หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

ขับรถโดยใช้ตา

นักวิจัยจากกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ Freie Universitat Berlin ได้พัฒนาโปรแกรมที่เรียกว่า eyeDriver เพื่อให้คนขับรถสามารถควบคุมพวงมาลัยโดยใช้ดวงตา โดยคนขับรถจะต้องสวมหมวกที่มีกล้องสองตัว โดยกล้องตัวหนึ่งจะจับอยู่ที่ตาของคนขับ ส่วนอีกตัวหนึ่งจะจับภาพของถนนด้านหน้า ข้อมูลจากรูม่านตาของคนขับ และถนนด้านหน้าจะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์และโปรแกรม eyeDriver จะคำนวณทิศทางจากข้อมูลดังกล่าว สำหรับโหมดการขับด้วยวิธีนี้จะมีสองโหมด โหมดแรกเรียกว่า "free ride" คือคนขับรถจะต้องมองไปยังทิศทางที่ต้องการไป ในกรณีที่ไม่สามารถบอกได้ว่าคนขับมองไปทางไหน เช่นคนขับหลับตารถจะหยุดทันที โหมดที่สองเรียกว่า "routing" ในโหมดนี้รถจะขับไปเองเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอทางแยกก็จะหยุดรอให้คนขับเลือกว่าจะไปทางไหน เมื่อคนขับมองไปในทิศทางหนึ่งเป็นเวลา 3 วินาที ระบบก็จะยืนยันทิศทางดังกล่าว และก็จะขับรถต่อไปให้โดยอัตโนมัติ

ที่มา Freie Universitat Berlin

โปรแกรมสร้างโน้ตเพลงอัตโนมัติ

วิศวกรด้านโทรคมนาคมจาก University of Jaen ได้พัฒนาวิธีการที่จะตรวจสอบโน้ตเพลงจากไฟล์เพลง และนำมาสร้างเแผ่นโน้ตเพลงได้โดยอัตโนมัติ โดยโปรแกรมดังกล่าวสามารถที่จะทำงานได้แม้ว่าประเภทของเครื่องดนตรี ตัวนักดนตรี ประเภทของดนตรี หรือสภาพแวดล้อมของสตูดิโอมีการเปลี่ยนแปลงไป จุดเด่นของวิธีนี้คือไม่ต้องมีการเทรนนิงกับฐานข้อมูลเพลงก่อน แต่จะใช้ ฮาร์มอนิกดิกชันนารี (Harmonic Dictionary) ซึ่งโดยสรุป(ตามความเข้าใจของผมเอง)คือดิกชันนารีที่เก็บว่าพลังงานเท่านี้ตรงกับโน้ตตัวไหน จุดอ่อนของวิธีการนี้คือมันยังทำงานได้กับเครื่องดนตรีทีละชิ้นเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยกำลังปรับปรุงให้ทำงานได้กับเครื่องดนตรีทีละหลาย ๆ ชิ้นต่อไป

ที่มา AlphaGalileo

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

อินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนโลกเรามากขึ้นอีก

จาการสำรวจความเห็นผู้เช่ยวชาญได้ข้อสรุปว่าในอนาคตความเป็นส่วนตัวบนโลกอินเทอร์เน็ตจะทำได้ยากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าในปีพ.ศ. 2563 อินเทอร์เน็ตจะทำให้เราฉลาดขึ้น โดยการจดจำจะไม่ใช้สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป ต่อไปคนที่เก่งก็คือคนทีีมีทักษะการใช้ข้อมูลจากจอภาพ เช่นการอ่าน การเขียน การคำนวณ หรือการค้นหา การดูแลสุขภาพของคนเราจะดีขึ้นเนื่องจากเราสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลหรือสื่อสารกับแพทย์ได้ง่ายขึ้นผ่านทางอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ และผู้เชี่ยวชาญก็คาดหวังว่าภาครัฐจะนำเสนอเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น แต่สิ่งที่เป็นข่าวร้ายคือผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าการศึกษาจะเปลี่ยนแปลงไม่ทันเทคโนโลยี

ที่มา Science News

ระบบสัมผัสแบบหลายนิ้วเท้า

มีระบบจอสัมผัสแบบหลายนิ้วมือกันแล้ว คราวนี้มาดูจอสัมผัสแบบหลายนิ้วเท้่ากันบ้างครับ เป็นผลงานวิจัยจากนักวิจัยเยอรมันซึ่งจะเปลี่ยนพื้นให้เป็นจอสัมผัส โดยเขาเรียกระบบนี้ว่า Multitoe งานวิจัยนี้ได้แสดงในงานในงานประชุมวิชาการ CHI 2010 ที่จัดขึ้นที่แอตแลนตาประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 10-15 เมษายนที่ผ่านมาครับ สำหรับใครที่อยากเห็นวีดีโอการทำงานคลิกดูที่ทีีมาได้เลยครับ

ที่มา PC World

รถยนต์ที่ไม่ต้องใช้คนขับ

Alan Taub ผู้บริหารของ General Motors มีการคาดการกันว่ารถยนต์กึ่งอัตโนมัติที่สามารถควบคุมพวงมาลัย เร่งความร็วและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้เองจะออกมาให้เราใช้งานกันได้ในปี พ.ศ. 2558 ส่วนรถยนต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบจะออกมาให้เราได้ใช้กันในอีก 10 ปีข้างหน้า

ที่มา NewScientist

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

ROBOTC 2.0 ภาษาโปรแกรมสำหรับพัฒนาหุ่นยนตร์

Carnegie Mellon University's Robotics Academy ได้ออกเวอร์ชันใหม่ของภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนตร์ และชุดการสอนซึ่งสามารถใช้ได้ตั้งแต่นักเรียนระดับประถมจนถึงระดับมหาวิทยาลัยครับ ถ้าใครสนใจก็ลองไปดาวน์โหลดได้จากที่นี่ครับ http://www.robotc.net/

ที่มา School of Computer Science Carnegie Mellon

สู้อีเมลหลอกลวงด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาจดหมาย

คิดว่าพวกเราหลายคนคงเคยได้รับจดหมายที่มีเนื้อหาประมาณว่า ผู้เขียนเป็นคนในประเทศหนึ่งและมีปัญหาโอนเงินออกนอกประเทศไม่ไ่ด้ แล้วเขียนเมลมาหาเราเพื่อให้เราช่วยโดยจะจ่ายค่าช่วยเหลือให้เรา... สุดท้ายถ้าเราช่วยเขาก็จะอ้างโน่นอ้างนี่ให้เราส่งเงินไปให้เขาก่อน ซึ่งแน่นอนครับว่าอีเมลเหล่านี้เป็นอีเมลลวงโลก และพวกเราพอได้รับมาก็ต้องเสียเวลานั่งลบทิ้งไป แต่ก็ยังมีบางคนที่หลงเชื่อและเสียท่าพวกวายร้ายเหล่านี้ไปเช่นกัน

ตอนนี้มีนักวิจัยได้วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อหาแบบรูป (pattern) ของเนื้อหาในจดหมายลักษณะดังกล่าวได้แล้วครับ ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือเราสามารถที่จะเขียนโปรแกรมเพื่อตรวจสอบดูว่ามีแบบรูปในลักษณะหลอกลวงอยู่ในจดหมายหรือไม่ เพื่อที่จะได้แจ้งเตือนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ

อันนี้ก็เป็นแนวคิดหนึ่งในการแก้ปัญหานะครับ แต่อาจจะไม่ได้ผลเต็มที่หรอกครับ เพราะไอ้เจ้าพวกนี้ก็อาจเปลี่ยนวิธีการเขียนในรูปแบบอื่น ๆ ผมว่าทางที่ดีที่สุดก็คือให้เราตั้งสติให้ดีอย่าโลภครับ ให้คิดว่่าถ้าอยากจะได้เงินก็ต้องขยันทำงานสุจริตอย่าหวังรวยทางลัด

ที่มา Kansas State university

ซอฟต์แวร์อ่านสมอง

อินเทลได้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอ่านสมองเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ จากการทดลองพบว่าโปรแกรมดังกล่าวมีความแม่นยำถึงร้อยละ 90 ประโยชน์ที่จะได้รับจากโปรแกรมที่ว่านี้ก็เช่น ทำให้คนพิการสามารถที่จะสื่อสารได้ หรือนำไปพัฒนาใช้เป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมด้วยความคิด

ที่มา physorg.com

วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

ต่อกรกับ Botnet ด้วยระบบปฏิบัติการตัวใหม่

นักวิจัยจาก University of Illinois at Chicago กำลังพัฒนาหลักการของระบบปฏิบัติการที่จะมีความมั่นคง (security) และมีความเสถียรมากขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า Ethos OS ซึ่งเขาตั้งใจจะให้มันเป็นหลักการในการพัฒนาระบบปฏิบัติการยุคต่อไปซึ่งจะสามารถป้องไวรัส หรือโปรแกรมประสงค์ร้าย ต่าง ๆ โดย Ethos OS นั้นจะทำงานในลักษณะที่เป็นจักรกลเสมือน (virtual machine) โดยโปรแกรมที่ไม่ได้ต้องการเรื่องความมั่นคงก็จะทำงานไปตามปกติ ส่วนโปรแกรมที่ต้องการเช่นธนาคารออนไลน์ก็จะถูกควบคุมโดย Ethos OS ข้อดีของการมีระบบปฏิบัติการในลักษณะนี้ก็คือ นักพัฒนาโปรแกรมสามารถทุ่มเทเวลาให้กับตรรกกะของโปรแกรมได้โดยไม่ต้องสนใจกับ
ปัญหาเรื่องความมั่นคง

ได้อ่านแล้วอยากใช้ OS แบบนี้เร็ว ๆ จังครับ

อ้างอิง UIC News Bureau

ระบบติดต่อกับผู้ใช้แบบลูกผสม

ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาระบบต้นแบบการติดต่อกับผู้ใช้แบบใหม่ที่ใช้ได้ทั้งการสัมผัสด้วยมือ และใช้ปากกาเขียนได้ ระบบนี้เรียกว่า Manual Deskterity ซึ่งจากบทความต้นฉบับแสดงวีดีโอการใช้งานระบบดังกล่าว

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่เดียวครับ

อ้างอิง Technology Review

เทคโนโลยี Augmented Reality เพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยว

นักวิจัยยุโรปสร้างระบบ CINeSPACE ซึ่งเป็นอุปกรณ์แบบ Augmented Reality ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในรูปภาพในลักษณะที่เป็นสื่อผสม โดยเมืองต่าง ๆ ในยุโรปมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในลักษะที่เป็นเสียง และในรูปแบบสารคดีอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับเทคโนโลยีของ Augmented Reality จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ประสบการณ์ที่ดีกว่าการเยี่ยมชมธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นระบบนี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถป้อนข้อมูลหรือความเห็นเกี่ยวกับสถานที่เข้าสู่ระบบได้ด้วย

อยากให้ประเทศไทยเริ่มต้นพัฒนาระบบนี้จังเลยครับ

อ้างอิง ICT Result