แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัญญาณสิบประการที่บอกว่าเราอาจไม่เหมาะกับงานด้านไอที

จะปีใหม่แล้วเห็นหลาย ๆ ที่ เขาจัดอันดับนู่นนี่นั่นประจำปีกัน ผมก็เลยลองหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ ว่า เราจะเอาอะไรมาเขียนจัดอันดับกับเขาดีไหม ค้นไปค้นมาก็มาเจอบล็อกนี้เข้าครับ 10 signs that you aren't cut out for IT ไม่ได้เกี่ยวกับการจัดอันดับอะไร แต่เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาเล่าให้ฟังกันครับ คือในบล็อกนี้เขาได้สรุปสัญญาณ 10 ประการว่าถ้าเกิดขึ้นกับคนที่ทำงานอยู่ในสายไอทีแล้ว อาจต้องกลับมาคิดว่าเราเหมาะกับงานนี้หรือไม่ ลองมาดูกันครับ

 1. คุณเป็นคนไม่อดทน เขาอธิบายว่างานสายนี้ต้องอดทนในการแก้ปัญหา และยังต้องอดทนกับผู้ใช้อีกด้วย ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ผมหลีกเลี่ยงไม่รับงานพัฒนาระบบมานานมากแล้ว เพราะผมเบื่อผู้ใช้นี่แหละ
2.  คุณเป็นคนที่ไม่ชอบที่จะเรียนต่อไปเรื่อย ๆ อันนี้เหมือนที่ผมบอกนักศึกษาเสมอครับว่าเทคโนโลยีด้านนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตลอด ดังนั้นเราจะต้องพร้อมที่จะเรียนรู้เสมอ
3.  คุณไม่ยอมทำงานนอกเวลา (9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น) ชัด ๆ ครับ งานด้านนี้ต้องพร้อมทำงานนอกเวลาเสมอ โปรแกรมยังไม่เสร็จแต่ใกล้ถึงเส้นตายแล้ว เซอร์ฟเวอร์ล่มตอนเที่ยงคืนอะไรประมาณนี้ ซึงพูดถึงตรงนี้ผมยังแปลกใจมุนินทร์(แรงเงา) นะครับ ว่าทำไมมีเวลาไปวางแผนแก้แค้นใครต่อใครได้ร้ายกาจอย่างนั้น
4. คุณไม่ชอบคน เขาบอกว่างานด้าน IT มีจุดประสงค์หลักอันหนึ่งก็คือสนับสนุนผู้ใช้ ดังนั้นถ้าคุณไม่ชอบคนก็ไม่น่าทำงานด้านนี้ แต่อันนี้ผมว่าไม่เฉพาะด้านไอทีนะ ถ้าคุณทำงานด้านบริการไม่ว่าอะไรก็ตามคุณต้องมีตรงนี้
5. คุณยอมแพ้ง่ายเกินไป อันนี้ผมว่าคล้าย ๆ ข้อแรกนะ คือไม่อดทน ตรงนี้ขอคุยกับนักศึกษาหน่อยแล้วกันครับ คือหลาย ๆ ครั้งที่ผมให้งานไปค้นคว้านี่คือผมต้องการให้คุณไปค้นคว้าและหาคำตอบด้วยตัวเองนะครับ แต่หลายคนมักจะกลับมาถามและมักจะบอกว่าค้นไม่เจอทำไม่ได้ ซึ่งผมต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้คุณมีเครื่องมือให้ค้นคว้าอะไรได้ง่ายกว่าสมัยก่อนมากเลยนะครับ ดังนั้นใช้ความพยายามหน่อยนะครับ ผมจะบอกว่าคำตอบของปัญหายาก ๆ ที่เราสามารถแก้ได้ด้วยตัวเองนี่มันน่าภาคภูมิใจนะครับ
6. คุณหงุดหงิดง่าย อันนี้ก็คล้าย ๆ ข้อแรกอีกเหมือนกัน แต่เขาขยายความว่าเมื่อคุณโกรธ คุณก็เสียเวลาไปกับความโกรธนั่นแหละ แทนที่จะเอาเวลามาแก้ปัญหา
7. คุณทำงานหลายงานพร้อมกันไม่ได้ เพราะคุณอาจต้องรับผิดชอบโครงการหลายโครงการ ซึ่งถ้าคุณสามารถทำงานได้ทีละอย่างก็จะทำให้ชีวิตของคุณยากขึ้น นอกจากงานแล้วอย่าลืมว่าเรายังมีเรื่องส่วนตัวต้องรับผิดชอบด้วยนะ พูดถึงตรงนี้นี่อาจแสดงว่ามุนินทร์เป็นคนที่มีความสามารถแบบนี้ก็ได้ ถึงได้มีเวลาไปแก้แค้นได้
8. คุณมีความฝันที่จะก้าวหน้าขึ้นไปในระดับสูงในอาชีพ ถ้าเป็นอย่างนี้เขาบอกว่าคุณไม่เหมาะ เพราะงานสายนี้อาจพาคุณไปได้สูงสุดแค่ CIO แต่ถ้าคุณฝันถึง CEO งานสายนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ
9. คุณเกลียดเทคโนโลยี อันนี้ผมว่าคล้ายข้อสองนะ และคงชัดเจนว่าถ้าคุณเกลียดเทคโนโลยี คุณก็อาจจะไม่ยอมเรียนรู้ และไม่ยอมพัฒนาตัวเองให้ได้ความรู้ใหม่ ๆ คุณอาจจะยึดติดกับเทคนิควิธีการแก้ไขปัญหาแบบเก่า ๆ ซึ่งล้าสมัยไปแล้ว คุณอาจไม่ยอมรับการเข้ามาของอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งคุณมองว่าทำให้ชีวิตของคุณยากขึ้นเพราะต้องมาเรียนรู้วิธีการพัฒนาโปรแกรมแบบใหม่เป็นต้น
10. คุณปิดมือถือตอนกลางคืน อันนี้ก็คงเกี่ยวข้องกับข้อ 3 เพราะถ้าคุณปิดโทรศัพท์ก็เท่ากับบอกกลาย ๆ ว่านอกเวลางานแล้วอย่ามายุ่งกับฉันนะอะไรประมาณนี้ ดูไปดูมานี่มันจะคล้ายหมอขึ้นทุกทีแล้วนะ ต้องตามตัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 ยังไงก็ตามเขาบอกว่าถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้สักสองสามข้อก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะออกจากงานด้านนี้ไปทันทีนะครับ เขาบอกว่ามันแค่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณอาจจะต้องกลับไปเรียนต่อเพื่อที่จะพาคุณไปทำงานในสิ่งที่คุณชอบ และผมไม่อยากบอกเลยว่าผมอาจเป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้ เพราะผมลองตามลิงก์งานที่เป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ชอบทำงานด้านไอทีตรง ๆ งานหนึ่งก็คือสอนหนังสือนี่เอง และมันก็เป็นงานที่ผมชอบจริง ๆ ซะด้วย

ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกคนหาตัวเองให้เจอนะครับว่าชอบงานอะไร และขอให้มีความสุขกับการทำงานนะครับ สวัสดีปีใหม่ 2556 ล่วงหน้าไว้ก่อนนะครับ

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

ทักษะด้าน IT 6 อย่างที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2010

วันนี้พอดีได้มีโอกาสอ่านบทความจาก Computer World ซึ่งคิดว่าน่าสนใจสำหรับคนที่ทำงานด้าน IT ครับ นั่นก็คือทักษะด้าน IT ที่ยังจะเป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2010 นี้ ซึ่งการสำรวจนี้ถึงแม้จะไม่ได้ทำในประเทศเรา แต่ผมก็เชื่อว่าผลลัพธ์ส่วนใหญ่น่าจะออกมาคล้าย ๆ กัน ผลออกมาดังนี้ครับ โดยลำดับจะเรียงจากความต้องการมากที่สุดครับ

1. ทักษะด้านการพัฒนาโปรแกรม
2. ทักษะการสนับสนุนด้านเทคนิค
3. ทักษะด้านเครือข่าย
4.ทักษะด้านการจัดการโครงการ
5.ทักษะด้านความมั่นคง (security)
6.Business Intelligence

จะเห็นว่าทักษะด้านการพัฒนาโปรแกรมก็ยังคงเป็นที่ต้องการเป็นลำดับแรกทางด้านไอที นั่นหมายถึงจะยังมีความต้องการที่จะพัฒนาโปรแกรมใหม่ ๆ อีกมากมาย โดยทักษะด้านการพัฒนาโปรแกรมนี้จะเน้นไปที่ .Net, Java, การพัฒนาเว็บ, open source, เทคโนโลยีอย่างพวก Microsoft's Sharepoint และภาษาและแพลตฟอร์มที่จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นก็คือ Ruby on Rails และ Ajax

ทางด้านการสนับสนุนด้านเทคนิคนั้น จากการสำรวจพบว่าในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนั้น มีการปลดคนในตำแหน่งนี้ออกไปค่อนข้างมาก ดังนั้นในปีนี้จะมีการรับตำแหน่งนี้กลับเข้าไปมากขึ้น (อันนี้เป็นข้อมูลจากต่างประเทศนะครับ ไม่รู้ว่าเมืองไทยจะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้วิกฤตหนักเท่าเขา)

ส่วนทักษะด้านเครือข่ายนั้น เนื่องจากกระแสของเทคโนโลยีอย่าง cloud computing หรือ software as a service ทำให้้มีความต้องการคนทางด้านนี้มากขึ้น

ส่วนทางด้านการจัดการโครงการนั้น เขาบอกว่ามืออาชีพที่เข้าใจเทคโนโลยีและสามารถที่จะนำมาใช้ในกลยุทธทางธุรกิจได้ คือสุดยอดฝีมือที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา

ทางด้านความมั่นคง (หลายคนคงแปลกใจว่าทำไม่ไม่ใช้ ความปลอดภัย เพราะมาจากคำว่า security แต่คำ ๆ นี้ทางราชบัณฑิตเขาใช้คำว่าความมั่นคงครับ) อันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากนะครับ เพราะทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันระบบเครือข่ายที่เราใช้ยังไม่ปลอดภัยอยู่มาก ดังนั้นคนที่มีความสามารถทางด้านนี้จะเป็นที่ต้องการเพื่อเก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญของบริษัท

สำหรับ BI นั้นตามนิยามในสมัยเก่าก็คือการนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันมีความต้องการข้อมูลที่เป็นแบบ real time มากขึ้น ในการสำรวจยังบอกว่าทักษะที่สำคัญที่สำคัญกว่าผู้เชี่ยวชาญทาง BI ก็คือนักเขียนโปรแกรมหรือนักวิเคราะห์ที่สามารถนำเอาข้อมูลพื้นฐานจากตารางต่าง ๆ มารวมกันเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้ ซึ่งตรงนี้เองจะเป็นพื้นฐานของการทำ BI

เอาละครับ เห็นอย่างนี้แล้วนักศึกษาที่กำลังจะจบก็น่าจะหาความรู้พื้นฐานอันใดอันหนึ่งไว้บ้างนะครับ อย่างน้อยก็น่าจะมีความรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วนคนที่ยังเรียนอยู่อาจจะปี 2 หรือปี 3 ผมว่าก็ควรจะเริ่มเลือกสิ่งที่ตัวเองสนใจทางด้านต่าง ๆ เหล่านี้ไว้บ้างนะครับ เพราะถึงการสำรวจจะบอกว่าเป็นของปีนี้ แต่ผมว่าความต้ิองการด้านต่าง ๆ เหล่านี้จะยังเป็นที่ต้องการอยู่อีกหลายปี และอย่าลืมว่าประเทศเรานั้นน่าจะตามหลังเทคโนโลยีของต่างประเทศอยู่บ้าง เมื่อพวกคุณเรียนจบกัน ก็อาจเป็นเวลาที่ประเทศของเรากำลังต้องการกำลังคนทางด้านนี้พอดีก็ได้....