่นี้เป็น "ช่องทางโดยตรงในการให้ข้อเสนอแนะแก่บริษัทต่าง ๆ" โดยผู้เข้าร่วมจะรวบรวมรายงานและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อบกพร่องที่พบได้ทั่วไป รวมถึงแบบรูป (pattern) ของมันด้วย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Associated Press

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ผู้ต้องขัง (ในอเมริกา) ใช้ VR เพื่อเรียนทักษะที่ต้องใช้ในโลกภายนอก

ภาพจาก  MIT Technology Review

เทคโนโลยีความจริงเสมือนหรือ  VR กำลังถูกใช้โดยกรมราชทัณฑ์ของรัฐบางแห่งเพื่อช่วยให้ผู้ต้องขังที่ถูกจองจำตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นได้เรียนรู้ทักษะการทำงานขั้นพื้นฐานเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานและได้งานทำเมื่อพ้นโทษ

ผู้เสนอข้อเสนอนี้กล่าวว่า VR สามารถช่วยให้ผู้ต้องขังพัฒนาความรู้ทางดิจิทัลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เทคโนโลยีนี้ยังสามารถช่วยนำทางพวกเขาให้ได้เห็นและเข้าใจวิถีชีวิตสมัยใหม่ 

Ethan Moeller จาก Virtual Training Partners กล่าวว่า "เมื่อคุณแสดงบทบาทสมมุติในการเรียนรู้ทักษะใหม่ มันก็จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจสิ่งที่ต้องทำในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้น โดยVR ทำได้ดีกว่าสื่อการฝึกอบรมแบบอื่น ๆ"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: MIT Technology Review



วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

AI ใน ICU

doctor-uses-tablet-in-medication
ภาพจาก  Carnegie Mellon University School of Computer Science

นักวิทยาศาสตร์จาก Carnegie Mellon University, University of Pittsburgh และ University of Pittsburgh Medical Center ได้ทดสอบศักยภาพของเครื่องมือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI เพื่อช่วยแพทย์ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ในการตัดสินใจเรื่องที่สำคัญ

อินเทอร์เฟซการสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิกเชิงโต้ตอบของ AI Clinician Explorer ให้คำแนะนำสำหรับการรักษาภาวะติดเชื้อ นักวิจัยได้ฝึกฝนแบบจำลองนี้จากชุดข้อมูลของผู้ป่วยมากกว่า 18,000 ราย ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานการวินิจฉัยภาวะติดเชื้อขณะอยู่ในห้องไอซียู

แพทย์สามารถใช้ระบบเพื่อคัดกรองและค้นหาผู้ป่วยในชุดข้อมูล เห็นภาพเส้นทางของโรค และเปรียบเทียบแบบจำลองการคาดการณ์กับวิธีรักษาที่ใช้จริง

นักวิจัยได้ให้แพทย์ ICU 24 คนใช้เครื่องมือนี้ และพบว่าส่วนใหญ่ใช้เครื่องมือนี้เพื่อแจ้งการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดสำหรับผู้ป่วยจำลอง 4 คน

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Carnegie Mellon University School of Computer Science

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ปลาที่ปรุงโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

fish-fillet-3d-print
ภาพจาก  Reuters

บริษัทเทคโนโลยีด้านอาหารของอิสราเอล Steakholder Foods ทำงานร่วมกับ Umami Meats ของสิงคโปร์เพื่อพัฒนาเนื้อปลาพร้อมปรุงพิมพ์สามมิติ (3D) โดยใช้เซลล์สัตว์ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ

Umami ตัดและขยายเซลล์จากปลาเก๋าให้กลายเป็นกล้ามเนื้อและไขมัน จากนั้น Steakholder Foods จะเพิ่มเซลล์ลงในหมึกชีวภาพสำหรับการพิมพ์ 3 มิติ

การผลิตใช้การเลื่อนจานแก้วไปมาในเครื่องพิมพ์ให้มวลของเนื้อปลาค่อย ๆ เพิ่มขึ้น Umami หวังที่จะเปิดตัวเนื้อปลาเป็นชิ้น ๆ แบบนี้ในเชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ในปีหน้า จากนั้นจึงค่อยนำเข้าไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อบังคับในท้องถิ่น

Arik Kaufman จาก Steakholder Foods กล่าวว่า "เมื่อเวลาผ่านไป ความซับซ้อนและระดับของการผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสูงขึ้น แต่ราคาที่เชื่อมโยงกับการผลิตจะลดลง"

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters

วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

เทคโนโลยีเพื่อเลียนแบบการทำงานของผิวหนัง

e-skin
ภาพจาก  UNSW Sydney Newsroom (Australia)

นักวิทยาศาสตร์แห่ง University of New South Wales, Sydney (UNSW Sydney) ของออสเตรเลีย ได้ออกแบบผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ (e-skin) โดยการรวมไซแนปส์ (synapes) เทียมเข้ากับเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อน 

อุปกรณ์สามารถตรวจจับสิ่งเร้าเชิงกลสำหรับการประมวลผลข้อมูลในขณะที่ใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย Dewei Chu จาก UNSW Sydney กล่าวว่า "กระแสไฟฟ้าที่จ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ของเรานั้นสอดคล้องกับความแรงของการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทสองตัว และเราได้ใช้สิ่งเร้าไฟฟ้าเพื่อควบคุมสื่อนำไฟฟ้าของอุปกรณ์เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของซินแนปติกในมนุษย์"

Chu กล่าวว่าเซ็นเซอร์สามารถรับรู้ความเครียดที่เกิดขึ้นและสร้างสัญญาณไฟฟ้าที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนรูปในแบบต่าง ๆ

เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์และตรวจสอบสัญญาณทางสรีรวิทยา เช่น ชีพจรที่ข้อมือ การหายใจ และการสั่นสะเทือนของสายเสียง

อ่านข่าวเต็มได้ที่: UNSW Sydney Newsroom (Australia)