วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแผนที่โบราณเป็นแผนที่ดาวเทียม

Images: Escola Politécnica da Universidade de Pernambuco/IEEE

นักวิจัยจาก Polytechnic University of Pernambuco ในบราซิล ได้พัฒนาขั้นตอนวิธีทางการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อแปลงแผนที่โบราณเป็นแผนที่ดาวเทียมในรูปแบบเหมือนของ Google ซึ่งประโยชน์ก็คือจะสามารถบอกได้ว่ามีการใช้งานและมีการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อย่างไรเมื่อเวลาเปลี่ยนไป และยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจที่มีผลต่อการสร้างเมือง นักวิจัยใช้เครื่องมือด้าน AI ที่มีอยู่คือ Pix2pix ซึ่งใช้โครงข่ายประสาทเทียม 2 ตัว หนึ่งใช้สร้างภาพจากชุดข้อมูล อีกหนึ่งใช้ตรวจสอบว่าภาพที่สร้างขึ้นเป็นภาพหลอก (fake) หรือไม่ ซึ่งเมื่อจำมาใช้ร่วมกันแล้วจะสร้างภาพที่เหมือนจริงของข้อมูลทางประวัติศาสตร์ นักวิจัยบอกว่าพวกเขากำลังปรับปรุงความละเอียดของภาพผลลัพธ์อยู่ 

อ่านข่าวเต็มได้ที่: IEEE Spectrum

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563

NHS ใช้โดรนเพื่อส่งชุดข้อมูลโคโรนาไวรัสระหว่างโรงพยาบาล

Photograph: Annalisa Russell-Smith/PA

National Health Service (NHS) ของอังกฤษ กำลังทดสอบการใช้โดรนเพื่อส่งตัวอย่าง Covid-19 ผลเลือด และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลระหว่างโรงพยาบาล โดรนที่ถูกควบคุมจากระยะไกลในตอนเริ่มต้นนี้จะบินระหว่างโรงพยาบาล Essex's Broomfield กับ Basildon และแล็บพยาธิวิทยาของ Basildon โครงการนี้ดำเนินการโดย Apian ที่เป็นบริษัทสตารต์อัพด้านโดรนเพื่อสุขภาพ โดยได้เงินทุน 1.3 ล้านปอนด์ จากโครงการอวกาศของอังกฤษ โดยมีความหวังที่จะสร้างเครือข่ายทางอากาศสำหรับโดรนที่ถูกนำทางโดยระบบ GPS โดรนที่ใช้ในการทดลองนี้จะบิดที่ระดับความสูง 90 เมตร และทนทานต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยผลที่คาดหวังจากโครงการนี้คือลดเวลาในการขนส่ง ทำให้บุคคลากรของ NHS สามารถไปทำงานอย่างอื่น ลดการสัมผัสที่ไม่จำเป็น และลดความเสี่ยงของการระบาดในระลอกสอง

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  The Guardian (U.K.)

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

พบประตูลับแอบถ่ายรูปในสมาร์ตวอทช์ของเด็ก

ภาพจาก Ars Technica

นักวิจัยจากบริษัทด้านความมั่นคงของนอร์เวย์คือ Mnemonic พบประตูลับ (backdoor) ที่ยังไม่เคยมีการพบมาก่อน ในสมาร์ตวอทช์ X4 ของบริษัท Xplora ซึ่งเน้นทำตลาดกับกลุ่มเด็ก นักวิจัยบอกว่าข้อความที่เข้ารหัสไว้ในการกระตุ้นให้ประตูลับทำงาน โดยมันจะทำงานอย่างลับ ๆ ในการรายงาน  ตำแหน่งของนาฬิกา อัดและส่งภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Xplora จากนั้นโทรศัพท์โดยส่งเสียงที่ได้ยินจากหูฟังออกไป Xplora บอกว่ากำลังพัฒนาตัวแก้ไขให้กับ X4 ตามที่นักวิจัยจาก Mnemonic แนะนำ 


อ่านข่าวเต็มได้ที่: Ars Technica

  

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นผลของความชื้นที่มีผลกับการแพร่กระจายของโคโรนาไวรัส



ภาพจาก: ACM

นักวิจัยจาก  Kobe University และบริษัทวิจัยใหญ่คือ Riken ของญี่ปุ่น พบว่าความชื้นมีผลอย่างมากต่อการแพร่กระจายของอนุภาคไวรัส นักวิจัยได้จำลองแบบการแพร่กระจายของอนุภาคที่คล้ายกับอนุภาคไวรัสจากผู้ติดเชื้อ ในสภาพแวดล้อมที่อยู่ในอาคารปิดโดยใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ผลการจำลองพบว่าจำนวนอนุภาคจากละอองน้ำลายเพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่า ในที่ที่มีความชื้นต่ำกว่า 30%  เมื่อเทียบกับที่ที่มีความชิ้น 60% หรือมากกว่า ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่าไวรัสเสี่ยงที่จะแพร่กระจายได้มากขึ้นในพื้นที่ปิด และแห้ง ในช่วงฤดูหนาว นักวิจัยยังพบว่า Face Shield ให้ผลในการป้องกันไวรัสได้น้อยกว่าหน้ากากอนามัย

อ่านข่าวเต็มได้ที่: Reuters


วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ระบบรู้จำใบหน้าจะเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันในสิงคโปร์

ภาพจาก: GovTech

คนสิงคโปร์จะสามารถเข้าใช้บริการของรัฐ และบริการอื่น ๆ ได้ผ่านทางระบบรู้จำใบหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของโปรแกรมระบุตัวตนของชาติ (national identity) ของ SingPass โดยส่วนยืนยันใบหน้าของ SingPass จะยอมให้ผู้ใช้ล็อกอินเข้าระบบได้ผ่านทางตู้ข้อมูลข่าวสาร (kiosk) จากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ รัฐบาลสิงคโปร์บอกว่าข้อมูลใบหน้าของผู้ใช้จะถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการเท่านั้น โดยจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 30 วัน และจะถูกลบทิ้งไป เทคโนโลยีนี้ยังป้องกันการล็อกอินโดยใช้รูปถ่าย หน้ากาก และการหลอกลวงเชิงลึก (deepfake) และการใช้ภาพหน้าของคนที่บันทึกไว้ในการล็อกอินอีกด้วย 

อ่านข่าวเต็มได้ที่:  NBC News